หลังจากเรียนจบมา ผมมีโอกาสได้ทำงานประจำ ซึ่งผมทุ่มเทกับงานประจำมาก อย่างมีความสุข มีไฟในกสรทำงาน
โดยตอนนั้นคิดแค่ว่า คนที่ทำงานต่อจากผมต้องทำงานง่าย และบริษัทต้องได้กำไรมากที่สุด โดยลึกๆอยากให้องค์กรเห็นความสำคัญของตัวเรา
แต่สิ่งที่ผมได้รับจากองค์กร มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย กลายเป็นว่าการทำงานของผมเป็น ทำดีเสมอตัว ทำชั่วตาย
คนอื่นรอแทงข้างหลังตลอด ด้วยความผิดหวังมากๆและหลายๆรอบ คำว่า " ทำไมต้องทน ? " กลายเป็นว่าผมเกิดอคติกับงานประจำไปเลย
บวกกับสถานการณ์ตอนนั้นมีบริษัทอีกที่เรียกตัวผมไปสัมภาษณ์ และให้ค่าตอบแทนที่มากขึ้นกับผม ผมเลยตัดสินใจย้ายงานครับ
แล้วพึ่งเริ่มงานที่ใหม่ได้ไม่นาน โดยคิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ความรู้สึกผมตอนนี้ คือชาๆ ไม่ทุ่มเทเหมือนเก่า ต่องาน (แต่ก็มีความรับผิดชอบอยู่นะครับ) และเหมือนเดิม ไม่อยากทำแล้ว ทำไมต้องทน
ผมเบื่อ มันไม่มีความสุขแม้แต่วินาทีเดียวในชีวิตตอนนี้เลยครับ
ผมรู้สึกหมดหนทางกับชีวิตมากเลยครับ
เอาไงกับงานประจำ และ เอาไงกับชีวิตดี
โดยตอนนั้นคิดแค่ว่า คนที่ทำงานต่อจากผมต้องทำงานง่าย และบริษัทต้องได้กำไรมากที่สุด โดยลึกๆอยากให้องค์กรเห็นความสำคัญของตัวเรา
แต่สิ่งที่ผมได้รับจากองค์กร มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย กลายเป็นว่าการทำงานของผมเป็น ทำดีเสมอตัว ทำชั่วตาย
คนอื่นรอแทงข้างหลังตลอด ด้วยความผิดหวังมากๆและหลายๆรอบ คำว่า " ทำไมต้องทน ? " กลายเป็นว่าผมเกิดอคติกับงานประจำไปเลย
บวกกับสถานการณ์ตอนนั้นมีบริษัทอีกที่เรียกตัวผมไปสัมภาษณ์ และให้ค่าตอบแทนที่มากขึ้นกับผม ผมเลยตัดสินใจย้ายงานครับ
แล้วพึ่งเริ่มงานที่ใหม่ได้ไม่นาน โดยคิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ความรู้สึกผมตอนนี้ คือชาๆ ไม่ทุ่มเทเหมือนเก่า ต่องาน (แต่ก็มีความรับผิดชอบอยู่นะครับ) และเหมือนเดิม ไม่อยากทำแล้ว ทำไมต้องทน
ผมเบื่อ มันไม่มีความสุขแม้แต่วินาทีเดียวในชีวิตตอนนี้เลยครับ
ผมรู้สึกหมดหนทางกับชีวิตมากเลยครับ