เนื้อหาต่อจากกระทู้ที่แล้วนะคะ
การฝังจิวเวลรี่แบบไร้หนามบนเครื่องประดับ
https://ppantip.com/topic/40598861
นอกจากเทคนิคก็ฝังอัญมณีแบบไร้หนามแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือการเจียระไนอัญมณีให้สวยงามดูล้ำค่า ขึ้นอยู่กับการสะท้อนแสงและเปล่งประกายได้อย่างเจิดจ้า ส่วนใหญ่มักคิดว่าการเจียระไนเพชรแค่ทำให้เป็นรูปทรงสวยงาม เช่น รูปทรงกลม, รูปหัวใจ, รูปวงรี, รูปทรงมาร์คีส์, รูปทรงลูกแพร์ แต่จริงๆแล้วการเจียระไนเพชรหมายถึงการที่เหลี่ยมเพชรมีปฏิสัมพันธ์กับแสงได้ดีเพียงใด ต้องใช้ศิลปะและฝีมือที่แม่นยำในการสร้างคุณค่าของหิน ดังนั้นสัดส่วนความสมมาตรและการขัดเงาอย่างถูกต้องเหมาะสมกับวิธีการฝังจึงสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถทำให้เพชสะท้อนแสงที่งดงามสวยสว่างได้เต็มศักยภาพ
การเจียระไรเพชรสำหรับใช้ฝังเครื่องประดับไร้หนามนั้นต้องละเอียดและระมัดระวังมากกว่าปกติ เนื่องจากต้องให้เหลี่ยมมุมของอัญมณีชนกันได้แนบสนิทพอดี อัญมณีที่ใช้มักเป็นทรงสี่เหลี่ยม(princess cut) การใช้อัญมณีทรงกลม (round diamond) จึงฝังแบบไร้หนามไม่ได้ การฝังแบบนี้นับว่าเป็นการฝังที่ยากที่สุด เพราะต้องใช้ความแม่นยำสูงมาก
นอกจากเทคนิคการฝังยังมีอีก 2 กระบวนการสำคัญที่ทำให้การฝังไร้หนามสมบรูณ์แบบ คือ การเจียระไน และ การคัดพลอย
การเจียระไนเพื่อเพิ่มประกายให้พลอย มี 2 แบบที่เหมาะกับการฝังแบบไร้หนาม
การเจียระไนแบบเหลี่ยมชั้น (step cut): มีอยู่หลายรูปแบบที่อาจมีเทคนิคการเจียระไนต่างกันไป เช่น Asscher, Emerald, Baguette, Carre แต่ละแบบมีลักษณะร่วมกันอยู่สองอย่าง หนึ่งคือมีหน้าพลอย(table) เป็นรุปเหลี่ยม สองคือหน้าเจียระไน(facet) เป็นแทบรูปเหลี่ยมขนานไปกับขอบพลอยและหน้าเพลอยเหมือนขั้นบันได การเจียระไนแบบนี้มักมีหน้าพลอยใหญ่แต่สะท้อนแสงได้น้อยกว่าการเจียรแบบ Brilliant cut แต่สามารถโชว์ความสะอาดของพลอยได้มากกว่าเช่นกัน จึงมีความงามไม่น้อยไปกว่ากัน ประกายแวววาวของอัญมณีเหล่านี้ได้เชื่อว่า “Hall of mirrors”
การเจียระไนแบบเหลี่ยมฝรั่งเศส (French cut): การเจียระแบบนี้หน้าเจียระไน(facet) จะเป็นรูปสามเหลี่ยมเอียงประกบหน้าพลอยและขอบพลอยประกอบกันจนได้รูปสี่เหลี่ยม ส่วนหน้าพลอยอาจเป็นได้หลายรูปทรง เช่น ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือทรงแปดเหลี่ยม การเจียระไนแบบนี้เป็นการเจียระไนที่มีรูปทรงสวยงามและเก่าแก่ เป็นวิธีการเจียระไนที่สะท้อนแสงของพลอยให้ประกายมากกว่าการเจียระไนแบบเหลี่ยมชั้น
การคัดพลอย เป็นกระบวนการที่สำคัญเนื่องจากพลอยทุกเม็ดหลังจากเจียระไนต้องมีสีพลอยทีเหมือนกันมากที่สุด กระบวนการนี้จึงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญนอกจากเทียบสีพลอยยังต้องพิจารณาเนื้อของพลอยเพื่อประเมินหลังการเจียระไนให้มีสีที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาก
การฝังไร้หนามมีขั้นตอนพิเศษทุกขั้นตอน ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญในการผลิตทุกขั้นตอน เครื่องประดับแต่ละชิ้นจึงมีการออกแบบเฉพาะเพื่อเพิ่มความมีเอกลักษณ์ แต่ละกระบวนการผลิตใช้ระยะเวลาในการผลิตมาก ปัจจุบันการฝังแบบนี้ไม่ค่อยมี เพราะกระบวนการที่ยุ่งยากใช้เวลานานอีกทั้งต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะจึงทำให้เครื่องประดับไร้หนามมีราคาสูง เครื่องประดับไร้หนามนับว่าเป็นเครื่องประดับหรูหราราคาแพง เพราะมีคุณค่าแก่การสะสมบ่งบอกถึงฐานะส่งต่อเป็นมรดกที่มีความหมาย เครื่องประดับไร้หนามสามารถพูดได้ว่าแต่ละชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลกแต่ละกระบวนการผลิตผลิตด้วยมือเครื่องประดับแต่ละชิ้นจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะ ถึงแม้จะมีรูปทรงที่เหมือนกันแต่สีพลอยและเทคนิคการฝังขึ้นอยู่กับผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน ควรเลือกร้านที่ชำนาญเรื่องนี้จริงๆนะคะ
การเจียระไรเพชรที่สำหรับใช้ฝังเครื่องประดับไร้หนาม
การฝังจิวเวลรี่แบบไร้หนามบนเครื่องประดับ
https://ppantip.com/topic/40598861
นอกจากเทคนิคก็ฝังอัญมณีแบบไร้หนามแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือการเจียระไนอัญมณีให้สวยงามดูล้ำค่า ขึ้นอยู่กับการสะท้อนแสงและเปล่งประกายได้อย่างเจิดจ้า ส่วนใหญ่มักคิดว่าการเจียระไนเพชรแค่ทำให้เป็นรูปทรงสวยงาม เช่น รูปทรงกลม, รูปหัวใจ, รูปวงรี, รูปทรงมาร์คีส์, รูปทรงลูกแพร์ แต่จริงๆแล้วการเจียระไนเพชรหมายถึงการที่เหลี่ยมเพชรมีปฏิสัมพันธ์กับแสงได้ดีเพียงใด ต้องใช้ศิลปะและฝีมือที่แม่นยำในการสร้างคุณค่าของหิน ดังนั้นสัดส่วนความสมมาตรและการขัดเงาอย่างถูกต้องเหมาะสมกับวิธีการฝังจึงสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถทำให้เพชสะท้อนแสงที่งดงามสวยสว่างได้เต็มศักยภาพ
การเจียระไรเพชรสำหรับใช้ฝังเครื่องประดับไร้หนามนั้นต้องละเอียดและระมัดระวังมากกว่าปกติ เนื่องจากต้องให้เหลี่ยมมุมของอัญมณีชนกันได้แนบสนิทพอดี อัญมณีที่ใช้มักเป็นทรงสี่เหลี่ยม(princess cut) การใช้อัญมณีทรงกลม (round diamond) จึงฝังแบบไร้หนามไม่ได้ การฝังแบบนี้นับว่าเป็นการฝังที่ยากที่สุด เพราะต้องใช้ความแม่นยำสูงมาก
นอกจากเทคนิคการฝังยังมีอีก 2 กระบวนการสำคัญที่ทำให้การฝังไร้หนามสมบรูณ์แบบ คือ การเจียระไน และ การคัดพลอย
การเจียระไนเพื่อเพิ่มประกายให้พลอย มี 2 แบบที่เหมาะกับการฝังแบบไร้หนาม
การเจียระไนแบบเหลี่ยมชั้น (step cut): มีอยู่หลายรูปแบบที่อาจมีเทคนิคการเจียระไนต่างกันไป เช่น Asscher, Emerald, Baguette, Carre แต่ละแบบมีลักษณะร่วมกันอยู่สองอย่าง หนึ่งคือมีหน้าพลอย(table) เป็นรุปเหลี่ยม สองคือหน้าเจียระไน(facet) เป็นแทบรูปเหลี่ยมขนานไปกับขอบพลอยและหน้าเพลอยเหมือนขั้นบันได การเจียระไนแบบนี้มักมีหน้าพลอยใหญ่แต่สะท้อนแสงได้น้อยกว่าการเจียรแบบ Brilliant cut แต่สามารถโชว์ความสะอาดของพลอยได้มากกว่าเช่นกัน จึงมีความงามไม่น้อยไปกว่ากัน ประกายแวววาวของอัญมณีเหล่านี้ได้เชื่อว่า “Hall of mirrors”
การเจียระไนแบบเหลี่ยมฝรั่งเศส (French cut): การเจียระแบบนี้หน้าเจียระไน(facet) จะเป็นรูปสามเหลี่ยมเอียงประกบหน้าพลอยและขอบพลอยประกอบกันจนได้รูปสี่เหลี่ยม ส่วนหน้าพลอยอาจเป็นได้หลายรูปทรง เช่น ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือทรงแปดเหลี่ยม การเจียระไนแบบนี้เป็นการเจียระไนที่มีรูปทรงสวยงามและเก่าแก่ เป็นวิธีการเจียระไนที่สะท้อนแสงของพลอยให้ประกายมากกว่าการเจียระไนแบบเหลี่ยมชั้น
การคัดพลอย เป็นกระบวนการที่สำคัญเนื่องจากพลอยทุกเม็ดหลังจากเจียระไนต้องมีสีพลอยทีเหมือนกันมากที่สุด กระบวนการนี้จึงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญนอกจากเทียบสีพลอยยังต้องพิจารณาเนื้อของพลอยเพื่อประเมินหลังการเจียระไนให้มีสีที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาก
การฝังไร้หนามมีขั้นตอนพิเศษทุกขั้นตอน ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญในการผลิตทุกขั้นตอน เครื่องประดับแต่ละชิ้นจึงมีการออกแบบเฉพาะเพื่อเพิ่มความมีเอกลักษณ์ แต่ละกระบวนการผลิตใช้ระยะเวลาในการผลิตมาก ปัจจุบันการฝังแบบนี้ไม่ค่อยมี เพราะกระบวนการที่ยุ่งยากใช้เวลานานอีกทั้งต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะจึงทำให้เครื่องประดับไร้หนามมีราคาสูง เครื่องประดับไร้หนามนับว่าเป็นเครื่องประดับหรูหราราคาแพง เพราะมีคุณค่าแก่การสะสมบ่งบอกถึงฐานะส่งต่อเป็นมรดกที่มีความหมาย เครื่องประดับไร้หนามสามารถพูดได้ว่าแต่ละชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลกแต่ละกระบวนการผลิตผลิตด้วยมือเครื่องประดับแต่ละชิ้นจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะ ถึงแม้จะมีรูปทรงที่เหมือนกันแต่สีพลอยและเทคนิคการฝังขึ้นอยู่กับผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน ควรเลือกร้านที่ชำนาญเรื่องนี้จริงๆนะคะ