เปิดบรรยากาศ ห้องสายด่วน 1668 ไม่มีคอมพิวเตอร์ฯ-จนท. ต้องใช้ปากกาจด
https://www.matichon.co.th/local/news_2685585
เปิดบรรยากาศ ห้องสายด่วน 1668 ไม่มีคอมพิวเตอร์-จนท. ต้องใช้ปากกาจด
เมื่อวันที่ 22 เมษายน จากกรณีที่ ปัญหาที่หลายคนแจ้งมาว่า สายด่วน 1668 ที่ให้ประชาชนโทรเข้าไปขอความช่วยเหลือ ในการจัดหาโรงพยาบาล กรณีป่วยโควิด หลายคนกล่าวว่า โทรติดยาก จนนายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ทีมงานลองโทรศัพท์ ก็ยังไม่มีผู้รับ
ล่าสุด นายแพทย์
สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้แถลงข่าว และพาผู้สื่อข่าวเข้าเยี่ยมชมห้องทำงานบางส่วนของสายด่วน 1668 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ คอยรับสาย ซักประวัติ พร้อมด้วยการคัดกรองความเสี่ยง
โดยชี้แจงว่า ผู้ที่ทำงานเป็นอาสาสมัครประกอบด้วยแพทย์และพยาบาล ขณะนี้มีประมาณ 230 คน สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทำหน้าที่ซักประวัติ พร้อมวิเคราะห์อาการ ตามระดับความรุนแรงก่อนจะส่งต่อ และการพูดคุยแต่ละสายต้องใช้เวลา 20-40 นาที ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 20 คู่สาย ที่ผ่านมามีการโทรเข้ามาถึง 3,600 สาย
ขณะที่นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จะเพิ่มคู่สายให้มากขึ้น แต่ที่ผ่านมาสายไม่ว่าง เพราะผู้ที่สงสัยว่าตัวเองติดเชื้อ หรือติดเชื้อแล้ว ต่างก็อยากคุยกับหมอให้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังได้เปิดให้ชมบรรยากาศการทำงานของ ห้องสายด่วน 1668 ที่มีเจ้าหน้าที่คอยรับสายตามแต่ละโต๊ะ โดยต้องใช้ปากกาในการจด ไม่มีคอมพิวเตอร์ โดยต้องใช้เวลาราว 20-40 นาที ต่อสายหนึ่ง
ชาวฝั่งธนร้อง ซ.ตลาดเก่าบุคคโล ติดโควิด 21คน โทร1668ไปก็เงียบ วอนช่วยเหลือด่วนๆ
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6356070
ชาวฝั่งธนร้อง ซ.ตลาดเก่าบุคคโล ติดโควิด 21คน โทร1668ไปก็เงียบ วอนช่วยเหลือด่วนๆ ชาวบ้านเล่า คนในซอยเริ่มไปตรวจ แล้วก็เจอติดเพิ่มขึ้น
วันที่ 22 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านซอยตลาดเก่าบุคคโล ตรงข้ามซ.เจริญนคร 62 ร้องเรียนว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 21 ราย แต่ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาทำการช่วยเหลือแต่อย่างใด หลังจากได้มีการโทรแจ้งสายด่วน 1668 แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมา รวมถึงคนภายในซอยได้ประสานทุกช่องทาง แต่ก็ไม่มีใครตอบเรื่องกลับมา
ด้านน.ส.
เอ นามสมมุติ ผู้อาศัยอยู่ภายในซอยดังกล่าว เปิดเผยว่า ภายหลังจากครอบครัวกลับจากต่างจังหวัด มีบ้านหลังหนึ่งภายในซอยพบการติดเชื้อโควิด 19 ครั้งเดียวถึง 9 คน จากนั้นมีรถ รพ.มารับตัวไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นคนในซอยก็เริ่มไปตรวจ แล้วก็เจอติดเพิ่มขึ้น บ้านของตนเองก็โทรคุยกับเพื่อนบ้าน เพื่ออัปเดตข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ที่บ้านของตนเองเป็นกังวลเพราะยิ่งตรวจยิ่งเจอ คือคนในซอยก็ออกไปตรวจกันเองที่ รพ.แต่ยังไม่มี หน่วยงานที่ลงพื้นที่มาตรวจให้แต่อย่างใด ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ท่องเที่ยวฟุบหนักโรงแรมระส่ำ แห่ปิดชั่วคราวตกงานรอบใหม่
https://www.prachachat.net/tourism/news-652144
โควิดระลอก 3 ทุบความหวังธุรกิจท่องเที่ยว คนโรงแรมสิ้นหวัง ธุรกิจไร้ทางรอด เผยช่วง เม.ย.-พ.ค.อัตราการเข้าพักเฉลี่ยไม่ถึง 5% โรงแรมเมืองท่องเที่ยว “ภูเก็ต-พัทยา” ทยอยปิดชั่วคราว ลุ้นความหวังไฮซีซั่นเดือน ต.ค.เปิดใหม่อีกครั้ง คาดตกงานอีกระลอก ชี้ “วัคซีน” ความหวังเดียวของอุตฯท่องเที่ยวไทย วอนรัฐเดินหน้าเปิด “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” ตามไทม์ไลน์เดิม หวังเม็ดเงินต่างชาติช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านสภาท่องเที่ยวยันกระทบหนักทั้งอุตสาหกรรม
ทุบโอกาสตุนรายได้สงกรานต์
แหล่งข่าวในธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวกับ “
ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยคาดหวังว่าเดือน เม.ย.นี้จะเป็นเดือนแห่งการคิกออฟการท่องเที่ยวของไทยอีกครั้ง หลังจากเจอวิกฤตโควิดมาแล้วถึง 2 ระลอกใหญ่ เนื่องจากเป็นเดือนที่มีเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งมีวันหยุดพิเศษที่รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง ด้วยหวังว่าจะช่วยกระตุ้นให้คนไทยเกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
แต่การระบาดระลอก 3 บวกกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศและบังคับใช้เมื่อ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้คนไทยชะลอการเดินทางท่องเที่ยวทันที ส่งผลให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักอีกครั้ง
โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยไม่เกิน 5% แต่เป็นธุรกิจที่มีต้นทุนการดำเนินงานที่ค่อนข้างสูง
“
พอมาเจอโควิดระลอก 3 กันอีกครั้งทำให้ธุรกิจหมดโอกาสตุนรายได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ต้องกลับมาเริ่มต้นที่ศูนย์กันใหม่” แหล่งข่าวกล่าว
โรงแรมทยอยปิดชั่วคราวรอบใหม่
นาง
มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) และรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงแรมเดอะ สุโกศล กล่าวกับ “
ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์โดยรวมของกลุ่มธุรกิจโรงแรมขณะนี้ถือว่าแย่มาก ไม่สามารถทำธุรกิจได้อีกครั้ง ไม่เพียงเฉพาะในส่วนห้องพักเท่านั้น มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดยังส่งผลกระทบถึงห้องอาหารและห้องจัดงานประชุมสัมมนาด้วย
“
ตอนนี้คนที่สายป่านยาว มีบริษัทแม่ช่วยเหลือด้านการเงินพอมีบ้าง แต่เป็นส่วนน้อยมาก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในภาวะสายป่านจะขาดกันแล้ว” นาง
มาริสากล่าวและว่า
ที่ผ่านมาทุกโรงแรมก็คาดหวังว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์และตลอดเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้จะเป็นช่วงที่โรงแรมมีโอกาสสร้างรายได้เพื่อมาต่อลมหายใจให้ธุรกิจสามารถประคองตัวผ่านไตรมาส 3 และเดินต่อไปได้จนถึงไฮซีซั่นเดือน ต.ค.ได้บ้าง แต่โควิดระลอก 3 ทำให้ธุรกิจหมดโอกาสสร้างรายได้ตลอดเดือน เม.ย.นี้ และคาดว่าจะลากยาวไปจนถึง พ.ค.นี้
โดยขณะนี้โรงแรมในเมืองท่องเที่ยวที่ปัจจุบันเปิดให้บริการไม่ถึง 50% เริ่มประเมินสถานการณ์เพื่อปิดบริการชั่วคราวอีกครั้ง เนื่องจากประเมินกันว่าในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้ธุรกิจท่องเที่ยวโดยรวมยังอยู่ในภาวะยากลำบาก พร้อมทั้งรอประเมินสถานการณ์เพื่อกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย
แรงงานตกงานอีกตรึม
นาง
มาริสากล่าวด้วยว่า ผลกระทบจากการทยอยปิดโรงแรมชั่วคราวกันอีกในเมืองท่องเที่ยวหลักนั้น จะส่งผลให้แรงงานในธุรกิจโรงแรมตกงานกันเพิ่มขึ้นอีกครั้งตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนจะมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังคาดการณ์ยาก
ทั้งนี้ จากข้อมูลการสำรวจของสมาคมโรงแรมไทยและจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาพบว่ามีแรงงานในธุรกิจโรงแรมตกงาน 37% และตกงานเพิ่มขึ้นเป็น 45% ในเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
ชี้ “วัคซีน” คือความหวังเดียว
นาง
มาริสากล่าวต่อว่า ความหวังเดียวของคนท่องเที่ยวและคนโรงแรมขณะนี้คือ “วัคซีน” กล่าวคือรัฐบาลต้องลงทุนสั่งซื้อวัคซีนในปริมาณที่เพียงต่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หรือประมาณ 70% ของประชากรให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นและกล้าเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย
สอดรับกับนางสาว
ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ รองผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเดอะ ทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ ที่กล่าวว่า วัคซีนคือสิ่งเดียวที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ชาวต่างชาติกล้าเดินทางเข้ามาประเทศไทย เพราะแม้ว่าประเทศจะมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่หากในประเทศยังฉีดวัคซีนไม่ถึง 70% สถานการณ์ก็จะยังอยู่ในภาวะเสี่ยงและไม่มีคนกล้าเดินทาง
ดันเปิด “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์”
นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากประเด็นเรื่องวัคซีนแล้ว ประเด็นที่อยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนต่อไปคือ นโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัวตามโมเดล “
ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” ที่มีกำหนดเปิดที่จังหวัดภูเก็ต 1 กรกฎาคมนี้ และเพิ่มอีก 5 จังหวัดในเดือนตุลาคมนี้ และเปิดทั่วประเทศในเดือนมกราคม 2565 เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง
หากต้องเลื่อนหรือไม่สามารถเปิดได้จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศแน่นอน
“
การดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นจึงอยากให้รัฐพิจารณาและจัดสรรวัคซีนให้มีความสมดุลทั้ง 2 ส่วน เพราะถ้าจัดการแต่เรื่องการควบคุมการแพร่ระบาด ธุรกิจที่ล้มไปแล้วจะลุกขึ้นยาก” นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าว
กระทบหนักทุกซัพพลายเชน
ขณะที่แหล่งข่าวจาก สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โควิดระลอก 3 นี้ทุกซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักทั้งธุรกิจโรงแรม, สายการบิน, บริษัทนำเที่ยว, ร้านอาหาร, รถขนส่ง ฯลฯ เนื่องจากทุกภาคส่วนต่างคาดหวังว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยจะเริ่มกลับมาทยอยดีขึ้น
โดยจะเห็นว่าสายการบินต่าง ๆ ได้ลงทุนเพิ่มเส้นทางบินภายในประเทศกันเป็นจำนวนมาก ทั้งเส้นทางบินตรงจากรุงเทพฯสู่เมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงเส้นทางบินข้ามภาค บริษัทนำเที่ยวก็เริ่มเตรียมคิดและเสนอขายแพ็กเกจนำเที่ยวภายในประเทศ ขณะที่ภาคขนส่งทั้งรถบัสและรถตู้ก็เริ่มกลับมาทำการซ่อมแซม ตรวจสภาพความพร้อมของรถเพื่อกลับมาให้บริการอีกครั้ง
“
สถานการณ์ในตอนนี้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนอยู่ในภาวะหมดความหวัง ไม่รู้จะปรับตัวอย่างไรแล้ว เพราะหมดกระบวนท่าแล้วจริง ๆ ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย ภาครัฐจะเข้ามาช่วยฟื้นฟูและปั๊มหัวใจให้ทุกซัพพลายเชนกลับมาเดินต่อกันได้อีกครั้ง” แหล่งข่าวกล่าว
รร.ภูเก็ตส่อปิดกิจการเพิ่ม
นาย
ก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงแรมที่เปิดให้บริการในภูเก็ตประมาณ 200-300 แห่ง รวมประมาณ 15,000 ห้อง ยอดจองหลังสงกรานต์อยู่ที่ 20-30% สำหรับวันหยุด ส่วนวันปกติอยู่ที่ 5-10%
ส่วนยอดจองใหม่ยังช้า เพราะรอดูมาตรการจังหวัดและสถานการณ์ระบาดระลอก 3 ซึ่งถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวไม่เดินทางเข้ามา มีแนวโน้มโรงแรมที่จะต้องปิดชั่วคราวเกิดขึ้นแน่นอน
แหล่งข่าวจากจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์โรงแรมในภูเก็ตค่อนข้างหนักจากโควิด-19 รอบ 3 เนื่องจากรายได้ที่หวังจะได้รับในช่วงเทศกาลสงกรานต์และช่วงปิดเทอมที่จองห้องเข้ามามีการยกเลิกและเลื่อนออกไป ตอนนี้ทุกคนฝากความหวังว่ารัฐบาลจะเดินตามแผนฉีดวัคซีนโควิดให้คนภูเก็ต 4 แสนคน เพื่อเปิดเกาะภูเก็ตให้คนต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจะเป็นหนทางเดียวในการสร้างรายได้ให้ภูเก็ตและประเทศไทย
หากรัฐบาลไม่สามารถจัดสรรวัคซีนและเปิดเกาะภูเก็ตได้ตามเป้าหมาย คงได้เห็นธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กและธุรกิจเกี่ยวเนื่องบางส่วน “ปิดกิจการ” เพิ่มขึ้น เพราะเงินเก็บที่มีถูกใช้ในการประคองตัวใกล้หมด หรือบางรายหมดไปแล้ว
ส่วนโครงการโกดังพักหนี้ของธนาคารนั้น คนที่จะตัดสินใจเข้าโครงการน่าจะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการขายกิจการทิ้งมากกว่า เพราะการพักหนี้ดอกเบี้ยวิ่งตลอดเวลา ต้องไปชำระหนี้ในอนาคต และการจะเช่าโรงแรมกลับมาทำต่อ สถานการณ์ตอนนี้คงไม่มีใครอยากเช่ามาทำ
JJNY : ห้องสายด่วน 1668 ไม่มีคอมฯ│ฝั่งธนร้องติดโควิด21คน โทร1668เงียบ│หอค้าห่วงคนตกงานกว่าแสน│ทหารเมียนมาถล่มค่ายใกล้ไทย
https://www.matichon.co.th/local/news_2685585
เปิดบรรยากาศ ห้องสายด่วน 1668 ไม่มีคอมพิวเตอร์-จนท. ต้องใช้ปากกาจด
เมื่อวันที่ 22 เมษายน จากกรณีที่ ปัญหาที่หลายคนแจ้งมาว่า สายด่วน 1668 ที่ให้ประชาชนโทรเข้าไปขอความช่วยเหลือ ในการจัดหาโรงพยาบาล กรณีป่วยโควิด หลายคนกล่าวว่า โทรติดยาก จนนายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ทีมงานลองโทรศัพท์ ก็ยังไม่มีผู้รับ
ล่าสุด นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้แถลงข่าว และพาผู้สื่อข่าวเข้าเยี่ยมชมห้องทำงานบางส่วนของสายด่วน 1668 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ คอยรับสาย ซักประวัติ พร้อมด้วยการคัดกรองความเสี่ยง
โดยชี้แจงว่า ผู้ที่ทำงานเป็นอาสาสมัครประกอบด้วยแพทย์และพยาบาล ขณะนี้มีประมาณ 230 คน สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทำหน้าที่ซักประวัติ พร้อมวิเคราะห์อาการ ตามระดับความรุนแรงก่อนจะส่งต่อ และการพูดคุยแต่ละสายต้องใช้เวลา 20-40 นาที ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 20 คู่สาย ที่ผ่านมามีการโทรเข้ามาถึง 3,600 สาย
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จะเพิ่มคู่สายให้มากขึ้น แต่ที่ผ่านมาสายไม่ว่าง เพราะผู้ที่สงสัยว่าตัวเองติดเชื้อ หรือติดเชื้อแล้ว ต่างก็อยากคุยกับหมอให้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังได้เปิดให้ชมบรรยากาศการทำงานของ ห้องสายด่วน 1668 ที่มีเจ้าหน้าที่คอยรับสายตามแต่ละโต๊ะ โดยต้องใช้ปากกาในการจด ไม่มีคอมพิวเตอร์ โดยต้องใช้เวลาราว 20-40 นาที ต่อสายหนึ่ง
ชาวฝั่งธนร้อง ซ.ตลาดเก่าบุคคโล ติดโควิด 21คน โทร1668ไปก็เงียบ วอนช่วยเหลือด่วนๆ
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6356070
ชาวฝั่งธนร้อง ซ.ตลาดเก่าบุคคโล ติดโควิด 21คน โทร1668ไปก็เงียบ วอนช่วยเหลือด่วนๆ ชาวบ้านเล่า คนในซอยเริ่มไปตรวจ แล้วก็เจอติดเพิ่มขึ้น
วันที่ 22 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านซอยตลาดเก่าบุคคโล ตรงข้ามซ.เจริญนคร 62 ร้องเรียนว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 21 ราย แต่ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาทำการช่วยเหลือแต่อย่างใด หลังจากได้มีการโทรแจ้งสายด่วน 1668 แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมา รวมถึงคนภายในซอยได้ประสานทุกช่องทาง แต่ก็ไม่มีใครตอบเรื่องกลับมา
ด้านน.ส.เอ นามสมมุติ ผู้อาศัยอยู่ภายในซอยดังกล่าว เปิดเผยว่า ภายหลังจากครอบครัวกลับจากต่างจังหวัด มีบ้านหลังหนึ่งภายในซอยพบการติดเชื้อโควิด 19 ครั้งเดียวถึง 9 คน จากนั้นมีรถ รพ.มารับตัวไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นคนในซอยก็เริ่มไปตรวจ แล้วก็เจอติดเพิ่มขึ้น บ้านของตนเองก็โทรคุยกับเพื่อนบ้าน เพื่ออัปเดตข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ที่บ้านของตนเองเป็นกังวลเพราะยิ่งตรวจยิ่งเจอ คือคนในซอยก็ออกไปตรวจกันเองที่ รพ.แต่ยังไม่มี หน่วยงานที่ลงพื้นที่มาตรวจให้แต่อย่างใด ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ท่องเที่ยวฟุบหนักโรงแรมระส่ำ แห่ปิดชั่วคราวตกงานรอบใหม่
https://www.prachachat.net/tourism/news-652144
โควิดระลอก 3 ทุบความหวังธุรกิจท่องเที่ยว คนโรงแรมสิ้นหวัง ธุรกิจไร้ทางรอด เผยช่วง เม.ย.-พ.ค.อัตราการเข้าพักเฉลี่ยไม่ถึง 5% โรงแรมเมืองท่องเที่ยว “ภูเก็ต-พัทยา” ทยอยปิดชั่วคราว ลุ้นความหวังไฮซีซั่นเดือน ต.ค.เปิดใหม่อีกครั้ง คาดตกงานอีกระลอก ชี้ “วัคซีน” ความหวังเดียวของอุตฯท่องเที่ยวไทย วอนรัฐเดินหน้าเปิด “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” ตามไทม์ไลน์เดิม หวังเม็ดเงินต่างชาติช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านสภาท่องเที่ยวยันกระทบหนักทั้งอุตสาหกรรม
ทุบโอกาสตุนรายได้สงกรานต์
แหล่งข่าวในธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยคาดหวังว่าเดือน เม.ย.นี้จะเป็นเดือนแห่งการคิกออฟการท่องเที่ยวของไทยอีกครั้ง หลังจากเจอวิกฤตโควิดมาแล้วถึง 2 ระลอกใหญ่ เนื่องจากเป็นเดือนที่มีเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งมีวันหยุดพิเศษที่รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง ด้วยหวังว่าจะช่วยกระตุ้นให้คนไทยเกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
แต่การระบาดระลอก 3 บวกกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศและบังคับใช้เมื่อ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้คนไทยชะลอการเดินทางท่องเที่ยวทันที ส่งผลให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักอีกครั้ง
โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยไม่เกิน 5% แต่เป็นธุรกิจที่มีต้นทุนการดำเนินงานที่ค่อนข้างสูง
“พอมาเจอโควิดระลอก 3 กันอีกครั้งทำให้ธุรกิจหมดโอกาสตุนรายได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ต้องกลับมาเริ่มต้นที่ศูนย์กันใหม่” แหล่งข่าวกล่าว
โรงแรมทยอยปิดชั่วคราวรอบใหม่
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) และรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงแรมเดอะ สุโกศล กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์โดยรวมของกลุ่มธุรกิจโรงแรมขณะนี้ถือว่าแย่มาก ไม่สามารถทำธุรกิจได้อีกครั้ง ไม่เพียงเฉพาะในส่วนห้องพักเท่านั้น มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดยังส่งผลกระทบถึงห้องอาหารและห้องจัดงานประชุมสัมมนาด้วย
“ตอนนี้คนที่สายป่านยาว มีบริษัทแม่ช่วยเหลือด้านการเงินพอมีบ้าง แต่เป็นส่วนน้อยมาก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในภาวะสายป่านจะขาดกันแล้ว” นางมาริสากล่าวและว่า
ที่ผ่านมาทุกโรงแรมก็คาดหวังว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์และตลอดเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้จะเป็นช่วงที่โรงแรมมีโอกาสสร้างรายได้เพื่อมาต่อลมหายใจให้ธุรกิจสามารถประคองตัวผ่านไตรมาส 3 และเดินต่อไปได้จนถึงไฮซีซั่นเดือน ต.ค.ได้บ้าง แต่โควิดระลอก 3 ทำให้ธุรกิจหมดโอกาสสร้างรายได้ตลอดเดือน เม.ย.นี้ และคาดว่าจะลากยาวไปจนถึง พ.ค.นี้
โดยขณะนี้โรงแรมในเมืองท่องเที่ยวที่ปัจจุบันเปิดให้บริการไม่ถึง 50% เริ่มประเมินสถานการณ์เพื่อปิดบริการชั่วคราวอีกครั้ง เนื่องจากประเมินกันว่าในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้ธุรกิจท่องเที่ยวโดยรวมยังอยู่ในภาวะยากลำบาก พร้อมทั้งรอประเมินสถานการณ์เพื่อกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย
แรงงานตกงานอีกตรึม
นางมาริสากล่าวด้วยว่า ผลกระทบจากการทยอยปิดโรงแรมชั่วคราวกันอีกในเมืองท่องเที่ยวหลักนั้น จะส่งผลให้แรงงานในธุรกิจโรงแรมตกงานกันเพิ่มขึ้นอีกครั้งตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนจะมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังคาดการณ์ยาก
ทั้งนี้ จากข้อมูลการสำรวจของสมาคมโรงแรมไทยและจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาพบว่ามีแรงงานในธุรกิจโรงแรมตกงาน 37% และตกงานเพิ่มขึ้นเป็น 45% ในเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
ชี้ “วัคซีน” คือความหวังเดียว
นางมาริสากล่าวต่อว่า ความหวังเดียวของคนท่องเที่ยวและคนโรงแรมขณะนี้คือ “วัคซีน” กล่าวคือรัฐบาลต้องลงทุนสั่งซื้อวัคซีนในปริมาณที่เพียงต่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หรือประมาณ 70% ของประชากรให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นและกล้าเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย
สอดรับกับนางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ รองผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเดอะ ทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ ที่กล่าวว่า วัคซีนคือสิ่งเดียวที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ชาวต่างชาติกล้าเดินทางเข้ามาประเทศไทย เพราะแม้ว่าประเทศจะมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่หากในประเทศยังฉีดวัคซีนไม่ถึง 70% สถานการณ์ก็จะยังอยู่ในภาวะเสี่ยงและไม่มีคนกล้าเดินทาง
ดันเปิด “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์”
นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากประเด็นเรื่องวัคซีนแล้ว ประเด็นที่อยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนต่อไปคือ นโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัวตามโมเดล “ภูเก็ต แซนด์บอกซ์” ที่มีกำหนดเปิดที่จังหวัดภูเก็ต 1 กรกฎาคมนี้ และเพิ่มอีก 5 จังหวัดในเดือนตุลาคมนี้ และเปิดทั่วประเทศในเดือนมกราคม 2565 เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง
หากต้องเลื่อนหรือไม่สามารถเปิดได้จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศแน่นอน
“การดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นจึงอยากให้รัฐพิจารณาและจัดสรรวัคซีนให้มีความสมดุลทั้ง 2 ส่วน เพราะถ้าจัดการแต่เรื่องการควบคุมการแพร่ระบาด ธุรกิจที่ล้มไปแล้วจะลุกขึ้นยาก” นายกสมาคมโรงแรมไทยกล่าว
กระทบหนักทุกซัพพลายเชน
ขณะที่แหล่งข่าวจาก สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โควิดระลอก 3 นี้ทุกซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักทั้งธุรกิจโรงแรม, สายการบิน, บริษัทนำเที่ยว, ร้านอาหาร, รถขนส่ง ฯลฯ เนื่องจากทุกภาคส่วนต่างคาดหวังว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยจะเริ่มกลับมาทยอยดีขึ้น
โดยจะเห็นว่าสายการบินต่าง ๆ ได้ลงทุนเพิ่มเส้นทางบินภายในประเทศกันเป็นจำนวนมาก ทั้งเส้นทางบินตรงจากรุงเทพฯสู่เมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงเส้นทางบินข้ามภาค บริษัทนำเที่ยวก็เริ่มเตรียมคิดและเสนอขายแพ็กเกจนำเที่ยวภายในประเทศ ขณะที่ภาคขนส่งทั้งรถบัสและรถตู้ก็เริ่มกลับมาทำการซ่อมแซม ตรวจสภาพความพร้อมของรถเพื่อกลับมาให้บริการอีกครั้ง
“สถานการณ์ในตอนนี้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนอยู่ในภาวะหมดความหวัง ไม่รู้จะปรับตัวอย่างไรแล้ว เพราะหมดกระบวนท่าแล้วจริง ๆ ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย ภาครัฐจะเข้ามาช่วยฟื้นฟูและปั๊มหัวใจให้ทุกซัพพลายเชนกลับมาเดินต่อกันได้อีกครั้ง” แหล่งข่าวกล่าว
รร.ภูเก็ตส่อปิดกิจการเพิ่ม
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงแรมที่เปิดให้บริการในภูเก็ตประมาณ 200-300 แห่ง รวมประมาณ 15,000 ห้อง ยอดจองหลังสงกรานต์อยู่ที่ 20-30% สำหรับวันหยุด ส่วนวันปกติอยู่ที่ 5-10%
ส่วนยอดจองใหม่ยังช้า เพราะรอดูมาตรการจังหวัดและสถานการณ์ระบาดระลอก 3 ซึ่งถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวไม่เดินทางเข้ามา มีแนวโน้มโรงแรมที่จะต้องปิดชั่วคราวเกิดขึ้นแน่นอน
แหล่งข่าวจากจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์โรงแรมในภูเก็ตค่อนข้างหนักจากโควิด-19 รอบ 3 เนื่องจากรายได้ที่หวังจะได้รับในช่วงเทศกาลสงกรานต์และช่วงปิดเทอมที่จองห้องเข้ามามีการยกเลิกและเลื่อนออกไป ตอนนี้ทุกคนฝากความหวังว่ารัฐบาลจะเดินตามแผนฉีดวัคซีนโควิดให้คนภูเก็ต 4 แสนคน เพื่อเปิดเกาะภูเก็ตให้คนต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจะเป็นหนทางเดียวในการสร้างรายได้ให้ภูเก็ตและประเทศไทย
หากรัฐบาลไม่สามารถจัดสรรวัคซีนและเปิดเกาะภูเก็ตได้ตามเป้าหมาย คงได้เห็นธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กและธุรกิจเกี่ยวเนื่องบางส่วน “ปิดกิจการ” เพิ่มขึ้น เพราะเงินเก็บที่มีถูกใช้ในการประคองตัวใกล้หมด หรือบางรายหมดไปแล้ว
ส่วนโครงการโกดังพักหนี้ของธนาคารนั้น คนที่จะตัดสินใจเข้าโครงการน่าจะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการขายกิจการทิ้งมากกว่า เพราะการพักหนี้ดอกเบี้ยวิ่งตลอดเวลา ต้องไปชำระหนี้ในอนาคต และการจะเช่าโรงแรมกลับมาทำต่อ สถานการณ์ตอนนี้คงไม่มีใครอยากเช่ามาทำ