๗
วันนี้เป็นวันเกิดของหนึ่งในสมาชิกวง พิชญ์พงศ์และเพื่อนๆ จึงปิดร้านอาหารกึ่งผับที่พวกเขาร่วมหุ้นกันหนึ่งวัน เพื่อฉลองให้กับเจ้าของวันเกิด นอกจากเพื่อนร่วมวงแล้วยังมีเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยมาร่วมสังสรรค์ด้วย และหนึ่งในนั้นก็คืออติกันต์ที่ควงคู่มากับภรรยาป้ายแดงอย่างณิชชยา และทันที่ที่เจอหน้าพิชญ์พงศ์หญิงสาวก็รีบปรี่เข้ามาซักฟอกทันที
“ไปเดตมาเป็นยังไงบ้างคะพี่ปราชญ์”
ณิชชยาถามอย่างใคร่รู้ พร้อมรอฟังคำตอบด้วยใจจดจ่อ แล้วก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนของตนและเพื่อนสามีจะเข้ากันได้ดี ตั้งแต่รู้ว่าปาณฑรากับพิชญ์พงศ์กำลังคุยๆ กันอยู่ เธอก็แอบเชียร์ทั้งสองอยู่ห่างๆ เพราะสองคนนี้เหมาะสมกันมากในความคิดของเธอ
เมื่อได้ยินคำถามของหญิงสาว เพื่อนคนอื่นๆ ในโต๊ะต่างก็รอฟังคำตอบอย่างสนใจ เพราะหลายปีแล้วที่ไม่เห็นพิชญ์พงศ์มีท่าทีสนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย ตั้งแต่เลิกรากับคนรักเก่าสมัยเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้าย จนพวกเพื่อนๆ คิดว่าเขาปิดตายหัวใจไปแล้วซะอีก
“ก็ดี” พิชญ์พงศ์ตอบอย่างคนประหยัดคำพูดพร้อมอมยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงคนที่เพิ่งไปเดตกันมาเมื่อวาน
“แค่เนี้ย” คนที่คาดหวังว่าจะได้ฟังอะไรมากกว่านี้ทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ จนผู้เป็นสามีอดแซวไม่ได้
“เรานี่ก็ชอบอยากรู้เรื่องของคนอื่นเขาอยู่เรื่อยเลย”
“คนอื่นที่ไหนกันคะ พี่ปราชญ์ก็เหมือนพี่ชายของน้ำ ยายแป้งเองก็เพื่อนสนิท คนกันเองทั้งนั้น” ว่าพลางส่งค้อนให้สามีวงใหญ่
“เขาก็น่ารักดี” คนพูดน้อยเสริมก่อนที่สองสามีภรรยาจะได้โต้อะไรกันอีก
“เพื่อนน้ำไม่ได้น่ารักอย่างเดียวนะคะ นิสัยยังดีมากอีกด้วย ใครได้เป็นแฟนคงโชคดีเป็นบ้า” ณิชชยาโพรโมตเพื่อนเต็มที่
“ถึงขนาดเป็นบ้าเลยเหรอ” อติกันต์ไม่วายกวนผู้เป็นภรรยา แล้วเขาก็ได้รับฝ่ามือน้อยๆ ของภรรยาเป็นรางวัล
“พี่อาร์ม จะกวนน้ำไปถึงไหนเนี่ย เดี๋ยวคืนนี้ให้ออกไปนอนที่ระเบียงซะเลยนี่”
เมื่อได้ฟังคำขู่ของภรรยา อติกันต์ก็สงบปากสงบคำราวกับไม่มีตัวตนบนโต๊ะ จะทำก็เพียงกระดกเหล้าเข้าปากไปเงียบๆ
“ว่าแต่กับเขาไปปิ๊งปั๊งกันตอนไหนหรือวะ ไม่เห็นเล่าให้ฟังบ้างเลย” ศาตนันท์ ซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิดถามบ้าง
“ในงานแต่งของไอ้อาร์มกับน้องน้ำนั่นแหละ”
พิชญ์พงศ์ตอบพร้อมใช้นิ้วชี้เขี่ยก้อนน้ำแข็งในแก้ววนไปมาช้าๆ รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เมื่อภาพของปาณฑราในคืนงานแต่งงานของเพื่อนรักผุดขึ้นมาในห้วงความคิด
เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า หัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาจะกระตุกวูบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอหน้าเธอ และเมื่อหัวใจบอกว่าคนนี้ใช่เลย เขาก็ตั้งใจจะเข้าไปสานสัมพันธ์กับเธอตั้งแต่ในงานแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่อยู่ในสายตาของเธอเลย เพราะเธอมัวแต่ให้ความสนใจกับผู้ชายอีกคนมากกว่า
“อิจฉาคนกำลังจะมีความรักว่ะ” ดรัลพร ซึ่งเป็นนักร้องนำของวงพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก และนั่นก็ทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองรู้สึกตัว
“แกจะไปอิจฉาไอ้ปราชญ์มันทำไมกัน อย่างแกไม่น่าอิจฉากว่ามันอีกหรือวะดิว มีสาวสวยมาเฝ้าแทบทุกคืน แกก็รีบๆ รับรักน้องเขาไปซะทีสิวะ จะได้ไม่ต้องไปอิจฉาคนอื่นเขาอยู่แบบนี้” ทิวัตถ์สวนขึ้น และนั่นก็ทำให้สาวมาดเท่ถึงกับกลอกตาอย่างเซ็งๆ
“ไม่ต้องมาทำปากดีเลยไอ้ทีปต์ ถ้าหากฉันรับรักน้องเขาขึ้นมาจริงๆ ละก็ กลัวแต่ใครบางคนแถวนี้แหละจะอกหักดังเป๊าะ แล้วแอบไปนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งจนตาปูดตาบวม”
ดรันพรโต้กลับอย่างรู้ทัน รู้จักกันมาเป็นสิบปีทำไมเธอจะดูไม่ออก ว่าเพื่อนนั้นคิดยังไงกับผู้หญิงที่มาเทียวไล้เทียวขื่อเธออยู่ทุกวัน เพราะคิดว่าเธอเป็นทอม ทั้งที่ความจริงแล้วเธอนั้นเป็นหญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ชอบแต่งตัวแนวเท่ๆ แค่นั้น
“ใครกัน เหรอไอ้ศิลป์” ทิวัตถ์เฉไฉ ทำทีหันไปถามศาตนันท์ที่นั่งอยู่ข้างๆ
เห็นแบบนั้นเพื่อนๆ ได้แต่ส่ายหน้าให้กับคนปากแข็ง มองมาจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ามือเบสของวงนั้น หลงรักสาวน้อยคนนั้นมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าออกตัวจีบ เพราะสาวเจ้านั้นประกาศอยู่ปาวๆ ว่าเกลียดผู้ชาย จึงได้แค่ทำตัวเป็นพ่อสื่อกลายๆ ให้กับสาวน้อย ด้วยเชื่อว่าสักวันเธออาจจะเห็นใจและหันมาสนใจเขาบ้าง
“มาฉลองให้กับเจ้าของวันเกิดดีกว่า เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ค่อยเอาไว้คุยวันหลัง” พิชญ์พงศ์ว่าพลางชูแก้วขึ้นสูง ก่อนที่คนอื่นๆ จะทำตามๆ กัน
“ไอ้ฤทธิ์มันไม่มาเหรอวะศิลป์” อติกันต์ถามถึงเพื่อนอีกคน ที่ปกติจะมาร่วมฉลองด้วยไม่เคยขาด
คนถูกถามหันไปมองหน้าพิชญ์พงศ์แว่บหนึ่งก่อนตอบ “คืนนี้ที่ไซต์มันมีงานยกคานสะพาน ถ้าเสร็จเร็วมันก็จะแวะมา แต่ถ้าเสร็จช้ามันก็จะมาชดเชยให้วันหลัง”
“ออ” อติกันต์พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะชวนคุยไปเรื่องอื่น เมื่อสัมผัสได้ว่าบรรยากาศเริ่มจะกร่อยๆ
หัวใจพลิกล็อค...บทที่ 7
“ไปเดตมาเป็นยังไงบ้างคะพี่ปราชญ์”
ณิชชยาถามอย่างใคร่รู้ พร้อมรอฟังคำตอบด้วยใจจดจ่อ แล้วก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนของตนและเพื่อนสามีจะเข้ากันได้ดี ตั้งแต่รู้ว่าปาณฑรากับพิชญ์พงศ์กำลังคุยๆ กันอยู่ เธอก็แอบเชียร์ทั้งสองอยู่ห่างๆ เพราะสองคนนี้เหมาะสมกันมากในความคิดของเธอ
เมื่อได้ยินคำถามของหญิงสาว เพื่อนคนอื่นๆ ในโต๊ะต่างก็รอฟังคำตอบอย่างสนใจ เพราะหลายปีแล้วที่ไม่เห็นพิชญ์พงศ์มีท่าทีสนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย ตั้งแต่เลิกรากับคนรักเก่าสมัยเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้าย จนพวกเพื่อนๆ คิดว่าเขาปิดตายหัวใจไปแล้วซะอีก
“ก็ดี” พิชญ์พงศ์ตอบอย่างคนประหยัดคำพูดพร้อมอมยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงคนที่เพิ่งไปเดตกันมาเมื่อวาน
“แค่เนี้ย” คนที่คาดหวังว่าจะได้ฟังอะไรมากกว่านี้ทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ จนผู้เป็นสามีอดแซวไม่ได้
“เรานี่ก็ชอบอยากรู้เรื่องของคนอื่นเขาอยู่เรื่อยเลย”
“คนอื่นที่ไหนกันคะ พี่ปราชญ์ก็เหมือนพี่ชายของน้ำ ยายแป้งเองก็เพื่อนสนิท คนกันเองทั้งนั้น” ว่าพลางส่งค้อนให้สามีวงใหญ่
“เขาก็น่ารักดี” คนพูดน้อยเสริมก่อนที่สองสามีภรรยาจะได้โต้อะไรกันอีก
“เพื่อนน้ำไม่ได้น่ารักอย่างเดียวนะคะ นิสัยยังดีมากอีกด้วย ใครได้เป็นแฟนคงโชคดีเป็นบ้า” ณิชชยาโพรโมตเพื่อนเต็มที่
“ถึงขนาดเป็นบ้าเลยเหรอ” อติกันต์ไม่วายกวนผู้เป็นภรรยา แล้วเขาก็ได้รับฝ่ามือน้อยๆ ของภรรยาเป็นรางวัล
“พี่อาร์ม จะกวนน้ำไปถึงไหนเนี่ย เดี๋ยวคืนนี้ให้ออกไปนอนที่ระเบียงซะเลยนี่”
เมื่อได้ฟังคำขู่ของภรรยา อติกันต์ก็สงบปากสงบคำราวกับไม่มีตัวตนบนโต๊ะ จะทำก็เพียงกระดกเหล้าเข้าปากไปเงียบๆ
“ว่าแต่กับเขาไปปิ๊งปั๊งกันตอนไหนหรือวะ ไม่เห็นเล่าให้ฟังบ้างเลย” ศาตนันท์ ซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิดถามบ้าง
“ในงานแต่งของไอ้อาร์มกับน้องน้ำนั่นแหละ”
พิชญ์พงศ์ตอบพร้อมใช้นิ้วชี้เขี่ยก้อนน้ำแข็งในแก้ววนไปมาช้าๆ รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เมื่อภาพของปาณฑราในคืนงานแต่งงานของเพื่อนรักผุดขึ้นมาในห้วงความคิด
เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า หัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาจะกระตุกวูบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอหน้าเธอ และเมื่อหัวใจบอกว่าคนนี้ใช่เลย เขาก็ตั้งใจจะเข้าไปสานสัมพันธ์กับเธอตั้งแต่ในงานแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่อยู่ในสายตาของเธอเลย เพราะเธอมัวแต่ให้ความสนใจกับผู้ชายอีกคนมากกว่า
“อิจฉาคนกำลังจะมีความรักว่ะ” ดรัลพร ซึ่งเป็นนักร้องนำของวงพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก และนั่นก็ทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองรู้สึกตัว
“แกจะไปอิจฉาไอ้ปราชญ์มันทำไมกัน อย่างแกไม่น่าอิจฉากว่ามันอีกหรือวะดิว มีสาวสวยมาเฝ้าแทบทุกคืน แกก็รีบๆ รับรักน้องเขาไปซะทีสิวะ จะได้ไม่ต้องไปอิจฉาคนอื่นเขาอยู่แบบนี้” ทิวัตถ์สวนขึ้น และนั่นก็ทำให้สาวมาดเท่ถึงกับกลอกตาอย่างเซ็งๆ
“ไม่ต้องมาทำปากดีเลยไอ้ทีปต์ ถ้าหากฉันรับรักน้องเขาขึ้นมาจริงๆ ละก็ กลัวแต่ใครบางคนแถวนี้แหละจะอกหักดังเป๊าะ แล้วแอบไปนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งจนตาปูดตาบวม”
ดรันพรโต้กลับอย่างรู้ทัน รู้จักกันมาเป็นสิบปีทำไมเธอจะดูไม่ออก ว่าเพื่อนนั้นคิดยังไงกับผู้หญิงที่มาเทียวไล้เทียวขื่อเธออยู่ทุกวัน เพราะคิดว่าเธอเป็นทอม ทั้งที่ความจริงแล้วเธอนั้นเป็นหญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ชอบแต่งตัวแนวเท่ๆ แค่นั้น
“ใครกัน เหรอไอ้ศิลป์” ทิวัตถ์เฉไฉ ทำทีหันไปถามศาตนันท์ที่นั่งอยู่ข้างๆ
เห็นแบบนั้นเพื่อนๆ ได้แต่ส่ายหน้าให้กับคนปากแข็ง มองมาจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ามือเบสของวงนั้น หลงรักสาวน้อยคนนั้นมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าออกตัวจีบ เพราะสาวเจ้านั้นประกาศอยู่ปาวๆ ว่าเกลียดผู้ชาย จึงได้แค่ทำตัวเป็นพ่อสื่อกลายๆ ให้กับสาวน้อย ด้วยเชื่อว่าสักวันเธออาจจะเห็นใจและหันมาสนใจเขาบ้าง
“มาฉลองให้กับเจ้าของวันเกิดดีกว่า เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ค่อยเอาไว้คุยวันหลัง” พิชญ์พงศ์ว่าพลางชูแก้วขึ้นสูง ก่อนที่คนอื่นๆ จะทำตามๆ กัน
“ไอ้ฤทธิ์มันไม่มาเหรอวะศิลป์” อติกันต์ถามถึงเพื่อนอีกคน ที่ปกติจะมาร่วมฉลองด้วยไม่เคยขาด
คนถูกถามหันไปมองหน้าพิชญ์พงศ์แว่บหนึ่งก่อนตอบ “คืนนี้ที่ไซต์มันมีงานยกคานสะพาน ถ้าเสร็จเร็วมันก็จะแวะมา แต่ถ้าเสร็จช้ามันก็จะมาชดเชยให้วันหลัง”
“ออ” อติกันต์พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะชวนคุยไปเรื่องอื่น เมื่อสัมผัสได้ว่าบรรยากาศเริ่มจะกร่อยๆ