สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคน ผ่านปีใหม่มาได้ 2 เดือนกว่าแล้ว เวลาผ่านไปไวจริงๆ วันนี้เจ้าของกระทู้จะพาไปเที่ยวบ้านเกิดเมืองนอน ที่ จ.สงขลากันค่ะ ไม่ได้ไปเที่ยวจริงจัง 10 กว่าปีแล้ว ส่วนใหญ่กลับไปเชงเม้งแปปๆ แทบไม่ได้ไปไหนเลย ปีนี้เราสามารถสอยตั๋วเครื่องบินราคาเบาเบาได้ ก็เลยได้โอกาสไปย้อนรอยอดีตวัยเด็กกันซักเล็กน้อย จ.สงขลา เป็นเมืองที่มีครบทั้ง ทะเล ภูเขา น้ำตก วัดจีน วัดไทย มัสยิด ตลาดขึ้นชื่อ มีกระเช้าให้ขึ้นแห่งแรกของประเทศไทย แถม อาหารอร่อย มีหลากหลายเชื้อชาติมากๆ วันนี้เจ้าของกระทู้จะพาไปทั้งหมดที่เกริ่นมาเลยค่ะ
ทริปนี้เดินทางโดยเครื่องบินสายการบิน Air Asia ช่วงวันที่ 22 – 24 กพ 2564 เดินทางท่องเที่ยวใน จ.สงขลา โดยเช่ารถยนต์ของ AVIS 3 วันค่ะ เราซื้อ วอชเชอร์ AVIS มาในราคาใบละ 609 บาท เป็นแบบรวมประกันด้วย ซื้อมา 3 ใบเลยค่ะประหยัดมากๆ โทรไปจองรถก่อนได้
มาถึงสนามบินเช้ามาก ต้องเติมคาเฟอีนกันก่อน Black Canyon แลกแต้มบัตรเครดิต และสามารถใช้สิทธิ์ต่างๆ ของแต่ละค่ายมือถือได้มากพอสมควรเลยค่ะ ช่วงที่เราไปยังมีมาตรการ Covid ของแต่ละจังหวัดทางดอนเมืองอำนวยความสะดวกในการเตรียมความพร้อมให้สแกนคิวเอ ลงทะเบียน Arrive Songkhla ให้เรียบร้อย พอไปถึงสนามบินก็เปิดคิวอาร์ที่ได้จากการลงทะเบียน เดินออกจากสนามบินได้เลยค่ะ ตรงทางออกเราก็ไปติดต่อรับรถที่บูธของ AVIS ได้เลยสะดวกมากๆ
หลังจากได้รถแล้ว ก็ออกเดินทางไปย้อนรอยที่สถานที่แรกกันค่ะ ตอนเด็กๆ พ่อพาเราไปเกือบทุกปี ที่ “วัดถ้ำเขารูปช้าง” ตั้งอยู่ที่ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นวัดถ้ำที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เราเคยไปมาทุกที่ อากาศเย็นสบาย เดินได้เรื่อยๆ มุดไปมุดมา ภายในมีการประดิษฐานพระพุทธรูป พระนอน เจ้าแม่กวนอิม พระ บางห้องมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม มีเจดีย์ที่สวยงามเป็นลักษณะหินอ่อน เป็นที่สักการะบูชาของชาวไทยและชาวต่างชาติ มีพระพุทธรูปและเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ในถ้ำ เป้าหมายของเราคือสะพานกลางถ้ำ ที่อยู่ในความทรงจำอันน้อยนิดว่าเป็นสะพานที่สูง และน่ากลัวและเราก็เจอค่ะ ยังคงสูงอยู่ แต่สะพานแข็งแรงกว่า 10 กว่าปีก่อนมาก เจ้าของกระทู้ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ในการเดินชมเรื่อยๆ จนทั่วค่ะ ถ้ำสุดเขตประเทศไทย มองออกไปจะเห็นกำแพงกั้นระหว่างไทย-มาเลเซียเลย
ออกจาก วัดถ้ำเขารูปช้าง ก็ตรงไปตลาด อ.สะเดา เพื่อ....ไก่ทอด ใช่ค่ะ ไก่ทอด เกือบทุกคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของ ไก่ทอดหาดใหญ่ แต่ความเห็นส่วนตัวเจ้าของกระทู้ ข้าวเหนียว ไก่ทอดของ อ.สะเดา อร่อยกว่ามาก ไก่หมักถึงเนื้อ ข้าวเหนียวนุ่ม หอมเจียวกรอบๆ กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ คือฟินมากกค่ะ หิวกันแล้วใช่ไหมคะ เราเขียนไปกลืนน้ำลายไปเหมือนกันค่ะ อยากกินอีกแล้วววว และนี้คือหน้าตาข้าวเหนียวไก่ทอด ใครมีโอกาสไป อ.สะเดา ห้ามพลาดเด็ดขาด
เจ้าของกระทู้ไป อ.สะเดาเพื่อไปเยี่ยม ป้า อา และ อาเขย แต่สิ่งที่เราอยากอวดคือ นาฬิกา SEIKO เรือนนี้ค่ะ ยังอยู่ที่บ้านป้า เป็นของคุณปู่ เราเกิดมาเราก็เห็นนาฬิกาเรือนนี้แล้ว น่าจะ 45+ ปีได้แล้ว (อย่าเดาอายุเจ้าของกระทู้แลยค่ะ ขอร้อง) คลาสสิกมาก เป็นแบบไขลานสองข้าง เดินเที่ยงตรงมาก และมีวันที่ ตัวย่อวันเป็นภาษาไทยอีกด้วย
อยู่คุยกับญาติๆ จนเย็น ก็ได้เวลาล่ำลา ออกจาก อ.สะเดา กลับไปที่โรงแรมในตัวเมืองหาดใหญ่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เราพักที่ Crystal Hotel Hat Yai เช็คอินเอาของขึ้นห้อง ก็ไปหามื้อเย็นกินกันค่ะ แต่ก่อนจะไปกินควรแวะช้อปปิ้งที่ตลาดกิมหย๋งกันก่อน จอดรถหลังตลาดเดินไปซื้อของจนตลาดปิดกันเลย ตลาดปิดประมาณ 18:00 หลังจากช้อปจนหิ้วไม่ไหว ก็ได้เวลามื้อเย็นจริงๆ แล้ว วันนี้จะจัดอาหารใต้ตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ ที่ร้าน “ในรู” ตอนแรกก็งงนิดหน่อยกับชื่อร้าน แต่พอได้ไปก็เข้าใจ ร้านคืออยู่ในซอย และเลี้ยวขวาเข้าซอยไปอีกที แอบมืดอยู่ แต่อาหารอร่อย บอกเอาเผ็ดน้อยก็ได้รสถูกปาก ราคาไม่แรง ราวๆ 300 กว่าบาท เราจำราคาไม่ได้ต้องขออภัย กินอิ่มก็กลับมาพักผ่อน แอร์ที่ห้องค่อนข้างดังทีเดียว นอนไม่ค่อยหลับเลย พรุ้งนี้จะพาไปเที่ยวในตัวเมืองสงขลากันค่ะ
ตื่นเช้ามาไปเก็บบรรยาศสระว่ายน้ำก่อน ลงมากินอาหารเช้าของโรงแรม ไม่ได้เป็นบุฟเฟ่แต่ สามารถสั่งได้ 3 อาหารหลักและอื่นๆ เราสั่งกาแฟสดของโรงแรมมาด้วยและรู้สึกพลาดมากเพราะที่เมืองสงขลา มีคาเฟ่น่ารักๆ เยอะมาก และนี้คืออาหารเช้าของเราเจ้าของกระทู้อิ่มมากแบบจุกๆ
หลังจากกินอิ่มก็เตรียมตัว เช็คเอ้า ออกเดินทางไปเมืองสงขลากันค่ะ ใช้เวลาจากหาดใหญ่ไปประมาณ 1 ชม. เท่านั้น ที่แรกที่เราไปคือ “ย่านเมืองเก่า” ไปตาม Map และที่ชอบมากคือจอดรถฟรี!! และเดินใกล้มากข้ามถนนก็ถึงเลย เดินไปตามซอยต่างๆ ของกินเยอะมากค่ะ เราเสียใจมากที่กินอิ่มเกินไปจนมากินของจุกจิกไม่ค่อยไหว มีข้าวมันไก่เบตงด้วย คาเฟ่น่ารักๆ และขนมโบราณมากมาย ความเก่าแก่ของตึก อาคาร และบ้านเรือนในบริเวณนี้ที่ยังคงอยู่ ถ้าไม่รีบเดินไปเรื่อยๆ น่าจะอยู่ได้ครึ่งวันเลยทีเดียว แต่เราเดิน 2 ชม. ก็หมดแรง อากาศร้อนมากด้วย ไปชมบรรยากาศกันค่ะ
ออกจากย่ายเมืองเก่า ตรงไปสวนสองทะเลเพื่อสักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กันก่อน เจ้าของกระทู้เป็นนักเรียนของพณิชยการพระนคร ซึ่งโรงเรียนตั้งอยู่ในวังของเสด็จเตี่ยนั้นเอง เวลาไปทะเลที่ไหนมีโอกาสก็จะแวะไปไหว้เตี่ยก่อนเสมอค่ะ หลังจากไปหาดแรก ก็เที่ยงพอดี ได้เวลากินข้าวกลางวันกันแล้ว วันนี้พาไปกินที่ร้าน "สุจินดา ซีฟู้ด" อยู่ใกล้กับหาดสมิหรามาก เป็นอาหารใต้อีกแล้ว ราคามื้อนี้อยู่ที่ 467 บาทถ้วนก็ถือว่าราคาไม่แรงมาก
หลังจากกินอิ่ม ก็ได้เวลาไปสถานที่ ที่ทุกคนต้องไปเมื่อมาถึงจังหวัดสงขลา นั้นคือ "หาดสมิหรา" เพื่อเก็บรูปคู่กับพี่นางเงือกทอง และเกาะหนู เกาะแมว พี่นางเงือกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราเห็นตั้งแต่จำความได้ บรรยากาศหาดสมิหราที่ไร้ผู้คนค่ะ แดดร้อนมาก ลมดีมาก และมีมุมร่มไม้ ต้นสน ลูกสน หาดค่อนข้างยาว มีม้าให้ขี่ถ่ายรูปกันด้วยค่ะ แต่เรากลัวตกเลยขอบายดีกว่า มีว่าวผ้าขายเหมาะกับเด็กๆ และลมทะเลแรงๆ แบบนี้ สมัยก่อนจะเป็นเครื่องบินโฟมซึ่งปัจจุบันไม่มีขายแล้ว โม้ซะเยอะ ไปดูรูปดีกว่าค่ะ
[CR] สงขลา-หาดใหญ่ ทั้งทะเล ภูเขา ถ้ำ น้ำตก ครบรสในจังหวัดเดียว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้