การตั้งชื่อหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ตามสตรีคนสำคัญของโลก




Valentina Tereshkova, Kalpana Chawla และ Annie Jean Easley ที่มีแอ่งหลุมบนดวงจันทร์ที่ถูกขนานนามตามชื่อของพวกเธอ
Cr.GETTY IMAGES


แอ่งหลุมมากมายบนพื้นผิวขรุขระของดวงจันทร์ ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดจากอุกกาบาตพุ่งเข้าชนในอดีตนั้น มีถึง 1,577 แห่ง ที่ถูกตั้งชื่อตามนักวิทยาศาสตร์และบุคคลสำคัญอื่น ๆ ของโลก แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 26 แห่งเท่านั้น ที่ได้รับการขนานนามตามชื่อของสตรีที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์

ซึ่งถ้าเทียบเป็นเปอร์เซนต์ จะมีผู้หญิงที่ได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่นี้เพียงไม่ถึง 2 % เท่านั้น ของผู้ที่มีชื่อเป็นสถานที่บนดวงจันทร์ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นชื่อผู้ชาย นอกจากนี้ แอ่งหลุมที่มีชื่อเป็นสตรียังมักจะตั้งอยู่ตรงบริเวณด้านไกลของดวงจันทร์ ซึ่งเป็นส่วนที่ถูกบดบังจนมองไม่เห็นจากพื้นโลกอีกด้วย

โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายร้อยปี มีการตั้งชื่อแอ่งหลุมอุกกาบาตส่วนใหญ่ตามชื่อของเหล่านักปราชญ์ นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ รวมทั้งชื่อของเทพ เทพี และบุคคลในจินตนาการของเทพปกรณัมกรีกเป็นจำนวนที่นับไม่ถ้วน หรือแม้แต่นักร้องดังอย่าง  John Winston Ono Lennon ก็ยังมีแอ่งหลุมอุกกาบาตบน Luna ดวงจันทร์ของโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Lacus Somniorum (Lake of Dreams ) ของดวงจันทร์ที่อุทิศให้กับเขาโดยเฉพาะ โดยให้ชื่อเป็น John Lennon Peace Crater


แม้แต่นักร้องชื่อดังอย่าง จอห์น เลนนอน ก็ยังมีแอ่งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ที่อุทิศให้กับเขาโดยเฉพาะ
Cr.ภาพ vanguardngr.com/


นับแต่ปี 1919 เป็นต้นมา สหภาพดาราศาสตร์ระหว่างประเทศ (IAU) จะเป็นผู้อนุมัติและให้การรับรองชื่อของวัตถุอวกาศทั้งหมด แต่การตั้งชื่อสถานที่บนดวงจันทร์นั้น มีความเป็นมาย้อนไปได้ไกลถึงหลายร้อยปีก่อน นั่นคือ

ในปี 1651 Giovanni Battista Riccioli นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีเป็นคนแรกที่ริเริ่มตั้งชื่อสถานที่ต่าง ๆ บนดวงจันทร์ หลังจากที่กาลิเลโอได้ใช้กล้องโทรทรรศน์สำรวจ และวาดภาพภูมิประเทศบนดวงจันทร์เอาไว้ราว 40 ปีก่อนหน้านั้น

โดย Riccioli ได้ตั้งชื่อสถานที่บนดวงจันทร์ตามชื่อของมนุษย์ไว้ 147 แห่ง ซึ่งในจำนวนนั้นมีชื่อของเขารวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม เขาเลือกให้เกียรติยกย่องสตรีคนสำคัญในครั้งนี้เพียง 2 คน ได้แก่ Hypatia นักปราชญ์หญิงชาวกรีกในยุคต้นคริสตกาล และนักบุญ Catherine of Alexandria ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่ไม่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์

แต่โดยปกติแล้ว ชื่อของแอ่งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ รวมทั้งสถานที่สำคัญซึ่งถูกค้นพบบนดาวเคราะห์ดวงต่าง ๆ ในระบบสุริยะ จะได้รับการขนานนามตามชื่อของนักวิทยาศาสตร์และบุคคลสำคัญที่เป็นบุรุษเพศเสียส่วนใหญ่ เนื่องจากช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมานั้น ผู้หญิงถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงการศึกษาในระบบ รวมทั้งถูกห้ามฝึกฝนเรียนรู้วิทยาการต่าง ๆ



Giovanni  Riccioli ผู้ริเริ่มตั้งชื่อสถานที่บนดวงจันทร์คนแรก เลือกให้เกียรตินี้กับผู้หญิงเพียงสองคนเท่านั้น


อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์การตั้งชื่อวัตถุอวกาศของ IAU ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นยุคแห่งการแข่งขันเพื่อการสำรวจอวกาศและไปเหยียบดวงจันทร์ระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียตนั้น ทำให้ชื่อของสตรีคนสำคัญมีโอกาสจะได้รับเลือกน้อยลงไปอีก

ทั้งนี้ สถานที่ต่าง ๆ บนดวงจันทร์นั้น จะได้รับการตั้งชื่อก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่สับสน
ชื่อที่ตั้งจะต้องเป็นชื่อของนักวิทยาศาสตร์ นักสำรวจขั้วโลก หรือบุคคลสำคัญที่เสียชีวิตไปแล้ว นอกจากนี้ IAU ยังกำหนดว่า ให้ใช้ชื่อของผู้ชายเท่านั้น
ในการตั้งชื่อสถานที่บนดวงจันทร์ ส่วนชื่อของผู้หญิงจะสงวนไว้ใช้สำหรับภูมิประเทศบนดาวศุกร์โดยเฉพาะ

แม้ปัจจุบันกฎข้างต้นจะถูกล้มเลิกไปแล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มีแอ่งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ถูกตั้งชื่อตามสตรีคนสำคัญเพียง 7 แห่ง และแม้นักดาราศาสตร์ทั่วโลกจะได้ก่อตั้ง IAU มานานกว่าร้อยปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ แอ่งหลุมที่มีชื่อของสตรีก็ยังมีไม่ถึง 2% ของทั้งหมด
ซึ่งสัดส่วนนี้แทบไม่ต่างจากตอนแรกที่เริ่มก่อตั้ง IAU เลย


ดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์แทนผู้หญิงในหลายวัฒนธรรม จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่าเหตุใดจึงไม่ค่อยมีชื่อของผู้หญิงที่ใช้เรียกสถานที่บนดวงจันทร์


Dr. Maritza Soto Vásquez นักดาราศาสตร์หญิงชาวชิลี ผู้ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงแรก (HD 110014, รวมถึง K2-237b และ K2-238b)
ในชีวิตของเธอเมื่ออายุเพียง 25 ปี บอกว่า "แน่นอนว่าเรื่องนี้สำคัญมาก หากเราต้องการให้ผู้หญิงเข้าสู่แวดวงวิทยาศาสตร์มากขึ้น การที่ผู้อื่นยอมรับและมองเห็นความสำคัญของพวกเธอ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเกื้อหนุนที่สำคัญมากที่สุด"

และเมื่อเด็กผู้หญิงเลือกสาขาวิชาที่ต้องการจะเรียน พวกเธอจะมองหาแบบอย่างอันโดดเด่นของเพศเดียวกันในวงการนั้นเสมอ หากไม่พบชื่อของผู้หญิงแนวหน้าในแวดวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็เท่ากับส่งสารทางอ้อมไปฝังหัวพวกเธอว่า ผู้หญิงไม่ควรจะมาเป็นนักวิทยาศาสตร์นั่นเอง
สำหรับสตรีคนสำคัญของโลกบางราย ซึ่งชื่อของพวกเธอถูกนำไปตั้งเป็นชื่อแอ่งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ มีดังต่อไปนี้



Valentina Tereshkova (1937 - ปัจจุบัน)
นักบินอวกาศหญิงชาวรัสเซีย เป็นสตรีคนแรกที่ได้ขึ้นสู่ห้วงอวกาศเมื่อปี 1963 และเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับเกียรตินำชื่อของเธอไปตั้งเป็นชื่อของหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ ปัจจุบันเธอยังครองตำแหน่งผู้หญิงเพียงคนเดียวที่มีโอกาสบินเดี่ยวในห้วงอวกาศ โดยนั่งในแคปซูลอวกาศ Vostok 6
ซึ่งโคจรรอบโลก 48 ครั้ง ในเวลาเกือบ 3 วันเต็ม ซึ่งหลังจากภารกิจในครั้งนั้น เธอไม่ได้มีโอกาสกลับขึ้นสู่ห้วงอวกาศอีก 
แต่ผู้คนยังคงยกย่องเธอถึงการอุทิศตนเพื่อวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาของรัสเซีย



Hypatia (สิ้นชีพ ค.ศ. 415 )
นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ และนักปรัชญาเชื้อสายกรีก เกิดในช่วงปีค.ศ. 370 - 350 ที่เมือง Alexandria ของอียิปต์
ซึ่งขณะนั้นถูกผนวกเข้าเป็นแคว้นหนึ่งของจักรวรรดิโรมันตะวันออก Hypatia ได้รับการศึกษาที่ดีกว่าหญิงทั่วไปในยุคนั้นมาก เนื่องจากบิดาของเธอเป็น
นักดาราศาสตร์และผู้บริหารหอสมุดแห่งอเล็กซานเดรียอันเลื่องชื่อ ทำให้เธอได้เรียนรู้จากตำราจำนวนมหาศาล จนสามารถเขียนตำราทางดาราศาสตร์ได้ซึ่งตำรานี้เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายจากผู้รู้ในยุคนั้น แต่ Hypatia ต้องสิ้นชีพไปก่อนเวลาอันควร ด้วยฝีมือของฝูงชนผู้นับถือศาสนาคริสต์
ที่เข้ามาทำร้าย เนื่องจากความขัดแย้งเรื่องเสรีภาพทางวิชาการกับ Bishop of Alexandria และแอ่งหลุมบนดวงจันทร์ที่มีชื่อเหมือนกับเธอ เป็นหลุมอุกกาบาตที่ตั้งชื่อตามสตรีเพียงไม่กี่แห่ง ที่ตั้งอยู่ในด้านสว่างของดวงจันทร์ ซึ่งเป็นด้านที่หันหน้าเข้าหาโลก



Antonia Maury (1866 - 1952 )
นักดาราศาสตร์หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายโปรตุเกส หนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม "มนุษย์คอมพิวเตอร์"  ประจำหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์
แห่งมหาวิทยาลัย Harvard เธอเป็นคนแรกที่ศึกษาระบบดาวคู่ประเภท spectral binary ซึ่งเป็นดาวสองดวงที่ตั้งอยู่ใกล้ชิดกันจนแยกแยะได้ยากเมื่อมองด้วยตาเปล่าจากพื้นโลก ทั้งยังเป็นผู้วางระบบตรวจวัดการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าของดาวฤกษ์ ซึ่งนักดาราศาสตร์นานาชาติของ IAU ยังใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
 


Kalpana Chawla (1962-2003)
นักบินอวกาศหญิงเชื้อสายอินเดียคนแรกของโลก ผู้สนใจเทคโนโลยีด้านการบินอวกาศมาตั้งแต่ยังเล็ก โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก
ด้านวิศวกรรมการบินอวกาศในสหรัฐฯ ก่อนจะเข้าทำงานที่นาซา ซึ่งภารกิจแรกคือการเป็นวิศวกรผู้ควบคุมแขนกลบนกระสวยอวกาศ Columbia
เมื่อปี 1997 แต่อีกหกปีต่อมา ในปี 2003 กระสวยอวกาศลำนี้ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ขณะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก
และคร่าชีวิตเธอและลูกเรือทั้งหมด



Annie Jean Easley (1933-2011) 
สตรีคนล่าสุดที่ได้รับเกียรตินำชื่อไปใช้เรียกขานแอ่งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2021 ที่ผ่านมา

Easley เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งเติบโตขึ้นมาในยุคที่คนผิวดำถูกแบ่งแยกกีดกันอย่างหนัก แม้เป็นการยากที่เธอจะได้รับการศึกษาอย่างคนอเมริกันผิวขาว แต่ Easley ก็พยายามขวนขวายจนสำเร็จการศึกษาด้านคณิตศาสตร์ และได้เข้าทำงานเป็นนักวิทยาการคอมพิวเตอร์รุ่นแรก ๆ ที่นาซา

โดยตลอดระยะเวลา 34 ปีที่ทำงานที่นั่น Easley ได้เขียนรหัสคอมพิวเตอร์และพัฒนาระบบเครื่องยนต์ขับเคลื่อนต่าง ๆ ซึ่งวางรากฐานให้กับการสร้างเครื่องยนต์กระสวยอวกาศในเวลาต่อมา และยังเป็นผู้รณรงค์สนับสนุนให้สตรีและชนกลุ่มน้อยพยายามศึกษาเล่าเรียนและยึดอาชีพในกลุ่ม STEM (วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม, คณิตศาสตร์) ด้วย



ปล่องภูเขาไฟ Easley บนดวงจันทร์




(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่