เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ผมยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 เป็นทั้งเรื่องที่ต้องเตือนภัยสังคม ให้รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกง ของคนขายรถบ้านมือสอง และเป็นทั้งเรื่องสยองขวัญ ปนสิ่งลี้ลับไปในตัว
                ต้องขอเล่าย้อนกลับไปถึงที่มาที่ไปสักเล็กน้อย ผมเปิดบริษัทด้านการประเมินราคาทรัพย์สินและที่ดิน งานส่วนใหญ่จะเป็นงานสำรวจที่ดิน ที่รับเหมาจากองค์กรภาครัฐ  รัฐวิสาหกิจ  และเอกชนต่างๆ มีพนักงานที่ต้องออกไปสำรวจ  ในทุกวัน ผมจึงต้องใช้รถยนต์ที่เป็นยานพาหนะให้กับพนักงานที่ออกพื้นที่อยู่หลายคัน ผมชอบมองหารถในอินเตอร์เนต  facebook  market  และช่องทางอื่นๆ เพื่อหารถให้พอเพียงกับพนักงานที่ออกพื้นที่ในแต่ละวัน วันที่ 6 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นวันเสาร์ เป็นวันหยุดของพนักงานและผม ผมจึงนั่งเปิดดู facebook  market  เพื่อหารถยนต์ ยี่ห้อ vios เพราะเป็นรถตลาด ซ่อมง่าย ราคาไม่ค่อยตก เป็นที่นิยมของตลาดรถ พอเปิดเข้าไปดูมีคนลงขายรถ vios ปี 2011 ราคา 119,000 บาท ผมตัดสินใจทักข้อความถามผู้ขายโดยด่วนเนื่องจาก รูปรถ ปี และราคาของรถนั้นถือว่าต่ำกว่าท้องตลาดไปมาก ผู้ขายตอบกลับมาโดยขอโทรหาผม แจ้งว่าที่ลงราคาไปนั้นผิดไป ให้ลูกสาวลงประกาศให้ ที่จริงลงราคาไว้ที่ 190,000 บาท  แต่ในใจราคานี้ก็ถือว่าคุ้มถ้ารถสภาพดี เดิมๆ และผู้หญิงใช้งานเลขไมค์น้อย ผมเลยต่อแบบเล่นๆว่าถ้าขายเงินสดให้ผมได้ 170,000 บาทผมซื้อและโอนเลย โดยผมขอเข้าไปดูรถในวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 เวลานัดหมายกัน เที่ยงตรง ผู้ขายยืนยันว่ารถไม่เคยมีการชนหน้า และหลัง 100 %  รถสภาพดี (รายละเอียดอ่านดูในไลน์นะครับ)         วันดังกล่าว ผมยอมนั่งรถ Taxi หมดค่าเดินทางไป 450 บาท ค่าทางด่วนอีก 115 บาท แถวสะพานตากสินซอย 11  ในใจคิดว่าจะรับรถกลับบ้านเลย เหลือแค่เล่มทะเบียนฝากทางผู้ขายทำเรื่องโอนให้เป็นเงิน 4000 บาท (ดูรายละเอียดในไลน์ที่สนทนาประกอบนะครับ)  ผมถึงก่อนเวลาประมาณ 10 นาที ลงรถตามที่แจ้งเอาไว้  ที่มีต้นมะม่วงใหญ่หน้าบ้าน พอมองเข้าไปเป็นอู่รถยนต์ซึ่งมีรถยนต์จอดอยู่หลายคัน ในใจคิดว่าไม่ใช่รถบ้านแล้วสิ แต่ก็อาจจะเอามาฝากขาย ก็ยังคิดไปในทางที่ดี ช่วงรอคนขายมา ผมเดินวนรอบรถ ก็เห็นว่ารถได้ทำสีรอบคันมา ไม่ตรงกับที่แจ้งผมเอาไว้ ในใจเลยคิดว่า น่าจะต่อหน้างานได้อีกหน่อย    รถทำสีเก็บสีก็ดีไปอีกแบบ ถ้าขับแล้วดี ระบบไม่มีปัญหาอะไร  ยางปี 17 ต้องเปลี่ยนยางหน่อย แต่ก็พอใช้  พอถึงเวลา คนขายโทรมาแจ้งว่า ติดธุระด่วน ให้น้องชายมาเปิดรถให้แทน และถ้าวางเงินก็เซ็นสัญญากับน้องชายได้เลย ผมก็ไม่ได้คิดอะไร  พอเปิดรถยนต์ดูสภาพภายใน สภาพดี เบาะเปลี่ยนใหม่มีทีวีดูทั้งเบาะหน้าเบาะหลังอีก 2 จุด เปิดใช้งานได้ปกติ แอร์เย็น เร่งเครื่องฟิตดี ผมเลยขอดูห้องเครื่องด้านหน้าตัวรถ เครื่องยนต์สภาพก็ยังดูใหม่มาก แต่ดูทุกจุดที่ปรากฏตามคู่มือดูรถมือสอง ก็ตรงตามตำราที่ระบุในทุกจุดที่ดู ทำสีจนถึงคาน น๊อตขยับทุกตัว ประตูด้านคนขับ มีรอยทำสี เปลี่ยนอะไหล่ใหม่หมดทุกชิ้น แต่ราคานี้ถ้าขับดีราคาลงอีกหน่อยก็คุ้ม การเปลี่ยนอะไหล่ดูใหม่ก็เป็นผลดี เพราะผมใช้งานรถออกพื้นที่ ขับดีก็ ok แล้ว ผู้ขายให้ลูกสาวยืนดูตอนผมดูรถ วนดูรอบคัน แต่ที่น่าแปลก ยิ่งดูลูกสาวที่เค้าเฝ้าผม ก็ยิ่งขยับออกจากรถทีละนิดเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง ผมก็คิดว่าคง กลัวผม คนแปลกหน้ามาดูรถ เลยจะขยับออกมา เพราะไม่ไว้ใจ  สุดท้ายอยากดูประวัติรถเพื่อทราบว่ารถเคยทำประกันอะไรไว้ไหม เผื่อรับไปก็ยังมีประกันติดไปกับรถ ที่เก็บของหน้ารถ มีเอกสารทำประกันใบเดียว แต่ผมอ่านรายละเอียดทั้งหมด คนทำประกันไม่ใช่เจ้าของที่อยู่ในเล่มทะเบียนรถยนต์ที่คนขายเคยส่งให้ดูทางไลน์  แต่ปรากฏชื่อนาย....... เป็นผู้เอาประกันภัย ทำประกันช่วงปี 2561-2562 ในใจคิดว่าชื่อแปลกๆดี นามสกุลก็เพราะดีนะ  สุดท้ายก่อนจะเสียงเงิน จึงได้ขอลองขับรถทอสอบดูสัก 1 รอบเพื่อตัดสินใจครั้งสุดท้าย น้องชายผู้ขายเลยมานั่งข้างคนขับด้วย พอขับรถออกมาจังหวะแรก รถยนต์ปี 11 ขับเหมือนรถใหม่เลย อัตราเร่งดี  พวงมาลัยยังเบาอยู่ไม่หนักเท่าไหร่ ขับออกถนนใหญ่มาสักพักช่วงจังหวะที่จะเลี้ยวกลับรถเพื่อมองดูคันด้านหลัง หางตาเหมือนมองเห็นเป็นผู้ชายนั่งด้านหลังเป็นเงาแบบแวบเดียวแล้วหายไป ก็คิดในทางที่ดีว่า น่าจะเป็นเงาของพี่ที่นั่งมาด้วย แสงแดดสะท้อนเลยเกิดรูปคนที่กระจกก็เป็นไปได้ เลยไม่คิดอะไรมาก แต่ก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาเองตลอดเวลา น้ำมันก็เริ่มจะหมดเลยขอจอดปั๊มเติมน้ำมันปั๊มเซลตรงข้ามซอยทางเข้า พอจอดรถยนต์เติมน้ำมัน น้องคนเติมน้ำมันก็มองแต่เบาะหลังตลอด แล้วยิ้มๆ ในใจคงคิดว่า อะไรของน้องเมากัญชาเสรีหรือไงน้อง ชอบยิ้มหวานๆคนเดียว พอจ่ายเงินเสร็จ ก็ขับเทสออกมาช่วงขากลับ ยิ่งขับ ยิ่งเร่งดี  เครื่องเดินเรียบไม่มีปัญหา ถ้าลงได้อีกหน่อยก็ถือว่าคุ้มในใจคิดว่าลองจะเสนอราคา 160,000 บาท จบๆไป แต่ช่วงกำลังคิดนั้น ดันได้ยินเสียงข้างหูมาคำนึงว่า ไม่ขาย  ก็ยังคิดว่าเสียงจากไหนหรือพี่ที่นั่งในรถได้ยินผมอาจหลุดปากพูดไป แต่มองดูก็ไม่เหมือนคนจะต่อบทสนทนาคุยกัน ต่างคนต่างเงียบ แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก มาถึงบ้านคนขายโดยสวัสดิภาพ แต่ขอสตาร์ทรถทิ้งไว้สักครู่ เปิดแอร์เย็นๆ เพื่อดูรายละเอียดครั้งสุดท้าย และขอให้ผู้ขายเอาเล่มทะเบียนตัวจริงมาดูก่อน ผมเปิดแอร์รอในรถ พอผู้ขายหยิบส่งให้ดู ผมก็ดูรายละเอียดที่ปรากฏในเล่ม ปรากฏว่า หน้าแรกก็ปรากฏชื่อลำดับที่ 4 เข้ามาเลย และมีตราประทับมุมด้านขวาบนว่า ออกแทนเล่มเดิมรายการชำรุด  เปิดดูที่หน้า 18 ก็มีรายการบันทึก 9 ก.ค. 63 เข้ามาเลย เป็นเรื่องแปลกมากเหมือนปกปิดประวัติรถยนต์ที่ผ่านมา  ในใจผมยังจะต่อราคาลงครั้งสุดท้ายแล้วขับรถกลับบ้านเนื่องจากเสียเวลามาพอสมควรแล้ว ต่อได้หรือไม่ได้ก็คงเอาเพราะราคานี้ก็ถูกกว่าท้องตลาดมากแล้ว จึงได้ปิดเครื่องยนต์ เพื่อจะเปิดประตูออกจากรถ มีเสียงมาข้างหูแบบดังเลยว่า กูไม่ขาย กูไม่ขาย  ครั้งนี้  จะคิดเข้าข้างตัวเองเหมือนครั้งก่อนก็ไม่ใช่ เพราะอยู่ในรถยนต์คนเดียว พี่คนขายก็อยู่นอกรถ ใจรู้สึกหวิวๆ ขนเริ่มลุกขึ้นมาบ้างละ ยิ่งรนเข้าไปใหญ่ ดันมองไปกระจกหลัง เจอผู้ชายนั่งอยู่หลังรถ แว็บเดียวแล้วขายไป ผมรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งออกมาอย่างเร็วเหมือนคนเห็นผีหลอกอย่างงั้น แต่หลอกตอนกลางวันเลยหรอวะ ขอน้องชายคนขาย วนดูรอบรถ ยังคิดว่าเหตุการณ์เมื่อกี้คืออะไร แล้วจะเอาดีไหม ประวัติก็สืบไม่ได้ย้อนหลัง แต่ราคามันมาแบบเล้าใจ มีเสียงหลอนๆมาอีกครั้งข้างหู “ทะเบียนรถ” เลยคิดว่าเอาทะเบียนรถลองเปิดหาข้อมูลในอินเตอร์เนตในมือถือลองดู ปรากฏว่าข้อมูลรถคันนี้เยอะมาก หัวข้อพาดข่าว เก๋งชน จยย.ดับ 3 ชีวิต เป็นข่าวปี 2562 ทั้งคนขับรถยนต์ตายคาที่ในรถ คนขับจักรยานยนต์ ตายหน้าเละ 2 ศพ รวมเป็น 3 ศพ ใจถึงบางอ้อเลยครับว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นแบบนี้ นี้เอง  รถสภาพพังยับเยินแล้วทำสีใหม่ ห้องเครื่องอาจเครมเครื่องและอะไหล่ทุกอย่างใหม่ แล้วย้อมรถยนต์มาขาย ผมเลยตัดสินใจ บอกน้องชายผู้ขายขออนุญาตขอคิดตัดสินใจก่อน น้องผู้ขายก็ยินดี แต่โทรประสานงานทางคนขายไป คนขายได้โทรไลน์หาผม 3 ครั้งแต่ผมไม่ได้รับสาย  แล้วผมก็ส่งข้อมูลข่าวเข้าไปในไลน์ แล้วแจ้งว่า ตาย 3 ศพเลยนะครับพี่  ผู้ขายเงียบและไม่โทรมาอีก  
ต้องขอขอบใจน้องที่อาจเป็นดวงวิญญาณในรถที่ดลจิตดลใจ ไม่ให้ผมโดนหลอกขายรถได้สำเร็จ ผู้ขายกล้ามากที่จะยืนยันรถว่าสภาพทุกอย่าง100% ปกติผมเป็นคนสวดมนต์ไหว้พระ และนั่งสมาธิบ่อยเพราะเคยอาศัยอยู่วัดมาหลายปีช่วงปิดเทอมตอนเด็กในสายหลวงปู่มั่น จะเจอประสบการณ์แบบนี้ในสมาธิแบบมาขอส่วนบุญ มาให้เห็นว่าตายยังไงจะช่วยอุทิศส่วนกุศลให้แบบไหน แต่จิตผมไม่หลงไปยึดติดกับนิมิต พยายามแก้ไขจนไม่สนใจในนิมิตที่เกิดขึ้นแล้วผ่านไป ต่อมาก็ไม่ได้พบเห็นมาอีกเลย  แต่ครั้งนี้ ไม่เหมือนทุกครั้ง คือมาให้ได้ยินเสียง และปรากฏให้เห็นขึ้นมาจากตาเนื้อเลย เป็นเรื่องจริงที่ยืนยันจากหลักฐานจริง รถยนต์คันนี้หากใครเปิดใน facebook  market   ค้นหารถยนต์ vios ก็จะปรากฏรถยนต์คันนี้เป็นบรรทัดแรกๆเลยครับผม สยองเลยละครับ