เป็นครั้งแรกในการเขียนในพันทิป ผิดถูกอย่างไร ขออภัยด้วยนะคะ สืบเนื่องจากดิฉัน ติดใจและข้องใจกับประกัยสุขภาพของวิริยะประกันภัยค่ะ
ดิฉันตัดสินใจทำประกันกับวิริยะประกัน เนื่องจากพาลูกมาหาหมอที่ รพ.กรุงเทพระยอง และเจอบูธ ของ บ.วิระยะตั้งประกาศชวนเชื่อให้ทำประกัน ดิฉันเห็นค่าเบี้ยไม่แพง และให้ความคุ้มครองที่สูง และที่สำคัญเห็นว่ามีการตั้งบูธ ที่ รพ.กรุงเทพ คงจะเป็นสิ่งรับประกันได้ว่าการเคลม การรักษา น่าจะโอเคร ในระดับนึง ซึ่งก่อนหน้านี้ดิฉันทำประกันกับเอทน่า ถึงแม้ว่าค่าเบี้ยจะแพงกว่าวิริยะ นิดหน่อย (ซึ่งไม่น่ายกเลิกเลย) ดิฉันจึงตัดสินใจทำประกัน แม่ลูก และแนะนำญาติให้ทำอีก โดยทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย ชำระเงินเป็นรายเดือน โดยครั้งแรกชำระ 2 เดือนก่อน และ ตัดบัตรเดบิตทุกเดือน ทุกวันที่ 28 ของทุกเดือน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงที่ต้องนอน รพ. โดย ลูกเข้ารับการรักษา ที่ รพ.กรุงเทพระยอง 21 มีค.เข้า admit ประมาณ 5โมงเย็น โดยใช้บัตรประกันสุขภาพของวิริยะ ยื่นเข้ารับการรักษา โดยโรคที่ลูกเป็น เริ่มจากเป็นหวัดมาหลายวันแล้ว มาหาหมอเมื่อวันที่ 17 มีค.หมอให้ยาไปกินที่บ้านแต่ไม่หาย 21 มีค. จึงมาหาอีกรอบ เนื่องจากยาหมด คุณหมอจึงให้นอน รพ. หมอคาดว่าจะมีภาวะไซนัส เนื่องจากเป็นหวัดมาหลายวัน ลูกดิฉันมักจะเป็นหวัดบ่อย ทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยน หรือไปโรงเรียนติดจากเพื่อนก็จะเป็นหวัดทันที เป็นภมิแพ้ ซึ่งหมอบอกถ้าเป็นหวัดหลายวันก็จะเป็นไซนัสอักเสบ ลูกนอน รพ ต้องดูดเสมหะวันละ 2รอบทุกวัน จนเมื่อวันที่ 26มีค. ทาง รพ.แจ้งว่าประกันปฏิเสธความคุ้มครอง เนื่องจากด้วยโรคที่เป็นมาก่อน โดยยอดเงินณ.วันที่แจ้งคือ 82,156 บาท ดิฉันเลยติดต่อกับวิริยะตัวแทน ว่าเกิดไรขึ้น และแจ้งเขาไปว่าประกันปฏิเสธ ความคุ้มครอง เขาบอกเป็นตามประกันสินไหมพิจารณา นี่คือตัวแทน ตอบแค่นี้ ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เหรอ? โดยดิฉันไม่ได้นีกว่าลูกเคยเป็นหวัดหนักอยู่ครั้งนึงเมื่อปี 2017 เลยไม่ได้นึกเรื่องไซนัสไป เพราะตอนทำประกันไม่ได้มีให้ระบุเรื่องโรคของทางเดินหายใจ โดยปกติประกันที่ดิฉันเคยทำเขาจะมีให้ระบุเกี่ยวกับโรค ที่ชัดเจนตอนเขียนใบสมัคร แต่ทางวิริยะดิฉันกับไปอ่าน เขาบอกโรคอื่นๆ หรือโรคประจำตัวหรือโรคเรื่อรัง ซึ่งโรคที่ลุกสาวฉันเป็นบ่อยที่สุดคือโรคหวัด ซึ่งเป็นไปตามอากาศที่เปลี่ยนแปลง เพราะตอนที่ทำ Aetna และ AIA เขาก็เคลมตอนนอน รพ.ปกติ เพราะลูกนอน รพ.ทุกปี แต่พอเข้าช่วงโควิด ดิฉันเห็นของวิริยะน่าสนใจ จึงยกเลิกประกันสุขภาพของทุกที่เพื่อใช้ของที่นี่ที่เดียว ก็เลยติดต่อประกันขอคุยกับ call center ครั้งแรกโทรไป สอบถามว่าทำไมถึงปฏิเสธความคุ้มครอง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นโรคที่เคยเป็นมาก่อน (ก่อนหน้าที่จะโทรหา call center ของวิริยะ ดิฉันโทรสอบถามข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ประกันของ รพ.แล้ว) ดิฉันถามว่าโรคอะไร เขาบอกเป็นไซนัสมาก่อน ถามกลับไปว่าการเป็นไซนัสเนื่องจากการเป็นหวัดหลายวันติดต่อกันแล้วไม่หาย เลยลุกลามเป็นไซนัส ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าเกิดได้กับทุกคนที่เป็นหวัดเยอะ และนาน เลยถามกลับไปว่าโรคหวัด, ไข้หวัดใหญ่, ท้องเสีย คุณก็ไม่คุ้มครองเหรอ มันก็คือโรคที่เป็นมาก่อนที่เราจะทำประกันทั้งนั้น ถ้าโรคพวกนี้เป็นโรคที่ต้องยกเว้น คุณน่าจะทำใบสมัครระบุเรื่องโรคให้ชัดเจนมากกว่านี้ ดิฉันก็แจ้งยกเลิกกรมธรรม์เลยทั้งแม่ลูก ดิฉันก็วางสาย และคุยกับเจ้าหน้าที่ประกัน รพ. ว่าลูกเข้านอน รพ.หลายวัน ทำไมประกันวิริยะไม่ปฏิเสธความคุ้มครองตั้งแต่ 1-2วันแรกที่เข้านอน รพ. ซึ่งทางเจ้าหน้าก็ไม่ทราบว่าทำไมประกันวิริยะถึงไม่ปฏิเสธตั้งแต่วันแรกๆ ที่นอน รพ. เราจึงโทรเข้าไปใหม สอบถามว่าทำไมคุณถึงไม่ปฏิเสธตั้งแต่ 1-2 วันแรกที่เข้านอน รพ.ปล่อยให้ล่วงเลยหลายวันทำให้มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ call center ก็ตอบอะไรเราไม่ได้ จึงย้อนถามเรากลับมาว่าทางเราต้องการอะไร? ก็ในเมื่อกรมธรรม์ไม่คุ้มครองมันเป็นเงื่อนไขของกรมธรรม์ เราจึงย้อนถามว่าทางคุณหมายถึงเราโทรยกเลิกทางวิริยะแล้ว ทำไมเรายังโทรถามอีกเหรอ ประมาณนี้ใช่ไหม? เขาก็เงียบ บอกแค่ว่าจะรับเรื่องแล้วให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวกข้องโทรกลับ หายไปประมาณ 2 ชม.มีเจ้าหน้าที่วิริยะโทรเข้ามาบอกว่าเป็นฝ่าย Medical ของวิริยะ เขาบอกเราข้องใจในเรื่องของโรคที่เป็นมาก่อนใช่ไหม? เราบอกใช่ เราก็แย้งกับไปในเรื่องของหวัดว่าเป็นหวัดนานก็มีโอกาสเป็นไซนัสอักเสบได้ ซึ่งคุณหมอบอกเราแบบนั้น เราบอกเรื่องนี้เราไม่คุยแล้ว โอเครในเมื่อเป็นโรคที่เป็นมาก่อนคุณไม่คุ้มครองไม่เป็นไร เราอยากทราบว่าทำไมคุณถึงแจ้งเราช้าจน 5-6 วันมาแล้ว ถ้าเกิดคุณปฏิเสธเราเร็ว เราก็จะรีบออกจาก รพ.ไม่นอนจนให้หมอรักษาหาย จนมีค่าใช้จ่ายที่มากมายขนาดนี้ มันควรจะปฏิเสธใน 2วันแรกไหม? เขาบอกเขาทำเร็วสุดเพิ่งรู้เรื่องเมื่อวาน 25มีค. วันนี้ 26มีค.ก็แจ้งว่าปฏิเสธ แต่เราบอกว่าลูกเราเข้ารับการรักษาตั้งแต่ 21มีค.แล้ว 4วันที่ผ่านมาคุณไม่รู้เรื่องเหรอ เขาบอกไม่รู้ เราบอกโอเคร งั้นเป็นความผิดของ รพ.ใช่ไหม ที่ไม่แจ้งให้คุณทราบ เราบอกโอเครงั้นให้เขาถือสายรอ ติดต่อเจ้าหน้าที่ประกันของ รพ.คุยพร้อมกัน 3 สายเลย แจ้งรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ของ รพ.ว่าประกันวิริยะ แจ้งว่าอย่างนี้ว่าเขาไม่ทราบเรื่อง ประกันบอกทางวิริยะเพิ่งขอประวัติการรักษาย้อนหลังเมื่อวันที่ 25มีค. โอเครงั้นคุยกับ 3สายเลยนะคะ พอคุย 3สาย เจ้าหน้าที่ รพ.ประกันเริ่มก่อน (ขอแจ้งก่อนนะคะ วิริยะให้ TPA เป็นผู้พิจารณาสินไหม)
เจ้าหน้าที่ รพ.: ทำไมคุณแจ้งคุณแม่ของน้องว่าเพิ่งรู้เรื่องเมื่อวาน 25มีค. เรามีการส่งเรื่องกับทาง TPA ทุกวัน ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา 21มีค. มีการส่ง mail แจ้งตลอด
เกิดการเถียงกันนิดหน่อยระหว่างเจ้าหน้าที่ รพ.กับวิริยะ
เจ้าหน้าที่วิริยะ: เราเพิ่งได้รับประวัติคนไข้เมื่อวาน และเจ้งปฏิเสธความคุ้มครอง
เจ้าหน้าที่ รพ.: แล้วทำไมคุณแจ้งคุณแม่ว่าเพิ่งทราบเรื่อง
เจ้าหน้าที่วิริยะ: ไม่ใช่อย่างนั้น เราไม่หมายถึงอย่างนั้น เราทราบเรื่องมาก่อนแล้ว
เรา: อ้าว ไหนคุณบอกเรา ทางรพ.เพิ่งแจ้งไม่ทราบเรื่องเพิ่งทราบเรื่องไง
เจ้าหน้าที่วิริยะ: หมายถึงเราได้ประวัติคนไข้เมื่อวาน
เจ้าหน้าที่ รพ: ทางวิริยะเพิ่งขอเมื่อวานไหมคะ?
เรา: แล้วทำไมทางคุณเพิ่งขอ ในเมื่อเรานอนตั้งแต่ 21มีค.
เจ้าหน้าที่วิริยะ สายหลุด (ไม่รู้แกล้งทำสายหลุดหรืออะไรไหม)
โทรเข้ามาตอนเราคุยกับเจ้าหน้าที่ รพ. เจ้าหน้าที่ประกันโรงพยาบาลแจ้งว่าที่วิริยะ แจ้งปฏิเสธลูกค้าช้า อาจจะเป็นเนื่องจากต้องผ่านทาง TPA หรือเปล่านะคะ อันนี้เข้าแจ้งข้อมูลคร่าว ๆ แล้วทาง TPA แจ้งข้อมูลกับวิริยะช้า เขาบอกอาจะเป็นแบบนี้ เราเลยถามกลับไปว่า ตอนซื้อประกันทางผู้เอาประกันหรือคนไข้ ต้องมารองรับความเสี่ยงที่ว่า ถึงแม้จะซื้อประกันแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าประกันจะจ่ายหรือเปล่า และต้องมารับรู้ process เขาช้าขนาดนี้ คนเราเจ็บไข้ได้ป่วยมันรอกันได้ด้วยเหรอ สิ่งแรกที่บริษัท ประกันควรคำนึงถึงคือสุขภาพของคนป่วยที่นอนรับการรักษา ถ้าคุณจะปฏิเสธ ควรรีบทำตั้งแต่ 1-2วันแรก เพื่อให้คนป่วยรับทราบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่มาปฏิเสธในวันที่ค่าใช้จ่ายมันบานปลายแล้ว ซึ่งบริษัท ถ้าจะทำประกันควรคำนึงหลายๆ ด้าน เรายกตัวอย่าง เราใช้ AIA นอน รพ. ครั้งนึงเคยโดยปฏิเสธความคุ้มครองรอบนั้น เนื่องจากไม่เป็นไข้แล้วนอน แต่ทาง AIA รีบแจ้งวันรุ่งขึ้นให้ทางคนไข้รับทราบ แต่วิริยะทำอะไร?!!!!!
เรามี 2 ประเด็นที่ข้องใจ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยคะ?
1.การเป็นไซนัสเป็นโรคที่เป็นมาก่อนจริง แต่ไม่ใช่โรคเรื้อรัง หรือโรคติดต่อ และทุกครั้งที่เป็นหวัดก็ไม่ได้เป็นไซนัสทุกรอบ และก็ไม่ได้มียากินแก้ไซนัส ถือเป็นโรคประจำตัวไหมคะ? หรือเป็นโรคร้ายแรงไหม?
2. การปฏิเสธความคุ้มครองของวิริยะ ควรทำตั้งแต่ 2วันแรกที่เข้ารับการรักษาหรือไม่? สมควรให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ไหม
แล้วเราผู้ป่วยจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล
!!!!! เตือนภัย ใครจะทำประกับสุขภาพ วิริยะประกัน จะเจอแบบนี้
ดิฉันตัดสินใจทำประกันกับวิริยะประกัน เนื่องจากพาลูกมาหาหมอที่ รพ.กรุงเทพระยอง และเจอบูธ ของ บ.วิระยะตั้งประกาศชวนเชื่อให้ทำประกัน ดิฉันเห็นค่าเบี้ยไม่แพง และให้ความคุ้มครองที่สูง และที่สำคัญเห็นว่ามีการตั้งบูธ ที่ รพ.กรุงเทพ คงจะเป็นสิ่งรับประกันได้ว่าการเคลม การรักษา น่าจะโอเคร ในระดับนึง ซึ่งก่อนหน้านี้ดิฉันทำประกันกับเอทน่า ถึงแม้ว่าค่าเบี้ยจะแพงกว่าวิริยะ นิดหน่อย (ซึ่งไม่น่ายกเลิกเลย) ดิฉันจึงตัดสินใจทำประกัน แม่ลูก และแนะนำญาติให้ทำอีก โดยทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย ชำระเงินเป็นรายเดือน โดยครั้งแรกชำระ 2 เดือนก่อน และ ตัดบัตรเดบิตทุกเดือน ทุกวันที่ 28 ของทุกเดือน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงที่ต้องนอน รพ. โดย ลูกเข้ารับการรักษา ที่ รพ.กรุงเทพระยอง 21 มีค.เข้า admit ประมาณ 5โมงเย็น โดยใช้บัตรประกันสุขภาพของวิริยะ ยื่นเข้ารับการรักษา โดยโรคที่ลูกเป็น เริ่มจากเป็นหวัดมาหลายวันแล้ว มาหาหมอเมื่อวันที่ 17 มีค.หมอให้ยาไปกินที่บ้านแต่ไม่หาย 21 มีค. จึงมาหาอีกรอบ เนื่องจากยาหมด คุณหมอจึงให้นอน รพ. หมอคาดว่าจะมีภาวะไซนัส เนื่องจากเป็นหวัดมาหลายวัน ลูกดิฉันมักจะเป็นหวัดบ่อย ทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยน หรือไปโรงเรียนติดจากเพื่อนก็จะเป็นหวัดทันที เป็นภมิแพ้ ซึ่งหมอบอกถ้าเป็นหวัดหลายวันก็จะเป็นไซนัสอักเสบ ลูกนอน รพ ต้องดูดเสมหะวันละ 2รอบทุกวัน จนเมื่อวันที่ 26มีค. ทาง รพ.แจ้งว่าประกันปฏิเสธความคุ้มครอง เนื่องจากด้วยโรคที่เป็นมาก่อน โดยยอดเงินณ.วันที่แจ้งคือ 82,156 บาท ดิฉันเลยติดต่อกับวิริยะตัวแทน ว่าเกิดไรขึ้น และแจ้งเขาไปว่าประกันปฏิเสธ ความคุ้มครอง เขาบอกเป็นตามประกันสินไหมพิจารณา นี่คือตัวแทน ตอบแค่นี้ ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เหรอ? โดยดิฉันไม่ได้นีกว่าลูกเคยเป็นหวัดหนักอยู่ครั้งนึงเมื่อปี 2017 เลยไม่ได้นึกเรื่องไซนัสไป เพราะตอนทำประกันไม่ได้มีให้ระบุเรื่องโรคของทางเดินหายใจ โดยปกติประกันที่ดิฉันเคยทำเขาจะมีให้ระบุเกี่ยวกับโรค ที่ชัดเจนตอนเขียนใบสมัคร แต่ทางวิริยะดิฉันกับไปอ่าน เขาบอกโรคอื่นๆ หรือโรคประจำตัวหรือโรคเรื่อรัง ซึ่งโรคที่ลุกสาวฉันเป็นบ่อยที่สุดคือโรคหวัด ซึ่งเป็นไปตามอากาศที่เปลี่ยนแปลง เพราะตอนที่ทำ Aetna และ AIA เขาก็เคลมตอนนอน รพ.ปกติ เพราะลูกนอน รพ.ทุกปี แต่พอเข้าช่วงโควิด ดิฉันเห็นของวิริยะน่าสนใจ จึงยกเลิกประกันสุขภาพของทุกที่เพื่อใช้ของที่นี่ที่เดียว ก็เลยติดต่อประกันขอคุยกับ call center ครั้งแรกโทรไป สอบถามว่าทำไมถึงปฏิเสธความคุ้มครอง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นโรคที่เคยเป็นมาก่อน (ก่อนหน้าที่จะโทรหา call center ของวิริยะ ดิฉันโทรสอบถามข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ประกันของ รพ.แล้ว) ดิฉันถามว่าโรคอะไร เขาบอกเป็นไซนัสมาก่อน ถามกลับไปว่าการเป็นไซนัสเนื่องจากการเป็นหวัดหลายวันติดต่อกันแล้วไม่หาย เลยลุกลามเป็นไซนัส ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าเกิดได้กับทุกคนที่เป็นหวัดเยอะ และนาน เลยถามกลับไปว่าโรคหวัด, ไข้หวัดใหญ่, ท้องเสีย คุณก็ไม่คุ้มครองเหรอ มันก็คือโรคที่เป็นมาก่อนที่เราจะทำประกันทั้งนั้น ถ้าโรคพวกนี้เป็นโรคที่ต้องยกเว้น คุณน่าจะทำใบสมัครระบุเรื่องโรคให้ชัดเจนมากกว่านี้ ดิฉันก็แจ้งยกเลิกกรมธรรม์เลยทั้งแม่ลูก ดิฉันก็วางสาย และคุยกับเจ้าหน้าที่ประกัน รพ. ว่าลูกเข้านอน รพ.หลายวัน ทำไมประกันวิริยะไม่ปฏิเสธความคุ้มครองตั้งแต่ 1-2วันแรกที่เข้านอน รพ. ซึ่งทางเจ้าหน้าก็ไม่ทราบว่าทำไมประกันวิริยะถึงไม่ปฏิเสธตั้งแต่วันแรกๆ ที่นอน รพ. เราจึงโทรเข้าไปใหม สอบถามว่าทำไมคุณถึงไม่ปฏิเสธตั้งแต่ 1-2 วันแรกที่เข้านอน รพ.ปล่อยให้ล่วงเลยหลายวันทำให้มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ call center ก็ตอบอะไรเราไม่ได้ จึงย้อนถามเรากลับมาว่าทางเราต้องการอะไร? ก็ในเมื่อกรมธรรม์ไม่คุ้มครองมันเป็นเงื่อนไขของกรมธรรม์ เราจึงย้อนถามว่าทางคุณหมายถึงเราโทรยกเลิกทางวิริยะแล้ว ทำไมเรายังโทรถามอีกเหรอ ประมาณนี้ใช่ไหม? เขาก็เงียบ บอกแค่ว่าจะรับเรื่องแล้วให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวกข้องโทรกลับ หายไปประมาณ 2 ชม.มีเจ้าหน้าที่วิริยะโทรเข้ามาบอกว่าเป็นฝ่าย Medical ของวิริยะ เขาบอกเราข้องใจในเรื่องของโรคที่เป็นมาก่อนใช่ไหม? เราบอกใช่ เราก็แย้งกับไปในเรื่องของหวัดว่าเป็นหวัดนานก็มีโอกาสเป็นไซนัสอักเสบได้ ซึ่งคุณหมอบอกเราแบบนั้น เราบอกเรื่องนี้เราไม่คุยแล้ว โอเครในเมื่อเป็นโรคที่เป็นมาก่อนคุณไม่คุ้มครองไม่เป็นไร เราอยากทราบว่าทำไมคุณถึงแจ้งเราช้าจน 5-6 วันมาแล้ว ถ้าเกิดคุณปฏิเสธเราเร็ว เราก็จะรีบออกจาก รพ.ไม่นอนจนให้หมอรักษาหาย จนมีค่าใช้จ่ายที่มากมายขนาดนี้ มันควรจะปฏิเสธใน 2วันแรกไหม? เขาบอกเขาทำเร็วสุดเพิ่งรู้เรื่องเมื่อวาน 25มีค. วันนี้ 26มีค.ก็แจ้งว่าปฏิเสธ แต่เราบอกว่าลูกเราเข้ารับการรักษาตั้งแต่ 21มีค.แล้ว 4วันที่ผ่านมาคุณไม่รู้เรื่องเหรอ เขาบอกไม่รู้ เราบอกโอเคร งั้นเป็นความผิดของ รพ.ใช่ไหม ที่ไม่แจ้งให้คุณทราบ เราบอกโอเครงั้นให้เขาถือสายรอ ติดต่อเจ้าหน้าที่ประกันของ รพ.คุยพร้อมกัน 3 สายเลย แจ้งรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ของ รพ.ว่าประกันวิริยะ แจ้งว่าอย่างนี้ว่าเขาไม่ทราบเรื่อง ประกันบอกทางวิริยะเพิ่งขอประวัติการรักษาย้อนหลังเมื่อวันที่ 25มีค. โอเครงั้นคุยกับ 3สายเลยนะคะ พอคุย 3สาย เจ้าหน้าที่ รพ.ประกันเริ่มก่อน (ขอแจ้งก่อนนะคะ วิริยะให้ TPA เป็นผู้พิจารณาสินไหม)
เจ้าหน้าที่ รพ.: ทำไมคุณแจ้งคุณแม่ของน้องว่าเพิ่งรู้เรื่องเมื่อวาน 25มีค. เรามีการส่งเรื่องกับทาง TPA ทุกวัน ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา 21มีค. มีการส่ง mail แจ้งตลอด
เกิดการเถียงกันนิดหน่อยระหว่างเจ้าหน้าที่ รพ.กับวิริยะ
เจ้าหน้าที่วิริยะ: เราเพิ่งได้รับประวัติคนไข้เมื่อวาน และเจ้งปฏิเสธความคุ้มครอง
เจ้าหน้าที่ รพ.: แล้วทำไมคุณแจ้งคุณแม่ว่าเพิ่งทราบเรื่อง
เจ้าหน้าที่วิริยะ: ไม่ใช่อย่างนั้น เราไม่หมายถึงอย่างนั้น เราทราบเรื่องมาก่อนแล้ว
เรา: อ้าว ไหนคุณบอกเรา ทางรพ.เพิ่งแจ้งไม่ทราบเรื่องเพิ่งทราบเรื่องไง
เจ้าหน้าที่วิริยะ: หมายถึงเราได้ประวัติคนไข้เมื่อวาน
เจ้าหน้าที่ รพ: ทางวิริยะเพิ่งขอเมื่อวานไหมคะ?
เรา: แล้วทำไมทางคุณเพิ่งขอ ในเมื่อเรานอนตั้งแต่ 21มีค.
เจ้าหน้าที่วิริยะ สายหลุด (ไม่รู้แกล้งทำสายหลุดหรืออะไรไหม)
โทรเข้ามาตอนเราคุยกับเจ้าหน้าที่ รพ. เจ้าหน้าที่ประกันโรงพยาบาลแจ้งว่าที่วิริยะ แจ้งปฏิเสธลูกค้าช้า อาจจะเป็นเนื่องจากต้องผ่านทาง TPA หรือเปล่านะคะ อันนี้เข้าแจ้งข้อมูลคร่าว ๆ แล้วทาง TPA แจ้งข้อมูลกับวิริยะช้า เขาบอกอาจะเป็นแบบนี้ เราเลยถามกลับไปว่า ตอนซื้อประกันทางผู้เอาประกันหรือคนไข้ ต้องมารองรับความเสี่ยงที่ว่า ถึงแม้จะซื้อประกันแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าประกันจะจ่ายหรือเปล่า และต้องมารับรู้ process เขาช้าขนาดนี้ คนเราเจ็บไข้ได้ป่วยมันรอกันได้ด้วยเหรอ สิ่งแรกที่บริษัท ประกันควรคำนึงถึงคือสุขภาพของคนป่วยที่นอนรับการรักษา ถ้าคุณจะปฏิเสธ ควรรีบทำตั้งแต่ 1-2วันแรก เพื่อให้คนป่วยรับทราบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่มาปฏิเสธในวันที่ค่าใช้จ่ายมันบานปลายแล้ว ซึ่งบริษัท ถ้าจะทำประกันควรคำนึงหลายๆ ด้าน เรายกตัวอย่าง เราใช้ AIA นอน รพ. ครั้งนึงเคยโดยปฏิเสธความคุ้มครองรอบนั้น เนื่องจากไม่เป็นไข้แล้วนอน แต่ทาง AIA รีบแจ้งวันรุ่งขึ้นให้ทางคนไข้รับทราบ แต่วิริยะทำอะไร?!!!!!
เรามี 2 ประเด็นที่ข้องใจ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยคะ?
1.การเป็นไซนัสเป็นโรคที่เป็นมาก่อนจริง แต่ไม่ใช่โรคเรื้อรัง หรือโรคติดต่อ และทุกครั้งที่เป็นหวัดก็ไม่ได้เป็นไซนัสทุกรอบ และก็ไม่ได้มียากินแก้ไซนัส ถือเป็นโรคประจำตัวไหมคะ? หรือเป็นโรคร้ายแรงไหม?
2. การปฏิเสธความคุ้มครองของวิริยะ ควรทำตั้งแต่ 2วันแรกที่เข้ารับการรักษาหรือไม่? สมควรให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ไหม
แล้วเราผู้ป่วยจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล