วันที่ 13 กุมภา 64 เราได้ทำการโอนเงินผิดบ/ช ทางธุรกรรมออนไลน์ ไปจากแบงค์กรุงเทพ ไปแบงค์กรุงเทพด้วยกัน แต่ปัญหาคือบัญชีที่เราโอนไปผิด มีปัญหาหรือโดนอายัด ซึ่งงงมาก ทำไมยังเปิดบัญชีให้มีการทำธุรกรรมการเงินอื่นๆได้อยุ่ ไม่ปิดบ/ช นั้นไป ติดต่อเจ้าของบ/ช ได้ แจ้งว่าได้เข้าไปเซ็นเอกสารยินยอม ให้เราเรียบร้อยตั้งแต่ 23 กุมภา 64 ไม่ได้กดเงินหรือทำธุรกรรมใดๆกับแบงค์นี้นานแล้ว และไม่ทราบว่าได้ใีเงินโอนเข้ามา ได้รับเอกสารจากทางธนาคาร 23 กุมภา 64 ก็รีบติดต่อสาขาไปเซ็นยินยอมให้ ให้ติดต่อขอเงินคืนกับทางธนาคารกรุงเทพเอง เราจึงรอเจ้าหน้าที่ประสานงานแจ้งจะติดต่อแจ้งกลับหากธนาคารสามารถติดต่อหรือแจ้งผล สรุป วันที่ 4 มีนา 64 มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้ง มีการตัดยอดจากการฟ้องร้องของแบงค์ที่มีต่อเจ้าของบัญชีที่โอนผิด บังคับคดีวันที่ 23 พอดีวันเดียวกับที่เจ้าของบ/ช เข้าไปเซ็น ทำให้เงินในบัญชีที่เราโอนไปนั้นถูกตัดออกจากระบบไม่สามารถโอนเงินคืนเราได้ และเจ้าหน้าที่ได้มีการโกหกว่าติดต่อเจ้าของบัญชีไม่ได้ เจ้าของบัญชีไม่เข้ามาเซ็นยินยอม โกหกลูกค้าเอาง่ายๆ คงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ 2 วัน เราสามารถติดต่อเจ้าของบัญชีและได้พูดคุยกันแล้ว พอเราแย้งข้อมูลไปว่า สามารถติดค่อได้แต่เจ้าของบัญชียืนยันว่าปิดโดนอายัดไปนานแล้ว
และไม่เคยยุ่งหรือถอนเงิดใดๆเราออกมา ให้ตามเงินกับทางธนาคารเอา เจ้าหน้าที่ ที่โทรประสานงานติดต่อมาซึ่งแจ้งข้อมูลที่เป็นเท็จกับลูกค้า แจ้งว่าข้อมูลที่ได้รับไม่ได้แจ้งรายละเอียดให้ทราบตรงนี้ขอติดต่อกลับมาใหม่เพื่อเช็คข้อมูลกับสาขาใหญ่ ตรงรายละเอียดตรงนี้ (แบบนี้ก็มีหรอวะ) ก่อนจะโทรแจ้งข้อมูลอะไรลูกค้าทำไมต้องแจ้งข้อมูลที่เป็นเท็จให้ลูกค้าจับได้เสียความรู้สึก ให้ไม่ไว้วางใจการทำงานของทางแบงค์ที่จะใช้บริการกับธนาคารคุณต่อ เราใช้บริการเป็นลูกค้าธนาคารคุณมา 20 กว่าปี บอกเลยว่าคงต้องปิดบัญชีธุรกรรมใดๆของธนาคารนี้จริงๆ อยากทราบว่าหากคุณเจอปัญหาที่ซับซ้อนบ้าบอที่แบงค์พยายามช่วยเหลือหรือปัดความรับผิดชอบการดึงเงินคืนลูกค้าแบบนี้ เป็นคุณจะตามเงินหรือร้องเรียนกับฝ่ายใดได้บ้างคะ เงิน 5,000 บาท มันอาจดูไม่เยอะ แต่มันเยอะสำหรับคนหาเช้ากินค่ำคะ #ธนาคารบัวหลวงกรุงเทพ #ธนาคารคุ้มครองผู้บริโภค #แบงค์ชาติ