ไม่ว่าจะยุคไหน ๆ ธุรกิจที่ขายสินค้าเหมือนกันมักจะลงเอยด้วยการตัดราคาเพื่อเพิ่มหรือแย่งลูกค้ากันเป็นเรื่องปกติ แต่ก่อนที่จะใจร้อนตัดราคาคุณต้องมั่นใจก่อนว่าถ้าตัดราคาแล้วธุรกิจร้านค้าของคุณยังมีกำไรมากพอที่จะดำเนินการต่อไปได้ เพราะถ้าหากตัดราคาแล้วไม่ได้กำไร ผมแนะนำให้คุณหยุดทำทันที แล้วรีบดึงราคากลับมาเท่าเดิมและหากลยุทธ์ใหม่ที่ทำให้คุณแตกต่าง ฟังดูแล้วคุณอาจจะยังมองไม่เห็นภาพและอาจจะยังหาทางออกไม่เจอ ซึ่งเดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้คุณเข้าใจดังนี้

            ยกตัวอย่าง โดยเริ่มจากสิ่งที่ ไม่แตกต่าง เช่น คนส่วนใหญ่เลือกซื้อสินค้าสินค้าหนึ่ง สมมุติว่า คุณเลือกซื้อสินค้าเป็นเก้าอี้ทรงกลมจากผู้ขายเจ้าแรกในราคา 500 บาท เป็นประจำ แต่อยู่ ๆ ก็มีผู้ขายเจ้าที่ 2 ที่ขายเก้าอี้แบบเดียวกันแต่ตัดราคาเหลือ 450 บาท ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสินค้าเป็นรูปแบบเดียวกันแต่ราคาต่ำกว่าอย่างไรคนก็ต้องหันมาซื้อกับผู้ขายเจ้าที่ 2 โดยเหตุผลที่ว่า “สินค้าเหมือนกันแล้วทำไมต้องซื้อในราคาที่แพงกว่า” จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องหาทางออก นั่นก็คือ ความแตกต่าง เพราะรู้ว่าถ้าใช้กลยุทธ์ตัดราคากันไปกันมาไม่นานธุรกิจอาจจะเจ๊งก็เป็นได้
 
 
            เมื่อผู้ประกอบการคิดว่าต้องทำสินค้าที่มี ความแตกต่าง ออกไปจากเดิม ส่วนใหญ่แล้วมักจะคิดแค่ว่าแตกต่างก็อาจจะมีคนสนใจ เช่น อยู่ดี ๆ  คุณก็ไปทำเก้าอี้ที่ดูแปลกไปจากเดิมก็คือ เก้าอี้สปริง  ที่ให้มิติใหม่ในการนั่งและได้เล่าถึงประโยชน์ของสินค้าชิ้นนี้ว่า “สามารถปรับสภาพตามน้ำหนักของคนนั่งได้” ซึ่งแตกต่างจากธุรกิจที่เป็นเก้าอี้ทั่วไปที่เคยได้ทำมาแล้วและมีต้นทุนที่ถูก พอคุณหันมาทำสินค้าที่แปลกใหม่ในบางทีต้นทุนอาจจะสูง ดั่งเก้าอี้สปริงที่คุณคิดขึ้นมาและเปรียบเทียบกับเก้าอี้ธรรมดาที่มีต้นทุนอาจจะอยู่ที่ 200 บาท แต่ถ้าเป็นเก้าอี้สปริงกับมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,200 บาท ฉะนั้น ถ้าคุณอยากขายของแล้วมีกำไรที่มากกว่าเดิมแสดงว่าคุณต้องขายในราคา 1,900 บาท ซึ่งสินค้าชิ้นนี้มีราคาที่สูงกว่าเก้าอี้แบบแรก 3-4 เท่า 

           และคุณรู้หรือไม่ว่า เมื่อไหร่ที่สินค้ามีราคาที่แพงไปจากเดิมและยิ่งเป็นสินค้าใหม่ เป็นเรื่องปกติที่คนจะปฏิเสธการซื้อสิ่งนั้น โดยให้คุณลองสังเกตจากสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สมมุติว่า คุณมียาสีฟันสมุนไพรที่เป็นยี่ห้อใหม่ออกมาอาจจะเป็นแบรนด์ที่ชื่อว่า พญานาคสีทอง แต่ทุกทีผมก็ใช้ยาสีฟันสมุนไพรของผมอยู่แล้วมาหลายปี ทีนี้มียาสีฟันสมุนไพรออกมาใหม่คุณคิดว่าผมจะเปลี่ยนไปใช้ยาสีฟันแบรนด์ใหม่ไหมครับ…ซึ่งก็อาจจะมีบางคนที่สนใจอยากจะลองแต่ก็มีน้อยมาก ดังนั้น ถ้าอยากให้จะให้ยาสีฟันสมุนไพรตราพญานาคสีทองขายได้  คุณก็ต้องทำให้ คนรู้จักและเริ่มจากมีราคาที่ถูกก่อน เพราะถ้าหากคนไม่รู้จักสินค้าคนก็จะไม่กล้าเสี่ยงด้วย แต่ถ้าสินค้ามีราคาถูกถึงคนไม่รู้จักแต่ก็อยากจะลองดูเพราะเสี่ยงไปก็ไม่ระคายเคือง ฉะนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องทำโปรโมชั่นขึ้นมา โดยเริ่มแรกอาจจะทำโปรโมชั่นขึ้นมาให้ลูกค้าสนใจก่อน เช่น ซื้อ 1 แถม 1 ซึ่งคุณต้องยอมไม่กำไรในช่วงแรกเพื่อดึงดูดให้คนได้ทดลองใช้สินค้า แต่!! เมื่อหมดโปรโมชั่นลูกค้าก็ไม่ซื้ออยู่ดี กลายเป็นว่าขายของไปขายของมาก็ไม่ได้อะไรสักที 

          ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณสามารถมีรายได้ในการทำธุรกิจใหม่หรือสินค้าที่แตกต่าง ต้องทำให้แบรนด์หรือสินค้าของคุณเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเสียก่อน อาจจะเน้นเรื่องการตลาดการทำโฆษณาซึ่งคนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าต้องเสียเงิน แต่ที่จริงแล้วการทำการตลาดโฆษณาแบบไม่ต้องเสียเงินก็มีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ อย่างเช่น เก้าอี้สปริง เมื่อคุณนำไปวางแล้วคนไม่รู้จักมันก็อาจจะมีปัญหาคนไม่ซื้อสินค้าหรือซื้อน้อยมาก และไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนที่คุณลงไป ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะทำสินค้าออกมาใหม่หรือมีความแตกต่างแค่ไหน สุดท้ายแล้วคุณจำเป็นที่จะต้องทำการตลาดโฆษณานั่นเอง

         นี่แหละครับ ไม่ว่าคุณจะมีสินค้าที่ดีมีคุณภาพดีแค่ไหนถ้าคนไม่รู้จัก บวกกับสินค้ามีราคาที่แพง โอกาสที่ผู้ประกอบการจะตกม้าตายก็สูงมากเช่นเดียวกัน เมื่อคุณอ่านบทความมาถึงตรงนี้แล้วสำหรับคุณ คุณคิดว่าการทำการตลาดโฆษณานั้นสำคัญต่อธุรกิจคุณหรือไม่ แล้วจะทำให้คุณรวยได้หรือไม่สามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ