จุดขายของ ซีแซด 452 คือแข็งแรงทนทาน แม่นยำ เหนือกว่าปืนระดับราคาเดียวกันมาก และถ้าเป็นปืนที่แม่นระดับเดียวกันก็จะแพงกว่าซีแซดเป็นเท่าตัว ที่สำคัญคือด้านความแข็งแรงทนทานไม่มียี่ห้ออื่นเทียบได้



ปืนยาวลูกกรดยอดนิยมในตลาดปืนบ้านเรา คือ “ซีแซด” (CZ) แบบลูกเลื่อน มีขายทุกร้าน พบได้ทุกสนามแข่งประเภท “ปืนยาวชาวบ้าน” ประมาณว่านับจำนวนปืนลูกกรดยาวแบบลูกเลื่อนยี่ห้ออื่นทั้งหมดรวมกัน ยังไม่ได้ครึ่งของซีแซด ต้องรวมระบบการทำงานอื่น ๆ เช่น กึ่งอัตโนมัติ กับคานเหวี่ยง เข้าไปด้วยถึงจะพอเทียบกับซีแซดลูกเลื่อนได้ มีเพียงตลาดปืนยิงเป้าระบบสากลที่ซีแซดไม่ทำ อาจเป็นเพราะเห็นว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่จำกัด ขายได้จำนวนไม่มาก แต่ต้องลง ทุนด้านวิจัยพัฒนาสูงกว่าตลาดปืนชาวบ้านทั่วไป

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซีแซดเริ่มผลิตลูกกรด โมเดล 1 ใช้ชุดลั่นไกตามแบบลูกเลื่อนเมาเซอร์ มีระยะลากเป็นสองจังหวะ ติดศูนย์หลังพับได้สามระยะ จากนั้นเป็น โมเดล 2 ศูนย์สะพานเลื่อนปรับได้ ใช้ชุดลั่นไกแบบใหม่หลุดคมไม่มีลาก ตามด้วย โมเดล 3 เป็นปืนยิงเป้าลำกล้องหนาและหนัก ชุดลั่นไกซับซ้อนขึ้นอีกระดับ โมเดล 4 ลำกล้องหนาเหมือนโมเดล 3 แต่ใช้ชุดลั่นไกของโมเดล 2 และสุดท้ายของช่วงทศวรรษ 1960 คือโมเดล 5 ใช้ลำกล้องกับศูนย์เหมือนโมเดล 1 แต่ชุดลั่นไกใช้ของโมเดล 2 ปืนที่ผลิตในระยะแรกนี้มักตียี่ห้อเป็น “บรอโน” (Brno) ตามชื่อโรงงานดั้งเดิม เป็นปืนที่มีผู้เสาะหากันมากในลักษณะสะสม ต้องการเก็บให้ครบชุด




เมื่อเข้าทศวรรษ 1970 ปืนใหม่จากโรงงานเหลือแต่โมเดล 2 ที่เพิ่มรหัสเป็น 2E จนหลังยุคสงครามเย็น แยกประเทศ เช็ก กับ สโลวัค ปืนรุ่นนี้ได้ชื่อรหัสเป็น 452-2E เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่ายังเหมือนเดิม โดยมีแบบย่อยไม่ติดศูนย์อีกสามแบบ คือ ซิลลูเอ็ต พานท้ายไฟเบอร์, วาร์มินท์ ลำกล้องหนา และ อเมริกัน เพื่อจับตลาดอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ
จุดขายของ ซีแซด 452 คือแข็งแรงทนทาน แม่นยำ เหนือกว่าปืนระดับราคาเดียวกันมาก และถ้าเป็นปืนที่แม่นระดับเดียวกันก็จะแพงกว่าซีแซดเป็นเท่าตัว ที่สำคัญคือด้านความแข็งแรงทนทานไม่มียี่ห้ออื่นเทียบได้ ซีแซดทนผลิต 452 ตามแบบเดิม จำเป็นต้องขึ้นราคาตามค่าแรงของโลกเสรีที่สูงกว่า จนในที่สุดประกาศหยุดการผลิตโมเดล 452 มีเหลือขายเพียงแบบลูกเลื่อนซ้ายที่ยังค้างสต๊อกอยู่บ้าง รุ่นที่ออกมาแทนคือ โมเดล 455 ที่ซีแซดหวังว่าจะรักษามาตรฐาน “คุณภาพเกินราคา” ไว้ได้ โดยอาศัหลักโมดุลลาร์ โครงลูกเลื่อนชุดเดียวเปลี่ยนใส่ลำกล้องได้ 4 ขนาด คือ .22 LR กับ .17 HM2 ใช้ซองกระสุนปกติ และ .22 แม็กนั่ม กับ .17 HMR ใช้ซองกระสุนกว้างรับกับกระสุนที่ยาวกว่า ความยาวลำกล้อง 525 มม. (20.7 นิ้ว) และรุ่นยาว 630 มม. (24.8 นิ้ว) เท่า 452 เดิม



ล่าสุดสำหรับปี 2015 ซีแซดออกรุ่น 455 “จากัวร์” ใส่ลำกล้องยาวพิเศษ 726 มม. (28.6 นิ้ว) เท่ากับ 452 จากัวร์/ซูเปอร์เอ็กซ์คลูซีฟ ที่นักยิงปืนยาวศูนย์เปิดพาดแท่นยกย่องกันว่าแม่นสุดยอด สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อมาเป็น 455 คือ ลำกล้องยึดกับโครงด้วยสกรูยันสองตัว ถอดเปลี่ยนได้, ลูกเลื่อนขัดกลอนที่ก้านลูกเลื่อน ไม่มีปีกด้านใน ซึ่งทำให้ไม่ต้องเซาะร่องด้านในห้องลูกเลื่อน, และเมื่อถอดดูภายในจะเห็นตัวเสริมบ่อรับซองกระสุน ซึ่งด้านบนเป็นขาเตะปลอก ถอดชิ้นนี้ออกจะรับซองกระสุนสำหรับ .22 แม็กนั่มได้
สิ่งที่เหมือนเดิมคือ ชุดลั่นไกยังใช้แบบ 452 โดยวัสดุตัวไกเปลี่ยนเป็นสเตนเลส, ศูนย์หลังแบบสะพานเลื่อนปรับได้ถึง 200 เมตร, ศูนย์หน้าเลื่อนปรับสูงต่ำได้ โดยทั้งศูนย์หน้าและศูนย์หลังสามารถถอดออกได้ทั้งชุด เพื่อความสะดวกในการติดกล้องเล็ง และอุปกรณ์ถ่วงปรับน้ำหนักที่ปลายลำกล้องเพื่อให้ได้ความแม่นยำสูงสุด ลำกล้องยาวของ จากัวร์ มีข้อดีหลายอย่าง นอกจากจะช่วยลดเสียงให้เบากว่าลำกล้องสั้นแล้ว ยังช่วยให้ได้ความเร็วกระสุนแรงสูงเพิ่มขึ้นเมื่อใช้กระสุนแรงสูง และเมื่อใช้กระสุนยิงเป้าก็จะช่วยหน่วงให้ความเร็วต่ำกว่าเสียง เพิ่มความแม่นยำได้อีกจุดหนึ่งด้วย.



https://www.dailynews.co.th/article/327844

-------------------------------
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช