เมื่อเราทำงานมาระยะนึงก็มีบางทีที่รู้สึกหมดไฟในการทำงาน กระทู้นี้ JobThai Tips นอกจากจะมาแชร์วิธีการรับมือกับ Midlife Crisis หรือวิกฤติการณ์ของวัยกลางคน ที่รู้สึกหมดไฟในการทำงานแล้ว แอดมินก็อยากขอไอเดียการปลุกไฟในการทำงานจากเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยค่ะ
มีคนทำงานวัยกลางคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึก “หมด Passion” ในการทำงาน จากเคยเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงก็กลับกลายมาเป็นคนที่ตื่นนอนมาด้วยความเบื่อหน่าย เพียงแค่จะมาตอกบัตรเข้างานและทำงานให้ครบเวลาเท่านั้น เพื่อรับมือกับปัญหา Midlife Crisis นี้ JobThai Tips จะพาคุณไปรู้จักกับสิ่งนี้ให้มากขึ้น พร้อมกับวิธีรับมือและเติมเชื้อไฟ เพื่อให้ Passion ในการทำงานกลับมาลุกโชนได้อีกครั้ง
คุยกับคนที่มีพลังบวก
อย่าคิดว่าเราอยู่คนเดียวบนโลก พยายามออกไปคุยกับคนที่มีพลังบวกให้มาก ๆ อาจจะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว ที่ปรึกษาด้านอาชีพและชีวิต หรือจิตแพทย์ก็ได้ บางครั้งวิกฤติวัยกลางคนก็มาพร้อมกับสัญญาณที่บอกว่าเราหมดความสนใจในเรื่องที่เคยมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำ การได้พูดคุย พบปะกับคนที่สนใจเรื่องเดียวกันจะช่วยให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เริ่มตั้งเป้าหมายใหม่แล้วลงมือทำ
ถึงแม้ที่ผ่านมาเป้าหมายในชีวิตและการทำงานของเราจะยังไม่มีอะไรสำเร็จ แต่ทุกอย่างก็เริ่มต้นใหม่ได้ทั้งนั้น ดังนั้นก็ลองเอาช่วงวัยนี้เป็นโอกาสในการตั้งเป้าหมายใหม่สักอย่าง แล้วเริ่มลงมือทำเลย อาจรื้อฟื้นความฝันวัยเด็ก หรือสิ่งที่เราคิดมานานแล้วแต่ไม่ได้ลงมือทำสักทีก็ได้
ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ตั้งเป้าหมายว่าจะเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ พัฒนาทักษะที่เกี่ยวกับ IT หรือ Data ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับการทำงานและเกี่ยวข้องกับงานของเรามากขึ้น หรือตั้งใจจะเข้าไปทำงานอาสาสมัครและช่วยเหลือสังคมในส่วนที่เราทำได้
กลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้ง
หลายครั้งที่การหมดไฟเกิดจากการที่ต้องทำอะไรซ้ำ ๆ อยู่กับสิ่งเดิม ๆ นานจนเกินไป ตื่นนอนแต่เช้า เข้างาน ประชุมกับทีม ตอบอีเมล วนซ้ำไปอย่างนี้ทุก ๆ วัน การลองกลับมาทำตัวเป็นนักเรียน เรียนรู้เรื่องที่สนใจอีกครั้งแล้ววางแผนทำสิ่งเหล่านั้นอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการไปเข้าอบรมสัมมนาและสมัครเรียนคอร์สออนไลน์ นอกจากจะทำให้เราได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ แล้วยังจะช่วยให้มุมมองต่อชีวิตของเราเปลี่ยนไปได้ด้วย
ทำสิ่งที่มีคุณค่าและสร้างประโยชน์ต่อคนและสังคม
การออกไปช่วยเหลือคนอื่น จะช่วยให้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้กับคนและสังคมได้ และการที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นมีชีวิตที่ดี บรรลุเป้าหมาย และมีความสุขก็ยังจะช่วยทำให้เรามีความสุขตามไปด้วยได้เช่นกัน ไม่แน่ว่าจุดเปลี่ยนเล็ก ๆ แบบนี้จะเป็นส่วนช่วยให้เรากลับมารู้สึกมีไฟและอยากท้าทายกับชีวิตของตัวเองมากขึ้นก็ได้
ถ้าวันนึงเราตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วรู้สึกไม่อยากลุกไปทำงาน ก็จงอย่าเอาแต่จมอยู่กับความคิดลบ ๆ อารมณ์หดหู่ และท้อใจ เพราะมีแต่ความเข้าใจตัวเองเท่านั้นที่จะช่วยให้เราคลายปัญหานี้ได้ ค่อย ๆ ปรับมุมมองและเปิดใจให้กว้างเข้าไว้ เราเชื่อเสมอว่าคนทำงานวัยกลางคนที่กำลังเจอปัญหาวิกฤตินี้จะสามารถผ่านพ้นปัญหาและกลับมามีไฟในการทำงานได้อีกครั้งแน่นอน
เพื่อน ๆ ชาวพันทิป มีวิธีการรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงบ้างมาแชร์กันนะคะ
ขอวิธีปลุกไฟในการทำงานของแต่คน คนละ 1 อย่างหน่อยค่ะ
มีคนทำงานวัยกลางคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึก “หมด Passion” ในการทำงาน จากเคยเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงก็กลับกลายมาเป็นคนที่ตื่นนอนมาด้วยความเบื่อหน่าย เพียงแค่จะมาตอกบัตรเข้างานและทำงานให้ครบเวลาเท่านั้น เพื่อรับมือกับปัญหา Midlife Crisis นี้ JobThai Tips จะพาคุณไปรู้จักกับสิ่งนี้ให้มากขึ้น พร้อมกับวิธีรับมือและเติมเชื้อไฟ เพื่อให้ Passion ในการทำงานกลับมาลุกโชนได้อีกครั้ง
คุยกับคนที่มีพลังบวก
อย่าคิดว่าเราอยู่คนเดียวบนโลก พยายามออกไปคุยกับคนที่มีพลังบวกให้มาก ๆ อาจจะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว ที่ปรึกษาด้านอาชีพและชีวิต หรือจิตแพทย์ก็ได้ บางครั้งวิกฤติวัยกลางคนก็มาพร้อมกับสัญญาณที่บอกว่าเราหมดความสนใจในเรื่องที่เคยมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำ การได้พูดคุย พบปะกับคนที่สนใจเรื่องเดียวกันจะช่วยให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เริ่มตั้งเป้าหมายใหม่แล้วลงมือทำ
ถึงแม้ที่ผ่านมาเป้าหมายในชีวิตและการทำงานของเราจะยังไม่มีอะไรสำเร็จ แต่ทุกอย่างก็เริ่มต้นใหม่ได้ทั้งนั้น ดังนั้นก็ลองเอาช่วงวัยนี้เป็นโอกาสในการตั้งเป้าหมายใหม่สักอย่าง แล้วเริ่มลงมือทำเลย อาจรื้อฟื้นความฝันวัยเด็ก หรือสิ่งที่เราคิดมานานแล้วแต่ไม่ได้ลงมือทำสักทีก็ได้
ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ตั้งเป้าหมายว่าจะเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ พัฒนาทักษะที่เกี่ยวกับ IT หรือ Data ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับการทำงานและเกี่ยวข้องกับงานของเรามากขึ้น หรือตั้งใจจะเข้าไปทำงานอาสาสมัครและช่วยเหลือสังคมในส่วนที่เราทำได้
กลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้ง
หลายครั้งที่การหมดไฟเกิดจากการที่ต้องทำอะไรซ้ำ ๆ อยู่กับสิ่งเดิม ๆ นานจนเกินไป ตื่นนอนแต่เช้า เข้างาน ประชุมกับทีม ตอบอีเมล วนซ้ำไปอย่างนี้ทุก ๆ วัน การลองกลับมาทำตัวเป็นนักเรียน เรียนรู้เรื่องที่สนใจอีกครั้งแล้ววางแผนทำสิ่งเหล่านั้นอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการไปเข้าอบรมสัมมนาและสมัครเรียนคอร์สออนไลน์ นอกจากจะทำให้เราได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ แล้วยังจะช่วยให้มุมมองต่อชีวิตของเราเปลี่ยนไปได้ด้วย
ทำสิ่งที่มีคุณค่าและสร้างประโยชน์ต่อคนและสังคม
การออกไปช่วยเหลือคนอื่น จะช่วยให้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้กับคนและสังคมได้ และการที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นมีชีวิตที่ดี บรรลุเป้าหมาย และมีความสุขก็ยังจะช่วยทำให้เรามีความสุขตามไปด้วยได้เช่นกัน ไม่แน่ว่าจุดเปลี่ยนเล็ก ๆ แบบนี้จะเป็นส่วนช่วยให้เรากลับมารู้สึกมีไฟและอยากท้าทายกับชีวิตของตัวเองมากขึ้นก็ได้
ถ้าวันนึงเราตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วรู้สึกไม่อยากลุกไปทำงาน ก็จงอย่าเอาแต่จมอยู่กับความคิดลบ ๆ อารมณ์หดหู่ และท้อใจ เพราะมีแต่ความเข้าใจตัวเองเท่านั้นที่จะช่วยให้เราคลายปัญหานี้ได้ ค่อย ๆ ปรับมุมมองและเปิดใจให้กว้างเข้าไว้ เราเชื่อเสมอว่าคนทำงานวัยกลางคนที่กำลังเจอปัญหาวิกฤตินี้จะสามารถผ่านพ้นปัญหาและกลับมามีไฟในการทำงานได้อีกครั้งแน่นอน
เพื่อน ๆ ชาวพันทิป มีวิธีการรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงบ้างมาแชร์กันนะคะ