การวางแผนจัดหาวัคซีนโควิดในประเทศไทย 80 ล้านโดส




https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6068931
https://www.boi.go.th/index.php?page=demographic&language=th

          ตัวเลขจำนวนประชากรคนไทยมีประมาณ 65 ล้านคน จำนวนคนที่ฉีดวัคซีนหักกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปีลงไป..จะเหลือ 50 ล้านคนรวมกับประชากรคนต่างชาติอีก 5 ล้านคน ตกประมาณ 55 ล้านคน จำนวนที่ 70 เปอร์เซ็นต์ก็จะเหลือประมาณ 40 กว่าล้านคนนะครับ..สธ.เตรียมเพิ่มการจัดหาวัคซีนอีก 20 ล้านโดสรวมของเดิม 61 ล้านโดส.เป็น 80 ล้านโดส.ก็น่าจะเพียงพอนะครับ วัคซีนทั้งหมดที่จะจัดหา 80ล้านโดส..ต่อประชากร 40 ล้านคน..ดูสมเหตุสมผลดีครับขอชื่นชมแนวคิดและเป้นกำลังใจ ผลักดันให้สำเร็จนะครับ
          ปัญหามีอยู่ว่าความสามารถในการฉีดวัคซีนเต็มที่ต่อเดือน5ล้านโดส(จากการบรรยายเรื่องวัคซีนแห่งชาติ)จริงๆแล้วก็อาจจะฉีดไม่ถึง..แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าการจัดการวัคซีนต่อเดือน 5 ล้านโดสให้เพียงพอต่ออัตราการฉีดวัคซีนจะทำได้ราบรื่นไหม.. 80 ล้านโดสจะใช้เวลาฉีดเร็วสุด 16 เดือน...หากมีการล่าช้าของการจะหาวัคซีน..ก็อาจจะนานออกไปอีกหลายเดือนเลยครับ

https://www.bmj.com/content/372/bmj.n162

           แต่มีข่าวดีจากการวิจัยเพิ่มเติมในการเว้นระยะห่างระหว่าง เข็ม1 และ 2 ให้นานออกไป 12 อาทิตย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีนได้ดีขึ้น(AZ  เพิ่มจาก 70% เป็น 80%)การฉีดวัคซีนทั้งของไฟเซอร์และ modena มีแนวโน้มว่าจะฉีดห่างออกไปเช่นกัน..ถ้าเป็นแบบนี้นอกจากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแล้วครอบคลุมประชากรได้มากขึ้นด้วยครับ..ตัวอย่างประเทศไทยถ้าฉีดเดือนละ 5 ล้านโดสเดิมเราฉีดห่างกัน 1 เดือนเพราะฉะนั้นใน 2 เดือนเราจะครอบคลุมคนได้แค่ 5 ล้านคนแต่ถ้าเราฉีด2เข็มห่างไป 3 เดือนเราจะครอบคลุมคนได้ถึง 10 ล้านคนในช่วง2 เดือนแรก (เพิ่มขึ้น 100%)น่าจะเป็นข่าวดีนะครับสำหรับประเทศที่จัดหาวัคซีนได้น้อยอย่างประเทศไทย
https://twcbgh15.blogspot.com/2021/03/80.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่