.........ลือกันเรื่องผีที่หน้าห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วาน

กระทู้สนทนา
....ลือกันทั่วไปในหมู่คนขับรถแท็กซี่ว่า บริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ (งามวงศ์วาน) 

ตอนกลางดึก (หลังห้างปิด) แล้วเนี่ย ผีดุเป็นบ้า 

ลือกันเป็นตุเป็นตะว่า เคยมีแท็กซี่หลายคันถูกผู้หญิงผมยาวเรียกจากหน้าห้างฯ ให้ไปส่งที่วัดสมรโกฏิ ถนนรัตนาธิเบศร์ 

พอคนขับแท็กซี่ขับไปถึงหน้าวัดปรากฏว่าผู้โดยสารผู้หญิงผมยาวคนนั้นก็หายตัวไป


.....ลือกันว่าผีที่หน้าห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วานนี้ คือหญิงสาวที่เคยใช้ที่จอดรถของห้างฯ เป็นที่ฆ่าตัวตาย

จนปัจจุบันห้างฯได้ทำลวดตาข่ายมาอ๊อกปิดไว้หมดทุกด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาใช้เป็นสุสานอีก 

แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวมาเรื่อย ๆ ว่ามีคนกระโดดตึกตายที่นี่เป็นประจำ


เรื่องข่าวลือนี้ นายกล้าโชเฟอร์แท็กซี่ (มือใหม่) ที่เพิ่งมาหางานทำในกรุงเทพฯ ได้ยินมาเหมือนกัน

แต่ความที่แกเป็นคนกล้าสมชื่อ แกจึงไม่เชื่อ ยังคงวนเวียนรับ-ส่งผู้โดยสารแถวงามวงศ์วานและใกล้เคียงเป็นประจำ เพราะราย

ได้ดีเนื่องจากแถวนี้ตอนดึก ๆ ไม่ค่อยมีแท็กซี่กล้าขับผ่านมา 


......วันหนึ่งดึกมากแล้ว 

นายกล้าขับรถผ่านหน้าห้างเดอะมอลล์ฯ ปรากฏว่าม ีผู้หญิงสาวสวยไว้ผมยาวสยาย ยืนโบกรถอยู่หน้าห้างฯ

ฉับพลันที่เห็น นายกล้าก็นึกไปถึงเรื่องที่เพื่อน ๆ ชาวแท็กซี่โจษขานถึงเรื่องผีดุกันขึ้นมาทันที 

แต่ความที่แกเป็นคนกล้า ประกอบกับผู้หญิงคนนั้นก็ดูว่าเป็นคนชัดๆ แกจึงจอดรถเข้าไปรับ

พอหญิงสาวเปิดประตูรถ กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกก็ปะทะจมูกของนายกล้าทันที 

' โชเฟอร์ ไปแถววัดธาตุทองนะ จะไปมั้ย ?' หญิงสาวถาม 

' ไปครับผม ' นายกล้าตอบ ในใจคิดว่า ไม่ใช่วัดสมรโกฏิ แบบที่ลือกันนี่หว่า 

หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งที่เบาะหลังพร้อมกับบอกนายกล้าว่า ' ไปทางด่วนนะ ' 

นายกล้ากดมิเตอร์แล้วออกรถขับตรงไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน 

กลางดึกเช่นนั้นทางด่วนเงียบสนิท นาน ๆ ถึงจะมีรถขับมาสักคัน 

กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวยังเตะจมูกอยู่ บรรยากาศเงียบเชียบชวนอึดอัด 


.......ถึงนายกล้าจะกล้าเพียงไรก็ตามแต่แกก็อดชำเลืองมองกระจกส่องหลังไม่ได้ 

เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา แกก็เลยชวนคุยเพื่อทำลายบรรยากาศอันอึดอัดนี้

' รอรถนานมั้ยครับ ' นายกล้าถาม 

' นานสิ แท็กซี่หายไปไหนหมดไม่รู้ ' หญิงสาวพูดเรื่อย ๆ 

' ก็มีข่าวลือเรื่อง เอ้อ เรื่องผีแถวนี้ดุสิครับเลยไม่ค่อยมีแท็กซี่คันไหนกล้าวิ่งแถวนี้ ' 

นายกล้าตัดสินใจพูดหยั่งเชิงเพื่อดูท่าทีหญิงสาว 

หญิงสาวหันขวับมามองนายกล้าทันที 

' มิน่าล่ะ เมื่อกี้ฉันเรียกตั้งหลายคันไม่มีใครจอดเลย แล้วนายไม่กลัวเหรอ ?' หญิงสาวถาม 

นายกล้ากลืนน้ำลาย ' เอ้อ ไม่กลัวครับ ' 

' ก็ดี ' หญิงสาวพูดพร้อมกับหันไปมองที่หน้าต่าง 

นายกล้าขับรถต่อไปเรื่อย ๆ บรรยากาศกลับเงียบสงัดอีกครั้ง 

เงียบ จนนายกล้าได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองเพียงคนเดียว! 


......นายกล้าแหงนขึ้นไปมองกระจกส่องหลังเมื่อนึกขึ้นได้ 

ทันใดนั้น! 

หัวใจของ แกแทบจะหยุดเต้น เมื่อเห็นภาพในกระจก เบาะหลังว่างเปล่า

ไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงผมยาวที่นั่งคุยมาด้วยกัน เมื่อกี้นี้เลย! 

' ยิ้มแล้วกู !!! เนี่ยเขาว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ โดนดีเข้าแล้วมั้ยล่ะ ' 

นายกล้าคิดขณะที่กลิ่นน้ำหอมฉุนของผู้หญิงสาวยังคงคลุ้งอยู่ในรถ มือที่กำพวงมาลัยสั่นสะท้าน

เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่แอร์ในรถเย็นเฉียบ  ขาของนายกล้าที่เหยียบคันเร่งชาจนแทบจะไม่รู้สึกแล้ว 

บทสวดมนต์กี่บท ๆ ที่นึกได้ นายกล้าท่องจนหมด 

กลิ่นน้ำหอมก็ไม่หายไปไหน ยังลอยอบอวลคลุ้งอยู่ในรถ แถมบางครั้งยังแรงขึ้นด้วยซ้ำไป 

มนต์บทแล้วบทเล่าที่นายกล้าท่อง ไม่ได้ทำให้กลิ่นน้ำหอมจางลงเลย 

นายกล้าแหงนขึ้นมองกระจกอีกครั้ง เบาะหลังก็ยังว่างเปล่าอยู่ 

มีแต่กลิ่นน้ำหอมเท่านั้นที่บอกให้รู้ว่า ' เธอ ' ยังไม่ไปไหน

นายกล้าเหยียบคันเร่งอย่างไม่คิดชีวิต ในใจก็อาราธนาพระดัง ๆ ทั่วเมืองไทยให้มาอยู่เป็นเพื่อนเขา 

ใจอยากบึ่งไปให้ถึงวัดธาตุทองเร็ว ๆ เผื่อว่ากลิ่นน้ำหอมจะหายไป 

เพราะ ' เธอ ' คงต้องการไปลงที่นั่นจริง ๆ 

' โอ๊ย มาไกลเหลือเกินนะแม่คุณ ' นายกล้าคิดในใจ ขณะที่ยังคงเหยียบคันเร่งมิด 


.....นายกล้ามารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถมาติดไฟแดงตรงเชิงทางด่วน 

นายกล้าสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ 3 ครั้ง ก่อนกลั้นใจแหงนหน้าขึ้นไปมองกระจกส่องหลัง 

และแล้วนายกล้าก็แทบจะหัวใจหยุดเต้นอีกครั้ง มือเท้าเย็นวาบ แทบจะหมดแรง

ขนลุกซู่ทั้งตัวเหมือนใครเอาน้ำแข็งมาโปะต้นคอ 

ภาพที่ทำให้นายกล้าแทบช็อกก็คือ หญิงสาวคนเดิมมาปรากฏตัวที่เบาะหลังอีกครั้ง 

แต่คราวนี้หน้าตาเธอเปลี่ยนไป! 

ใบหน้าของเธอมีเลือดไหลออกทางจมูกและปาก 


.........นายกล้าตัดสินใจรวบรวมความกล้าอีกครั้ง เป็นไงเป็นกันวะ  ไหนๆก็ไหนๆแล้ว  จะถามให้รู้เรื่องกันไป 

ว่าเธอต้องการอะไรแน่  ทำไมไม่ไปผุดไปเกิด  พอคิดได้ดังนั้นนายกล้าก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับ ' เธอ ' ผู้นั้น 

ก่อนที่จะถามเป็นคำถามแรกว่า 

' คุณเป็นอะไรตาย ?' 

' ตายพ่อตายแม่สิ ' เสียงหญิงสาวคนนั้นตอบดังลั่นรถ 

' ยิ้ม! กูก้มลงไปแต่งหน้าหน่อยเดียว ทั้งเบรค ทั้งเหยียบซะหน้าตากูแหกหมด แล้วยังยิ้มมาถามอีกว่าเป็นอะไรตาย '
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่