สวัสดีชาวพันทิปครับ วันนี้จะพาไปเที่ยวจังหวัดสงขลากันครับ ผมเคยไปทำงานอยู่ที่นั่นเกือบปีแต่ก็ไม่ได้เที่ยวอะไรเท่าไหร่ รอบนี้ตั้งใจไปเที่ยวจริงๆเอาให้อิ่ม เอาให้จุก

          กระทู้นี้รวดเดียวจบนะครับ และผมจะแยกกระทู้ที่พักกับร้านออกไปตั้งต่างหากนะครับเพราะมันเยอะมาก เดี๋ยวกระทู้จะยาวเกินไป กระทู้นี้จะเน้นที่เที่ยวส่วนร้านอาหารกับที่พักจะไม่ลงรายละเอียดมากครับ...หาขนม กาแฟ มานั่งทานแล้วอ่านกันยาวๆครับผม...ไปเลยยยยยย

          การเดินทางคราวนี้ไปด้วยรถส่วนตัวครับ แวะพักคืนแรกที่ชุมพรก่อนจากชุมพรขับรถอีก 7 ชั่วโมงยาวๆก็ถึงสงขลา จังหวัดใหญ่ทางภาคใต้



          เริ่มเที่ยวที่แรกที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาก่อนครับ  ไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดกันก่อน ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาอยู่ที่เมืองสงขลา(ใช่สิ) อยู่ริมถนนนางงามในเมืองเก่าสงขลา ถนนแถวนี้ค่อนข้างแคบและถ้าเป็นวันหยุดคนและรถจะค่อนข้างเยอะ แนะนำให้ไปจอดรถที่ลานจอดรถริมถนนไทรบุรี ใกล้ๆวัดยางทอง ที่จอดรถทำไว้อย่างดีเลยครับไม่เสียค่าจอดด้วย

          ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาสร้างเป็นแบบเก๋งจีน ซึ่งผมว่าเป็นศาลเจ้าพ่อหลักเมืองหนึ่งในไม่กี่แห่งของประเทศที่เป็นศิลปะแบบจีน ภายในนอกจากจะมีเสาหลักเมืองซึ่งเป็นความเชื่อแบบพราหมณ์แล้ว ยังมีเทพเจ้าศักดิ์สิทธ์ตามคติจีนรวมอยู่ด้วย 

          การไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่นี่มีขั้นตอนอยู่ด้วยนะครับว่าต้องไหว้อะไรก่อนหลัง ซึ่งจะมีป้ายกำกับไว้เรียบร้อยตามลำดับ ในบริเวณเดียวกันกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองมีโรงงิ้วอยู่ด้วยซึ่งเมื่อก่อนเคยมีก๋วยเตี๋ยวใต้โรงงิ้วชื่อดังอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีขายแล้วไม่รู้ว่าเลิกขายไปเลยหรือว่าหยุดขายชั่วคราว




          ไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเสร็จเรียบร้อยก็เดินเล่นในย่านเมืองเก่า อาณาเขตย่านเมืองเก่าสงขลากินพื้นที่ตั้งแต่ถนนนครใน ไปจนถึงถนนไทรบุรี เคยมีแนวกำแพงเมืองและประตูเมืองล้อมรอบ แต่ปัจจุบันผมว่าถนนที่คนนิยมมาเดินเที่ยวจะกินพื้นที่ตั้งแต่ถนนนครในจนถึงถนนนางงามเท่านั้น

          ความสนุกอย่างหนึ่งคือการเดินตามหาสตรีทอาร์ทสวยๆที่มีอยู่ทั่วไปบนถนนสามสายนี้ บางภาพวาดขึ้นใหม่แต่ก็มีหลายภาพเช่นกันที่ซีดจางไปตามกาลเวลา แทบจะทุกภาพสะท้อนภาพของวิถีชีวิตท้องถิ่นเช่น พ่อค้าชาวจีน อาหารพื้นบ้าน หรือชาวประมง



          ส่วนใครชอบเดินดูสถาปัตยกรรม ที่นี่ก็มีให้ดูไม่น้อยครับเพราะเป็นย่านเมืองเก่า อาคารในย่านนี้จะมีหลายแบบ เช่นตึกแถวแบบจีนสมัยใหม่อายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป จุดเด่นคือจะมีแผงแนวตั้งปิดหลังคาและมักจะมี พ.ศ. หรือ ค.ศ. ที่สร้างติดไว้ให้เห็น ตึกแถวจีนภาณิชย์เป็นตึกแถวที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนอยู่เช่นหลังคา กำแพงและการตกแต่งแต่จะดูทันสมัยมากขึ้น อายุอาคารประมาณ 70 ปีขึ้นไป หรือจะเป็นอาคารแบบชิโน-ยูโรเปี้ยน ซึ่งก็ตามชื่อเลยครับ ชิโน แปลว่าจีน ยูโรเปี้ยน ก็คือยุโรป อาคารจึงผสมกันระหว่างสถาปัตยกรรมจีน เช่นทรงหลังคา แล้วผสมกับยุโรปเช่นซุ้มโค้งตามหน้าต่าง คล้ายๆกับแบบ ชิโน-โปรตุกีส ที่ภูเก็ต

          ถนนเส้นนี้แนะนำให้เดินเอาครับ และแนะนำอย่างมากให้มาช่วงเช้าๆคนจะน้อยหน่อยและที่สำคัญคือแดดไม่ร้อน ถ้ามาตอนสายๆหรือบ่ายๆ กว่าจะเดินดูครบนี่หน้าเยิ้มแน่นอน



          จุดเด่นอีกอย่างในย่านเมืองเก่าสงขลาคือ หับ โห้ หิ้น หรืออารคารสีแดงอายุร้อยกว่าปีหลังนี้ครับ ที่นี่เป็นโรงสีข้าวที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2457 คำว่า “หับ โห้ หิ้น” เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน หับ แปลว่า สามัคคี โห้ แปลว่า ความเจริญรุ่งเรือง หิ้น แปลว่า สวนหรือที่ที่คนมารวมกัน ก็แปลประมาณว่า ที่ที่คนมาอยู่รวมกันแล้วเกิดความสามัคคีรุ่งเรือง 

          ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ความเจริญของที่นี่ก็เปลี่ยนไป โรงสีหับ โห้ หิ้นเลยปิดตัวลงและทายาทเปลี่ยนที่นี่เป็นท่าเรือประมงขนาดใหญ่ จนกลายมาเป็นที่ท่องเที่ยวอย่างในปัจจุบัน



          หาของกินกันหน่อย เอามาเป็นตัวอย่างสักหนึ่งร้าน เอาร้านเจ๊นิแล้วกันครับ ร้านเจ๊นิมี 2 ที่นะครับ ที่หนึ่งอยู่ตรงถนนรามัญคาดว่าจะเป็นที่แรกและอีกร้านอยู่ตรงข้ามหับ โห้ หิ้น เลย 

          ร้านเจ๊นิมีของให้เลือกทานหลายอย่างเลยครับ ทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าว ขนม กาแฟ เรียกว่ามาร้านเดียวครบทั้งคาวหวาน อาหารโดยรวมรสชาติกลางๆครับไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่ปริมาณที่ให้ก็ถือว่าเยอะใช้ได้ ก๋วยเตี๋ยวไม่หวงเครื่องดี ทานหมดก็เล่นเอาจุกอยู่เหมือนกัน



          มาต่อที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสงขลา ตั้งอยู่ที่ถนนวิเชียรชมซึ่งเป็นถนนที่ต่อจากถนนนครในห่างจากหับ โห้ หิ้น ไปประมาณ 2 กม. จอดรถริมถนนใกล้ๆพิพิธภัณฑ์ก็ได้ครับ ก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ถ้าเดินไปตรงถนนจะนะด้านข้างพิพิธภัณฑ์จะมีแนวกำแพงเมืองเก่าด้วยครับ



          ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สวยมาก เป็นคฤหาสน์เก่าของพระยาสุนทรานุรักษ์ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลาตั้งแต่สมัยร้อยกว่าปีก่อน จน พ.ศ. 2516 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนคฤหาสน์หลังนี้เป็นโบราณสถานแห่งชาติและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสงขลาเมื่อปี พ.ศ. 2525



          ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวของจังหวัดสงขลาตั้งแต่ประวัติตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เรืองการค้า ศิลปะ วัฒนธรรมต่างๆ พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ไม่ได้ใหญ่โตมากนักเดินแป๊บเดียวก็ทั่ว อาคารพิพิธภัณฑ์เองก็มีแค่ 2 ชั้นเท่านั้น การจัดแสดงผมว่าทำได้สวยงามใช้ได้ แต่ก็เหมือนกับพิพิธภัณฑ์ของรัฐอื่นๆในประเทศนั่นคือ “สวยแต่ไม่ดึงดูด” วางของไว้เฉยๆกับป้ายกระดาษตัวหนังสือเป็นแผงให้อ่านเอง มันขาดการมีส่วนร่วมมากๆ ผมเคยไปพระราชวังสนามจันทร์ที่นครปฐม จะมีเจ้าหน้าที่พาเดินและเล่าเรื่องต่างๆไปด้วย ได้รายละเอียดและมีส่วนร่วมกับการอ่านเองเยอะ



          ออกจากพิพิธภัณฑ์ก็ไปต่อที่เขาตังกวน อยู่ริมถนนสุขุม มีลิฟท์บริการขึ้นไปที่ยอดเขาได้ แถวนี้ลิงเยอะนะครับเวลาเดินก็ระวังทรัพย์สินให้ดี เดี๋ยวเจ้าจ๋อฉกไปจะตามกลับลำบาก ลิฟท์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 60 เมตรต่อนาทีใช้เวลาประมาณ 3 นาทีก็ขึ้นมาถึงยอดเขาซึ่งประดิษฐานเจดีย์พระธาตุให้สักการะได้



          บนยอดเขาตังกวนนี้จะเห็นวิวเมืองสงขลาทั้งเมืองใหม่ฝั่งบ่อยางและเมืองเก่าฝั่งเขาแดง ผมยังไม่ได้เล่าประวัติจังหวัดสงขลาใช่มั้ยครับ...งั้นมาครับ เล็กเชอร์ ที่มาของชื่อ “สงขลา” มีหลายทฤษฎี อย่างแรกตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชาวเปอร์เซียที่มาค้าขายที่นี่เรียกเมืองสงขลาว่า “ซิงกูร์” หรือ “ซิงกอร่า” ชาวอินเดียเรียกที่นี่ว่า “สิงหลา” บางทฤษฎีบอกว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “สิงขร” ที่แปลว่า ภูเขา 

          พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวินิจฉัยว่า “สงขลา” เดิมชื่อ “สิงหนคร” อ่านว่า “สิง หะ นะ คะ ระ” แต่ชาวมาลายูอ่านเพี้ยนไปจนเหลือ “สิง คะ ระ” ออกเสียงเป็น “ซิงคะรา” จนเป็น “ซิงกอรา” เราเลยเห็นสถานที่เช่นโรงแรมใช้ชื่อ ซิงกอราบ่อยๆในสงขลา




          เมืองสงขลาเคยอยู่ฝั่งริมเขาแดงมาก่อนโดยมีความเจริญด้านการค้าขายกับต่างประเทศ ช่วง พ.ศ. เมืองสงขลาไม่ยอมขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนารายณ์มหาราชมาปราบจนราบคาบและตกเป็นเมืองขึ้นของพัทลุง หลังจากนั้นเมืองสงขลาไปตั้งขึ้นใหม่ที่ฝั่งแหลมสน จนสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงให้สร้างกำแพงเมืองและป้อม ทรงให้ฝังหลักเมืองและย้ายเมืองสงขลามาอยู่ที่บ่อยางจนถึงปัจจุบัน...หมดคาบ
v
v
v
v
v
v
v
หากชอบการรีวิวของผม ไปดูรีวิวที่ผมทำไว้ในช่องทางอื่นๆได้นะครับ แนะนำ คอมเม้นท์ตามสบายครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Youtube:    https://www.youtube.com/channel/UC6Zil4A2qZK5-GcNPFI3Lcg
Website:    https://www.gate1terminal1.com/
Instagram: https://www.instagram.com/gate1_terminal1
Facebook:  https://www.facebook.com/followmeonearth/