หลานเราเป็นแบบนี้ค่ะ

เราเป็นป้านะคะ น้องสาวมีลูกชายอายุประมาณ 2 ขวบกว่า ซึ่งเราเห็นเด็กคนอื่นที่อายุเท่านี้ เค้าตัวโตกว่านี้พูดเก่งกว่านี้ ย้อนกลับไปที่ลักษณะนิสัยของหลานเราตั้งแต่ปีแรกเลยคือหลานเราเป็นเด็กกินยากมากกกก ย้ำว่ามากๆ กินมือละไม่เกิน 10 คำ ทุกมื้อ ต้องหลอกล่อต่างๆนาๆ เอาของเล่นมาวางล่อมั่ง กว่าจะหมดไปแต่ละมื้อใช้เวลานาน และพลังงาน(คนป้อน) มาก เราเห็นเด็กคนอื่นอายุเท่านี้ตักข้าวกินเองแล้ว แต่หลานเรายังต้องตามป้อนอยู่ แล้วก็ น้องสาวเราเล่าให้ฟังเวลาไปตรวจเลือดทีไร หมอจะบอกว่าต้องเสริมธาตุเหล็กด่วน ซีดเล็กๆ น้ำหนักเกือบตกเกณฑ์ ส่วนนิสัยอย่างอื่นหลานเราไม่มีปัญหาค่ะ เป็นเด็กสมาธิดี ไม่ซน พูดช้าก็คงไม่เท่าไหร่ เด็กผู้ชาย ติดที่เรื่องกินนี่ที่ทำให้ทั้งบ้านกลุ้มใจ 

เรามีความเห็นขัดกับน้องสาวเราในเรื่องการเลี้ยงบางเรื่องนะ คือเค้าจะฝึกวินัยในการกิน ให้กินตามเวลา หมดเวลาคือหยุด เช่น มื้อเช้าเตรียมไว้ให้ ถ้าลูกเค้างอแงไม่ยอมกิน เค้าก็จะหยุดเลยถ้าเลยเวลา หรือ ตอนนี้ 2 ขวบกว่า เริ่มดื้อ ลูกไม่กินข้าว ก็ลงโทษโดยการปล่อยให้หิว เพื่อเป็นการฝึกวินัย หรือ อาหารบางอย่างห้ามกิน ขนมหวาน น้ำหวาน ไม่ให้กินทั้งๆที่ลูกอยากกิน เราก็บอกน้องว่าเด็กอายุเท่านี้ อยากกินอะไรให้กินไปเหอะ ขอให้มันกินไปก่อน (คือถ้าหลานเราไม่มีปัญหาเรื่องการกินเราก็คงไม่ไปยุ่งวุ่นวาย) วินัยค่อยไปฝึกตอนมันรู้เรื่องก็ได้ เด็กๆลิ้นมันจะชอบอะไรหวานๆ ซึ่งเด็กๆเราก็กินแบบนั้นเราก็โตมาได้ เราชอบอะไรไม่ชอบอะไรตอนเด็กๆเราก็จำได้ อะไรที่ชอบเราก็จะกิน ไม่ชอบเราก็จะไม่กิน พวกเต้าหู้ พวกปลานี่เกลียดมาก แต่มันเป็นอาหารที่น้องเราเค้าจะจัดไว้ให้ลูกเค้ากินเกือบทุกวัน เราก็เข้าใจนะ คนเป็นแม่ก็อยากให้สิ่งที่ดีๆกับลูก แต่ป้าก็จะคิดว่า เด็กมันคงไม่ชอบหรอก อย่างล่าสุดนี่ก็เกือบทะเลาะกันเรื่องลงโทษลูกโดยการปล่อยให้อดข้าว เพราะงอแงไม่ยอมกินข้าวเย็น ซึ่งหลานป้าก็น้ำหนักจะตกเกณฑ์อยู่แล้ว ก็จะแอบเอามะม่วงให้หลานเพราะหลานชอบกินผลไม้ เค้าก็กิน โดนแม่มันดุมาค่ะว่าลูกเค้า เค้าจะเลี้ยงยังไงมันก็เรื่องของเค้า 

แม่เค้าเนี่ยจะติดตามการเลี้ยงของอาจารย์หมอท่านนึง เราก็เคยเปิดฟัง เค้าจะบอกมาแบบนี้แหละว่าให้ฝึกวินัยลูกให้จับนั่งเก้าอี้ป้อน กิน นอน ให้มันตรงเวลา ของหวานห้าม เดี๋ยวเด็กติดหวาน บลาๆ แต่เรากลับคิดว่า ฮัลโหล เด็ก 2-3 ขวบ ลูกน้ำหนักจะตกเกณฑ์อยู่แล้ว ขอให้มันกินไปเถอะ อะไรที่ชอบ ให้เอนจอยกับการกิน ไม่ใช่แต่ละมื้อเป็นการฝืนกัน บังคับกัน ไอ้นู่นห้าม ไอ้นี่ห้าม เวลากินเลยไม่ใช่เวลาที่สนุกสนานเอนจอยทั้งคนป้อน ทั้งคนกิน ทั้งคนลุ้น เราจำความได้ตอน 4 ขวบของเราค่ะ คือตอนนั้นถึงเริ่มจดจำเริ่มรู้เรื่อง ก่อนหน้านั้นตอนอายุ 2-3 ขวบ เราจำอะไรไม่ได้เลย ใครมาสั่งซ้ายหันขวาหัน เราก็คงไม่รู้เรื่องอะไร เข้าใจว่าเป็นป้าอย่าไปวุ่นวายกับการเลี้ยงดูของแม่เค้านะคะ แต่เราก็ห่วงหลานเรื่องพัฒนาการของเค้าเหมือนกัน เพราะเข้าใจว่าอายุเท่านี้คือสมองกำลังเติบโตและน้ำตาลก็เป็นอาหารของสมอง แม่เค้าก็ฟังหมอแหละ แต่ที่หมอพูดมันถูกต้องแล้วหรอคะ หรือเราควรจะปล่อยไปอย่าไปยุ่งจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
แม่เค้ารู้ดีว่าอะไรดีกับลูกค่ะ คุณเป็นป้าไม่มีสิทธิ์แอบเอาอะไรให้ลูกเค้ากินค่ะ

ต่อให้เค้าจะให้ลูกกินหรือไม่กินอะไรเค้ามีความคิดของเค้า

การให้เด็กนั่งกินตามเวลาและเก็บตามเวลา งดน้ำหวานและขนมหวานเป็นการฝึกวินัยการกินที่ถูกต้องให้ลูก ตามธรรมชาติพอเด็กหิวก็จะยอมกินเอง

เค้าไม่ได้ให้ลูกอดจนหิวโซ

อย่าคิดว่าเด็ก2ขวบไม่รู้ หากคุณตามใจเด็กรู้วิธีที่จะ manipulate คุณแล้ว

ของหวานและอาหารรสจัดยังไม่ต้องรีบ อนาคตเด็กจะยังได้กินอีกมาก หากตอนนี้ติดรสชาติพวกนี้แล้วจะเลิกยากกว่าการกินข้าวปกติมากค่ะ.

ส่วนตัวเราก็มีเพื่อนที่เคร่งเรื่องอาหารลูกมากๆ 2ขวบกว่าแล้วยังไม่ให้กินขนมหวานหรืออาการที่ใส่น้ำตาลใดๆ แต่เราถือว่าเป็นสิทธิ์ของเค้า เราไม่ใช่พ่อแม่ ไม่ควรก้าวก่ายค่ะ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่