ขอคำปรึกษาปัญหาเรื่องผู้ให้เช่าบ้านค่ะ
เราเช่าบ้านหลังนึงอยู่ สัญญาเช่า1ปี โดยปัจจุบันเช่าไปแล้วทั้งหมด6เดือน แต่เกิดมีปัญหากับผู้ให้เช่าบ้านเรื่องใหญ่ต้องไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ
ขอเล่าจุดเริ่มต้นก่อนนะคะ จุดเริ่มต้นที่มีปัญหากันคือบ้านหลังที่เราเช่าอยู่นี้ มีปัญหาเรื่องตู้รับจดหมายไม่สมบูรณ์ ฝาปิดข้างหน้าและด้านข้างหลุดหายไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นมาตั้งแต่เราเช่าอยู่แล้วค่ะ เคยแจ้งผู้ให้เช่าไปแล้ว ปัญหาคือจดหมายที่ส่งมา มักจะหายไปบ่อยๆ โดยเฉพาะบิลค่าไฟ ค่าน้ำที่เป็นแผ่นบางๆเล็กๆเพราะตู้ไม่มีอะไรปิด ลมพัด ฝนตกก็หายไป
ประมาณช่วงต้นเดือนมีนาคม บิลค่าไฟมาทีเดียว3บิล แบบมาแปะที่ประตู แจ้งตัดไฟ ต้องโทษความลืมและสะเพร่าของเราด้วยค่ะ ที่ไม่ได้เช็ค ค่าไฟตกเดือนละประมาณ4000+ มาทีเดียวหมื่นกว่า เราเลยได้คุยกับผู้ให้เช่าว่ามันมาทีเดียว3บิล เราน่าจะชำระพร้อมกันทั้งหมดไม่ไหว ขอชำระทีละเดือนๆ ช่วงเมษาจะไปชำระทีเดียวทั้งหมด ตอนนั้นผู้ให้เช่าก็รับทราบ
หลังจากนั้นไม่ถึง1อาทิตย์ ผู้ให้เช่าเอาจดหมายมาวางที่หน้าบ้าน ในจดหมายระบุว่าถ้าไม่ชำระค่าไฟ จะยกเลิกสัญญาการเช่าบ้าน เราเลยทักไลน์ไปคุยว่าทำไมถึงต้องบอกแบบนี้ ในเมื่อคุยกันเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก
ผ่านมา1เดือน เราก็ชำระค่าบ้านทุกเดือนเหมือนปกติ ค่าไฟก็ทยอยจ่ายไปจนเหลือ1เดือนค้างและ1เดือนปัจจุบันที่มาทบกัน ผู้ให้เช่าโทรมาหาเราและใช้คำพูดที่รุนแรง เขาบอกว่าต้องการให้เราย้ายออกไปเดี๋ยวนี้ ถ้าเราไม่พอใจเขาก็ย้ายออกไปได้เลย และหลุดพูดออกมาว่า มีอยู่ครั้งนึงที่เข้ามาในบ้านเห็นบ้านรก และเราเลี้ยงสัตว์(แมว) ซึ่งเขาไม่พอใจ
เราก็เลยตกใจ และถามเขาไปว่าเข้ามาในบ้านเมื่อไหร่ ตอนไหน ทำไมถึงเข้ามาในตอนที่เราไม่รับรู้ได้ของมีค่าของเราในบ้านมีเยอะ มูลค่ามากกว่าทรัพย์สินที่มีอยู่ในบ้านก่อนเช่าอีก และเรามีลูกสาว ทำให้เราเกิดความหวาดระแวง เราเลยบอกเขาไปว่า นี่มันผิดกฏหมายนะคะ เราจ่ายค่าเช่าทุกเดือน ทำไมถึงต้องเข้ามาในบ้านด้วย เขาก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดเรื่องอื่น
เรื่องเลี้ยงสัตว์ แต่ก่อนเช่าเราได้สอบถามเรื่องเลี้ยงสัตว์แล้ว เพราะถ้าไม่ให้เลี้ยงเราก็คงไม่เช่าแต่แรกตอนนั้นไม่มีปัญหาอะไร และเราก็ดูแลบ้านเป็นอย่างดี ถอดผ้าม่าน มุ้งลวด ของที่สามารถพังได้เอาไปเก็บทั้งหมด ของใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ เป็นของเราเอง และโดยส่วนตัวเราค่อนข้างเจ้าระเบียบ และรักษาความสะอาดมาก ทำงานบ้านทุกวัน ทำให้บ้านโล่งที่สุดอยู่แล้ว ที่สำคัญคือในสัญญาเช่าก็ไม่มีข้อห้ามเรื่องนี้อยู่เลยค่ะ
คุยกันไปมา ทะเลาะกันแรงขึ้น เขาบอกให้เราย้ายออกไป เราบอกหากคืนมัดจำจากการเช่าไม่ครบสัญญาก็จะไป เขาทวงบุญคุณว่าอุตส่าห์ให้เช่าอยู่ ไม่สำนึกบุญคุณ เราว่าเขากลับว่าเราจ่ายเงินเช่าไม่ได้อยู่ฟรีสุดท้ายเราบอกเขาว่าจะแจ้งตำรวจ เขาบอกไม่กลัว จะเข้าไปเคลียวันรุ่งขึ้น
วันต่อมา เราโทรให้ตำรวจในพื้นที่หมู่บ้านเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย ผู้ให้เช่าบอกว่าต้องการบอกเลิกสัญญาเพราะไม่พอใจตัวผู้เช่า ตำรวจบอกไม่สามารถทำได้ เพราะผู้เช่าไม่ได้ทำผิดสัญญาข้อไหนเลย เรื่องเลี้ยงสัตว์และค่าไฟก็ไม่ได้อยู่ในสัญญา และทางผู้ให้เช่ายังมีเงินมัดจำอยู่ ถ้าแค่ไม่พอใจไม่สามารถทำได้ แต่ผู้ให้เช่าไม่ยอม ตำรวจเลยบอกให้ไปตกลงที่โรงพักและลงบัญทึกประจำวัน
หลังจากไปตกลง ตำรวจให้เราเป็นคนเขียนข้อที่ต้องการตกลง เราแจ้งว่าเขาไม่มีสิทธิไล่เราออกจากบ้านเพราะเราจ่ายค่าเช่าและไม่ได้ทำผิดกฏ ไม่มีสิทธิเข้าบ้านเราโดยไม่ได้รับอนุญาต และหากเราจะย้ายออกเราจะตัดสินใจเอง โดยเขาไม่มีสิทธิไล่ ตอนแรกผู้ให้เช่าบอกไม่ให้เราลงบันทึกประจำวัน เพราะตกลงกันเองได้ ทำสัญญากันใหม่ก็ได้ แต่ ณ ตอนนั้น เราไม่ยอม และขอให้ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น เพราะเราไม่ไว้ใจเขาอีกแล้ว
หลังจากนั้นวันต่อมา เราเสิชหาที่อยู่ใหม่ และไปเจอว่าผู้ให้เช่าเอาบ้านที่เราอยู่ไปปล่อยเช่ามาตั้งแต่เดือนกุมภา-มีนา ด้วยราคาเช่าที่สูงกว่าที่เราเช่าอยู่ ซึ่งตอนนั้น เป็นตอนก่อนที่จะมีการทะเลาะกันซะอีก แถมเราก็เพิ่งเช่าไปได้แค่4-5เดือนเอง
เสร็จจากเรื่องวันนั้น เราตัดสินใจหาที่อยู่ใหม่ และย้ายออกเสร็จสิ้นไปช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา และได้แจ้งผู้ให้เช่าไปว่า เราย้ายออกเดือนนี้ เงินมัดจำเอาไปหักค่าไฟได้เลย ไม่เอาคืนสักบาท เราทำความสะอาดบ้านให้แล้ว เอาผ้าม่าน มุ้งลวดติดกลับสมบูรณ์เหมือนตอนย้ายเข้าอยู่และได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ของในบ้านของเขาอยู่ครบทุกชิ้น
แต่ตอนนี้ผู้ให้เช่าไม่ยอม เขาบอกว่าสภาพบ้านไม่ดีพอจะส่งคืน ห้องน้ำไม่สะอาด พื้นหน้าห้องน้ำมีรอยพองจากการโดนน้ำ โซฟาเปื้อน และมีร่องรอยจากการติดแอร์ ห้องนอนลูกสาวเคยติดโปสเตอร์ลอกออกมีสีลอกรอยประมาณ2-3เซ็น เขาต้องการให้เรารับผิดชอบค่าเสียหาย
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราทำความสะอาดห้องทุกห้อง รวมถึงห้องน้ำไปแล้ว และได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พื้นหน้าห้องน้ำพองมาตั้งแต่เราย้ายเข้าอยู่ แต่พองมากขึ้นจากการใช้งานปกติ โซฟาเป็นผ้าสามารถถอดซักได้ ณ วันที่เราเข้าอยู่ สภาพแย่กว่านี้เยอะ แต่เราเอาไปซักให้แล้ว หลังจากนั้นก็ตามใช้งาน เป็นรอยเลอะฝุ่น บางรอยก็รอยเก่าตั้งแต่คนเช่าเก่า ส่วนแอร์ ก่อนเราติดเราแจ้งแล้ว เขาก็อนุญาตและตอนที่ทะเลาะกัน เขาก็บอกให้เราถอดออกและย้ายออกไปเลย ห้องนอนลูกสาว รอยเล็กมาก ขนาดที่ไม่ได้เสียหายอะไร
ซึ่งตอนนี้เขาต้องการให้เราจ่ายเงินรับผิดชอบทั้งหมด และอ้างว่าสภาพไม่พร้อมปล่อยเช่าให้คนใหม่ ซึ่งเรามีรูปเป็นหลักฐานในวันที่ย้ายออกจากบ้าน โดยที่ไม่เอามัดจำคืน และย้ายออกก่อนสิ้นเดือนด้วยค่ะบ้านที่เช่าอยู่ค่อนข้างเก่าแล้ว และสภาพตอนเช่าก็ไม่ได้ดีมากขนาดนั้น ของในบ้านไม่มีอะไรเสียหาย มีแค่เท่าที่แจ้งไป
เราอยากขอคำแนะนำว่าเราควรทำยังไงดีคะ หรือจะรอให้เขาฟ้องและไปขึ้นศาลเคลียตรงนั้นดี เราไม่ไว้ใจเขาและไม่สบายใจ แต่ก็ไม่อยากเสียเงินให้เขาค่ะ เพราะเรากลัวเขาจะเอาสิ่งที่เราไม่ได้ทำมาอ้างหรือเรียกราคาเกินจริง
ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ
ปล.ขออภัยค่ะ ไม่แน่ใจว่าต้องแท็กห้องไหน
เช่าบ้านอยู่ มีปัญหากับผู้ให้เช่า อยากขอคำแนะนำค่ะ
เราเช่าบ้านหลังนึงอยู่ สัญญาเช่า1ปี โดยปัจจุบันเช่าไปแล้วทั้งหมด6เดือน แต่เกิดมีปัญหากับผู้ให้เช่าบ้านเรื่องใหญ่ต้องไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ
ขอเล่าจุดเริ่มต้นก่อนนะคะ จุดเริ่มต้นที่มีปัญหากันคือบ้านหลังที่เราเช่าอยู่นี้ มีปัญหาเรื่องตู้รับจดหมายไม่สมบูรณ์ ฝาปิดข้างหน้าและด้านข้างหลุดหายไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นมาตั้งแต่เราเช่าอยู่แล้วค่ะ เคยแจ้งผู้ให้เช่าไปแล้ว ปัญหาคือจดหมายที่ส่งมา มักจะหายไปบ่อยๆ โดยเฉพาะบิลค่าไฟ ค่าน้ำที่เป็นแผ่นบางๆเล็กๆเพราะตู้ไม่มีอะไรปิด ลมพัด ฝนตกก็หายไป
ประมาณช่วงต้นเดือนมีนาคม บิลค่าไฟมาทีเดียว3บิล แบบมาแปะที่ประตู แจ้งตัดไฟ ต้องโทษความลืมและสะเพร่าของเราด้วยค่ะ ที่ไม่ได้เช็ค ค่าไฟตกเดือนละประมาณ4000+ มาทีเดียวหมื่นกว่า เราเลยได้คุยกับผู้ให้เช่าว่ามันมาทีเดียว3บิล เราน่าจะชำระพร้อมกันทั้งหมดไม่ไหว ขอชำระทีละเดือนๆ ช่วงเมษาจะไปชำระทีเดียวทั้งหมด ตอนนั้นผู้ให้เช่าก็รับทราบ
หลังจากนั้นไม่ถึง1อาทิตย์ ผู้ให้เช่าเอาจดหมายมาวางที่หน้าบ้าน ในจดหมายระบุว่าถ้าไม่ชำระค่าไฟ จะยกเลิกสัญญาการเช่าบ้าน เราเลยทักไลน์ไปคุยว่าทำไมถึงต้องบอกแบบนี้ ในเมื่อคุยกันเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก
ผ่านมา1เดือน เราก็ชำระค่าบ้านทุกเดือนเหมือนปกติ ค่าไฟก็ทยอยจ่ายไปจนเหลือ1เดือนค้างและ1เดือนปัจจุบันที่มาทบกัน ผู้ให้เช่าโทรมาหาเราและใช้คำพูดที่รุนแรง เขาบอกว่าต้องการให้เราย้ายออกไปเดี๋ยวนี้ ถ้าเราไม่พอใจเขาก็ย้ายออกไปได้เลย และหลุดพูดออกมาว่า มีอยู่ครั้งนึงที่เข้ามาในบ้านเห็นบ้านรก และเราเลี้ยงสัตว์(แมว) ซึ่งเขาไม่พอใจ
เราก็เลยตกใจ และถามเขาไปว่าเข้ามาในบ้านเมื่อไหร่ ตอนไหน ทำไมถึงเข้ามาในตอนที่เราไม่รับรู้ได้ของมีค่าของเราในบ้านมีเยอะ มูลค่ามากกว่าทรัพย์สินที่มีอยู่ในบ้านก่อนเช่าอีก และเรามีลูกสาว ทำให้เราเกิดความหวาดระแวง เราเลยบอกเขาไปว่า นี่มันผิดกฏหมายนะคะ เราจ่ายค่าเช่าทุกเดือน ทำไมถึงต้องเข้ามาในบ้านด้วย เขาก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดเรื่องอื่น
เรื่องเลี้ยงสัตว์ แต่ก่อนเช่าเราได้สอบถามเรื่องเลี้ยงสัตว์แล้ว เพราะถ้าไม่ให้เลี้ยงเราก็คงไม่เช่าแต่แรกตอนนั้นไม่มีปัญหาอะไร และเราก็ดูแลบ้านเป็นอย่างดี ถอดผ้าม่าน มุ้งลวด ของที่สามารถพังได้เอาไปเก็บทั้งหมด ของใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ เป็นของเราเอง และโดยส่วนตัวเราค่อนข้างเจ้าระเบียบ และรักษาความสะอาดมาก ทำงานบ้านทุกวัน ทำให้บ้านโล่งที่สุดอยู่แล้ว ที่สำคัญคือในสัญญาเช่าก็ไม่มีข้อห้ามเรื่องนี้อยู่เลยค่ะ
คุยกันไปมา ทะเลาะกันแรงขึ้น เขาบอกให้เราย้ายออกไป เราบอกหากคืนมัดจำจากการเช่าไม่ครบสัญญาก็จะไป เขาทวงบุญคุณว่าอุตส่าห์ให้เช่าอยู่ ไม่สำนึกบุญคุณ เราว่าเขากลับว่าเราจ่ายเงินเช่าไม่ได้อยู่ฟรีสุดท้ายเราบอกเขาว่าจะแจ้งตำรวจ เขาบอกไม่กลัว จะเข้าไปเคลียวันรุ่งขึ้น
วันต่อมา เราโทรให้ตำรวจในพื้นที่หมู่บ้านเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย ผู้ให้เช่าบอกว่าต้องการบอกเลิกสัญญาเพราะไม่พอใจตัวผู้เช่า ตำรวจบอกไม่สามารถทำได้ เพราะผู้เช่าไม่ได้ทำผิดสัญญาข้อไหนเลย เรื่องเลี้ยงสัตว์และค่าไฟก็ไม่ได้อยู่ในสัญญา และทางผู้ให้เช่ายังมีเงินมัดจำอยู่ ถ้าแค่ไม่พอใจไม่สามารถทำได้ แต่ผู้ให้เช่าไม่ยอม ตำรวจเลยบอกให้ไปตกลงที่โรงพักและลงบัญทึกประจำวัน
หลังจากไปตกลง ตำรวจให้เราเป็นคนเขียนข้อที่ต้องการตกลง เราแจ้งว่าเขาไม่มีสิทธิไล่เราออกจากบ้านเพราะเราจ่ายค่าเช่าและไม่ได้ทำผิดกฏ ไม่มีสิทธิเข้าบ้านเราโดยไม่ได้รับอนุญาต และหากเราจะย้ายออกเราจะตัดสินใจเอง โดยเขาไม่มีสิทธิไล่ ตอนแรกผู้ให้เช่าบอกไม่ให้เราลงบันทึกประจำวัน เพราะตกลงกันเองได้ ทำสัญญากันใหม่ก็ได้ แต่ ณ ตอนนั้น เราไม่ยอม และขอให้ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น เพราะเราไม่ไว้ใจเขาอีกแล้ว
หลังจากนั้นวันต่อมา เราเสิชหาที่อยู่ใหม่ และไปเจอว่าผู้ให้เช่าเอาบ้านที่เราอยู่ไปปล่อยเช่ามาตั้งแต่เดือนกุมภา-มีนา ด้วยราคาเช่าที่สูงกว่าที่เราเช่าอยู่ ซึ่งตอนนั้น เป็นตอนก่อนที่จะมีการทะเลาะกันซะอีก แถมเราก็เพิ่งเช่าไปได้แค่4-5เดือนเอง
เสร็จจากเรื่องวันนั้น เราตัดสินใจหาที่อยู่ใหม่ และย้ายออกเสร็จสิ้นไปช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา และได้แจ้งผู้ให้เช่าไปว่า เราย้ายออกเดือนนี้ เงินมัดจำเอาไปหักค่าไฟได้เลย ไม่เอาคืนสักบาท เราทำความสะอาดบ้านให้แล้ว เอาผ้าม่าน มุ้งลวดติดกลับสมบูรณ์เหมือนตอนย้ายเข้าอยู่และได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ของในบ้านของเขาอยู่ครบทุกชิ้น
แต่ตอนนี้ผู้ให้เช่าไม่ยอม เขาบอกว่าสภาพบ้านไม่ดีพอจะส่งคืน ห้องน้ำไม่สะอาด พื้นหน้าห้องน้ำมีรอยพองจากการโดนน้ำ โซฟาเปื้อน และมีร่องรอยจากการติดแอร์ ห้องนอนลูกสาวเคยติดโปสเตอร์ลอกออกมีสีลอกรอยประมาณ2-3เซ็น เขาต้องการให้เรารับผิดชอบค่าเสียหาย
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราทำความสะอาดห้องทุกห้อง รวมถึงห้องน้ำไปแล้ว และได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พื้นหน้าห้องน้ำพองมาตั้งแต่เราย้ายเข้าอยู่ แต่พองมากขึ้นจากการใช้งานปกติ โซฟาเป็นผ้าสามารถถอดซักได้ ณ วันที่เราเข้าอยู่ สภาพแย่กว่านี้เยอะ แต่เราเอาไปซักให้แล้ว หลังจากนั้นก็ตามใช้งาน เป็นรอยเลอะฝุ่น บางรอยก็รอยเก่าตั้งแต่คนเช่าเก่า ส่วนแอร์ ก่อนเราติดเราแจ้งแล้ว เขาก็อนุญาตและตอนที่ทะเลาะกัน เขาก็บอกให้เราถอดออกและย้ายออกไปเลย ห้องนอนลูกสาว รอยเล็กมาก ขนาดที่ไม่ได้เสียหายอะไร
ซึ่งตอนนี้เขาต้องการให้เราจ่ายเงินรับผิดชอบทั้งหมด และอ้างว่าสภาพไม่พร้อมปล่อยเช่าให้คนใหม่ ซึ่งเรามีรูปเป็นหลักฐานในวันที่ย้ายออกจากบ้าน โดยที่ไม่เอามัดจำคืน และย้ายออกก่อนสิ้นเดือนด้วยค่ะบ้านที่เช่าอยู่ค่อนข้างเก่าแล้ว และสภาพตอนเช่าก็ไม่ได้ดีมากขนาดนั้น ของในบ้านไม่มีอะไรเสียหาย มีแค่เท่าที่แจ้งไป
เราอยากขอคำแนะนำว่าเราควรทำยังไงดีคะ หรือจะรอให้เขาฟ้องและไปขึ้นศาลเคลียตรงนั้นดี เราไม่ไว้ใจเขาและไม่สบายใจ แต่ก็ไม่อยากเสียเงินให้เขาค่ะ เพราะเรากลัวเขาจะเอาสิ่งที่เราไม่ได้ทำมาอ้างหรือเรียกราคาเกินจริง
ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ
ปล.ขออภัยค่ะ ไม่แน่ใจว่าต้องแท็กห้องไหน