*พอดีโควต้าตั้งกระทู้เมื่อวานเต็มพอดี ต้องรอหลังเที่ยงคืนถึงจะโพสได้ค่ะ
มีใครดูโดมทองแล้ว เชื่อเถอะว่าคงมีใครสงสารวิรงรองอุตส่าห์ตัดใจเลิกจากแฟน แต่ก็ยังโดนข้อหามือที่สาม คงมีรำคาญเสียงกรีดร้องของแสงแข สงสารการเป็นศรีทนได้ของอุษา และรำคาญคุณลบเจ้าอคติสุดหัวลิ่มทิ่มประตู...แต่มีตัวละครตัวหนึ่งที่เรารู้สึกสามความรู้สึกนี่ในตัวคนๆเดียว ก็คือ พิณทอง ตัวละครต้นเหตุของเรื่องที่เป็นสาเหตุให้วิรงรองต้องถูกคุณลบพาไปโดมทอง จนเกิดเรื่องราวต่างๆ
ตัดในแง่ประเด็นความสำคัญของพิณทองไปในเรื่องว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาเป็นมือที่สาม วิรงรองก็จะไม่มีเหตุให้ไปโดมทองและถอนคำสาปของเรื่องทั้งหมดจนคลี่คลายได้ในตอนจบ...แต่เรามองในแง่ของคนที่มีชีวิตจิตใจอยู่จริง (เราไม่ได้อ่านบทประพันธ์นะค่ะ ขอวิจารณ์แบบที่เห็นในละคร)
ในตอนแรกที่เราดูบุคลิกของพิณทองแล้วดูจะขัดๆไม่ค่อยเนียน...เด็กสาวที่เรียนจบเมืองนอกเมืองนามา น่าจะกลับมาเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองได้...แต่กลับยอมให้คุณแม่คลุมถุงชนแต่งงาน...ถ้าหากคุณแม่คลุมให้แต่งกับคนอื่น ไม่แน่ใจว่าตัวพิณทองจะขัดขืนหรือยอมแต่โดยดี เพราะดูเหมือนเธอเป็นคนโลเล...แต่พอคนที่จะให้แต่งด้วย เป็นผู้ชายที่เจอกันในสมัยที่เธอเป็นเด็ก เรียกว่าเป็นรักแรกพบ หรือรักแบบป็อบปี้เลิฟก็ได้...นั้นจึงทำให้พิณทองยอมตกลงแบบหัวใจพองโต...แต่เราจะเห็นได้ในหลายครั้งว่า พิณทองจะเกิดอาการงอน น้อยใจ ที่เห็นพิชญ์ไม่เอาใจใส่ไยดีต่อเธอเลย ในตอนที่เลือกชุดแต่งงาน จนทำให้พิณทองโทรไปปรึกษาน้าลบของเธอด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ และพูดว่าจะไม่แต่งอีกแล้ว นั้นจึงเป็นสาเหตุให้คุณลบต้องลากวิรงรองไปอยู่ให้ไกลหูไกลตา...ซึ่งที่จริงพิณทองก็ไม่ได้คิดว่าตนจะเป็นสาเหตุเช่นนี้ เพราะถูกคุณแม่ทั้งตัวและว่าที่สามีต่างเป่าหูว่า พิชญ์เคยมีแฟน แต่เลิกกันไปแล้ว โดยปิดบังความจริงว่า...ถูกทำให้เลิก เพราะมีสาเหตุมาจากพิณทองเอง
แต่ถึงพิณทองจะรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ...ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมถอยแต่โดยดี เพราะพิณทองไม่ได้ถอยแบบเด็ดขาดมั่นใจเหมือนวิรงรอง ที่เรียกว่าตัดเป็นตัด ต่อให้รักมากแค่ไหนแต่ไม่ยอมเป็นเมียน้อยเป็นเด็ดขาด...แต่ไม่ใช่กับพิณทอง ที่คิดไปว่าความดีของเธอ จะเอาชนะใจพิชญ์ได้ (เราว่าหลายซีนของพิชญ์ เหมือนใช้จิตวิทยาให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายขอเลิกเอง แต่กลายเป็นว่าพิณทองไม่เด็ดขาด...และพิชญ์เองก็ไม่เด็ดขาดอีกด้วย ถ้าหากเขารักวิรงรองจริง เขาจะต้องหาทางเคลียร์ปัญหานี่ให้ได้ ไม่ใช่ไปแต่งงานกับคนอื่นแล้วอ้างความกตัญญูแบบนี้)
เรามองบุคลิกว่าพิณทองเป็นคนที่ไม่มองโลกในความเป็นจริงและไม่เด็ดขาด เธอถือเอาการไม่ปฏิเสธของพิชญ์ เป็นสิ่งที่เชื่อมั่นได้ว่าพิญช์รักเธอหมดหัวใจแล้ว นั้นจึงทำให้เธอยอมแต่งงานด้วย...แต่พิณทองไม่ได้มองว่า ชีวิตหลังแต่งงานนี่ต่างหากคือบททดสอบของจริง พิณทองไม่ได้คิดเลยว่าเธอไม่มีช่วงเวลาที่ได้ผูกพันอะไรกับพิชญ์ ไม่ได้เรียนรู้กันในฐานะคู่รักมาก่อน ข้ามขั้นจากการเป็นพี่น้องแล้วกลายมาเป็นสามี-ภรรยากันเลย...เธอถือเอาความรักในวัยเด็กมาเป็นความรักนิรันดร์ ไปคิดว่าตัวเองจะผูกพันรักนิรันดร์จบจากสมหวังเหมือนคู่ของคุณชายธราธรกับมะปราง ที่เป็นรักแรกพบในวัยเด็กได้
...และซีนที่ชัดเจนที่สุดแห่งความดื้อแพ่งไม่ยอมรับความเป็นจริงของพิณทองก็คือ การที่เอาแต่งอแงพูดกับทั้งแม่ตัวเองและแม่สามีว่า
"หนูรู้อยู่แล้วว่าพิชญ์เค้าไม่ได้รักหนูเลย"
...เราดูฉากนี่แล้วนี่อยากจะถามไปว่า...ก็ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าผู้ชายไม่ได้รัก ทำไมหนูยังดื้อแพ่งจะแต่งอีก...ก็เพราะพิณทองไปคิดหวังเอาไว้ว่าความดีและความรักของเธอ จะทำให้เธอเอาชนะใจพิชญ์ได้ภายในวันเดียว...เธอไม่ได้เตรียมตั้งรับในโลกความเป็นจริงว่า แค่ความดีและความรักของตัวเองฝ่ายเดียว มันใช่จะเปลี่ยนหัวใจคนง่ายๆได้เหมือนรจนาไฉนที่เปลี่ยนใจพ่อเลี้ยงปัทม์ได้เสียที่ไหนเล่า?
ยิ่งซีนที่พิชญ์พูดกับแม่ด้วยอารมณ์ว่า...พิณทองเป็นมือที่สามมาแทรก เขาแต่งงานด้วยแล้วยังจะเอาอะไรกับเค้าอีก...เราว่าอยากให้พิณทองมาได้ยิน เธอจะได้หูตาสว่างสักที จะได้เลิกมางอแงโลเลไปมาเสียที...ถ้าหากก่อนแต่ง เธอใจแข็งเด็ดขาดว่ายังไงก็ไม่แต่งกับคนที่ไม่รักตัวเองแน่ ใจแข็งที่จะปฏิเสธคำขอแต่งงานของพิชญ์เพราะดูออกว่าฝ่ายชายไม่เต็มใจ...ป่านนี้เธอก็คงไม่มาทำตัวงอแงไปฟ้องแม่ตัวแม่สามี น้าตัวเองกับเรื่องชีวิตคู่ที่ตัวเองเป็นคนตัดสินใจตกร่องปล้องชิ้นกับพิชญ์แท้ๆ แต่กลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้
ผู้หญิงแบบนี้แลดูน่าสงสาร เพราะได้รับการปกป้องเอาใจใส่อย่างดีจากคนในครอบครัวจนไม่ได้เตรียมรับกับความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิตคู่ได้...แต่ก็มีความสมเพชอีกว่า รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายไม่รัก จะปฏิเสธไปก็ไม่กล้า เพราะในใจหวังลึกๆอยากให้ผู้ใหญ่ช่วยบีบให้ผู้ชายยอมแต่งงานด้วย เรียกว่ามีความเห็นแก่ตัวในใจพิณทองส่วนหนึ่งเลยล่ะ จะบอกว่าเธอไร้เดียงสาจนไม่รู้อะไรนี่เราไม่เชื่อหรอก แต่ถ้าบอกว่าเธอเอาความหลงเอาความรักมาบังตา บังความเป็นจริงหมดนี่เราเชื่อเลย...และรำคาญความเจ้าแง่
อนของเธอ ที่วันๆเอาแต่ระแวงว่าสามีไม่รัก ทั้งที่ตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าสามีอยู่กับเธอแต่ตัว แต่ใจไปอยู่กัยคนอื่น แล้วก็มาฟูมฟายให้แม่กับน้าคอยปลอบโยน
...แต่ยังไงบทสรุปของพิณทองกับพิชญ์ก็ลงเอยด้วยดีตามสไตล์พระ-นางรองของนิยายไทยอยู่วันยังค่ำอ่ะนะ...
ปล. เราชักจะเบื่อตระกูลครอบครัวคุณลบเหลือแสน ถ้าจะเป็นครอบครัวชอบถุง...คือชอบคลุมถุงชนลูกหลานตัวเอง อย่างจับพิณทองคลุมกับพิชญ์ นี่คุณย่าก็จะมาจับคุณลบคลุมกับแสงแขอีก (อาจเรียกว่ากรรมตามสนองคุณลบก็ได้เนอะ จะได้เข้าใจความรู้สึกของพิชญ์เสียที) (แต่ก็ขัดใจคุณย่าอยู่ดีว่า จะคลุมทั้งที ไม่ให้คุณลบไปคลุมกับอุษาเลยสักดีกว่า...แต่อาจเป็นเพราะคุณย่าเกลียดนิสัยหงอๆของอุษาที่ดูคล้ายพลับพลึง ทำให้คุณย่าไม่ชอบขี้หน้าอุษาก็ได้)
(โดมทอง)มีใครสงสาร? สมเพช? รำคาญพิณทองบ้างไหม?
มีใครดูโดมทองแล้ว เชื่อเถอะว่าคงมีใครสงสารวิรงรองอุตส่าห์ตัดใจเลิกจากแฟน แต่ก็ยังโดนข้อหามือที่สาม คงมีรำคาญเสียงกรีดร้องของแสงแข สงสารการเป็นศรีทนได้ของอุษา และรำคาญคุณลบเจ้าอคติสุดหัวลิ่มทิ่มประตู...แต่มีตัวละครตัวหนึ่งที่เรารู้สึกสามความรู้สึกนี่ในตัวคนๆเดียว ก็คือ พิณทอง ตัวละครต้นเหตุของเรื่องที่เป็นสาเหตุให้วิรงรองต้องถูกคุณลบพาไปโดมทอง จนเกิดเรื่องราวต่างๆ
ตัดในแง่ประเด็นความสำคัญของพิณทองไปในเรื่องว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาเป็นมือที่สาม วิรงรองก็จะไม่มีเหตุให้ไปโดมทองและถอนคำสาปของเรื่องทั้งหมดจนคลี่คลายได้ในตอนจบ...แต่เรามองในแง่ของคนที่มีชีวิตจิตใจอยู่จริง (เราไม่ได้อ่านบทประพันธ์นะค่ะ ขอวิจารณ์แบบที่เห็นในละคร)
ในตอนแรกที่เราดูบุคลิกของพิณทองแล้วดูจะขัดๆไม่ค่อยเนียน...เด็กสาวที่เรียนจบเมืองนอกเมืองนามา น่าจะกลับมาเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองได้...แต่กลับยอมให้คุณแม่คลุมถุงชนแต่งงาน...ถ้าหากคุณแม่คลุมให้แต่งกับคนอื่น ไม่แน่ใจว่าตัวพิณทองจะขัดขืนหรือยอมแต่โดยดี เพราะดูเหมือนเธอเป็นคนโลเล...แต่พอคนที่จะให้แต่งด้วย เป็นผู้ชายที่เจอกันในสมัยที่เธอเป็นเด็ก เรียกว่าเป็นรักแรกพบ หรือรักแบบป็อบปี้เลิฟก็ได้...นั้นจึงทำให้พิณทองยอมตกลงแบบหัวใจพองโต...แต่เราจะเห็นได้ในหลายครั้งว่า พิณทองจะเกิดอาการงอน น้อยใจ ที่เห็นพิชญ์ไม่เอาใจใส่ไยดีต่อเธอเลย ในตอนที่เลือกชุดแต่งงาน จนทำให้พิณทองโทรไปปรึกษาน้าลบของเธอด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ และพูดว่าจะไม่แต่งอีกแล้ว นั้นจึงเป็นสาเหตุให้คุณลบต้องลากวิรงรองไปอยู่ให้ไกลหูไกลตา...ซึ่งที่จริงพิณทองก็ไม่ได้คิดว่าตนจะเป็นสาเหตุเช่นนี้ เพราะถูกคุณแม่ทั้งตัวและว่าที่สามีต่างเป่าหูว่า พิชญ์เคยมีแฟน แต่เลิกกันไปแล้ว โดยปิดบังความจริงว่า...ถูกทำให้เลิก เพราะมีสาเหตุมาจากพิณทองเอง
แต่ถึงพิณทองจะรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ...ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะยอมถอยแต่โดยดี เพราะพิณทองไม่ได้ถอยแบบเด็ดขาดมั่นใจเหมือนวิรงรอง ที่เรียกว่าตัดเป็นตัด ต่อให้รักมากแค่ไหนแต่ไม่ยอมเป็นเมียน้อยเป็นเด็ดขาด...แต่ไม่ใช่กับพิณทอง ที่คิดไปว่าความดีของเธอ จะเอาชนะใจพิชญ์ได้ (เราว่าหลายซีนของพิชญ์ เหมือนใช้จิตวิทยาให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายขอเลิกเอง แต่กลายเป็นว่าพิณทองไม่เด็ดขาด...และพิชญ์เองก็ไม่เด็ดขาดอีกด้วย ถ้าหากเขารักวิรงรองจริง เขาจะต้องหาทางเคลียร์ปัญหานี่ให้ได้ ไม่ใช่ไปแต่งงานกับคนอื่นแล้วอ้างความกตัญญูแบบนี้)
เรามองบุคลิกว่าพิณทองเป็นคนที่ไม่มองโลกในความเป็นจริงและไม่เด็ดขาด เธอถือเอาการไม่ปฏิเสธของพิชญ์ เป็นสิ่งที่เชื่อมั่นได้ว่าพิญช์รักเธอหมดหัวใจแล้ว นั้นจึงทำให้เธอยอมแต่งงานด้วย...แต่พิณทองไม่ได้มองว่า ชีวิตหลังแต่งงานนี่ต่างหากคือบททดสอบของจริง พิณทองไม่ได้คิดเลยว่าเธอไม่มีช่วงเวลาที่ได้ผูกพันอะไรกับพิชญ์ ไม่ได้เรียนรู้กันในฐานะคู่รักมาก่อน ข้ามขั้นจากการเป็นพี่น้องแล้วกลายมาเป็นสามี-ภรรยากันเลย...เธอถือเอาความรักในวัยเด็กมาเป็นความรักนิรันดร์ ไปคิดว่าตัวเองจะผูกพันรักนิรันดร์จบจากสมหวังเหมือนคู่ของคุณชายธราธรกับมะปราง ที่เป็นรักแรกพบในวัยเด็กได้
...และซีนที่ชัดเจนที่สุดแห่งความดื้อแพ่งไม่ยอมรับความเป็นจริงของพิณทองก็คือ การที่เอาแต่งอแงพูดกับทั้งแม่ตัวเองและแม่สามีว่า
"หนูรู้อยู่แล้วว่าพิชญ์เค้าไม่ได้รักหนูเลย"
...เราดูฉากนี่แล้วนี่อยากจะถามไปว่า...ก็ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าผู้ชายไม่ได้รัก ทำไมหนูยังดื้อแพ่งจะแต่งอีก...ก็เพราะพิณทองไปคิดหวังเอาไว้ว่าความดีและความรักของเธอ จะทำให้เธอเอาชนะใจพิชญ์ได้ภายในวันเดียว...เธอไม่ได้เตรียมตั้งรับในโลกความเป็นจริงว่า แค่ความดีและความรักของตัวเองฝ่ายเดียว มันใช่จะเปลี่ยนหัวใจคนง่ายๆได้เหมือนรจนาไฉนที่เปลี่ยนใจพ่อเลี้ยงปัทม์ได้เสียที่ไหนเล่า?
ยิ่งซีนที่พิชญ์พูดกับแม่ด้วยอารมณ์ว่า...พิณทองเป็นมือที่สามมาแทรก เขาแต่งงานด้วยแล้วยังจะเอาอะไรกับเค้าอีก...เราว่าอยากให้พิณทองมาได้ยิน เธอจะได้หูตาสว่างสักที จะได้เลิกมางอแงโลเลไปมาเสียที...ถ้าหากก่อนแต่ง เธอใจแข็งเด็ดขาดว่ายังไงก็ไม่แต่งกับคนที่ไม่รักตัวเองแน่ ใจแข็งที่จะปฏิเสธคำขอแต่งงานของพิชญ์เพราะดูออกว่าฝ่ายชายไม่เต็มใจ...ป่านนี้เธอก็คงไม่มาทำตัวงอแงไปฟ้องแม่ตัวแม่สามี น้าตัวเองกับเรื่องชีวิตคู่ที่ตัวเองเป็นคนตัดสินใจตกร่องปล้องชิ้นกับพิชญ์แท้ๆ แต่กลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้
ผู้หญิงแบบนี้แลดูน่าสงสาร เพราะได้รับการปกป้องเอาใจใส่อย่างดีจากคนในครอบครัวจนไม่ได้เตรียมรับกับความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิตคู่ได้...แต่ก็มีความสมเพชอีกว่า รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายไม่รัก จะปฏิเสธไปก็ไม่กล้า เพราะในใจหวังลึกๆอยากให้ผู้ใหญ่ช่วยบีบให้ผู้ชายยอมแต่งงานด้วย เรียกว่ามีความเห็นแก่ตัวในใจพิณทองส่วนหนึ่งเลยล่ะ จะบอกว่าเธอไร้เดียงสาจนไม่รู้อะไรนี่เราไม่เชื่อหรอก แต่ถ้าบอกว่าเธอเอาความหลงเอาความรักมาบังตา บังความเป็นจริงหมดนี่เราเชื่อเลย...และรำคาญความเจ้าแง่อนของเธอ ที่วันๆเอาแต่ระแวงว่าสามีไม่รัก ทั้งที่ตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าสามีอยู่กับเธอแต่ตัว แต่ใจไปอยู่กัยคนอื่น แล้วก็มาฟูมฟายให้แม่กับน้าคอยปลอบโยน
...แต่ยังไงบทสรุปของพิณทองกับพิชญ์ก็ลงเอยด้วยดีตามสไตล์พระ-นางรองของนิยายไทยอยู่วันยังค่ำอ่ะนะ...
ปล. เราชักจะเบื่อตระกูลครอบครัวคุณลบเหลือแสน ถ้าจะเป็นครอบครัวชอบถุง...คือชอบคลุมถุงชนลูกหลานตัวเอง อย่างจับพิณทองคลุมกับพิชญ์ นี่คุณย่าก็จะมาจับคุณลบคลุมกับแสงแขอีก (อาจเรียกว่ากรรมตามสนองคุณลบก็ได้เนอะ จะได้เข้าใจความรู้สึกของพิชญ์เสียที) (แต่ก็ขัดใจคุณย่าอยู่ดีว่า จะคลุมทั้งที ไม่ให้คุณลบไปคลุมกับอุษาเลยสักดีกว่า...แต่อาจเป็นเพราะคุณย่าเกลียดนิสัยหงอๆของอุษาที่ดูคล้ายพลับพลึง ทำให้คุณย่าไม่ชอบขี้หน้าอุษาก็ได้)