ก่อนอื่นเริ่มต้นที่ตอนเรายังเรียนอยู่ ป.2 เราเคยโดนเพื่อนแกล้ง แกล้งแบบแบล็คเมล์เรา ใช้เราเป็นเบ๊ โดนข่มขู่อะไรสักอย่าง ตอนนั้นยังเด็กก็เลยกลัว เลยยอมทำตามที่เพื่อนสั่งทุกอย่าง มีครั้งนึงเพื่อนใช้ให้ไปหยิบแม็กเย็บกระดาษบนโต๊ะครูประจำชั้น เราก็แอบไปหยิบ พอหยิบมาได้ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน เพื่อนโยนกันไปโยนกันมาจนแม็กพัง เพื่อนโทษเราว่าเราทำพัง แล้วขู่ว่าจะฟ้องครูถ้าไม่ทำตามที่สั่ง ตอนเด็กๆเราเป็นคนไม่สู้คนมากๆ เราเลยยอมด้วยความกลัว เวลากินข้าวถ้าเพื่อนไม่เอาช้อนส้อมมา เราก็ต้องเอาช้อนส้อมเราให้เพื่อนกินก่อนเราค่อยกินทีหลัง มีครั้งนึงเรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติ เพื่อนใช้ให้เราทำงานให้ก่อนแล้วเราทำของตัวเองทีหลัง ทำเสร็จแล้วก็เอาไปส่ง แต่เรากลับโดนครูด่า ตอนนั้นฟังภาษาอังกฤษไม่ออก แต่ดูจากท่าทางที่ครูหยิบงานเรากับเพื่อนมาเปรียบเทียบ เราเก็ทเลยว่าครูเข้าใจว่าเราใช้เพื่อนทำงานให้ เรากลายเป็นคนผิดไปดื้อๆ โดนด่าฟรีๆ นี่คือเท่าที่จำได้ตอน ป.2 เป็นความทรงจำที่ฝังใจมาก บางครั้งก็เก็บมาฝัน เราเห็นหน้าเพื่อนคนนั้นไม่ได้เลย เราเห็นเราคงช็อคอยู่ในใจ
ต่อมาตอน ม.2 เราโดนเพื่อนบูลลี่ ตั้งฉายาเราว่าเหาว่าเห็บทั้งๆที่เราไม่ได้เป็น นินทากันซึ่งๆหน้าเวลาเรียน เราทำได้แค่นั่งทำหน้านิ่งๆไม่สนใจเพื่อนตั้งใจเรียนอย่างเดียว แต่ความจริงคือคำพูดเพื่อนเข้าหัวเราทุกคำ จนมีครั้งนึงที่สุดจะทน เพื่อนปริ้นภาพตัวเหาตัวเห็บกับหน้าเรามาถือโชว์ไปรอบห้อง เราอดทนจนหมดคาบเรียนเราถึงได้ระเบิดร้องไห้ออกมา เพื่อนคนอื่นก็มาช่วยปลอบและด่าเพื่อนที่แกล้งเราให้ หลังจากนั้นเพื่อนที่แกล้งเราก็ตีเนียนมาชวนกินข้าวจนกลายเป็นเพื่อนสนิท งงมาก ถึงปัจจุบันนี้จะไม่มีปัญหากันแล้ว แต่ความทรงจำมันไม่หายไป
สิ่งที่เจอมาตั้งแต่ ป.2 ทำให้เรากลัวการเข้าสังคม ไว้ใจคนยาก ถึงแม้ภายนอกจะดูเฟรนลี่ แต่มันคือเกราะกำบัง เราเปิดใจให้เพื่อนยาก มีแค่ไม่กี่คนที่เราไว้ใจ ดังนั้นตอนนี้ขอพักแค่นี้ก่อน เดี๋ยวมาเล่าปัญหาตอนมหาลัยต่อ รวมทั้งเรื่องที่ทำร้ายตัวเอง กรีดข้อมือเอย บีบคอเอย เรื่องที่ไปพบจิตแพทย์กับนักจิตวิทยาด้วย เดี๋ยวมาเล่าทีหลัง
นี่คือกระทู้แรกของเรา เราเป็นโรคซึมเศร้า ขอเริ่มต้นด้วยการระบายปัญหาชีวิตได้ไหม