กราบสวัสดีพ่อ แม่ พี่ น้อง ประชาโอตะครับผม มาตามคำสัญญาว่าถ้าไม่ขี้เกียจ จะมาเขียนเปิดประเด็นแลกเปลี่ยนความรู้ และความคิดเชิงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ BNK48
สำหรับวันนี้ อยากขอเปิดประเด็นอ้างอิงข้อมูลจาก รายงาน และงบการเงิน บริษัท แพลน บี มีเดีย จํากัด (มหาชน) และบริษัทย่อย 31 ธันวาคม 2563
https://investor.planbmedia.co.th/misc/fs/20210225-planb-fs-fy2020-th-01.pdf
ประเด็นแรก คือ สถานการณ์ลงทุนในบริษัทต่าง ๆ
อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบัน PLANB ถือหุ้นใน บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด (“iAm”) 35% ผ่านบริษัท บริษัท มาสเตอร์ แสตนดาร์ด ดิสเพลย์ จำกัด ที่ PLANB ถือหุ้น 100%
สิ้นปี 2563 ทาง iAm มีการลงทุนในบริษัททั้งหมด 7 บริษัท ได้แก่
บริษัท แพลตฟอร์ม มักกะสัน จำกัด 70%
ร่วมกับทีมครูใหญ่เอ๊ะโรงเรียนบีเอ็นเค นั่นเอง ลงทุนไป 1.4 ล้านบาท คิดว่าเป็นความสัมพันธ์อันดีระยะยาวที่จะช่วงสร้างผลงานทางดนตรีออกมาซับพอร์ตน้อง ๆ ต่อไป
บริษัท มอร์ แดน ไอ แคน เซย์ จำกัด 65%
เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท มารีน ไลฟ์ โซลูชั่น จำกัด ลงทุนร่วมกับเจ้าของบริษัทนำเข้าเรือยอร์ช ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน โดยแจ้งจุดประสงค์ เป็น ผู้ประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ ลงทุนไปราว 1.4 ล้านบาท เช่นกัน
บริษัท ดรีมเมอร์ส โซไซตี้ จำกัด 59%
ร่วมลงทุนกับพี่ติ๊ก ทำ The Brother แต่สถานการณ์ที่เห็นปัจจุบันคาดว่าคงไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ลงทุนไปราว 5.9 ล้านบาท
บริษัท ทาเลนท์ คอนเนคท์ จำกัด 57.67%
ผู้ผลิต iAm48 Applications ที่ประชาเราใช้ในการสื่อสารกับน้อง
บริษัท เดอะ สกา ทาเลนท์ เมนเนจ เม้นต์ จำกัด 50%
ร่วมงานกับทาง เดอะ สกา ลงทุนไปราว 2.5 ล้านบาท แต่สถานการณ์ที่เห็นปัจจุบันคาดว่าคงไม่เป็นได้ไปต่อ
กิจการร่วมค้า ต้อมโอ๋เปิ้ลฟิล์ม 33.33%
(ผลไม่ทราบข้อมูลในส่วนนี้เลยครับ ท่านใดมีความรู้แลกเปลี่ยนกันได้ครับ)
บริษัท กู๊ดธิงแฮพเพ่น จำกัด 16%
บริษัทสื่อโฆษณาที่เกิดจากความร่วมมือของ PLANB + ช่อง 3 + GMM + GDH ผมคาดว่านี่คือเหตุผลที่เราได้เห็นน้องในรายการ ซีรี่ย์ ภาพยนตร์ ต่าง ๆ มากมายจากช่องทางความสัมพันธ์นี้ครับ
จะเห็นได้ว่าในภาพของธุรกิจนี้คือการสร้างเครือข่ายที่ทำให้เกิด Synergy ทางธุรกิจ การเข้ามาของการบริหารอย่างมืออาชีพทำให้ธุรกิจครอบครัวเดิมเติมโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะเห็นได้ว่าทาง iAm มีการทดลองขยายตลาดไปด้านอื่นอย่างที่เราทราบกันแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จนัก ผมเป็นกำลังใจให้ต่อไปครับ
ตัวผมไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจสื่อมากนัก หากท่านใดทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวข้อกับบริษัทเหล่านี้ จึงอยากแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ
ประเด็นที่สองสั้น ๆ คือผลประกอบการของ iAm ปี 2563
ทราบคร่าว ๆ จากงบของ PLANB ว่า ทาง iAm ขาดทุนไปราว 6 ล้านบาท แต่ได้มีการปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นราว 150 ล้านบาท หลายท่านอาจจะงงว่า ขาดทุนแล้วเอาเงินจากไหนมาปันผลหว่า แต่ว่าหากดูย้อนกลับไปจะทราบว่าบริษัทมีกำไรสะสมกำไว้มากกว่า 250 ล้านบาท จึงนำกำไรสะสมส่วนนั้นปันผลออกมาก
ที่ผ่านมาทาง PLANB รับเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นเกือบ 90 ล้านบาท จากการลงทุนใน iAm ที่ลงทุนไปราว 182 ล้านบาท แปลว่าคืนทุนมาแล้วครึ่งหนึ่ง หากยังรักษาสภาพได้ดีก็คงจะคืนทุนทั้งหมดได้ภายในอีก สอง ถึง สามปี
ประเด็นการขาดทุน จะเห็นว่า Covid-19 ส่งผลอย่างมากต่อ iAm ที่เคยทำกำไรราว 147 และ 167 ล้านบาท ในปี 2561 และ 2562 รวมทั้งผลจากตลาดการแข่งขันของไอดอลที่ดูจะมีผู้เล่นลงมาใหม่กันมากมายมาแบ่งตลาดไป ประจวบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้แฟนคลับหายตัวกันไป ผมจึงหวังว่านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ไปพร้อมกับการรักษาฐานลูกค้าเก่า เช่น เพลงมะลิ ที่สร้างมาสำหรับชาวเลือดแท้ และ เพลง ดี-อะ ที่ผมคาดว่าจะต่างไปจากเพลงมะลิเพื่อเป็นการปลุกความตื่นเต้นกลับมาอีกครั้ง หรือ ตะต่อนยอน-Hurry Up ที่ฉีกไปเปิดตลาดใหม่ จะฟื้นฟูบริษัทให้กลับมาได้อีกครั้ง โดยความหวังทั้งหมดนี้ของผมก็เพื่อให้น้อง ๆ ยังคงอยู่ได้และสร้งความบันเทิงต่อไปครับ
ทุกท่านมีความเห็นอย่างไรกับแนวโน้มของบริษัทครับ แลกเปลี่ยนกันครับ
แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลผู้ถือหุ้น
ปัจจุบันเป็นสัญชาติไทย 65% (เป็น PLANB 35%) สัญชาติจีน 25% สัญชาติญี่ปุ่น 10% ดังนั้นคาดว่าทางด้านเจ้าของเดิมไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่อีกต่อไป
การลงทุนและผลประกอบการ iAm ในปี 63 ที่ผ่านมา
สำหรับวันนี้ อยากขอเปิดประเด็นอ้างอิงข้อมูลจาก รายงาน และงบการเงิน บริษัท แพลน บี มีเดีย จํากัด (มหาชน) และบริษัทย่อย 31 ธันวาคม 2563 https://investor.planbmedia.co.th/misc/fs/20210225-planb-fs-fy2020-th-01.pdf
ประเด็นแรก คือ สถานการณ์ลงทุนในบริษัทต่าง ๆ
อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบัน PLANB ถือหุ้นใน บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด (“iAm”) 35% ผ่านบริษัท บริษัท มาสเตอร์ แสตนดาร์ด ดิสเพลย์ จำกัด ที่ PLANB ถือหุ้น 100%
สิ้นปี 2563 ทาง iAm มีการลงทุนในบริษัททั้งหมด 7 บริษัท ได้แก่
บริษัท แพลตฟอร์ม มักกะสัน จำกัด 70%
ร่วมกับทีมครูใหญ่เอ๊ะโรงเรียนบีเอ็นเค นั่นเอง ลงทุนไป 1.4 ล้านบาท คิดว่าเป็นความสัมพันธ์อันดีระยะยาวที่จะช่วงสร้างผลงานทางดนตรีออกมาซับพอร์ตน้อง ๆ ต่อไป
บริษัท มอร์ แดน ไอ แคน เซย์ จำกัด 65%
เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท มารีน ไลฟ์ โซลูชั่น จำกัด ลงทุนร่วมกับเจ้าของบริษัทนำเข้าเรือยอร์ช ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน โดยแจ้งจุดประสงค์ เป็น ผู้ประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ ลงทุนไปราว 1.4 ล้านบาท เช่นกัน
บริษัท ดรีมเมอร์ส โซไซตี้ จำกัด 59%
ร่วมลงทุนกับพี่ติ๊ก ทำ The Brother แต่สถานการณ์ที่เห็นปัจจุบันคาดว่าคงไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ลงทุนไปราว 5.9 ล้านบาท
บริษัท ทาเลนท์ คอนเนคท์ จำกัด 57.67%
ผู้ผลิต iAm48 Applications ที่ประชาเราใช้ในการสื่อสารกับน้อง
บริษัท เดอะ สกา ทาเลนท์ เมนเนจ เม้นต์ จำกัด 50%
ร่วมงานกับทาง เดอะ สกา ลงทุนไปราว 2.5 ล้านบาท แต่สถานการณ์ที่เห็นปัจจุบันคาดว่าคงไม่เป็นได้ไปต่อ
กิจการร่วมค้า ต้อมโอ๋เปิ้ลฟิล์ม 33.33%
(ผลไม่ทราบข้อมูลในส่วนนี้เลยครับ ท่านใดมีความรู้แลกเปลี่ยนกันได้ครับ)
บริษัท กู๊ดธิงแฮพเพ่น จำกัด 16%
บริษัทสื่อโฆษณาที่เกิดจากความร่วมมือของ PLANB + ช่อง 3 + GMM + GDH ผมคาดว่านี่คือเหตุผลที่เราได้เห็นน้องในรายการ ซีรี่ย์ ภาพยนตร์ ต่าง ๆ มากมายจากช่องทางความสัมพันธ์นี้ครับ
จะเห็นได้ว่าในภาพของธุรกิจนี้คือการสร้างเครือข่ายที่ทำให้เกิด Synergy ทางธุรกิจ การเข้ามาของการบริหารอย่างมืออาชีพทำให้ธุรกิจครอบครัวเดิมเติมโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะเห็นได้ว่าทาง iAm มีการทดลองขยายตลาดไปด้านอื่นอย่างที่เราทราบกันแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จนัก ผมเป็นกำลังใจให้ต่อไปครับ
ตัวผมไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจสื่อมากนัก หากท่านใดทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวข้อกับบริษัทเหล่านี้ จึงอยากแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ
ประเด็นที่สองสั้น ๆ คือผลประกอบการของ iAm ปี 2563
ทราบคร่าว ๆ จากงบของ PLANB ว่า ทาง iAm ขาดทุนไปราว 6 ล้านบาท แต่ได้มีการปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นราว 150 ล้านบาท หลายท่านอาจจะงงว่า ขาดทุนแล้วเอาเงินจากไหนมาปันผลหว่า แต่ว่าหากดูย้อนกลับไปจะทราบว่าบริษัทมีกำไรสะสมกำไว้มากกว่า 250 ล้านบาท จึงนำกำไรสะสมส่วนนั้นปันผลออกมาก
ที่ผ่านมาทาง PLANB รับเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นเกือบ 90 ล้านบาท จากการลงทุนใน iAm ที่ลงทุนไปราว 182 ล้านบาท แปลว่าคืนทุนมาแล้วครึ่งหนึ่ง หากยังรักษาสภาพได้ดีก็คงจะคืนทุนทั้งหมดได้ภายในอีก สอง ถึง สามปี
ประเด็นการขาดทุน จะเห็นว่า Covid-19 ส่งผลอย่างมากต่อ iAm ที่เคยทำกำไรราว 147 และ 167 ล้านบาท ในปี 2561 และ 2562 รวมทั้งผลจากตลาดการแข่งขันของไอดอลที่ดูจะมีผู้เล่นลงมาใหม่กันมากมายมาแบ่งตลาดไป ประจวบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้แฟนคลับหายตัวกันไป ผมจึงหวังว่านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ไปพร้อมกับการรักษาฐานลูกค้าเก่า เช่น เพลงมะลิ ที่สร้างมาสำหรับชาวเลือดแท้ และ เพลง ดี-อะ ที่ผมคาดว่าจะต่างไปจากเพลงมะลิเพื่อเป็นการปลุกความตื่นเต้นกลับมาอีกครั้ง หรือ ตะต่อนยอน-Hurry Up ที่ฉีกไปเปิดตลาดใหม่ จะฟื้นฟูบริษัทให้กลับมาได้อีกครั้ง โดยความหวังทั้งหมดนี้ของผมก็เพื่อให้น้อง ๆ ยังคงอยู่ได้และสร้งความบันเทิงต่อไปครับ
ทุกท่านมีความเห็นอย่างไรกับแนวโน้มของบริษัทครับ แลกเปลี่ยนกันครับ
แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลผู้ถือหุ้น
ปัจจุบันเป็นสัญชาติไทย 65% (เป็น PLANB 35%) สัญชาติจีน 25% สัญชาติญี่ปุ่น 10% ดังนั้นคาดว่าทางด้านเจ้าของเดิมไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่อีกต่อไป