ช่วยวิเคราะ SWOT and 4P's ของยาสีฟันดอกบัวคู่

ยาสีฟันดอกบัวคู่ Rebranding เจาะตลาดคนเมือง(Marketeer/08/47)

แม้ว่าจะเป็นผู้นำในเซ็กเมนต์ยาสีฟันสมุนไพร แต่ยาสีฟันดอกบัวคู่ก็มีข้อจำกัดสำคัญในการทำตลาดนั่นคือ ภาพลักษณ์ของสินค้าที่ดูไม่ทันสมัย ทำให้ถูกมองว่าเป็นสินค้าของคนต่างจังหวัด ดอกบัวคู่จึงต้อง Rebranding ตัวเองครั้งใหญ่ ด้วยงบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อขยายตลาดไปสู่กลุ่มคนเมือง

กระแสธรรมชาติ โอกาสของดอกบัวคู่

-          แม้ว่าตลาดยาสีฟันรวม ซึ่งมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 10%

-          แต่เซ็กเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุด คือยาสีฟันสมุนไพร กลับมีอัตราเติบโตถึง 30% ต่อปี ขณะที่ยาสีฟันสูตรมาตรฐานมีอัตราเติบโตเพียงปีละประมาณ 5% ต่อปีเท่านั้น

-          การที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพโดยวิธีธรรมชาติมากขึ้นเช่นนี้ ทำให้ดอกบัวคู่มองเห็นโอกาสที่จะขยายตลาดให้กว้างออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายไปสู่กลุ่มคนเมือง ซึ่งที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่ใช้ยาสีฟันดอกบัวคู่ไม่มากนัก

-          รวมทั้งเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น จากเดิมที่จับกลุ่มที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ลงมาเป็นกลุ่มที่อายุ 18 ปีขึ้นไป

ดอกบัวคู่ ดำแต่ดี

-          สาเหตุสำคัญที่ทำให้ยาสีฟันดอกบัวคู่ไม่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ที่อยู่ในเมืองก็เนื่องมาจากภาพลักษณ์ของสินค้าที่ไม่ทันสมัย ทั้งในส่วนของแพ็กเก็จจิ้ง และเนื้อยาสีฟันที่มีสีดำ ทำให้ดูไม่น่าใช้

-          การ Rebranding ของดอกบัวคู่ครั้งนี้จึงเริ่มจากการปรับเปลี่ยนแพ็กเก็จจิ้งใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงเน้นโทนสีขาวและเขียวเพื่อสื่อถึงความเป็นสมุนไพร

-          ส่วนในแง่ภาพลักษณ์ของยาสีฟันนั้น ดอกบัวคู่แก้ด้วยการออกหนังโฆษณาเรื่องใหม่ ภายใต้แนวคิด “ดำแต่ดี..เพราะทำจากสมุนไพรล้วน ๆ” เพื่อชูคุณภาพจากสมุนไพรและลบจุดอ่อนด้านความรู้สึกที่ผู้บริโภคมีต่อเนื้อยาสีฟันที่มีสีดำ

-          โดยในภาพยนตร์โฆษณาได้มีการเปรียบเทียบยาสีฟันดอกบัวคู่กับชายผิวดำที่ถูกประเมินค่าผิด เพราะถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะออกอากาศต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี

-          นอกจากนี้จะมีการทำ Road Show โดยในกรุงเทพฯ จะเน้นเข้าไปประชาสัมพันธ์สินค้าในสำนักงานต่าง ๆ รวมทั้งจะให้ความสำคัญกับช่องทางการขายที่เป็นโมเดิร์นเทรดมากขึ้นด้วย

ไม่ทิ้งตลาดเก่า

-          อย่างไรก็ดี ดอกบัวคู่ ยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าเดิมที่อยู่ในต่างจังหวัดด้วย โดยจะมีการทำ Road Show ด้วยการมีหน่วยรถออกตระเวนขายสินค้าเข้าไปตามตลาดนัดและหมู่บ้าน รวมถึงการจัดกิจกรรมตามร้านค้าเล็ก ๆ ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความใกล้ชิดให้ผู้บริโภคกับสินค้า

-          นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการขายผ่านยี่ปั๊ว เพราะถือว่าเป็นช่องทางหลัก โดยปัจจุบันดอกบัวคู่จำหน่ายผ่านช่องทางนี้ถึง 53 %

ตั้งเป้าขึ้นที่ 2

-          ปัจจุบันดอกบัวคู่มีส่วนแบ่งในตลาดยาสีฟันรวม 14 % และหลังจากการ รีแบรนด์ครั้งนี้คาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดถึง 17% ซึ่งจะทำให้ดอกบั่วคู่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในตลาดยาสีฟันรวม และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสมุนไพรจาก 67% ในปีที่ผ่านมาเป็น 70%

ฝ่าสงครามราคาคู่แข่ง

-          ตลาดยาสีฟันในปี 2547 มีการแข่งขันด้านราคาสูงมาก เนื่องมาจากการดัมพ์ราคาให้ต่ำลงมาของเจ้าตลาด ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการายอื่น ๆ ต้องปรับกระบวนยุทธ์เรื่องราคาใหม่ตามไปด้วย

-          เริ่มจากคอลเกต เจ้าตลาดยาสีฟันที่เปิดศึกหั่นราคา ด้วยคอลเกตแพคคู่ 59 บาท จากเดิมราคา 84 บาท

-          ขณะที่ ดาร์ลี่ จากค่ายเดียวกันที่ออกแพคคู่ราคา 59 บาทออกมาทำตลาดด้วย

-          ทำให้ยูนิลีเวอร์เจ้าของผลิตภัณฑ์ "โคลสอัพ ใกล้ชิด" ต้องจัดแคมเปญแพคคู่ตาม ด้วยขนาด 160 กรัม ขายคู่ละ 50 บาทจาก พร้อมกับการปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายของสินค้าให้เด็กลงด้วย จากเดิมที่จับกลุ่มอายุ 25-45 ปี ไปเป็นกลุ่ม อายุ 18-25 ปี

-          ขณะที่ ฟลูโอคารีล หันมาเล่นในตลาดยาสีฟันสมุนไพร ด้วย ฟลูโอคารีล กรีนที ทวิสต์ เมื่อปลายปีที่แล้ว

-          นอกจากเรื่องราคาแล้ว ประเด็นเรื่องฟันขาวยังถือว่าเป็นกลยุทธ์หลักที่ยาสีฟันคอลเกต ดาร์ลี่ และใกล้ชิด ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟันขาวขึ้นใน 4 สัปดาห์ ซึ่งทั้งคอลเกตและใกล้ชิดต่างใช้เป็นจุดหลักในการโฆษณา

lIlustrated by Number

ส่วนแบ่งในตลาดยาสีฟันรวม (5,000 ล้านบาท)

คอลเกต                               30%

ดาร์ลี่                               19%

ดอกบัวคู่                               14%

ใกล้ชิด                     13%

อื่นๆ                     24%



สัดส่วนยอดขายในตลาดยาสีฟันแบ่งตามประเภท

ยาสีฟันมาตรฐาน           51%

ยาสีฟันสมุนไพร                    22%

ยาสีฟันเพื่อฟันขาว           9%

ยาสีฟันเด็ก                     4%

อื่น ๆ                                        14%



ส่วนแบ่งในตลาดยาสีฟันสมุนไพร (1,100 ล้าน)

ดอกบัวคู่                               67% (737 ล้านบาท)

อื่น ๆ                                        33 %



ยอดขายยาสีฟันดอกบัวคู่แบ่งตามประเภท (765 ล้านบาท)

ออริจินอล                               83%

เฟรชแอนด์คูล                     14%

เฮอเบิ้ล พลัส                     3%



ช่องทางการจัดจำหน่ายยาสีฟันดอกบัวคู่ (ปี 2547)

โฮลด์เซล (ยี่ปั๊ว)                     53 %

โมเดิร์นเทรด                     33 %

ขายตรง                               14 %


:: คำถาม วิเคราะ SWOT and 4P's ของยาสีฟันดอกบัวคู่ ::
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
วิเคราะห์ กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด (4P’s) ของยาสีฟันสมุนไพรดอกบัวคู่
กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด(4P)    เน้นสร้างความแตกต่างของตัวผลิตภัณฑ์ และเนื่องจากครีมอาบน้ำดอกบัวคู่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแนะนำผลิตภัณฑ์ ดังนั้นส่วนผสมทางการตลาดที่สำคัญที่สุดในช่วงแนะนำคือ     

Promotion เพื่อสร้างการรับรู้และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์   โดยใช้การสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร คือ IMC เน้นทั้ง Above the Line   และ Below the Line   ทั้งโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ตลอดจนส่งเสริมการขาย ด้วย Sale Promotion โดยช่วงแนะนำอาจขายพ่วงกับยาสีฟันเดิมเป็นต้น   และมีการแจกตัวอย่างสินค้า ตามห้างต่างๆ จัด Event ออกบูธโชว์สินค้ากระตุ้นให้เกิดการทดลอง และรับรู้อย่างกว้างขวาง

Product เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าซื้อ  สินค้าจะต้องมีคุณภาพดีและมีคุณค่าในสายตาของลูกค้าจริงและแตกต่างจากคู่แข่งขันคือ  ครีมอาบน้ำ มีส่วนผสมของ Witch Hazel Extract จากประเทศเยอรมนี , Olive Oil Derivative ,  ขมิ้น  และสมุนไพรสูตรเฉพาะของดอกบัวคู่  ซึ่งมีจุดเด่น คือ  ป้องกันริ้วรอย  ต่อต้านอนุมูลอิสระ  ยับยั้งการเสื่อมของเซลส์  กระชับผิว   ลดผดผื่น คันได้  และมีกลิ่นหอม  ทำให้ผู้บริโภครู้สึกสดชื่น  และสามารถดูแลผิวพรรณได้อย่างดี  เหมาะกับสาวทำงานที่อายุ 30 ปี ขึ้นไป กลัวความแก่ต้องการคงความงามไว้ให้นานที่สุด
    ส่วนแชมพูและครีมนวดผม  สูตรซีรั่มสกัดสมุนไพรจากใบจูนิเปอร์และใบสติ้งกิ้ง-เน็ทเทิ้ล    ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ  ปรับสภาพผมเสียจากสารเคมี  เน้นผมเสีย  ผมทำสี  ป้องกันเส้นผมจากมลภาวะ  เหมาะกับสาวตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไป ที่ชอบทำสีผม ชอบย้อม ชอบดัด  โดยแต่ละผลิตภัณท์ สามารถเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น

Price มีการกำหนดราคาที่คำนึงถึงการแข่งขัน เน้นคุณภาพเหนือกว่าคู่แข่งขันในราคาที่เหมาะสม ไม่แพงกว่าคู่แข่งขันในตลาดใหม่  
   
Place ช่องทางการจัดจำหน่ายสามารถใช้ช่องทางเดิมของยาสีฟัน ที่มีศักยภาพดีอยู่แล้ว และเพิ่มเข้าไปวางในตลาดซุปเปอร์มาเก็ต โมเดิร์นเทรด และคอนวีเนี่ยนสโตร์ให้มากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่