ทำงานที่ไม่ชอบ จะลาออกมาพักใจก่อนหรือฝืนไปต่อดีในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้?

ปัจจุบัน ทำงานบริษัทเอกชนที่ค่อนข้างเงินดี เพื่อนร่วมงานดี (รวมๆแล้วก็เกือบ 10ปี) แต่ติดตรงที่ไม่ชอบเนื้องานเพราะขัดกับนิสัยและเป็นงานที่ไม่ถนัด (แต่ทนทำมานานเพราะที่บ้านอยากให้ทำเพราะเป็นงานที่ตลาดต้องการ เงินดี เลี้ยงตัวเองได้) จนเครียดสะสมจนหมดไฟและเกือบซึมเศร้า ตอนนี้ต้องหาหมอจิตแพทย์เกือบทุกเดือน

ก่อนหน้านี้เลยตัดสินใจไปลองทำกิจกรรมหลายๆอย่างตอนเวลาว่างๆเพื่อผ่อนคลายและค้นหาตัวเองจนเจอสิ่งที่คิดว่าใช่ เราถนัดสิ่งนี้ ทำแล้วสนุก และอยากลองไปต่อ แม้งานนี้อาจไม่ใช่งานที่เงินดีเท่างานเดิม

เคยปรึกษากับที่บ้านเรื่องลาออกมาแบบว่างงานเพื่อฝึกฝนฝีมือ ความรู้ กับทักษะให้พร้อมสำหรับงานในสายงานใหม่ (แนวๆ freelance) และพักใจ รักษาสุขภาพจิตให้ดีขึ้นสัก 1-2 ปี เนื่องจากตอนนี้เรารับมือกับปัญหาสุขภาพจิตไม่ไหวและไม่มีแรงจะทำงานต่อ นอนร้องไห้แทบทุกวันเพราะเครียดกับงาน เราคิดคำนวนแล้วว่าเงินเก็บที่ได้จากการทำงาน รวมทั้งการลงทุนต่างๆ จะอยู่เฉยๆได้ราวๆ 3-5 ปี แต่ที่บ้านไม่เห็นด้วย มองว่าควรทำงานสายเดิมต่อแค่หาที่ใหม่เพราะเศรษฐกิจไม่ดีช่วงโควิด ไม่ควรเอาเงินเก็บมาใช้

เราเข้าใจที่บ้านและคนรอบข้างว่าเป็นห่วงเรื่องปากท้องในอนาคต การลาออกมาว่างงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่คิดจะทำก็ทำได้ทันที แต่เราคิดไตร่ตรองมาหลายเดือนว่าอยากเลือกรักษาสุขภาพจิตของตัวเองจนทะเลาะกับที่บ้านมาเป็นปีในเรื่องที่ความเห็นไม่ตรงกัน ที่บ้านมองว่าเค้ายังทำสิ่งที่ไม่ชอบมาจนเกษียณได้ ทำไมเราจึงทำไม่ได้ แต่เราอยากให้เค้าเข้าใจว่า เราต้องการรักษาสุขภาพจิตตัวเองให้พร้อมก้าวต่อ และลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง (เราลองทำงานปัจจุบันและฝึกสิ่งที่ชอบไปพร้อมกันมาหลายเดือนแล้ว แต่ความกดดันและความเครียดจากงานปัจจุบันมันค่อนข้างหนักหนาในความรู้สึกเรา จนรู้สึกว่าเรามาถึงทางตัน สุขภาพจิตแย่ลงเรื่อยๆ งานปัจจุบันเริ่มหมดแรงจะทำและ performance เริ่มถดถอยจนเห็นได้ชัด ไม่มีแรงและพลังใจจะทำอย่างอื่นแม้แต่สิ่งที่ชอบ)

จึงอยากขอความเห็นจากทุกๆท่านว่า ควรทำยังไงต่อไปดี และหลายๆคนมองยังไงกับการที่การว่างงานมาสักระยะ ทำให้เสียประวัติและหางานใหม่ยาก (ปล. ตักเตือนได้แต่อย่าด่าแรงนะคะ พอดีช่วงนี้ต้องการที่ปรึกษาและความเห็นจริงๆค่ะ)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าเป็นหนักถึงขั้นซึมเศร้า ออกมารักษาสุขภาพจิตก่อนค่ะ กำหนดไทม์ไลน์ให้ตัวเองว่าจะพักกี่เดือน เตรียมตัวให้พร้อมโดยเฉพาะเรื่องเงินที่จะใช้ดำรงชีวิตช่วงพักแบบไม่เดือดร้อน ถ้าปัจจัยซึมเศร้าเกิดจากคนที่บ้านไม่เห็นด้วยอีก ก็ให้เตรียมพร้อมเรื่องที่อยู่ใหม่ด้วย พยายามเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ทำให้เราแย่ อย่าเพิ่งใส่ใจความคิดคนอื่น แต่แนะนำว่าอย่าออกไปอยู่คนเดียวมันจะยิ่งดิ่ง ถ้ามีคนสนิทที่เข้าใจโรคนี้ไปอยู่ด้วยหรืออยู่ใกล้ตัวจะดีมากค่ะ เผื่อวันหยุดเขาชวนกันไปเที่ยวพักผ่อนใกล้ๆ ได้บ้าง ไม่อุดอู้ และไม่ต้องห่วงเรื่องงานใหม่ เหตุผลที่เว้นช่วงมันมีวิธีพูดกันได้ สำรวจตัวเองนะคะว่าแย่แค่ไหน แล้วลองปรับใช้ดู
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่