สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
อ่านแล้วทำไมมีแต่คนว่าจขกท. เราว่าจขกท. คิดแบบนี้ถูกแล้ว มันไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดถึงขั้นตาย แตาเป็นเรื่องกาลเทศะจริงๆค่ะ แล้วยิ่งเป็นพ่อแม่ตัวเองใครจะอยากให้พ่อแม่ตัวเองโดนดูถูก
วิธีแก้คือต้องบอกพ่อแม่ว่ามีหลายคนว่าจขกท.ว่าไม่ยอมซื้อเสื้อผ้าให้พ่อแม่บ้างแต่ตัวเองแต่งตัวซะดีเลย อะไรแบบนี้ ให้เค้ารู้ว่าคุณเดือดร้อน แต่งเฉพาะเวลาออกไปข้างนอก ไปกินข้าวนอกบ้าน ไปทำธุระติดต่องานก็พอ ไปตลาดใกล้บ้านเดินเล่นแถวบ้านจะใส่อะไรก็ใส่เลย
วิธีแก้คือต้องบอกพ่อแม่ว่ามีหลายคนว่าจขกท.ว่าไม่ยอมซื้อเสื้อผ้าให้พ่อแม่บ้างแต่ตัวเองแต่งตัวซะดีเลย อะไรแบบนี้ ให้เค้ารู้ว่าคุณเดือดร้อน แต่งเฉพาะเวลาออกไปข้างนอก ไปกินข้าวนอกบ้าน ไปทำธุระติดต่องานก็พอ ไปตลาดใกล้บ้านเดินเล่นแถวบ้านจะใส่อะไรก็ใส่เลย
ความคิดเห็นที่ 20
คิดว่ามีหลายคนที่อาจแบ่งการแต่งกายได้หลายพฤติกรรมในทางปฏิบัติจนคนภายนอกเห็นได้ คงขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละบุคคลที่..
1. ไม่รู้จักคิดแยกแยะ เช่น แต่งตัวไปงานชนิดไหน งานแต่ง งานศพ หรืองานไปรเวท เครื่องแต่งกายที่มีระดับเนี๊ยบ ดูแพงมีแบรนด์เนม คนที่ซื้อหามาใส่ย่อมได้เลือกตามรสนิยมของตนเองแล้ว
2. ไม่รู้จักมารยาทในการเข้าสังคม ว่ารูปแบบเป็นเช่นไร เช่นแต่งตัวไม่สุภาพ รัดกุม ไปวัดราวกับไปงานแสดงแฟชั่น ให้เกียรติต่อเจ้าภาพและสถานที่ด้วย
3. ทำตัวไม่สมฐานะ จะไปซื้อรถ แต่งตัวลากรองเท้าแตะ เซลล์คงพยายามนึกนะ ว่าในกระเป๋ากางเกงขาสั้นเขาอาจจะพกเงินสดเป็นฟ่อนก็ได้ อย่ารังเกียจผ้าขึ้ริ้วห่อทอง แต่เซลล์คงแอบนึกในใจว่า มีรสนิยมใช้รถมีระดับแต่ไม่รู้จักมีรสนิยมในการแต่งตัวเสียเลย
4. การแต่งกายที่ไม่ถูกกาลเทศะ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องรู้สึกแย่ไปด้วย
ถ้าเป็นคนนอกครอบครัวก็ไม่มีผลอะไร แต่นี่ขนาดลูกยังรับไม่ได้ แสดงว่าผู้ใหญ่ไม่รู้จักปรับตัว ทำให้ลูกได้รับความอับอาย ในสังคมจริงๆการแต่งตัวบ่งบอกตัวตนของคนได้ แม้แต่เยอรมันยังมีคำพูด Kleidung mach Mann
5. คนเราควรจะทำตัวสมฐานะ ไม่ต้องเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง หรือ จมไม่ลง เป็นตัวตนจริงๆที่รู้จักกาลเทศะ และมารยาทในสังคม ถึงแล้วกับการยอมรับนับถือที่คนอื่นจะมีให้
คุณต้องทำให้พ่อแม่รู้จักคิดว่าควรไม่ควร ก่อน ให้แคร์กับความรู้สึกของลูกบ้าง เพราะการแต่งตัวก็เพื่อปกปิดร่างกาย และดูดีในสายตาคนอื่นด้วย เป็นสังคมมนุษย์ที่พัฒนาทุกระบอบในประเพณีและวัฒนธรรม บางวัยอาจแต่งตัวประกวดประชันกันก็เป็นกิจกรรมตามวัยที่ควรสนุกสนานกับความสวยงามในหมู่เหล่าของเขา
สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล เสื้อผ้าสนับสนุนผู้สวมใส่..
1. ไม่รู้จักคิดแยกแยะ เช่น แต่งตัวไปงานชนิดไหน งานแต่ง งานศพ หรืองานไปรเวท เครื่องแต่งกายที่มีระดับเนี๊ยบ ดูแพงมีแบรนด์เนม คนที่ซื้อหามาใส่ย่อมได้เลือกตามรสนิยมของตนเองแล้ว
2. ไม่รู้จักมารยาทในการเข้าสังคม ว่ารูปแบบเป็นเช่นไร เช่นแต่งตัวไม่สุภาพ รัดกุม ไปวัดราวกับไปงานแสดงแฟชั่น ให้เกียรติต่อเจ้าภาพและสถานที่ด้วย
3. ทำตัวไม่สมฐานะ จะไปซื้อรถ แต่งตัวลากรองเท้าแตะ เซลล์คงพยายามนึกนะ ว่าในกระเป๋ากางเกงขาสั้นเขาอาจจะพกเงินสดเป็นฟ่อนก็ได้ อย่ารังเกียจผ้าขึ้ริ้วห่อทอง แต่เซลล์คงแอบนึกในใจว่า มีรสนิยมใช้รถมีระดับแต่ไม่รู้จักมีรสนิยมในการแต่งตัวเสียเลย
4. การแต่งกายที่ไม่ถูกกาลเทศะ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องรู้สึกแย่ไปด้วย
ถ้าเป็นคนนอกครอบครัวก็ไม่มีผลอะไร แต่นี่ขนาดลูกยังรับไม่ได้ แสดงว่าผู้ใหญ่ไม่รู้จักปรับตัว ทำให้ลูกได้รับความอับอาย ในสังคมจริงๆการแต่งตัวบ่งบอกตัวตนของคนได้ แม้แต่เยอรมันยังมีคำพูด Kleidung mach Mann
5. คนเราควรจะทำตัวสมฐานะ ไม่ต้องเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง หรือ จมไม่ลง เป็นตัวตนจริงๆที่รู้จักกาลเทศะ และมารยาทในสังคม ถึงแล้วกับการยอมรับนับถือที่คนอื่นจะมีให้
คุณต้องทำให้พ่อแม่รู้จักคิดว่าควรไม่ควร ก่อน ให้แคร์กับความรู้สึกของลูกบ้าง เพราะการแต่งตัวก็เพื่อปกปิดร่างกาย และดูดีในสายตาคนอื่นด้วย เป็นสังคมมนุษย์ที่พัฒนาทุกระบอบในประเพณีและวัฒนธรรม บางวัยอาจแต่งตัวประกวดประชันกันก็เป็นกิจกรรมตามวัยที่ควรสนุกสนานกับความสวยงามในหมู่เหล่าของเขา
สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล เสื้อผ้าสนับสนุนผู้สวมใส่..
ความคิดเห็นที่ 23
การรู้จักให้เกียรติเพื่อนร่วมโลกด้วยการแต่งกายให้เกียรติสายตาผู้พบเห็นถือเป็นมารยาทสังคมที่ควรมี
หากคิดว่าทำตัวติดดิน ไม่ทำตัวสูงเหนือใคร แต่ไฉนไม่รู้จักแต่งกายให้เกียรติผู้พบเห็น
การพูดจาดีสุภาพเป็นการแสดงออกที่มองได้ว่าใครมารยาทดีมารยาทไม่ดี
การแต่งกายก็เป็นการสื่อสารอย่างหนึ่งแต่เป็นการสื่อสารแบบไม่ใช้ภาษา
การแต่งกายให้เหมาะให้ดี(ไม่ต้องแบรนด์เนมก็ได้แต่ไม่ใช้รองเท้าคีบกับเสื้อผ้าสกปรกทั้งที่ตัวเองมีฐานะพอจะหาอะไรดีกว่านั้นใส่นั้น)
ก็เรียกได้ว่าเป็นผู้มีมารยาทดี
หากคิดว่าทำตัวติดดิน ไม่ทำตัวสูงเหนือใคร แต่ไฉนไม่รู้จักแต่งกายให้เกียรติผู้พบเห็น
การพูดจาดีสุภาพเป็นการแสดงออกที่มองได้ว่าใครมารยาทดีมารยาทไม่ดี
การแต่งกายก็เป็นการสื่อสารอย่างหนึ่งแต่เป็นการสื่อสารแบบไม่ใช้ภาษา
การแต่งกายให้เหมาะให้ดี(ไม่ต้องแบรนด์เนมก็ได้แต่ไม่ใช้รองเท้าคีบกับเสื้อผ้าสกปรกทั้งที่ตัวเองมีฐานะพอจะหาอะไรดีกว่านั้นใส่นั้น)
ก็เรียกได้ว่าเป็นผู้มีมารยาทดี
ความคิดเห็นที่ 69
เราเคยประสบปัญหาอย่างเจ้าของกระทู้ค่ะ
เราไม่ใช้คำว่าเตือน แต่เราแก้ไข ด้วยวิธีการอ้อนเอา
....
เรื่องเสื้อผ้า ถ้ารู้ว่าท่านไม่ชอบของแพง พาไปเดินห้าง ตรงที่ลดราคา
ให้ท่านเลือกแบบที่ชอบ หรือเราก็เลือกซื้อแบบที่คิดว่าท่านน่าจะชอบ
ประมาณสไตล์การแต่งตัวของท่านนั่นแหล่ะ แล้วเราก็อ้อนบอกแม่กับพ่อ
"เนี่ย ลูกซื้อให้แล้วต้องใส่น๊า เวลาลูกเห็นพ่อกับแม่ใส่ แล้วลูกชื่นใจ"
หรือ "ตัวนี้แม่ใส่แล้วดูดีจัง ต้องใส่บ่อย ๆ น๊า"
หรือ "พ่อจ๋า รองเท้าคู่เก่ามันพังแล้ว สลับใส่คู่ที่ลูกซื้อบ้าง ไม่ใส่ของที่ลูกซื้อให้เลยจะน้อยใจแล้วนะ"
สังเกต เวลาไปไหนมาไหนกับเราท่านก็จะใส่ตัวที่เราซื้อให้
หรือถ้ามีใครแซวท่านว่าแต่งตัวดีจัง ท่านก็จะพูดแบบอวด ๆ นิดนึง
"ลูกสาวซื้อให้ ต้องใส่เสียหน่อย เดี๋ยวลูกน้อยใจ"
อย่าใช้คำหรือสำเนียงตักเตือนค่ะ ผู้ใหญ่บางท่าน จะไม่ค่อยชอบ
เพราะท่านคิดอยู่เสมอว่าท่านผ่านโลกมาเยอะ ท่านรู้ดี
ดังนั้น ให้เราใช้สิทธิ์ความเป็นลูก เป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตในสายตาพ่อแม่ ค่อย ๆ พูดกับท่านค่ะ
...
ส่วนเรื่องขยะ เราทำตะแกรงเก็บขยะ
ประมาณนี้นะคะ 2 อันใหญ่ๆ เลย ทำที่ปิดให้ด้วยแบบกันลม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วให้ท่านเอาของพวกนั้นใส่ไปในบริเวณที่เราจัดสรรให้
เราอ้างว่า ท่านจะได้หาของได้ง่าย ๆ ไง เอาเก็บไว้เป็นที่แบบนี้
พอมันเริ่มเต็ม เราก็จะแอบเก็บไปทิ้งค่ะ หรือบางทีก็แอบใส่กระสอบ เอาไปให้ร้านขายของเก่า
...
ค่อย ๆ ปรับกันไปค่ะ หวังว่าของเราพอจะเป็นแนวทางให้เจ้าของกระทู้ได้นะคะ
เราไม่ใช้คำว่าเตือน แต่เราแก้ไข ด้วยวิธีการอ้อนเอา
....
เรื่องเสื้อผ้า ถ้ารู้ว่าท่านไม่ชอบของแพง พาไปเดินห้าง ตรงที่ลดราคา
ให้ท่านเลือกแบบที่ชอบ หรือเราก็เลือกซื้อแบบที่คิดว่าท่านน่าจะชอบ
ประมาณสไตล์การแต่งตัวของท่านนั่นแหล่ะ แล้วเราก็อ้อนบอกแม่กับพ่อ
"เนี่ย ลูกซื้อให้แล้วต้องใส่น๊า เวลาลูกเห็นพ่อกับแม่ใส่ แล้วลูกชื่นใจ"
หรือ "ตัวนี้แม่ใส่แล้วดูดีจัง ต้องใส่บ่อย ๆ น๊า"
หรือ "พ่อจ๋า รองเท้าคู่เก่ามันพังแล้ว สลับใส่คู่ที่ลูกซื้อบ้าง ไม่ใส่ของที่ลูกซื้อให้เลยจะน้อยใจแล้วนะ"
สังเกต เวลาไปไหนมาไหนกับเราท่านก็จะใส่ตัวที่เราซื้อให้
หรือถ้ามีใครแซวท่านว่าแต่งตัวดีจัง ท่านก็จะพูดแบบอวด ๆ นิดนึง
"ลูกสาวซื้อให้ ต้องใส่เสียหน่อย เดี๋ยวลูกน้อยใจ"
อย่าใช้คำหรือสำเนียงตักเตือนค่ะ ผู้ใหญ่บางท่าน จะไม่ค่อยชอบ
เพราะท่านคิดอยู่เสมอว่าท่านผ่านโลกมาเยอะ ท่านรู้ดี
ดังนั้น ให้เราใช้สิทธิ์ความเป็นลูก เป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตในสายตาพ่อแม่ ค่อย ๆ พูดกับท่านค่ะ
...
ส่วนเรื่องขยะ เราทำตะแกรงเก็บขยะ
ประมาณนี้นะคะ 2 อันใหญ่ๆ เลย ทำที่ปิดให้ด้วยแบบกันลม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วให้ท่านเอาของพวกนั้นใส่ไปในบริเวณที่เราจัดสรรให้
เราอ้างว่า ท่านจะได้หาของได้ง่าย ๆ ไง เอาเก็บไว้เป็นที่แบบนี้
พอมันเริ่มเต็ม เราก็จะแอบเก็บไปทิ้งค่ะ หรือบางทีก็แอบใส่กระสอบ เอาไปให้ร้านขายของเก่า
...
ค่อย ๆ ปรับกันไปค่ะ หวังว่าของเราพอจะเป็นแนวทางให้เจ้าของกระทู้ได้นะคะ
ความคิดเห็นที่ 11
อ่านประโยคแรก ความเห็นผม ปัญหาอยู่ที่คุณมากกว่า
ผมว่าพ่อแม่คุณหลุดพ้นอยู่เหนือค่านิยมตีกรอบทางสังคมที่ริดรอนสิทธิส่วนบุคคลไปแล้ว
ค่านิยมหลายอย่างโดยเฉพาะความฟุ้งเฟ้อถูกกล่อมเกลาอย่างสมรู้ร่วมคิด (Conspiracy theory) จนมันรวยเอารวยเอา ไม่เลิก
อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะแก้ไขอย่างไร เพราะผมเป็นมากกว่าพ่อแม่คุณสองเท่า โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายผมใส่เสื้อผ้า 3 ตัวร้อยเดินเข้า รร 5 ดาว เดินเท้าเปล่ารองเท้าแตะบินไปยุโรป ไม่เห็นรู้สึกอะไร
พี่สาวผมแก่แล้วยิ่งหนักบินจากอังกฤษ หิ้วถุงกรอบแก๊รบใส่เงินขึ้นรถเมล์ซื้อตึกแถว เขาบอกแบบนี้ปลอดภัยดี ไม่เห็นต้องแคร์ว่าใครจะดูถูก
ผมว่าพ่อแม่คุณหลุดพ้นอยู่เหนือค่านิยมตีกรอบทางสังคมที่ริดรอนสิทธิส่วนบุคคลไปแล้ว
ค่านิยมหลายอย่างโดยเฉพาะความฟุ้งเฟ้อถูกกล่อมเกลาอย่างสมรู้ร่วมคิด (Conspiracy theory) จนมันรวยเอารวยเอา ไม่เลิก
อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะแก้ไขอย่างไร เพราะผมเป็นมากกว่าพ่อแม่คุณสองเท่า โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายผมใส่เสื้อผ้า 3 ตัวร้อยเดินเข้า รร 5 ดาว เดินเท้าเปล่ารองเท้าแตะบินไปยุโรป ไม่เห็นรู้สึกอะไร
พี่สาวผมแก่แล้วยิ่งหนักบินจากอังกฤษ หิ้วถุงกรอบแก๊รบใส่เงินขึ้นรถเมล์ซื้อตึกแถว เขาบอกแบบนี้ปลอดภัยดี ไม่เห็นต้องแคร์ว่าใครจะดูถูก
แสดงความคิดเห็น
พ่อแม่แต่งตัวไม่ถูกกาลเทศะ จะเตือนยังไงไม่ให้บาปคะ
เราซื้อเสื้อผ้าให้พ่อแม่ตามสมัยนิยมบ้าง ท่านไม่ชอบชอปปิ้ง พวกกระเป๋า Prada เข็มขัด เสื้อผ้าแบรนด์ให้ใช้ แต่ท่านชอบขวางแนวคิดคนส่วนใหญ่ บ้านก็ปล่อยรก เก็บเศษไม้ กระเบื้องแตก เก็บขยะ ถุงก๊อบแก๊บไว้เต็มบ้าน เค้าบอกว่าเผื่อสักวันจะได้ใช้ หยิบของเก่าที่สภาพดูไม่ดีแล้วมาใช้ หมวกทรง bucket เป็นคราบเหงื่อสีเหลือง เสื้อตะเข็บปลิ้นออกมา เอาถุงก๊อบแก๊บมาใส่ถุงผ้าเก่าๆ มาใส่กระเป๋าเงินเป๋นถุงแถมจากโรงพยาบาลที่เลอะคราบกาแฟอีกที ทั้งๆที่เค้ารณรงค์ลดใช้ขยะ และถุงพลาสติกกัน เค้าคิดว่าทำแบบนี้คือติดดิน พอเพียง ประหยัด ชอบทำตัวติดดินโดยไม่จำเป็น (คิดว่าแบบนี้คือติดดิน) ไม่ให้เกียรติสถานที่ ไปติดต่อใครเค้าก็มองหัวจรดเท้า สลับมามองเราที่แต่งตัวสุภาพ เค้าคงคิดในใจว่าเราขูดเงินพ่อแม่มาปรนเปรอตัวเองจนพ่อแม่ไม่มีเงินกืนข้าว แต่งตัว เราบอกเค้าเตือนเค้าก็น้อยใจ ทะเลาะกันกลายเป็นบาปอีก
จะแก้ปัญหายังไงดีคะ เค้าหาว่าเราคิดไม่ดีเอง เราไม่อยากให้พ่อแม่มาโดนคนอื่นดูถูก แค่แต่งตัวสะอาดก็พอแล้ว นี่เค้าหาว่ามีแต่เราที่คิดไม่ดีแค่พูดเตือนเค้า เก็บตะเข็บ เอาเสื้อเข้ากางเกง ประชดว่าป่านนี้มีคนเค้าอัดกล้องไว้แล้ว พาไปไหนยอมรับว่าอายค่ะ เช่น จะไปติดต่อศูนย์ราชการ งานแต่งงาน โชวร์รูมรถเบ๊นซ์ เวลาเค้าโดนคนพูดจาไม่ดี ได้รับการบริการที่ไม่ดีมา ก็ชอบมาพูดที่บ้านว่าเห็นเราแต่งตัวไม่ดีล่ะสิ มาน้อยใจ บ่น แต่ไม่ฟังเวลาเราเตือนก่อนออกจากบ้านเลย ทะเลาะทุกรอบ กลับมาน้อยใจ ไม่รู้ลึกๆเค้าอยากจะลองทดสอบอะไรกับสังคมอยู่ มีอาการประชดประชันตลอด
มีใครที่พ่อแม่มีปัญหาแบบนี้บ้าง โรคเก็บขยะเข้าใจว่ามีชื่อโรค hoarding disorder ไม่แน่ใจว่าอาการนี้รวมในนี้มั้ย หรือมีโรคอื่น วอนผู้เชี่ยวชาญตอบด้วยค่ะ