เพื่อนๆในนี้ใครเคยเป็นคนที่ใจดี ขี้เกรงใจต่อเพื่อนมนุษย์ กลับกลายเป็นคนเลือดเย็นเห็นแก่ตัวแบบสุดๆบ้างครับ

คือเนเจอร์ผมเป็นคนใจดีนะครับ ขึ้เกรงใจ  ตอนนี้เพิ่งย้ายบ้านมาสองปี เจอแต่เพื่อนบ้านแย่ๆหมดเลยครับ  ผมกลัวว่าการที่เห็นความเห็นแก่ตัวของบ้านข้างๆ และอู่ซ่อมรถที่ติดกัน ที่ทำเห็นแก่ตัวใส่กันต่อกันทุกวัน มันจะทำให้ผมกลายเป็นเหมือนพวกเขา ที่จะจ้องจะเอาเปรียบสังคมให้ได้มากที่สุด เยอะที่สุด แบบหักเหลี่ยมหน้าด้านสุดๆ  ตอนนี้ผมเริ่มติดนิสัยคนพวกนี้ไปในที่ๆอื่นซึ่งไม่ใช่แถวบ้านผม ผมควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีครับ ตอนนี้คิดว่าผมเป็นคนเลือดเย็นพร้อมหักเหลี่ยมในสังมไประดับนึงแล้วครับ ผมไม่อยากเป็นเลย
เพื่อนมีใครเป็นบ้าง
ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
มันเป็น process ของการพัฒนานะ ผมเห็นในตัวเองและหลายๆคน

1. เริ่มจากการเป็นคนขี้เกรงใจ พยายามทำให้สังคมยอมรับ
2. ถึงจุดนึงเรียนรู้ว่าสังคมมันก็เฮงซวย มีแต่คนคอยเอาเปรียบ จึงมีพฤติกรรมต่อต้าน
3. เรียนรู้ว่าการต่อต้านสังคมมันก็แย่พอกับการทำตามสังคม เริ่มจะหาจุดสมดุล

ขั้นสุดท้ายในการหาจุดสมดุลนี่แหละ มันจะมีหลายๆอย่างมาปะทะกัน เช่น

- ความรู้สึกผิดที่ทำในสิ่งที่อาจจถูกมองว่าไม่ดี สิ่งที่ถูกมองว่า “เลือดเย็น”
- ความจำเป็นที่จะต้องปกป้องตนเอง เพื่อที่จะอยู่รอด
- ความกลัวว่าเราอาจกำลังไปในทางที่ผิด เผลอไปทำสิ่งที่ผิด และแก้ไขไม่ได้
- ความกลัวว่าถ้าเราเป็นคนดี ปล่อยให้คนอื่นเอาเปรียบ นอกจากเราจะกลายเป็นผู้แพ้แล้ว สังคมก็ยังไม่ได้ยอมรับเราอยู่ดี มีแต่จะถูกเอาเปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งมันไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มันไม่มีสูตรสำเร็จ ว่าเราควร “เลือดเย็น” หรือไม่ มากแค่ไหน

แต่สิ่งนึงที่ชัดเจนคือ เราเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า คนที่เขาทำสิ่งที่เห็นแก่ตัว ทำสิ่งที่ไม่น่ารัก เขามีความรู้สึกอย่างไร

อย่างน้อยมันก็ทำให้เราสามารถที่จะเห็นอกเห็นใจเขาได้มากขึ้น ซึ่งนั่นอาจเป็นจุดเริ่มที่ดี
ความคิดเห็นที่ 28
ส่วนตัวผม อายุปาเข้า 50 ปีแล้ว  

ก็ยังคงยึดถือคติว่า ใครจะเอาเปรียบเราอย่างไร ก็ไม่เป็นไร ช่างเขา  แต่เราจะต้อง (พยายาม) ไม่ไปเอาเปรียบคนอื่น

ที่ใช้คำว่า "พยายาม" เพราะวิสัยมนุษย์ที่ยังไม่ดับกิเลส  ก็มีบางครั้งหรือหลายครั้งที่เราจะไปเอาเปรียบคนอื่นโดยไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวแล้วก็ยังจะขืนทำ


สรุป ผมถือคติตรงข้ามกับโจโฉ  คือ ยอมให้คนทั้งโลกเอาเปรียบหรือหักหลัง แต่จะ(พยายาม)ไม่ยอมเอาเปรียบหรือหักหลังคนอื่น

ด้วยผลของการยึดถือคติเช่นนี้  ทำให้เราไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจหรือเป็นทุกข์กับการกระทำของคนอื่นที่มีต่อเรา  มีแต่ความสบายใจสุขใจในชีวิต
บางครั้งถึงกับต้องเผลออุทานว่า "ทำไมเราถึงมีความสุขเช่นนี้หนอ มันสุขใจจริงๆ  สุขจนแทบจะเอ่อล้นออกมาจากใจแล้วหนอ 555+"

ดีกว่าการที่จะต้องมานั่งเครียด ปวดหัวปวดกบาลกับการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่น  มาคอยป้องกันไม่ให้คนอื่นเอาเปรียบเราอย่างเด็ดขาด  หัวเด็ดตีนขาดก็ยอมไม่ได้เลย  จะเป็นจะตายให้ได้

ผมเป็นนักกฎหมาย  เป็นทนายความ  แต่เรื่องเดียวที่จะไม่ทำหรือเลี่ยงที่จะทำ ก็คือการยกเอากฎหมายมาขู่เพื่อนบ้าน
ความคิดเห็นที่ 1
เราก็เป็น ใจดี+ขี้เกรงใจ
ก็โดนเอาเปรียบเยอะอยู่ 5555  

แต่ยังไม่กลายเป็นคนเลือดเย็นเห็นแก่ตัวแบบสุดๆ

แค่เลือกที่จะเลือดเย็น+โหดเป็นคนๆไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่