จะเล่ายังไงดี
สมัยก่อนสัก6-7ปีที่แล้วผมเคยคบผชคนนึง ในช่วงที่เริ่มต้นคบกันก็มีอะไรกัน 2 ครั้งโดยไม่ได้ป้องกันด้วยความคึกคะนองสมัยวัยรุ่น(ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะครับ) แล้วอยู่ๆวันนึงผมก็ชวนเขาไปตรวจเลือดกัน ปรากฏว่าผลของผลลบ ของเขาบวก เขาก็เข้าสู่กระบวนการรักษา เราคบกันได้ประมาน3เดือนก็เลิกกันโดยในระยะเวลาตั้งแต่รู้ผลเลือดก็ไม่มีไรกันเลย หลังจากรู้ผลเลือดเขา ผมก็ตรวจเลือดตามระยะเวลาที่ควรเช็คหรือwindow periodเลย 1เดือน 3เดือน 6เดือน (แถมเดือน9) แล้วก็ครั้งสุดท้ายก็1ปี ผลเลือดยังคงเป็นลบอยู่ ก็ผ่านไรมาจนมาเจอแฟนใหม่(ล่าสุด)ก็ตกลงคบกับเขา มันก็มีไรกันแบบป้องกันปกติครับ แล้วหลังจากนั้น6เดือนผมก็ไปตรวจเลือดใหม่ผลยังคงเป็นลบเหมือนเดิม จุดเปลี่ยนมันอยู่จากนี้ครับ ผมก็บอกให้แฟนไปตรวจ เขาก็บอกว่าเขาตรวจมาแล้วเขาไม่เจอ(จริงเท็จไม่รู้) เราก็มีอะไรกันแบบไม่ป้องกันเพราะผมคบกับเขาแบบจริงจังมากกะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขายาวๆเลย แต่ผมสังเกตว่าเขาผิดปกติมันมีผื่นขึ้นทั้งตัวแล้วรอยไม่หายไป ผมก็บอกให้เขาไปตรวจเลือดก็ไม่ยอม อ้างว่าแพ้ครีมบ้างไรบ้างก็ไม่ว่ากัน ผมคบกับเขาได้5ปีครับ อยู่ๆก็รับข่าวว่าแฟนเก่าของแฟนผมเขาเสียชีวิตด้วยhivเพราะไม่ดูแลตัวเองหลังจากนั้นไม่นานแฟนผมก็ป่วยแบบอยู่ๆก็ป่วยจากที่แข็งแรงมาก ก็พาไปหาหมอที่ร.พ. ครั้งแรกได้ยามากิน แล้วก็กลับมาบ้าน มีไข้ตัวร้อนจี๋เลย ทานยาก็ไข้ไม่ลง
เช้าเลยพานางไปหาหมอใหม่ ปรากฏหมอสั่งตรวจเลือด ผลออกมาบวกครับ ในใจผมนี่ซีดเลย ผมเลยบอกแฟนว่าผมขอไปตรวจเลือดนะ ก็ไปร.พ.ใหญ่ๆแถวประเวศ ใช้สิทธิสปสช ผลเลือดของผมยังคงเป็นลบ(ครั้งแรกในรอบปี) ผมเล่าให้หมอที่ร.พ.ฟังเขาก็นัดตรวจซ้ำอีกรอบ แต่ผมไม่ได้ไป ผมก็กลับมาคุยกับแฟนผมว่าผมจะไม่เลิกนะ เราจะดูแลกันตลอดไปเพราะผมรักเขามากจริงๆ ไม่ต้องห่วงอะไร จากนั้นผมก็ให้แฟนผมกินยาต้านทุกวัน จากวันแรกที่กินแฟนผมเหมือนคนเมา(เอฟเฟกยาแรกๆใครกินคงรู้) เขาก็กินแล้วนอน วันแรกไม่เป็นอะไรยังมีไข้อยู่ วันที่3เขาเริ่มนอนเยอะขึ้นจนผิดปกติ ผมบอกให้ไปหาหมอผมจะพาไป เขาก็บอกว่าขอดูอาการก่อนแต่นอนเยอะขึ้นมาก ผมก็เชื่อใจเขาแหละ จนผ่านไปวันที่8จากการกินยา เขาเริ่มทรงตัวไม่ไหว เดินเซๆแต่ยังพูดได้ปกติ เราบอกให้ไปหาหมอ ก็ยังไม่ยอมไปจนวันที่10ของการกินยา เขามีอาการลิ้นแข็ง หูอื้อ(ได้ยินไม่ชัด) ผมห่วงมาก ก็เลยพากันเข้าร.พ. หมอให้แอดมิด กลายเป็นว่าเชื้อลุกลามขึ้นสมองเรียบร้อย เชื่อไหมครับว่าเขามีอาการทรุดลงรายชั่วโมงเลย จากที่พอคุยได้ช่วงเช้า เย็นต่อท่อ อาการทรงๆ ผมตะเวนทำบุญให้(ปกติผมกับแฟนเราชอบทำบุญกันอยู่แล้ว) อุทิศบุญให้เขาและเจ้ากรรมนายเวรของเขา(ไม่รู้มันช่วยได้ไหมแต่เราทำเพื่อใจเราสงบด้วย) จนวันสุดท้ายหมอแจ้งให้เรียกญาติๆมาลา ผมอยู่กับเขาจับเขาไว้จนวินาทีที่เขาจากไป ผมยืนหันหลังแล้วร้องไห้แบบไม่อายใครเลยครับ เหมือนคนชีวิตสลายไปครึ่งนึงเลย ช่วงแรกๆผมเหมือนคนซึมเศร้าเลยนะครับ ไปทำงานยิ้มแย้มปกติ กลับมาบ้านเก็บตัวคนเดียวร้องไห้ไม่อยากอยู่กับใคร ทุกๆที่เราไปเราเคยมีเขาไปด้วย ไปที่ไหนๆก็มีแต่ภาพความทรงจำที่มีเขาตลอดเวลา เหมือนคนบ้า พ่อแม่ผมก็พูดถึงเขาบ่อยมาก มันยิ่งทำให้ผมคิดถึงเขาช่วงที่เขาเสียใหม่ๆ จนผมเคยคิดฆ่าตัวตายตามก็มีครับ ไม่อยากมีชีวิตอีกแล้ว แต่ก็ยังมีพ่อแม่ให้ดูแล ทำให้ผมยั้งมือตัวเองไว้ นับจากวันที่เขาจากไปพอผ่านไป6เดือนผมได้มีโอกาสไปตรวจเลือดใหม่อีกครั้งที่ร.พ.รัฐแห่งหนึ่งจากครั้งตอนนั้น ผลเลือดผมยังคงเป็นลบ ก็เลยเล่าให้หมอฟัง หมอก็แนะนำตรวจซ้ำอีกรอบโดยห่างกันเดือนนึง ผลก็ยังเป็นลบ ผมเลยถามหมอว่าผมยังมีโอกาสที่เชื้อจะโผล่มาให้เห็นไหม หมอแจ้งว่าผมปลอดภัยแล้วหละ เพราะตอนนี้ใช้น้ำยาตัวล่าสุดที่คอนเฟิร์มผลได้100%แล้ว เนื่องจากระยะเวลาที่ทิ้งช่วงมามันน่าจะเจอแล้วถ้าหากว่าติดเชื้อ ผมเลยบอกว่าขอเข้าโครงการรับยาprepกินได้ไหม หมอก็บอกรับได้ ก็เลยกินมาสักพักละครับ ตอนนี้จิตใจโอเคแล้วครับ ทำบุญให้เขาเสมอเมื่อมีโอกาส ขอบคุณนะครับถ้ามีใครมาอ่านเรื่องราวของผม ไม่แนะนำให้มีพฤติกรรมเสี่ยงนะครับ ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีแบบผมที่ผลเลือดเป็นลบแม้มีความเสี่ยงสูงมาก ป้องกันไว้ดีกว่าทั้งตัวเราและคนที่เรารัก
เรื่องเล่าความเสี่ยงกับHIVของผชห่วยๆคนนึง
สมัยก่อนสัก6-7ปีที่แล้วผมเคยคบผชคนนึง ในช่วงที่เริ่มต้นคบกันก็มีอะไรกัน 2 ครั้งโดยไม่ได้ป้องกันด้วยความคึกคะนองสมัยวัยรุ่น(ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะครับ) แล้วอยู่ๆวันนึงผมก็ชวนเขาไปตรวจเลือดกัน ปรากฏว่าผลของผลลบ ของเขาบวก เขาก็เข้าสู่กระบวนการรักษา เราคบกันได้ประมาน3เดือนก็เลิกกันโดยในระยะเวลาตั้งแต่รู้ผลเลือดก็ไม่มีไรกันเลย หลังจากรู้ผลเลือดเขา ผมก็ตรวจเลือดตามระยะเวลาที่ควรเช็คหรือwindow periodเลย 1เดือน 3เดือน 6เดือน (แถมเดือน9) แล้วก็ครั้งสุดท้ายก็1ปี ผลเลือดยังคงเป็นลบอยู่ ก็ผ่านไรมาจนมาเจอแฟนใหม่(ล่าสุด)ก็ตกลงคบกับเขา มันก็มีไรกันแบบป้องกันปกติครับ แล้วหลังจากนั้น6เดือนผมก็ไปตรวจเลือดใหม่ผลยังคงเป็นลบเหมือนเดิม จุดเปลี่ยนมันอยู่จากนี้ครับ ผมก็บอกให้แฟนไปตรวจ เขาก็บอกว่าเขาตรวจมาแล้วเขาไม่เจอ(จริงเท็จไม่รู้) เราก็มีอะไรกันแบบไม่ป้องกันเพราะผมคบกับเขาแบบจริงจังมากกะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขายาวๆเลย แต่ผมสังเกตว่าเขาผิดปกติมันมีผื่นขึ้นทั้งตัวแล้วรอยไม่หายไป ผมก็บอกให้เขาไปตรวจเลือดก็ไม่ยอม อ้างว่าแพ้ครีมบ้างไรบ้างก็ไม่ว่ากัน ผมคบกับเขาได้5ปีครับ อยู่ๆก็รับข่าวว่าแฟนเก่าของแฟนผมเขาเสียชีวิตด้วยhivเพราะไม่ดูแลตัวเองหลังจากนั้นไม่นานแฟนผมก็ป่วยแบบอยู่ๆก็ป่วยจากที่แข็งแรงมาก ก็พาไปหาหมอที่ร.พ. ครั้งแรกได้ยามากิน แล้วก็กลับมาบ้าน มีไข้ตัวร้อนจี๋เลย ทานยาก็ไข้ไม่ลง
เช้าเลยพานางไปหาหมอใหม่ ปรากฏหมอสั่งตรวจเลือด ผลออกมาบวกครับ ในใจผมนี่ซีดเลย ผมเลยบอกแฟนว่าผมขอไปตรวจเลือดนะ ก็ไปร.พ.ใหญ่ๆแถวประเวศ ใช้สิทธิสปสช ผลเลือดของผมยังคงเป็นลบ(ครั้งแรกในรอบปี) ผมเล่าให้หมอที่ร.พ.ฟังเขาก็นัดตรวจซ้ำอีกรอบ แต่ผมไม่ได้ไป ผมก็กลับมาคุยกับแฟนผมว่าผมจะไม่เลิกนะ เราจะดูแลกันตลอดไปเพราะผมรักเขามากจริงๆ ไม่ต้องห่วงอะไร จากนั้นผมก็ให้แฟนผมกินยาต้านทุกวัน จากวันแรกที่กินแฟนผมเหมือนคนเมา(เอฟเฟกยาแรกๆใครกินคงรู้) เขาก็กินแล้วนอน วันแรกไม่เป็นอะไรยังมีไข้อยู่ วันที่3เขาเริ่มนอนเยอะขึ้นจนผิดปกติ ผมบอกให้ไปหาหมอผมจะพาไป เขาก็บอกว่าขอดูอาการก่อนแต่นอนเยอะขึ้นมาก ผมก็เชื่อใจเขาแหละ จนผ่านไปวันที่8จากการกินยา เขาเริ่มทรงตัวไม่ไหว เดินเซๆแต่ยังพูดได้ปกติ เราบอกให้ไปหาหมอ ก็ยังไม่ยอมไปจนวันที่10ของการกินยา เขามีอาการลิ้นแข็ง หูอื้อ(ได้ยินไม่ชัด) ผมห่วงมาก ก็เลยพากันเข้าร.พ. หมอให้แอดมิด กลายเป็นว่าเชื้อลุกลามขึ้นสมองเรียบร้อย เชื่อไหมครับว่าเขามีอาการทรุดลงรายชั่วโมงเลย จากที่พอคุยได้ช่วงเช้า เย็นต่อท่อ อาการทรงๆ ผมตะเวนทำบุญให้(ปกติผมกับแฟนเราชอบทำบุญกันอยู่แล้ว) อุทิศบุญให้เขาและเจ้ากรรมนายเวรของเขา(ไม่รู้มันช่วยได้ไหมแต่เราทำเพื่อใจเราสงบด้วย) จนวันสุดท้ายหมอแจ้งให้เรียกญาติๆมาลา ผมอยู่กับเขาจับเขาไว้จนวินาทีที่เขาจากไป ผมยืนหันหลังแล้วร้องไห้แบบไม่อายใครเลยครับ เหมือนคนชีวิตสลายไปครึ่งนึงเลย ช่วงแรกๆผมเหมือนคนซึมเศร้าเลยนะครับ ไปทำงานยิ้มแย้มปกติ กลับมาบ้านเก็บตัวคนเดียวร้องไห้ไม่อยากอยู่กับใคร ทุกๆที่เราไปเราเคยมีเขาไปด้วย ไปที่ไหนๆก็มีแต่ภาพความทรงจำที่มีเขาตลอดเวลา เหมือนคนบ้า พ่อแม่ผมก็พูดถึงเขาบ่อยมาก มันยิ่งทำให้ผมคิดถึงเขาช่วงที่เขาเสียใหม่ๆ จนผมเคยคิดฆ่าตัวตายตามก็มีครับ ไม่อยากมีชีวิตอีกแล้ว แต่ก็ยังมีพ่อแม่ให้ดูแล ทำให้ผมยั้งมือตัวเองไว้ นับจากวันที่เขาจากไปพอผ่านไป6เดือนผมได้มีโอกาสไปตรวจเลือดใหม่อีกครั้งที่ร.พ.รัฐแห่งหนึ่งจากครั้งตอนนั้น ผลเลือดผมยังคงเป็นลบ ก็เลยเล่าให้หมอฟัง หมอก็แนะนำตรวจซ้ำอีกรอบโดยห่างกันเดือนนึง ผลก็ยังเป็นลบ ผมเลยถามหมอว่าผมยังมีโอกาสที่เชื้อจะโผล่มาให้เห็นไหม หมอแจ้งว่าผมปลอดภัยแล้วหละ เพราะตอนนี้ใช้น้ำยาตัวล่าสุดที่คอนเฟิร์มผลได้100%แล้ว เนื่องจากระยะเวลาที่ทิ้งช่วงมามันน่าจะเจอแล้วถ้าหากว่าติดเชื้อ ผมเลยบอกว่าขอเข้าโครงการรับยาprepกินได้ไหม หมอก็บอกรับได้ ก็เลยกินมาสักพักละครับ ตอนนี้จิตใจโอเคแล้วครับ ทำบุญให้เขาเสมอเมื่อมีโอกาส ขอบคุณนะครับถ้ามีใครมาอ่านเรื่องราวของผม ไม่แนะนำให้มีพฤติกรรมเสี่ยงนะครับ ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีแบบผมที่ผลเลือดเป็นลบแม้มีความเสี่ยงสูงมาก ป้องกันไว้ดีกว่าทั้งตัวเราและคนที่เรารัก