ตอนผมอยู่ม.6 ผมได้ย้ายเข้าไปอยู่หอพักนึงกลางเมืองโคราช ใกล้ห้างใหญ่ ตอนผมเข้าไปดูห้องครั้งแรก เจ้าของหอเขาแนะนำผมแค่ชั้น3,4 ที่ว่าง แต่ผมเห็นว่ามันมี5ชั้น ผมเลยขอขึ้นไปดูชั้น5หน่อย ปรากฏว่าห้องก็ว่างตั้ง3ห้องสภาพห้องก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ แต่ราคาต่างกันตั้งเกือบพัน ผมก็เลยตกลงเอาห้องชั้น5
พอเข้าไปอยู่แรกๆผมก็แอบรู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง ด้วยความที่ประตูห้องชั้น5 ทุกห้องจะมีเหมือนยันน์ที่เป็นน้ำมันเขียนไว้ ต้องส่องไฟใส่เท่านั้นถึงจะเห็น ประกอบกับระเบียงห้องผมมันหันหน้าเข้าวัด ซึ่งไม่ได้อยู่ติดกันแต่ก็ไม่ไกลมาก ใกล้พอที่มองเห็นยอดเมรุได้ และประตูห้องที่เหมือนทำมาปิดไม่สนิทเท่าไหร่ ทำให้เวลาลมพัดมาแรงๆมันเหมือนมีคนดันประตูเร็วๆรัวๆ บวกกับที่ผมมีอาการผีอำอยู่บ้างประมาณ2-3ครั้งในเดือนแรกที่เข้าไปอยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไรเพราะเคยเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว
จนมาถึงช่วงที่ผมทนไม่ไหว ทำให้ผมต้องย้ายออกจากห้องนั้น มีอยู่คืนนึงผมคุยโทรศัพท์กับเพื่อนช่วงดึกๆเกือบเที่ยงคืน คุยไปเรื่อยๆเพื่อนก็ตกใจแล้วทักขึ้นมาว่า "ตอนนี้อยู่กับใครอะ" ตอนนั้นผมก็งง เพราะว่าก็อยู่คนเดียวเพื่อนผมก็คงคิดว่าคงไม่มีอะไร อาจจะแค่สัญญาณไม่ดี แต่เพื่อนผมก็ตกใจอีกรอบ แล้วคิดว่านี่มันเริ่มไม่ปกติแล้วแหละ มันบอกว่าได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาหายใจใกล้ๆโทรศัพท์ เป็นเสียงหายใจหอบๆเหมือนคนเพิ่งหยุดวิ่ง ตอนนั้นผมก็เริ่มไม่โอเคละ แต่ก็พยายามทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น ก็หาเรื่องคุยเรื่อยๆ ระหว่างนั้นผมก็หวั่นๆ จนมาเพื่อนผมได้ยินเสียงผ่านโทรศัพท์อีกครั้ง คราวนี้ผมแน่ใจแล้วว่าเป็นสิ่งที่คิดแน่นอน เพราะว่ามันเป็นเสียงเหมือนคนมาขำแบบหัวเราะเยาะข้างๆโทรศัพท์ ประมาณว่า "คิก..คิก.." ตอนนั้นผมแทบอยู่ไม่ได้ละครับ เพราะทุกเสียงที่เพื่อนผมได้ยินมันทำให้ผมคิดถึงฝันของคืนนั้น
ย้อนกลับไปประมาณ2-3วันก่อนหน้า ประมาณปลายเดือนพฤศจิกา ตกดึกผมรู้สึกเหมือนมีอาการผีอำ แต่ผมก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ที่ครั้งนี้มันไม่เหมือนคราวก่อนๆ คือระหว่างนั้น ผมรู้สึกเหมือนมีคนเปิดประตูเข้ามาในห้องผม และเดินอ้อมขาเตียงมาที่นั่งข้างๆผมตรงหัวนอน ระหว่างที่เขาเดินผมรู้สึกจริงๆว่ามันมีลมเย็นๆพัดผ่านตัวเขามาตลอด จนกระทั่งเขามาหายใจหอบๆข้างผม เป็นเสียงหายใจเดียวกับที่เพื่อนผมได้ยินผ่านโทรศัพท์ในอีกไม่กี่วันต่อมา ตอนนั้ผนมกลัวมากจนสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วได้แต่คิดว่าทำไมผีอำครั้งนี้มันน่ากลัวเหมือนจริงจังวะ
ซึ่งเมื่อเชื่อม2เหตุการณ์นี้เข้าด้วยกัน นั่นแหละครับ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าห้องที่ผมอยู่มาเกือบครึ่งปี ไม่ได้มีแค่ผมแน่ๆ หลังจากที่วางสายจากเพื่อนผม ผมก็ไปนอนกับเพื่อนสิครับ ใครจะกล้าอยู่ต่อ
จนผมกลับบ้านไปคุยกับพ่อแม่ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง พ่อแม่ผมก็เข้าใจ เพราะว่าช่วงนั้นใกล้สอบเข้ามหาลัยมากแล้ว จะมามัวกังวลก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ผมก็ตกใจนิดๆนะครับ ว่าทำไมพ่อผมไม่ทักท้วงอะไรเลย เพราะปกติเขาจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้
จนถึงวันที่ผมกลับมาขนของออก ผมพาเพื่อนมาประมาณ5คนครับ มาตอนกลางวันแสกๆเนี่ยแหละ แต่ระหว่างที่ขนของล็อตสุดท้าย ตอนที่ผมกับเพื่อนอยู่ตรงบรรไดกำลังจะลงไป ผมกับเพื่อนพูดกันเล่นๆว่าคงไม่กล้ากลับมาอีกแล้วใครจะกว่าวะ แล้วอยู่ดีๆก็มีเสียงปิดประตูดังปั้ง! ซึ่งน่าจะเป็นประตูตรงระเบียงของผมนี่แหละครับ ผมจำได้ว่ามันยังไม่ปิด แต่ตอนนั้นอากาศรอบๆคือไม่มีลมเลย ไม่มีจริงๆนะครับ พอได้ยินเสียงนั้นแล้วก็คงไม่มีใครพูดกันแล้วแหละครับรีบเดินลงอย่างไวที่สุด
จนเวลาผ่านไปเกือบสามเดือน อยู่ดีๆพอก็พูดกับผมขึ้นมาว่า เวลาพาเพื่อนไปนอนที่ห้องเดิมมีใครเจออะไรแปลกๆมั้ย ผมก็ตอบไปว่าก็ไม่มีใครพูดอะไรนะ แล้วพ่อผมก็บอกว่า ตอนที่พ่อไปนอนห้องนั้นครั้งแรก หลังจากที่พ่อสวดมนต์ก่อนเข้านอน พ่อเห็นผู้หญิงคนนึง ผมยาวปิดหน้า ใส่ชุดขาวนั่งอยู่ปลายเตียง แต่ตอนนั้นพ่อไม่ได้ตกใจอะไรมาก บอกว่าเค้าน่าจะอยู่มานาน ไม่น่าคิดจะทำร้ายอะไรผม พ่อผมก็เลยสวดมนต์แผ่เมตตาให้ต่อเลย ผมอึ้งมากครับ เจอตั้งแต่แรกแล้วทำไมไม่บอกกัน555555 แต่พอมองย้อนกลับไปก็ขนลุกทุกทีเลยครับ
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะผมอยากรู้ครับ ว่ามันเคยเกิดอะไรขึ้นที่ชั้น5ของหอนั้น ทำไมดูชั้นอื่นปกติดี มีคนพักเกือบเต็มทุกชั้น ใครพอรู้อะไรมาบ้างช่วยบอกกันหน่อยนะครับ
เคยเกิดอะไรขึ้นกับชั้น5ของหอพักนั้น?
พอเข้าไปอยู่แรกๆผมก็แอบรู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง ด้วยความที่ประตูห้องชั้น5 ทุกห้องจะมีเหมือนยันน์ที่เป็นน้ำมันเขียนไว้ ต้องส่องไฟใส่เท่านั้นถึงจะเห็น ประกอบกับระเบียงห้องผมมันหันหน้าเข้าวัด ซึ่งไม่ได้อยู่ติดกันแต่ก็ไม่ไกลมาก ใกล้พอที่มองเห็นยอดเมรุได้ และประตูห้องที่เหมือนทำมาปิดไม่สนิทเท่าไหร่ ทำให้เวลาลมพัดมาแรงๆมันเหมือนมีคนดันประตูเร็วๆรัวๆ บวกกับที่ผมมีอาการผีอำอยู่บ้างประมาณ2-3ครั้งในเดือนแรกที่เข้าไปอยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไรเพราะเคยเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว
จนมาถึงช่วงที่ผมทนไม่ไหว ทำให้ผมต้องย้ายออกจากห้องนั้น มีอยู่คืนนึงผมคุยโทรศัพท์กับเพื่อนช่วงดึกๆเกือบเที่ยงคืน คุยไปเรื่อยๆเพื่อนก็ตกใจแล้วทักขึ้นมาว่า "ตอนนี้อยู่กับใครอะ" ตอนนั้นผมก็งง เพราะว่าก็อยู่คนเดียวเพื่อนผมก็คงคิดว่าคงไม่มีอะไร อาจจะแค่สัญญาณไม่ดี แต่เพื่อนผมก็ตกใจอีกรอบ แล้วคิดว่านี่มันเริ่มไม่ปกติแล้วแหละ มันบอกว่าได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาหายใจใกล้ๆโทรศัพท์ เป็นเสียงหายใจหอบๆเหมือนคนเพิ่งหยุดวิ่ง ตอนนั้นผมก็เริ่มไม่โอเคละ แต่ก็พยายามทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น ก็หาเรื่องคุยเรื่อยๆ ระหว่างนั้นผมก็หวั่นๆ จนมาเพื่อนผมได้ยินเสียงผ่านโทรศัพท์อีกครั้ง คราวนี้ผมแน่ใจแล้วว่าเป็นสิ่งที่คิดแน่นอน เพราะว่ามันเป็นเสียงเหมือนคนมาขำแบบหัวเราะเยาะข้างๆโทรศัพท์ ประมาณว่า "คิก..คิก.." ตอนนั้นผมแทบอยู่ไม่ได้ละครับ เพราะทุกเสียงที่เพื่อนผมได้ยินมันทำให้ผมคิดถึงฝันของคืนนั้น
ย้อนกลับไปประมาณ2-3วันก่อนหน้า ประมาณปลายเดือนพฤศจิกา ตกดึกผมรู้สึกเหมือนมีอาการผีอำ แต่ผมก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ที่ครั้งนี้มันไม่เหมือนคราวก่อนๆ คือระหว่างนั้น ผมรู้สึกเหมือนมีคนเปิดประตูเข้ามาในห้องผม และเดินอ้อมขาเตียงมาที่นั่งข้างๆผมตรงหัวนอน ระหว่างที่เขาเดินผมรู้สึกจริงๆว่ามันมีลมเย็นๆพัดผ่านตัวเขามาตลอด จนกระทั่งเขามาหายใจหอบๆข้างผม เป็นเสียงหายใจเดียวกับที่เพื่อนผมได้ยินผ่านโทรศัพท์ในอีกไม่กี่วันต่อมา ตอนนั้ผนมกลัวมากจนสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วได้แต่คิดว่าทำไมผีอำครั้งนี้มันน่ากลัวเหมือนจริงจังวะ
ซึ่งเมื่อเชื่อม2เหตุการณ์นี้เข้าด้วยกัน นั่นแหละครับ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าห้องที่ผมอยู่มาเกือบครึ่งปี ไม่ได้มีแค่ผมแน่ๆ หลังจากที่วางสายจากเพื่อนผม ผมก็ไปนอนกับเพื่อนสิครับ ใครจะกล้าอยู่ต่อ
จนผมกลับบ้านไปคุยกับพ่อแม่ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง พ่อแม่ผมก็เข้าใจ เพราะว่าช่วงนั้นใกล้สอบเข้ามหาลัยมากแล้ว จะมามัวกังวลก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ผมก็ตกใจนิดๆนะครับ ว่าทำไมพ่อผมไม่ทักท้วงอะไรเลย เพราะปกติเขาจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้
จนถึงวันที่ผมกลับมาขนของออก ผมพาเพื่อนมาประมาณ5คนครับ มาตอนกลางวันแสกๆเนี่ยแหละ แต่ระหว่างที่ขนของล็อตสุดท้าย ตอนที่ผมกับเพื่อนอยู่ตรงบรรไดกำลังจะลงไป ผมกับเพื่อนพูดกันเล่นๆว่าคงไม่กล้ากลับมาอีกแล้วใครจะกว่าวะ แล้วอยู่ดีๆก็มีเสียงปิดประตูดังปั้ง! ซึ่งน่าจะเป็นประตูตรงระเบียงของผมนี่แหละครับ ผมจำได้ว่ามันยังไม่ปิด แต่ตอนนั้นอากาศรอบๆคือไม่มีลมเลย ไม่มีจริงๆนะครับ พอได้ยินเสียงนั้นแล้วก็คงไม่มีใครพูดกันแล้วแหละครับรีบเดินลงอย่างไวที่สุด
จนเวลาผ่านไปเกือบสามเดือน อยู่ดีๆพอก็พูดกับผมขึ้นมาว่า เวลาพาเพื่อนไปนอนที่ห้องเดิมมีใครเจออะไรแปลกๆมั้ย ผมก็ตอบไปว่าก็ไม่มีใครพูดอะไรนะ แล้วพ่อผมก็บอกว่า ตอนที่พ่อไปนอนห้องนั้นครั้งแรก หลังจากที่พ่อสวดมนต์ก่อนเข้านอน พ่อเห็นผู้หญิงคนนึง ผมยาวปิดหน้า ใส่ชุดขาวนั่งอยู่ปลายเตียง แต่ตอนนั้นพ่อไม่ได้ตกใจอะไรมาก บอกว่าเค้าน่าจะอยู่มานาน ไม่น่าคิดจะทำร้ายอะไรผม พ่อผมก็เลยสวดมนต์แผ่เมตตาให้ต่อเลย ผมอึ้งมากครับ เจอตั้งแต่แรกแล้วทำไมไม่บอกกัน555555 แต่พอมองย้อนกลับไปก็ขนลุกทุกทีเลยครับ
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะผมอยากรู้ครับ ว่ามันเคยเกิดอะไรขึ้นที่ชั้น5ของหอนั้น ทำไมดูชั้นอื่นปกติดี มีคนพักเกือบเต็มทุกชั้น ใครพอรู้อะไรมาบ้างช่วยบอกกันหน่อยนะครับ