เอาความมั่นอกมั่นใจมาจากไหนกันครับ

##มองในแง่ลบ
-Demandในทุกภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัว
-หนี้ภาคครัวเรือนใต่ระดับทำ New High ตลอด
-คนตกงานมากขึ้นเรื่อย ๆ ยังไม่รวมเด็กจบใหม่อีกเป็นแสน
-วัคซีนจะยังไม่มีมาพอแน่ ๆ อย่างน้อยอีกสองเดือน และถึงเร่งฉีดสุดๆ ก็ต้องอีกครึ่งปีเป็นอย่างต่ำกว่าจะได้ 70%
-บุคลากรทางการแพทย์เริ่มรับ load ไม่ไหวและ ward ต่าง ๆ เริ่มต้อง shutdown โดนกักตัวเพราะกลุ่มเสี่ยงปกปิด timeline
-เตียงไม่พอแล้วสำหรับคนไข้กลุ่มสีเหลืองและสีแดง
-อัตราการติดเชื้อในหลายวันที่ผ่านมา (R) สูงมากก ยังไม่นับพวกที่ยังไม่ได้รับการตรวจอีกมากมาย
-หลายชุมชนยังการ์ดตก ไม่ใส่ใจ มีทั้งสนามมวยจะนะ งานแต่งมโหฬาร งานบวช เล่นพนัน


##มองในแง่บวก
-เอกชนช่วยเสริม Hospitel และเตียงสนามได้อย่างรวดเร็วทำให้กลุ่มสีเขียวไม่น่าเป็นห่วง
-คนไทยให้ความร่วมมือใส่ mask กันแทบจะทุกคน ดีกว่าประเทศอื่นๆ มาก
-เริ่ม WFH อย่างจริงจัง ลดการเคลื่อนที่พบปะผู้คนหวังว่าจะเห็นผลในสองสัปดาห์หน้า

จุดสำคัญก็คือวัคซีน วัคซีน และวัคซีน!!!
รัฐบาลเพิ่งจะตื่นมาไฟเขียวให้นำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่น กว่าจะเห็นผลก็เหมือนทำร้ายประชาชนทางอ้อมไปอีกหลายเดือน
ยิ่งวัคซีน Sinovac เข็มแรกสร้างภูมิได้แค่ 3% ห่างไปอีกสามสัปดาห์จึงฉีดเข็มสองได้
หลังฉีดเข็มสองไปแล้วสองสัปดาห์ภูมิถึงจะขึ้นเกิน 50% นั่นคือรวมแล้วหกสัปดาห์หรือเดือนครึ่งกว่าคนที่ฉีด Sinovac ครบจะมีภูมิถึงติดเชื้อก็ไม่รุนแรง แต่ก็ไม่มีภูมิป้องกันการติดเชื้อเหมือนคนที่ฉีด Pfizer หรือ Moderna อยู่ดี

เขียนไปเขียนมา ชั่งน้ำหนักแง่บวก แง่ลบแล้ว หุ้นมันเอาที่ไหนมาขึ้นกันครับ ช่วยระดมสมองหน่อย