สวัสดีทุกคน..🙁
->วันนี้เราจะมารีวิวความไม่เท่าเทียมกันของการทำงานจนมีผลกับการใช้ชีวิตประจำวันและความไม่เท่าเทียมที่จะต้องเจอ.....
😌 ตอนนี้ก็มีน้องๆพยาบาลที่จบใหม่เริ่มทำงานวันที่ 1 เม.ย เป็นจำนวนมากหลายรพ.แล้ว ก็อยากจะอวยพรให้น้องๆมีความสุขในการทำงานมากๆ อย่าได้เจอชีวิตการทำงานแบบพี่เลยยย!!
😔มาเริ่มกันเลยดีกว่า ฿&฿฿;/ ต้องบอกก่อนเลยนะว่าเราทำงานมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว ที่รพ.รัฐ แห่งหนึ่ง เป็น รพ.รพช ที่มีหมอครบทุกสาขา เป็นรพ.ขนาด60 เตียง (แต่รับมากๆคือ90-100 เตียง ในบางครั้ง) ทีรพ.จะมีตึกผู้ป่วย ช-ญ แค่สองตึก เราได้มีโอกาสมาทำงานที่ตึกผู้ป่วย ญ และเพื่อนสนิทเราได้ทำงานตึก ผู้ป่วย ช วันแรกที่มาพี่ๆก็จะแนะนำกฎระเบียบต่างๆของรพ.และสิทธิที่เราควรได้รับต่างๆ การลาหยุดงาน และค่าตอบแทนต่างๆ ซึ่งมันก็เป็นผลดีที่เราควรได้รับรู้ พอเราเริ่มทำงานไป เรารู้สึกว่าการเป็นพยาบาลก็ไม่ได้แย่นะ (ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้เรียนพยาบาลเพราะความรักหรือใฝ่ฝันแต่เราเรียนเพราะครอบครับ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกลบกับอาชีพนี้เหมือนกัน) ด้วยความที่จบมาใหม่ จะต้องขึ้นเวรเช้าไปก่อนอย่างเดียวทำให้เราไม่ได้ค่าโอทีค่าเวรบ่าย-ดึก บางทีเงินก็ยังไม่ค่อยพอใช้และไม่ค่อยมีเหลือเก็บสักเท่ารัย พอเราเริ่มมีเวรบ่าย-ดึก ทำให้เรามีเวลาว่างรับขึ้นเวรที่แผนกอื่น เราก็เลยไปขึ้น เราไปขึ้นเวรที่นั้นได้ประมาณ2เดือน แบบถ้าว่างก็ไป รับขึ้นจบเก็บเงินซื้อ ip ที่ออกใหม่ล่าสุดได้ ด้วยความเป็นเด็กจบใหม่ อยากมี อยากได้ ตอนมีแรงทำงานก็อยากทำให้เต็มที ใครขายเวรให้เอาหมด ใครให้ขึ้นไหนขึ้นหมด จนมันเริ่มมีปัญหากับหัวหน้าตึก คือ.... ช่วงนั้นยอดคนไข้เยอะ 45คน ventilator 2-3 ตัว ทำให้ต้องเรียกขึ้นเวรเสริมเช้า แบบฉุกเฉิน!!! พี่เขาก็โทรหาเราให้ไปขึ้นเวร แต่วันนั้นเราดันรับเวรที่อื่นแล้วไง เลยบอกขึ้นให้ไม่ได้ พี่เขาก็เลยบอกไม่เป็นรัยและวางสายไป พอเราไปขึ้นเวรบ่ายที่ตึกเราเจอเพื่อน (เป็นคนละคนที่อยู่ตึก ช ) โดนตามมาให้ขึ้นเวร แบบกระทันหัน นางก็บอกว่ามีธุรจะกลับบ้านก็ต้องยกเลิกไป และหัวหน้าก็พูดต่อหน้าเรากับเพื่อนว่าครั้งหน้าถ้าตามมาขึ้นเวรก็ต้องมาให้ได้ อย่ารับเวรที่อื่นก่อน เพราะเราต้องดูยอดคนไข้ในตึกก่อนว่าเยอะไหม ว่าต้องมีเสริมไหม ถ้ามีก็ต้องมา พอเราโดนพูดแบบนั้นเราก็เลยไม่ได้รับเวรที่อื่นอีกเลย จากเคยมีโอที 10000+ เหลือแค่ 5000-6000 บาท เพราะความไม่อยากมีปัญหา
สักพักก็เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิดซึ่งจะต้องมีเวรเสริมโควิดตลอดเวลาเพราะเราไม่รู้ว่าจะมีคนไข้มาเมื่อไหร่ต้องเตรียมให้พร้อมตลอด ในเดือนนั้น เราจำได้ดีเป็นเดือน ก.พ เรามีวันหยุด 4 วัน (ทั้งเดือนนะ) แต่เราโดนจัดเวรเสริมคนไข้โควิดไปประมาณ 12-15 เวร แม้แต่วันหยุดเราก็โดน (เราไม่เข้าใจว่าในเมื่อมันเป็นวันหยุดของเรา ทำไมเราไม่ได้หยุด ทำไมเราถึงต้องมานั่งลุ้นในทุกๆวันว่าจะมีคนไข้มาไหม ถ้ามีเราก็ต้องไปขึ้นเวร คือเราไม่สามารถวางแผนไปเที่ยว หรือกลับบ้านได้เลย เนื่องจากถ้าโดนโทรตามก็ต้องกลับ ถ้าไม่กลับก็โดนด่าว่าไม่มีความรับผิดชอบ ไม่เห็นเวรดินสอนที่จัดไว้หรอ 😞😔 เรารู้สึกแย่มากเลย แล้วเราก็สงสัยว่าทำไมพี่ๆไม่โดน ทำไมเจอแต่พวกเราที่จบใหม่ ทำไมไม่แบ่งเวรให้เท่าๆกัน ) พอเราเห็นเวรที่จัดออกมาแบบนี้ เราเลยพูดกับพี่อีกคน ซึ้งเขาเป็นคนใจดีมากเลย และเข้าใจความรู้สึกน้องๆจบใหม่ พี่เขาบอกว่าถ้ามีจริงๆเดี๋ยวพี่ช่วยขึ้น ตอนนั้นเราดีใจมากเลยและภาวนาขอให้ไม่มีเราอยากหยุดเหมือนคนขึ้น และเรื่องก็เกิดอีกคน ..... เราลงเวรบ่ายไปประมาณ 00.30 น กว่าจะอาบน้ำ ซักผ้าเสร็จ ก็บาไป 02.00-03.00 น. แล้ว เพราะเวรที่เราจะขึ้นต่อเป็นเวรดึก(โย้หลัง) เราเลยไม่รีบ และก็หาหนังดู นอนจริงๆประมาณ 05.00 น. พอตอนเช้าเราได้นับโทรศัพท์ตามเราให้ไปขึ้นเวร ประมาณ 07.30 น. เราก็งงว่ามีผู้ป่วยโควิดหรอ เพราะเราดูแล้วว่าไม่มี (ต้องบอกก่อนว่าเราโดนเป็นเวรโควิดในตอนเช้านะ) เราก็เลยถามไป พี่เขาก็บอกไม่มี แต่ยอดคนไข้เยอะ 45 คนเลยโทรตามขึ้นเวร เราก็งงว่าอ้าวที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้นิ เราเลยบอกไปว่าไม่พร้อมขึ้น พี่เขาก็เข้าใจ เวลาผ่านมาสักพัก ประมาณ 08.30 น.เราได้รับโทรศัพท์อีกเพื่อโทรมาต่อว่า ว่าทำไมไม่ขึ้น ยอดคนไข้เยอะเนีย จะทำงานกันทันหรอ เราก็บอกว่าเราไม่รู้ว่ายอดเท่ารัยแล้วก็ไม่ได้บอกแต่แรกว่าต้องเสริมถ้ายอด 45 คน พี่เขาก็บอกต้องรู้ละเพราะว่าจัดไว้แล้ว เราก็งง ว่าบอกตอนไหน แต่เราก็ยอมรับผิดไปและขอโทษ ด้วยความเป็นน้องจบใหม่ต่อให้ไม่ผิดก็ต้องยอมรับผิด พอเรามาคุยกับพี่ๆคนสนิทกันพี่เขาก็บอกว่าพี่เองก็ไม่รู้เลยว่าต้องขึ้นเสริมเนียถ้ายอด 45 คน นี้ก็งงใจว่าต้องเป็นเราอีกแล้วหรออออ!!?? หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ติดใจอะไรขึ้นเวรต่อไป กัมหน้าก้มตาทำงานต่อไม่สนใจ แต่มันมีผลกระทบกับเรามากเลยนะ ถึงเราจะไม่มีสามี ไม่มีลูก แต่เราก็ยังมีพ่อ-แม่ ที่อยากกับไปหาอยู่นะ เราไปไหนไม่ได้เลย เหมือนอยู่เวรตลอด 24 ชม. เราโทรตามตอนไหนต้องไป ไม่ไปโดนด่า นานๆจะได้ไปไหนที จากคนที่เคยสดใสร่าเริง จากคนที่สนุกกับการใช้ชีวิต กลายมาเป็นคนเก็บตัวในห้อง การมาเป็นคนระเเวงว่าจะต้องไปขึ้นเวร นอนหลับไม่เคยถึง8 ชม ต่อให้เป็นวันหยุดเราก็นอนสูงสุดได้ 2-3 ชม สมองเริ่มช้า จนต้องกินยานอนหลับ พอกินไปแล้วเราก็หลับนะช่วงแรกๆสักพักเราเริ่มดื้อยา กินแล้วไม่หลับต้องเพิ่มขนาดยาเอง หลังทานไปแล้วเราก็มีอาการมึน งง ปวดศีรษะ จนแทบทำงานจะไม่ได้ แต่ถ้าไม่กินก็ไม่ได้นอน 🌚 จนมาถึงช่วงนึง เป็นเวรพี่คนนึงเป็นเวรเสริม และพี่เขาจะต้องมาขึ้นเวรเพราะยอดถึง 45 คน พี่เขารู้นะ แต่บอกเพื่อนว่าไม่ต้องโทรตามนะ ไม่มา พรุ่งนี้เข้าก็ไม่มีใครโทรตามจริงๆ ไม่มาจริงๆ ไม่มีใครว่าจริงๆ เราเกิดคำถามในใจมากมายว่าทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ความยุติธรรมอยู่ไหน ความเท่าเทียมไปไหน ทำไมไม่มี ทำไมเราไม่ได้รับสิทธินั่นเหมือนกันต่อให้เราขึ้นเวรติดกันมาเป็น10วัน เราก็ต้องมา พอเราคิดได้ว่า อ๋อ เขาเป็นพี่ เราเลยเลิกตั้งคำถาม ว่าทำไมแล้ว เพราะคงไม่ได้คำตอบที่ดี และเราก็เจอแบบนี้หลายครั้ง แม้กระทั้งวันนี้ก็เป็น เราตื่นแต่ 6.00 น เพื่อรอโทรศัพท์ โดยเฉพาะ (เราคิดนะว่าถ้าเรามีโอกาสได้ทำงานอยู่ในอาชีพนี้ต่อจนได้เป็นพี่ๆคนอื่น จะมีปากมีเสียได้ เราจะไม่ทำแบบนี้ จะไม่ทำตัวให้น้องๆต้องตั้งคำถามแบบนี้ จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้อง แต่ตอนนี้เราคิดแต่จะลาออก ไม่อยากอยู่แล้ว สังคมที่เห็นแก่ตัว แต่เราก็คิดได้ว่าที่ไหนก็คงมีแต่คนแบบนี้ทั้งนั้นแหละ มันทำให้เราอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้..) เราทำงานมาจะ 1 ปีละ เชื่อไหมว่าเรายังไม่สามารถลาหยุดได้เลย ยังไม่สามารถขอเวรได้เลย สิทธิที่เราควรได้รับยังไม่เคยได้จริงๆเลย ทั้งๆที่ถ้าทำงานเกิน 6 เดือนแล้วจะต้องได้ เราก็ยังไม่ได้ เพราะว่าเราเป็นน้องใหม่ แต่เพื่อนเราที่อยู่อีกตึกทำได้แล้วทุกอย่าง ถ้าพี่ๆมีธุระสามารถของแลกเวรกับเราได้ แต่ถ้าเรามีธุระเราไม่สามรถขอแลกเวรได้ ยกเว้นเราลาไปแต่งงาน ไปสอบ หรือมีคนที่บ้านตาย เท่านั้น ซึ้งมันต้องถึงขนาดนั้นเลยหรอ แค่ขอแลกเวร ตามสิทธิที่ควรได้รับ หลายคนคงคิดว่าทำไมไม่ไปบอกหรือแจ้งกับคนที่มีตำแหน่งใหญ่ว่า เราบอกเลยทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าทำจะมีปัญหามากๆๆ เพราะมีรุ่นพี่เคยทำแล้ว และทุกคนก็ไม่ชอบเจาจนบีบให้เขาต้องออกไปอยู่ที่อื่น เราไม่อยากมีปัญหาขนาดนั้น เราถึงทนมาถึงทุกวันนี้ ทนมาเลื่อยๆ฿&@
ปล. มีเรื่องราวอีกมากมายที่เราโดน แต่ไม่สามารถพิมพ์หมดในครั้งเดียว เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังใหม่ว่าเป็นพยายาลจบใหม่ไม่ได้ง่ายนะ
ปล. ทุกทีอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ เราเล่าในมุมที่เราเจอมาเท่านั้น
ปล. อ่านเพื่อความยันเทิงนะคะ 😒😞 ไม่ต้องเครียดตาม เราโอเค
สิ่งที่เราเจอในที่ทำงาน ของพยาบาลจบใหม่ 🌜🌛🌚🥀
->วันนี้เราจะมารีวิวความไม่เท่าเทียมกันของการทำงานจนมีผลกับการใช้ชีวิตประจำวันและความไม่เท่าเทียมที่จะต้องเจอ.....
😌 ตอนนี้ก็มีน้องๆพยาบาลที่จบใหม่เริ่มทำงานวันที่ 1 เม.ย เป็นจำนวนมากหลายรพ.แล้ว ก็อยากจะอวยพรให้น้องๆมีความสุขในการทำงานมากๆ อย่าได้เจอชีวิตการทำงานแบบพี่เลยยย!!
😔มาเริ่มกันเลยดีกว่า ฿&฿฿;/ ต้องบอกก่อนเลยนะว่าเราทำงานมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว ที่รพ.รัฐ แห่งหนึ่ง เป็น รพ.รพช ที่มีหมอครบทุกสาขา เป็นรพ.ขนาด60 เตียง (แต่รับมากๆคือ90-100 เตียง ในบางครั้ง) ทีรพ.จะมีตึกผู้ป่วย ช-ญ แค่สองตึก เราได้มีโอกาสมาทำงานที่ตึกผู้ป่วย ญ และเพื่อนสนิทเราได้ทำงานตึก ผู้ป่วย ช วันแรกที่มาพี่ๆก็จะแนะนำกฎระเบียบต่างๆของรพ.และสิทธิที่เราควรได้รับต่างๆ การลาหยุดงาน และค่าตอบแทนต่างๆ ซึ่งมันก็เป็นผลดีที่เราควรได้รับรู้ พอเราเริ่มทำงานไป เรารู้สึกว่าการเป็นพยาบาลก็ไม่ได้แย่นะ (ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้เรียนพยาบาลเพราะความรักหรือใฝ่ฝันแต่เราเรียนเพราะครอบครับ แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกลบกับอาชีพนี้เหมือนกัน) ด้วยความที่จบมาใหม่ จะต้องขึ้นเวรเช้าไปก่อนอย่างเดียวทำให้เราไม่ได้ค่าโอทีค่าเวรบ่าย-ดึก บางทีเงินก็ยังไม่ค่อยพอใช้และไม่ค่อยมีเหลือเก็บสักเท่ารัย พอเราเริ่มมีเวรบ่าย-ดึก ทำให้เรามีเวลาว่างรับขึ้นเวรที่แผนกอื่น เราก็เลยไปขึ้น เราไปขึ้นเวรที่นั้นได้ประมาณ2เดือน แบบถ้าว่างก็ไป รับขึ้นจบเก็บเงินซื้อ ip ที่ออกใหม่ล่าสุดได้ ด้วยความเป็นเด็กจบใหม่ อยากมี อยากได้ ตอนมีแรงทำงานก็อยากทำให้เต็มที ใครขายเวรให้เอาหมด ใครให้ขึ้นไหนขึ้นหมด จนมันเริ่มมีปัญหากับหัวหน้าตึก คือ.... ช่วงนั้นยอดคนไข้เยอะ 45คน ventilator 2-3 ตัว ทำให้ต้องเรียกขึ้นเวรเสริมเช้า แบบฉุกเฉิน!!! พี่เขาก็โทรหาเราให้ไปขึ้นเวร แต่วันนั้นเราดันรับเวรที่อื่นแล้วไง เลยบอกขึ้นให้ไม่ได้ พี่เขาก็เลยบอกไม่เป็นรัยและวางสายไป พอเราไปขึ้นเวรบ่ายที่ตึกเราเจอเพื่อน (เป็นคนละคนที่อยู่ตึก ช ) โดนตามมาให้ขึ้นเวร แบบกระทันหัน นางก็บอกว่ามีธุรจะกลับบ้านก็ต้องยกเลิกไป และหัวหน้าก็พูดต่อหน้าเรากับเพื่อนว่าครั้งหน้าถ้าตามมาขึ้นเวรก็ต้องมาให้ได้ อย่ารับเวรที่อื่นก่อน เพราะเราต้องดูยอดคนไข้ในตึกก่อนว่าเยอะไหม ว่าต้องมีเสริมไหม ถ้ามีก็ต้องมา พอเราโดนพูดแบบนั้นเราก็เลยไม่ได้รับเวรที่อื่นอีกเลย จากเคยมีโอที 10000+ เหลือแค่ 5000-6000 บาท เพราะความไม่อยากมีปัญหา
สักพักก็เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิดซึ่งจะต้องมีเวรเสริมโควิดตลอดเวลาเพราะเราไม่รู้ว่าจะมีคนไข้มาเมื่อไหร่ต้องเตรียมให้พร้อมตลอด ในเดือนนั้น เราจำได้ดีเป็นเดือน ก.พ เรามีวันหยุด 4 วัน (ทั้งเดือนนะ) แต่เราโดนจัดเวรเสริมคนไข้โควิดไปประมาณ 12-15 เวร แม้แต่วันหยุดเราก็โดน (เราไม่เข้าใจว่าในเมื่อมันเป็นวันหยุดของเรา ทำไมเราไม่ได้หยุด ทำไมเราถึงต้องมานั่งลุ้นในทุกๆวันว่าจะมีคนไข้มาไหม ถ้ามีเราก็ต้องไปขึ้นเวร คือเราไม่สามารถวางแผนไปเที่ยว หรือกลับบ้านได้เลย เนื่องจากถ้าโดนโทรตามก็ต้องกลับ ถ้าไม่กลับก็โดนด่าว่าไม่มีความรับผิดชอบ ไม่เห็นเวรดินสอนที่จัดไว้หรอ 😞😔 เรารู้สึกแย่มากเลย แล้วเราก็สงสัยว่าทำไมพี่ๆไม่โดน ทำไมเจอแต่พวกเราที่จบใหม่ ทำไมไม่แบ่งเวรให้เท่าๆกัน ) พอเราเห็นเวรที่จัดออกมาแบบนี้ เราเลยพูดกับพี่อีกคน ซึ้งเขาเป็นคนใจดีมากเลย และเข้าใจความรู้สึกน้องๆจบใหม่ พี่เขาบอกว่าถ้ามีจริงๆเดี๋ยวพี่ช่วยขึ้น ตอนนั้นเราดีใจมากเลยและภาวนาขอให้ไม่มีเราอยากหยุดเหมือนคนขึ้น และเรื่องก็เกิดอีกคน ..... เราลงเวรบ่ายไปประมาณ 00.30 น กว่าจะอาบน้ำ ซักผ้าเสร็จ ก็บาไป 02.00-03.00 น. แล้ว เพราะเวรที่เราจะขึ้นต่อเป็นเวรดึก(โย้หลัง) เราเลยไม่รีบ และก็หาหนังดู นอนจริงๆประมาณ 05.00 น. พอตอนเช้าเราได้นับโทรศัพท์ตามเราให้ไปขึ้นเวร ประมาณ 07.30 น. เราก็งงว่ามีผู้ป่วยโควิดหรอ เพราะเราดูแล้วว่าไม่มี (ต้องบอกก่อนว่าเราโดนเป็นเวรโควิดในตอนเช้านะ) เราก็เลยถามไป พี่เขาก็บอกไม่มี แต่ยอดคนไข้เยอะ 45 คนเลยโทรตามขึ้นเวร เราก็งงว่าอ้าวที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้นิ เราเลยบอกไปว่าไม่พร้อมขึ้น พี่เขาก็เข้าใจ เวลาผ่านมาสักพัก ประมาณ 08.30 น.เราได้รับโทรศัพท์อีกเพื่อโทรมาต่อว่า ว่าทำไมไม่ขึ้น ยอดคนไข้เยอะเนีย จะทำงานกันทันหรอ เราก็บอกว่าเราไม่รู้ว่ายอดเท่ารัยแล้วก็ไม่ได้บอกแต่แรกว่าต้องเสริมถ้ายอด 45 คน พี่เขาก็บอกต้องรู้ละเพราะว่าจัดไว้แล้ว เราก็งง ว่าบอกตอนไหน แต่เราก็ยอมรับผิดไปและขอโทษ ด้วยความเป็นน้องจบใหม่ต่อให้ไม่ผิดก็ต้องยอมรับผิด พอเรามาคุยกับพี่ๆคนสนิทกันพี่เขาก็บอกว่าพี่เองก็ไม่รู้เลยว่าต้องขึ้นเสริมเนียถ้ายอด 45 คน นี้ก็งงใจว่าต้องเป็นเราอีกแล้วหรออออ!!?? หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ติดใจอะไรขึ้นเวรต่อไป กัมหน้าก้มตาทำงานต่อไม่สนใจ แต่มันมีผลกระทบกับเรามากเลยนะ ถึงเราจะไม่มีสามี ไม่มีลูก แต่เราก็ยังมีพ่อ-แม่ ที่อยากกับไปหาอยู่นะ เราไปไหนไม่ได้เลย เหมือนอยู่เวรตลอด 24 ชม. เราโทรตามตอนไหนต้องไป ไม่ไปโดนด่า นานๆจะได้ไปไหนที จากคนที่เคยสดใสร่าเริง จากคนที่สนุกกับการใช้ชีวิต กลายมาเป็นคนเก็บตัวในห้อง การมาเป็นคนระเเวงว่าจะต้องไปขึ้นเวร นอนหลับไม่เคยถึง8 ชม ต่อให้เป็นวันหยุดเราก็นอนสูงสุดได้ 2-3 ชม สมองเริ่มช้า จนต้องกินยานอนหลับ พอกินไปแล้วเราก็หลับนะช่วงแรกๆสักพักเราเริ่มดื้อยา กินแล้วไม่หลับต้องเพิ่มขนาดยาเอง หลังทานไปแล้วเราก็มีอาการมึน งง ปวดศีรษะ จนแทบทำงานจะไม่ได้ แต่ถ้าไม่กินก็ไม่ได้นอน 🌚 จนมาถึงช่วงนึง เป็นเวรพี่คนนึงเป็นเวรเสริม และพี่เขาจะต้องมาขึ้นเวรเพราะยอดถึง 45 คน พี่เขารู้นะ แต่บอกเพื่อนว่าไม่ต้องโทรตามนะ ไม่มา พรุ่งนี้เข้าก็ไม่มีใครโทรตามจริงๆ ไม่มาจริงๆ ไม่มีใครว่าจริงๆ เราเกิดคำถามในใจมากมายว่าทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ความยุติธรรมอยู่ไหน ความเท่าเทียมไปไหน ทำไมไม่มี ทำไมเราไม่ได้รับสิทธินั่นเหมือนกันต่อให้เราขึ้นเวรติดกันมาเป็น10วัน เราก็ต้องมา พอเราคิดได้ว่า อ๋อ เขาเป็นพี่ เราเลยเลิกตั้งคำถาม ว่าทำไมแล้ว เพราะคงไม่ได้คำตอบที่ดี และเราก็เจอแบบนี้หลายครั้ง แม้กระทั้งวันนี้ก็เป็น เราตื่นแต่ 6.00 น เพื่อรอโทรศัพท์ โดยเฉพาะ (เราคิดนะว่าถ้าเรามีโอกาสได้ทำงานอยู่ในอาชีพนี้ต่อจนได้เป็นพี่ๆคนอื่น จะมีปากมีเสียได้ เราจะไม่ทำแบบนี้ จะไม่ทำตัวให้น้องๆต้องตั้งคำถามแบบนี้ จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้อง แต่ตอนนี้เราคิดแต่จะลาออก ไม่อยากอยู่แล้ว สังคมที่เห็นแก่ตัว แต่เราก็คิดได้ว่าที่ไหนก็คงมีแต่คนแบบนี้ทั้งนั้นแหละ มันทำให้เราอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้..) เราทำงานมาจะ 1 ปีละ เชื่อไหมว่าเรายังไม่สามารถลาหยุดได้เลย ยังไม่สามารถขอเวรได้เลย สิทธิที่เราควรได้รับยังไม่เคยได้จริงๆเลย ทั้งๆที่ถ้าทำงานเกิน 6 เดือนแล้วจะต้องได้ เราก็ยังไม่ได้ เพราะว่าเราเป็นน้องใหม่ แต่เพื่อนเราที่อยู่อีกตึกทำได้แล้วทุกอย่าง ถ้าพี่ๆมีธุระสามารถของแลกเวรกับเราได้ แต่ถ้าเรามีธุระเราไม่สามรถขอแลกเวรได้ ยกเว้นเราลาไปแต่งงาน ไปสอบ หรือมีคนที่บ้านตาย เท่านั้น ซึ้งมันต้องถึงขนาดนั้นเลยหรอ แค่ขอแลกเวร ตามสิทธิที่ควรได้รับ หลายคนคงคิดว่าทำไมไม่ไปบอกหรือแจ้งกับคนที่มีตำแหน่งใหญ่ว่า เราบอกเลยทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าทำจะมีปัญหามากๆๆ เพราะมีรุ่นพี่เคยทำแล้ว และทุกคนก็ไม่ชอบเจาจนบีบให้เขาต้องออกไปอยู่ที่อื่น เราไม่อยากมีปัญหาขนาดนั้น เราถึงทนมาถึงทุกวันนี้ ทนมาเลื่อยๆ฿&@
ปล. มีเรื่องราวอีกมากมายที่เราโดน แต่ไม่สามารถพิมพ์หมดในครั้งเดียว เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังใหม่ว่าเป็นพยายาลจบใหม่ไม่ได้ง่ายนะ
ปล. ทุกทีอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ เราเล่าในมุมที่เราเจอมาเท่านั้น
ปล. อ่านเพื่อความยันเทิงนะคะ 😒😞 ไม่ต้องเครียดตาม เราโอเค