เสียงจากอบจ. ถ้ารัฐชงให้อปท.ซื้อวัคซีน ท้องถิ่นเล็กๆลำบากแน่ งบเกลี้ยง ส่งไม่ถึง
https://www.matichon.co.th/region/news_2528294
น.หาดใหญ่เตรียมงบ 200 ล้าน ซื้อวัคซีนต้านโควิด คลายความวิตก ขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้า ด้าน อบจ.สงขลางบเกลี้ยง ไม่สามารถหนุนท้องถิ่นขนาดเล็ก
วันที่ 14 มกราคม นาย
กิตติ เรืองเริงกุลฤทธิ์ ปลัดเทศบาลรักษาการนายกเทศบาลนคร (ทน.) หาดใหญ่ เปิดเผยว่า ทน.หาดใหญ่มีความศักยภาพในการดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนต้านโตวิด-19 หากคณะรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นดำเนินการ ทั้งด้านงบประมาณและบุคลากรสาธารณสุขพร้อม คาดว่าทำงานได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย 1แสนคนในเขตพื้นที่บริการ
นาย
กิตติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทน.หาดใหญ่สามารถนำงบประมาณมาใช้กับวัคซีนต้านโควิดประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อบริการให้กับประชาชนในเขตบริการประมาณ 1 แสนคนทันทีได้ เพื่อให้ประชาชนคลายความวิตกกังวล ซึ่งจะเป็นตัวหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเมืองหาดใหญ่เดินไปข้างหน้า ถึงแม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม
รายงานข่าวจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลาว่า หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ท้องถิ่นดำเนินการซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ปัญหาจะตกที่ท้องถิ่นขนาดเล็กที่มีประมาณร้อยละ 75 ไม่มีงบประมาณดำเนินการ หากจะหวังให้ อบจ.สนับสนุนงบนั้น งบของ อบจ.สงขลาหมดจากการจัดสรรให้กับจังหวัดกว่า 50 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในโครงการรับคนไทยกลับจากมาเลเซียที่อ.สะเดา จึงไม่สามารถจัดสรรให้กับท้องถิ่นขนาดเล็กได้อีก
โรงแรมดัง เมืองพัทยา ประกาศ ปิดชั่วคราว หลังพิษโควิดเล่นงาน
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_5734418
โรงแรมดัง Hard Rock Hotel Pattaya ประกาศปิดชั่วคราว หลัง โควิด ระบาดหนักในพื้นที่ จ.ชลบุรี เตรียมกลับมาเปิดอีกครั้งเดือนหน้า
พื้นที่ โควิด ระบาดหนัก อยู่ในแถบภาคตะวันออกอย่างหนัก โดยเฉพาะ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ถือว่าเป็นพื้นที่สีแดง ที่มีการระบาดหนัก ทำให้ห้างร้าน กิจการ โรงเรียนในพื้นที่ดังกล่าว ต้องปิดเพื่อหยุดการระบาดในพื้นที่ดังกล่าวให้ได้เร็วที่สุด
โดยล่าสุด เพจโรงแรมดัง Hard Rock Hotel Pattaya ได้โพสต์ระบุว่า
"เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา โรงแรมฮาร์ดร็อคและฮาร์ดร็อคคาเฟ่พัทยาจึงปิดให้บริการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 7 - 31 มกราคม 2564 และจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนฮาร์ดร็อคพัทยาอย่างเสมอมา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับและมอบประสบการณ์ดีๆ กับลูกค้าทุกท่านอีกครั้งเร็วๆ นี้ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพและปลอดภัย"
หวั่นตื่นตระหนกโควิด-19 ระลอกใหม่ฉุดเม็ดเงินโฆษณาปีนี้ดิ่งต่อ หลังปี’63 ลดวูบ 7.3 หมื่นล้าน ต่ำสุดรอบ 20 ปี
https://www.khaosod.co.th/economics/news_5733955
หวั่นตื่นตระหนกโควิด-19 ระลอกใหม่ฉุดเม็ดเงินโฆษณาปีนี้ดิ่งต่อ หลังปี’63 ลดวูบ 7.3 หมื่นล้าน ต่ำสุดในรอบ 20 ปี ตกสุดในประวัติศาสตร์
หวั่นตื่นตระหนกโควิด - นาย
ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย อิเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ เอ็มไอ (MI) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกใหม่ อาจชะลอการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาปี 2564 จากในปี 2563 อุตฯ สื่อโฆษณา ติดลบถึง 18.3% หรือมูลค่าลดลงมาอยู่ที่ 73,720 ล้านบาท นับว่าตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี และถือเป็นการตกต่ำที่เป็นประวัติศาสตร์ของอุตฯ สื่อโฆษณาของไทย
โดยที่น่าห่วง คือ การตื่นตระหนกจนเกินไป จะส่งผลกระทบทันทีในวงกว้างต่อความเชื่อมั่นในการบริโภค และการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ตลอดจนผู้ประกอบการภาคธุรกิจการหยุดใช้เงิน ซึ่งอาจกดทับและซ้ำเติมการฟื้นตัวของอุตฯ สื่อโฆษณาปี 2564 ไม่สามารถเติบโตอยู่ในแนวบวกหรืออาจติดลบต่อเนื่องได้
จากเดิมเอ็มไอคาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาปี 2564 ภายหลังวิกฤตโควิด-19 เริ่มคลี่คลายและเห็นสัญญาณต่างๆ ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาและคาดการณ์การเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 ประกอบกับการฟื้นตัวของตลาดที่ส่งผลต่อรายได้ของไทย โดยเฉพาะ จีน ซึ่งจะเริ่มส่งผลบวกโดยตรงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการส่งออก ทำให้เอ็มไอคาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาปี 2564 บวกได้มากกว่า 10%
เมื่อสถานการณ์โควิด-19 กลับมาระบาดระลอกใหม่ ทำให้เอ็มไอได้คาดการณ์สถานการณ์ของอุตฯสื่อโฆษณาในไทยปีนี้ไว้ 3 สถานการณ์ ได้แก่ สถานการณ์เกิดการระบาดรอบ 2 ในวงจำกัด แต่สามารถควบคุม จะทำให้อุตฯ เติบโตได้ 10% มาจากสื่อทีวี 50.1% และสื่อออนไลน์ 28.1% สถานการณ์ที่ 2 เกิดการระบาดรอบ 2 ในวงกว้าง ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้บางพื้นที่ และมีการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ อุตฯ น่าจะเติบโต 5% มาจากสื่อทีวี 50.6% และสื่อออนไลน์ 29.1%
และสถานการณ์ที่ 3 เกิดการระบาดรอบ 2 ในวงกว้าง ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ในหลายพื้นที่ มีการล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ (รายวัน) เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนเริ่มตื่นตระหนกและไม่มั่นใจในสถานการณ์ อุตฯ จะเติบโต 0% ไปจนถึงติดลบต่อเนื่อง โดยมาจากสื่อทีวี 51% สื่อออนไลน์ 30% ซึ่งในช่วง 14 วันที่ผ่านมาของปีนี้ เม็ดเงินโฆษณาได้หายไปประมาณ 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากมีการตื่นตระหนก หรือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงจะทำให้กระทบทั้งระบบแน่นอน
“
การตื่นตระหนกจนเกินไป จะเป็นปัจจัยหลักอีกหนึ่งปัจจัยที่มาซ้ำเติมให้สถานการณ์แย่กว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดของภาครัฐอย่างเคร่งครัด ติดตามข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อพยุงสถานการณ์โดยรวมให้ไม่แย่เกินความเป็นจริง ซึ่งเราพอเริ่มเห็นแสงสว่างจากการกระจายและเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในหลายประเทศ ซึ่งในประเทศหรือเมืองที่มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว อัตราผู้ติดเชื้อใหม่ในเมืองนั้นๆ ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และคาดการณ์ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของไทยจะเข้าถึงวัคซีนในช่วงเดือนพ.ค.นี้เป็นต้นไป”
JJNY : เสียงจากอบจ./โรงแรมดังพัทยาปิดชั่วคราว/โฆษณาปีนี้ดิ่งต่อ/สุธรรม-กิตติสมัครพท./เก่งไม่หวั่นสิระ/วอนบริจาคผ้าห่ม
https://www.matichon.co.th/region/news_2528294
วันที่ 14 มกราคม นายกิตติ เรืองเริงกุลฤทธิ์ ปลัดเทศบาลรักษาการนายกเทศบาลนคร (ทน.) หาดใหญ่ เปิดเผยว่า ทน.หาดใหญ่มีความศักยภาพในการดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนต้านโตวิด-19 หากคณะรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นดำเนินการ ทั้งด้านงบประมาณและบุคลากรสาธารณสุขพร้อม คาดว่าทำงานได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย 1แสนคนในเขตพื้นที่บริการ
นายกิตติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทน.หาดใหญ่สามารถนำงบประมาณมาใช้กับวัคซีนต้านโควิดประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อบริการให้กับประชาชนในเขตบริการประมาณ 1 แสนคนทันทีได้ เพื่อให้ประชาชนคลายความวิตกกังวล ซึ่งจะเป็นตัวหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเมืองหาดใหญ่เดินไปข้างหน้า ถึงแม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม
รายงานข่าวจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลาว่า หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ท้องถิ่นดำเนินการซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ปัญหาจะตกที่ท้องถิ่นขนาดเล็กที่มีประมาณร้อยละ 75 ไม่มีงบประมาณดำเนินการ หากจะหวังให้ อบจ.สนับสนุนงบนั้น งบของ อบจ.สงขลาหมดจากการจัดสรรให้กับจังหวัดกว่า 50 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในโครงการรับคนไทยกลับจากมาเลเซียที่อ.สะเดา จึงไม่สามารถจัดสรรให้กับท้องถิ่นขนาดเล็กได้อีก
โรงแรมดัง เมืองพัทยา ประกาศ ปิดชั่วคราว หลังพิษโควิดเล่นงาน
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_5734418
โรงแรมดัง Hard Rock Hotel Pattaya ประกาศปิดชั่วคราว หลัง โควิด ระบาดหนักในพื้นที่ จ.ชลบุรี เตรียมกลับมาเปิดอีกครั้งเดือนหน้า
พื้นที่ โควิด ระบาดหนัก อยู่ในแถบภาคตะวันออกอย่างหนัก โดยเฉพาะ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ถือว่าเป็นพื้นที่สีแดง ที่มีการระบาดหนัก ทำให้ห้างร้าน กิจการ โรงเรียนในพื้นที่ดังกล่าว ต้องปิดเพื่อหยุดการระบาดในพื้นที่ดังกล่าวให้ได้เร็วที่สุด
โดยล่าสุด เพจโรงแรมดัง Hard Rock Hotel Pattaya ได้โพสต์ระบุว่า
"เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา โรงแรมฮาร์ดร็อคและฮาร์ดร็อคคาเฟ่พัทยาจึงปิดให้บริการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 7 - 31 มกราคม 2564 และจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนฮาร์ดร็อคพัทยาอย่างเสมอมา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับและมอบประสบการณ์ดีๆ กับลูกค้าทุกท่านอีกครั้งเร็วๆ นี้ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพและปลอดภัย"
หวั่นตื่นตระหนกโควิด-19 ระลอกใหม่ฉุดเม็ดเงินโฆษณาปีนี้ดิ่งต่อ หลังปี’63 ลดวูบ 7.3 หมื่นล้าน ต่ำสุดรอบ 20 ปี
https://www.khaosod.co.th/economics/news_5733955
หวั่นตื่นตระหนกโควิด-19 ระลอกใหม่ฉุดเม็ดเงินโฆษณาปีนี้ดิ่งต่อ หลังปี’63 ลดวูบ 7.3 หมื่นล้าน ต่ำสุดในรอบ 20 ปี ตกสุดในประวัติศาสตร์
หวั่นตื่นตระหนกโควิด - นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย อิเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ เอ็มไอ (MI) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกใหม่ อาจชะลอการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาปี 2564 จากในปี 2563 อุตฯ สื่อโฆษณา ติดลบถึง 18.3% หรือมูลค่าลดลงมาอยู่ที่ 73,720 ล้านบาท นับว่าตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี และถือเป็นการตกต่ำที่เป็นประวัติศาสตร์ของอุตฯ สื่อโฆษณาของไทย
โดยที่น่าห่วง คือ การตื่นตระหนกจนเกินไป จะส่งผลกระทบทันทีในวงกว้างต่อความเชื่อมั่นในการบริโภค และการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ตลอดจนผู้ประกอบการภาคธุรกิจการหยุดใช้เงิน ซึ่งอาจกดทับและซ้ำเติมการฟื้นตัวของอุตฯ สื่อโฆษณาปี 2564 ไม่สามารถเติบโตอยู่ในแนวบวกหรืออาจติดลบต่อเนื่องได้
จากเดิมเอ็มไอคาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาปี 2564 ภายหลังวิกฤตโควิด-19 เริ่มคลี่คลายและเห็นสัญญาณต่างๆ ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาและคาดการณ์การเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 ประกอบกับการฟื้นตัวของตลาดที่ส่งผลต่อรายได้ของไทย โดยเฉพาะ จีน ซึ่งจะเริ่มส่งผลบวกโดยตรงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการส่งออก ทำให้เอ็มไอคาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาปี 2564 บวกได้มากกว่า 10%
เมื่อสถานการณ์โควิด-19 กลับมาระบาดระลอกใหม่ ทำให้เอ็มไอได้คาดการณ์สถานการณ์ของอุตฯสื่อโฆษณาในไทยปีนี้ไว้ 3 สถานการณ์ ได้แก่ สถานการณ์เกิดการระบาดรอบ 2 ในวงจำกัด แต่สามารถควบคุม จะทำให้อุตฯ เติบโตได้ 10% มาจากสื่อทีวี 50.1% และสื่อออนไลน์ 28.1% สถานการณ์ที่ 2 เกิดการระบาดรอบ 2 ในวงกว้าง ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้บางพื้นที่ และมีการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ อุตฯ น่าจะเติบโต 5% มาจากสื่อทีวี 50.6% และสื่อออนไลน์ 29.1%
และสถานการณ์ที่ 3 เกิดการระบาดรอบ 2 ในวงกว้าง ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ในหลายพื้นที่ มีการล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ (รายวัน) เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนเริ่มตื่นตระหนกและไม่มั่นใจในสถานการณ์ อุตฯ จะเติบโต 0% ไปจนถึงติดลบต่อเนื่อง โดยมาจากสื่อทีวี 51% สื่อออนไลน์ 30% ซึ่งในช่วง 14 วันที่ผ่านมาของปีนี้ เม็ดเงินโฆษณาได้หายไปประมาณ 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากมีการตื่นตระหนก หรือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงจะทำให้กระทบทั้งระบบแน่นอน
“การตื่นตระหนกจนเกินไป จะเป็นปัจจัยหลักอีกหนึ่งปัจจัยที่มาซ้ำเติมให้สถานการณ์แย่กว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดของภาครัฐอย่างเคร่งครัด ติดตามข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อพยุงสถานการณ์โดยรวมให้ไม่แย่เกินความเป็นจริง ซึ่งเราพอเริ่มเห็นแสงสว่างจากการกระจายและเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในหลายประเทศ ซึ่งในประเทศหรือเมืองที่มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว อัตราผู้ติดเชื้อใหม่ในเมืองนั้นๆ ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และคาดการณ์ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของไทยจะเข้าถึงวัคซีนในช่วงเดือนพ.ค.นี้เป็นต้นไป”