💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 51 🚀💫🕛💫

กระทู้คำถาม


### ความเดิมจาก EP-50 ###

จักรพรรดิเนรอส ขับราชพาหนะพาอิบิคัสและเซบาสเต็นไปพักที่พระราชวังที่ประทับชั่วคราวในแคว้นแคสสิโอเปีย ทุกคนได้ทราบเรื่องศาลทวีปซึ่งจะเปิดพิจารณาตัดสินชี้ขาดจักรพรรดิตัวจริง และจะต่อด้วยการเข้าพิธีจักรพรรดิราชาภิเษกแห่งทวีปและสถาปนาจักรพรรดินี ทุกคนเห็นเฮโรดัส อดีตหัวหน้าตุลาการศาลทวีปปรากฏตัวให้เห็นในข่าวด้วย ต่อมา เซฟิย่าก็ขับยานตามมาร่วมสมทบ

ทางด้านกัปตันวันชนะและคณะพร้อมด้วยกลุ่มบุคคลซึ่งมีไดโอเซนัสเป็นผู้นำทางด้านชาวเหนือก็พากันขึ้นยานบิน THE FUGITIVE ยานของกัปตันและ SAVIOR FALCON ของสถาพรไปจอดบนเทือกเขาทางเหนือของแคสสิโอเปีย ต่อมาทุกคนได้พบกับ เฮโรดัส และลูกชายกับลูกสาวคนเล็ก (ฟิลิปเป้ และเซฟิน่า) ซึ่งขึ้นเขามา ชาวคณะได้เห็นข่าวจากทางศาลทวีปมาก่อนแล้ว จึงได้รู้ว่าเฮโรดัสในศาลเป็นตัวปลอม ทั้งหมดจึงวางแผนเตรียมการกระชากหน้ากากเฮโรดัสตัวปลอมรวมทั้งจักรพรรดิด้วย ในศาล ในวันรุ่งขึ้น และอีกด้านหนึ่ง บนเกาะนิรนาม มหาเอกได้รับการติดต่อทางจิตจากแม่หมอฟรีด้าในขณะที่กำลังเข้าสมาธิ ทั้งสองพูดคุยกัน จบด้วยการนัดเจอกันพร้อมกับทุกคนที่ศาลทวีปในวันรุ่งขึ้นเช่นกัน

ถึงวันใหม่ ได้เวลาสำคัญ ทุกคนปรากฏตัวในศาลทวีป ชนทั้งหลายฮือฮาเมื่อสนมเอกเซฟิย่าปรากฏตัวในศาลโดยอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับออเรเคิล เนรอสตัวจริงและตัวปลอมมีการโต้ตอบกันเล็กน้อย และแล้วการไต่สวนขั้นแรกก็เริ่มขึ้นโดยเป็นการตัดสินชี้ขาดตัวจริงของเฮโรดัส หัวหน้าตุลาการศาลทวีปซึ่งขณะที่ตัวปลอมกำลังขึ้นบัลลังก์นั้นถูกคัดค้าน รองหัวหน้าตุลาการจึงขึ้นบัลลังก์แทน การซักไซ้ไล่เรียงเป็นไปจนในที่สุดตัวปลอมถูกเปิดโปงถูกเจ้าหน้าที่ศาลจับกุมตัวไปคุมขัง เฮโรดัสตัวจริงขึ้นบัลลังก์ผู้พิพากษาแทน มีการพนันขันต่อกันเป็นระยะๆ ตลอดการพิจารณาคดีในหมู่นักพนัน จากนั้นจึงเริ่มการพิจารณาเรื่องจักรพรรดิตัวจริงตัวปลอมโดยฝ่ายตัวจริงถูกเสี่ยงทายโยนเหรียญได้เป็นฝ่ายถูกพิจารณาก่อน การซักถามพยานทีละคนๆ ผ่านไป จากอิบิคัส เซบาสเต็น และกัปตันวันชนะเป็นคนที่สามทั้งที่ถูกคัดค้านด้วยเหตุผลว่าไม่ใช่ชาวแอตแลนติส แต่คำค้านดกไปด้วยการค้านคำค้านจากทนายฝ่ายเหนือและศาลตัดสินให้คำค้านตก กัปตันจึงได้เป็นพยานคนที่สาม เขาถูกซักถามโดยทนายฝ่ายใต้และจบลงด้วยการบรรยายสรุปซึ่งมีการพยายามใช้ถ้อยคำโน้มน้าวใจให้ชาวแอตแลนติสหลงคล้อยตามว่าเป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจ

เรื่องราวใน EP-50 ก็จบลงตรงนี้

เชิญทุกท่านพบกับ "แดนศิวิไลซ์" (หลงกาล ภาค 2) EP#51 ต่อ ตั้งแต่นี้ไปครับ

***********************************************************************************
ครั้นการซักถามพยานคนที่สามของทางฝ่ายจักรพรรดิเนรอสทางเหนือคือกัปตันวันชนะผ่านพ้นไป ราคาต่อรองในหมู่นักพนันก็มีความเคลื่อนไหวกันอย่างหนักอีกครั้ง

"ฝ่ายใต้ชนะแน่ จักรพรรดิทางใต้คือตัวจริงแน่นอน ข้าต่อสามหนึ่ง ใครจะรอง มาเลย ไม่อั้น!" นักพนันขาใหญ่ผู้หนึ่งซึ่งเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งในแอตแลนติสใต้ชูมือขึ้นกล่าวท้าทายล่อบรรดาผีพนัน และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม

"ข้ารอง สองร้อยเนโร"
"ข้ารองด้วยสามร้อย"
"สำหรับข้า ห้าร้อยเนโร"
"หนึ่งพันเนโรโว้ย!"
"ขอถล่มท่านมหาเศรษฐีด้วยคน รองฝ่ายเหนือ หนึ่งพันเนโรเช่นกัน!"
"ข้าด้วยๆ ห้าร้อย"
ฯลฯ

ปัง ปังปัง!!

เฮโรดัสผู้นั่งบัลลังก์ผู้พิพากษายกฆ้อนทุบโต๊ะสามคราแล้วตะโกนห้ามปราม

"ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ! นักพนันทั้งหลายจงหยุดพนันต่อรองกันได้แล้ว อย่าวุ่นวายกันมากนัก มิฉะนั้นอาจจะโดนข้อหาก่อความวุ่นวายในศาลกันหมดทุกคน!"

เหล่าผีพนันทั้งหลายจึงพากันเงียบเสียงลง จากนั้นหัวหน้าผู้พิพากษาจึงประกาศสั่งการพิจารณาคดีต่อ โดยคราวนี้เปลี่ยนเป้าหมายเป็นจักรพรรดิทางฝ่ายใต้บ้าง

"ขอให้ทนายทางฝ่ายใต้ เริ่มซักถามองค์จักรพรรดิผู้ประทับอยู่ทางใต้ ณ บัดนี้!"

ปังง !!

สิ้นเสียงทุบโต๊ะ บุรุษวัยกลางคนหนวดเฟิ้มผู้ทำหน้าที่ทนายฝ่ายใต้ก้าวเดินอาดๆ ออกจากกลุ่มชาวแอตแลนติสใต้ไปยืนอยู่ ณ พื้นที่ตรงกลางระหว่างผู้พิพากษาและจักรพรรดิเนรอสตัวปลอม แล้วประกาศเสียงก้อง

"เรียนใต้เท้า ข้าพเจ้า ขอเบิกตัว พยานสำคัญที่สุดผู้สามารถยืนยันได้ว่า องค์จักรพรรดิผู้นี้..." กล่าวพลางผายมือไปทางเนรอสตัวปลอม "...คือจักรพรรดิเนรอสที่แท้จริง อย่างแน่นอนไร้กังขาใดๆ ทั้งสิ้น! ขอเบิกตัว ท่านเทพพยากรณ์ ออเรเคิล พระคู่หมั้นแห่งองค์จักรพรรดิ ว่าที่องค์จักรพรรดินีแห่งแผ่นดินแอตแลนติส และทางพวกข้าพเจ้าทั้งหลาย คือฝ่ายใต้นั้น มั่นใจเต็มเปี่ยมว่า ท่านเทพพยากรณ์เพียงผู้เดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการให้การต่อใต้เท้าและทุกๆ ท่านในศาลทวีปแห่งนี้ เพราะเป็นผู้ใกล้ชิดองค์จักรพรรดิมาตลอด ขอเชิญท่านเทพพยากรณ์ออเรเคิล ณ ที่นั่งพยานให้การ ณ บัดนี้ขอรับ!"

สิ้นคำประกาศเชื้อเชิญของทนายนั้น ทุกคนในศาลพากันร้องอื้ออึงเมื่อเห็นเทพพยากรณ์ในชุดเสื้อคลุมดำประดับอัญมณีต่างๆ แบบจัดเต็มทั้งเพชรนิลจินดาน้อยใหญ่ เดินเชิดหน้าตรงไปยังที่นั่งพยานโดยมีเจ้าแมวใหญ่นีลาจอมโหดเดินตามต้อยๆ แกว่งหางไปมา สายตาเขียวปั้ด ส่งเสียงขู่ผู้คนเป็นระยะๆ พอผู้เป็นเจ้านายนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่หลังแผงกั้น มันก็หมอบลง

ปัง ปัง !!

เฮโรดัสใช้ฆ้อนทุบโต๊ะสองครั้ง ก่อนถามทนาย

"ข้าขอถามทนายฝ่ายใต้ รวมทั้งเทพพยากรณ์ออเรเคิลผู้จะให้การเป็นพยาน และจักรพรรดิผู้ประทับอยู่ทางใต้ด้วย ก่อนที่จะให้ทนายเริ่มการไต่สวนซักถามแล้วให้พยานให้การ ว่า พวกท่าน แน่ใจหรือ ว่าจะใช้พยานคือเทพพยากรณ์ออเรเคิล เพียงผู้เดียวเท่านั้น ? ในขณะที่คนฝ่ายเหนือที่ผ่านมาใช้พยานหลายคน การใช้พยานคือเทพพยากรณ์ออเรเคิลแต่เพียงผู้เดียว มิเป็นการน้อยไปหน่อยหรือ ?"

มีเสียงฮือฮาดังกระหึ่มจากฝูงชน โดยเฉพาะเหล่านักพนัน บ้างก็ซู้ดปาก บ้างก็แยกเขี้ยว ทั้งฝ่ายต่อและฝ่ายรอง

"เรียนใต้เท้า..." ออเรเคิลยกมือขวาขึ้นปรามทนายซึ่งอ้าปากกำลังจะเอ่ยคำต่อศาลและชิงพูดขึ้นก่อน "ข้า เทพพยากรณ์ออเรเคิล ในฐานะที่เป็น 'พระคู่หมั้น' ขององค์จักรพรรดิ ด้วยความที่ได้อยู่ใกล้ชิดองค์จักรพรรดิมาเป็นเวลานาน มีความผูกพันกันมาช้านาน ข้าจึงเป็นผู้ที่รู้เรื่องของพระองค์มากที่สุด และเข้าใจดีที่สุด ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนทั่วแผ่นดินนี้ ดังนั้น ลำพังตัวข้าเพียงคนเดียว ก็เพียงพอ เหลือเฟือเสียด้วยซ้ำ! จนอื่นไม่มีความจำเป็นเลย! แม้แต่เรื่องส่วนพระองค์ที่ลี้ลับ บางเรื่อง ข้าก็รู้ดี ในขณะที่คนอื่นหาอาจล่วงรู้ได้ไม่! ดังนั้น พยานผู้จะให้การ ใช้ข้าคนเดียวก็พอ!!"

"ก็ไม่แน่ร้อกก..." เซฟิย่าผลุดลุกขึ้นกล่าวเสียงดังเจื้อยแจ้วสอดแทรก "...เรื่องบางอย่าง อาจมีคนอื่นอีก ที่รู้ละเอียดลึกซึ้งมากกว่าท่านก็เป็นได้!!"

ชาวประชาในศาลฮือฮาขึ้นทันที จนเฮโรดัสต้องยกฆ้อนขึ้นทุบโต๊ะปรามก่อนเตือนลูกสาว

ปัง ปัง ปัง!!

"ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบ! และ พระสนมเอกเซฟิย่า โปรดอย่ากล่าวสอดแทรกในระหว่างการพิจารณา เพราะยังไม่ถึงวาระการให้การของตนเอง หากประสงค์จะให้การในฐานะพยานเพิ่มสำหรับจักรพรรดิผู้ประทับอยู่ทางเหนือ ข้าจะให้โอกาสนั้น! แต่ตอนนี้พระสนมโปรดฟังการพิจารณาไต่สวนแต่เพียงอย่างเดียวเถิด อย่าพึงสอดแทรกคำใดๆ อีก!"

เซฟิย่ามีสีหน้าเจื่อนลง รีบโค้งคำนับกล่าวขอโทษ ก่อนจะนั่งลง

"ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ท่านพ่อ เอ๊ย ใต้เท้า! ข้าจะไม่สอดแทรกอันใดอีก จนกว่าจะถึงเวลาที่ข้าจะได้พูดเจ้าค่ะ"

เฮโรดัสพยักหน้าให้ลูกสาว แล้วหันมากล่าวกับออเรเคิลและทนายฝ่ายใต้

"เอาละ ทนายฝ่ายใต้ เริ่มการซักถามเทพพยากรณ์ได้ ณ บัดนี้!"

"ขอบพระคุณขอรับ ใต้เท้า" ทนายโค้งคำนับเขาก่อนจะหันหน้ามาทางออเรเคิลด้วยสีหน้าปลอดโปร่ง และหากมีใครสังเกตดูจักรพรรดิของฝ่ายใต้บนบัลลังก์สูงใกล้ๆ นั้น ก็จะเห็นพระองค์มีสีหน้าท่าทางผ่อนคลายไร้กังวลเช่นเดียวกัน

"ขอเรียนถาม ท่านเทพพยากรณ์..." ทนายฝ่ายใต้เริ่มต้นซักถาม "ก่อนอื่น ข้าขอถามท่านว่า ท่านพร้อมและยินดีที่จะให้การต่อศาล ให้ทุกคนได้ยิน เกี่ยวกับเรื่องทุกเรื่อง โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ใช่หรือไม่ ? หากคำตอบของท่านคือใช่ ข้าจะขอซักถามต่อไป แต่หากคำตอบของท่านคือไม่ ขอได้โปรดแจ้งบอกเรื่องอันเป็นข้อยกเว้นนั้นให้ศาลและทุกคนได้ทราบด้วยขอรับ ?"

ออเรเคิลยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าวตอบอย่างมั่นใจ

"ข้าไม่มีเรื่องใดที่ต้องยกเว้นดอก! ท่านทนายถามมาได้เลย ทุกอย่าง!"

"ขอบพระคุณขอรับ" ทนายโค้งคำนับนางแล้วเงยหน้าขึ้นตั้งคำถาม "ท่านเทพพยากรณ์ขอรับ ในฐานะที่ท่านได้อยู่ใกล้ชิดองค์จักรพรรดิมานาน ข้าขอบังอาจเรียนถาม และขอพระบรมราชานุญาตจากฝ่าบาทในบางเรื่องด้วย พระเจ้าข้า" ถึงตอนนี้ทนายหันไปทางบัลลังก์ที่เนรอสตัวปลอมนั่งอยู่และเงยหน้าขึ้นทูลถาม

"ถามไปเลย ท่านทนาย ทุกเรื่องไม่มีเรื่องใดที่ต้องยดเว้น เช่นกันกับเทพพยากรณ์!" เนรอสตอบ

"ขอบพระทัยพระเจ้าข้า ฝ่าบาท" ทนายถวายการโค้งคำนับก้มต่ำแล้วหันมาทางออเรเคิลอีกครั้ง "ท่านเทพพยากรณ์ ท่านและองค์จักรพรรดิ มีความรักความผูกพันซึ่งกันและกันมานาน ข้อนี้ ชาวแอตแลนติสทั้งหลายทราบกันเป็นอย่างดี การเป็นคู่รักกันนั้น ย่อมมีความใกล้ชิด สนิทสนม เป็นพิเศษ ด้วยความเสน่หาต่อกันและกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของปุถุชนทั้งหลาย เมื่อเป็นเช่นนั้น ความปรารถนาแห่งสรีระ ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ข้าขอเรียนถามว่า  ท่านและองค์จักรพรรดิ เคยมีความสัมพันธ์ต่อกันทางสรีระร่างกาย อย่างลึกซึ้ง หรือไม่ขอรับ ?"

คำถามนี้ เป็นคำถามที่หลายคนไม่คาดคิดมาก่อน และนึกไม่ถึงว่าทนายไม่ว่าฝั่งใดจะกล้าถาม จึงเรียกเสียงฮือฮากระหึ่มศาล ทุกคนพากันหูผึ่งรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

ออเรเคิลยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะสาธยายให้คำตอบ

"ถ้าเป็นชายหญิงคู่รักอื่นๆ การได้อยู่ใกล้ชิดกันมานมนาน คงจะมอบสัมพันธ์ทางกายให้แก่กันและกันด้วยความเต็มใจ และด้วยความปรารถนาตามธรรมชาติของมนุษย์ซึ่งไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายแต่อย่างใดไปแล้ว อย่างแน่นอน! แต่ว่า...สำหรับข้านั้น เป็นข้อยกเว้น เพราะว่า หากข้าถวายตัวแด่องค์จักรพรรดิ มนตราของข้า และพลังจิตที่ข้าได้สั่งสมมา จะพลันเสื่อม! เพราะมนตรา หรือจิตราคม กับกามารมณ์นั้น ไปด้วยกันพร้อมกันหาได้ไม่! ดังนั้น ข้าจึงจำเป็นต้องรักษาพรหมจรรย์ไว้อย่างยิ่งยวด เพื่อวิชาอาคมเวทยมนต์ทั้งหลายในตัวข้าจะมีความแก่กล้า เรียกใช้เมื่อใดได้ผลเมื่อนั้น ไม่ข้องขัด ไม่เสื่อมลดประสิทธิภาพอยู่เสมอ...และเรื่องนี้ ข้ากับองค์จักรพรรดิ ก็ได้มีสัญญามั่นต่อกันไว้แล้วนานแล้ว องค์จักรพรรดิจะไม่ทรงล่วงละเมิดพรหมจรรย์ของข้า จนกว่าจะถึงเวลาแห่งการสถาปนาข้าเป็นจักรพรรดินี อภิเษกสมรสกับพระองค์ เพราะฉะนั้น ข้าและองค์จักรพรรดิ จึงยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ต่อกันทางสรีระร่างกาย อย่างลึกซึ้ง อย่างที่ท่านทนายถามมาแต่อย่างใด! เมื่อใด ข้าได้รับการทรงสถาปนา และได้อภิเษกสมรสกับองค์จักรพรรดิ เมื่อนั้นแหละข้าจึงจะถวายสรีรร่างกายนี้ของข้าแด่พระองค์ให้ทรงพระเกษมสำราญ อย่างแน่นอน!"

บรรยายตอบของออเรเคิลทำให้เสียงฮือฮาของประชาชนในศาลกระหึ่มอื้ออึง ผู้ชายหลายคนซี้ดปากเมื่อได้ยินว่าเทพพยากรณ์ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอึงมี่

"ถ้าข้าเป็นเนรอส ข้าไม่สนละเว้ย ข้าฟันนางแน่นอน! ให้ตายสิวะ!!" กระทาชายนายหนึ่งกล่าวพร้อมจ้องมองออเรเคิลด้วยแววตาหื่น!

"องค์จักรพรรดิไม่โง่อย่างเจ้าไงล่ะ บรูตุส!" สหายคนหนึ่งของชายหื่นตบกระโหลกเขาไปหนึ่งที "พระองค์รอความสำเร็จก่อนเว้ย! และบัดนี้ก็ใกล้แล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวดอก! ออเรเคิลจะถูกพระองค์ทะลวงในเร็วๆ นี้แน่!!"

"สาวบริสุทธิ์เสียด้วยสิ โอว์..." อีกชายหนึ่งส่งเสียงกระเส่า "มันจะสุขสันต์ปรีเปรมสักปานใดหนอ..."

ทนายฝ่ายใต้พยักหน้าสองสามครั้ง ก่อนจะถามคำถามต่อไป

"เข้าใจแล้วขอรับ เป็นอันว่า คำตอบคือ ท่านและองค์จักรพรรดิ ไม่เคยมีความสัมพันธ์ต่อกันทางสรีระร่างกาย อย่างลึกซึ้ง มาก่อนเลย..." 

(มีต่อครับ) ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่