นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ
V
V
ใครเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ เงินบุญ เงินรากหญ้า พันแลกล้านบ้างไหมคะ ??
ขอท้าวความก่อนว่า ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่ฐานะดีค่ะ ไม่ได้ร่ำรวยมากมาย แต่ก็ไม่ได้ยากจน ครอบครัวเรารับราชการทั้งครอบครัว เป็นครอบครัวใหญ่ ค่อนข้างมีชื่อเสียงคนนับหน้าถือตาในสังคม และเมื่อ 4-5 ปีก่อน พ่อแม่เราได้มารู้จักกับเครือข่ายนึง ชื่อว่า "เงินบุญ" ขออธิบายก่อนว่า เงินบุญ คือ เงินของบรรพบุรุษเราที่ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน และจนกว่าจะได้เงินนั้นที่มันมากพอที่จะซื้อประเทศได้ พวกเราจะต้องมีค่าดำเนินการและเสียภาษีผ่านขั้นตอนต่างๆมากมาย (เขาบอกมาแบบนี้นะคะ) มีคนที่ทำงานด้วยกันแนะนำแม่เราเองค่ะ ชวนมาลงโปรแล้วจะได้กลับมาเป็นแสนเป็นล้านเท่าตัว ต้องบอกก่อนว่าพ่อแม่เราไม่ใช่คนที่โลภหรืออยากมีอยากได้มาก่อน แต่เนื่องด้วยเศรษฐกิจเริ่มซบเซา การเงินเริ่มติดขัด ประจวบเหมาะกับที่คนๆนี้มาชวนพอดี พ่อแม่เราเลยลง ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไร ลงๆไปเผื่อได้ ครั้งละ 500 - 1,000 บาท ตอนแรกก็ลงเฉพาะของพ่อกับแม่ค่ะ ผ่านไปสักประมาณ 1 เดือนก็ลงให้พี่น้องเราครบทุกคน ทุกวันเขาตะจัดโปรมาเรื่อยๆค่ะ หลอกล่อให้คนลง มีทั้งโปรได้เงิน โปรได้บ้าน โปรได้รถ โปรได้ที่ดิน และอีกมากมายแล้วแต่เขาจะจัดมา เขาจะมีการจัดประชุมโดยการโทรผ่านไลน์กลุ่มค่ะ จะมี 1 คนเป็นหัวสายคอยแจ้งข่าวโปร และการประชุมก็จะบอกขั้นตอนว่าเราถึงขั้นตอนไหนแล้ว และในระหว่างจัดประชุมจะสั่งห้ามไม่ให้บันทึกเสียงหรือวิดีโอเด็ดขาด ให้เหตุผลว่าข่าวจะรั่วไหล เงินจะออกช้า คนในกลุ่มมีประมาณ 200 - 300 คน ส่วนใหญ่เป็นรุ่นแม่ๆเราค่ะ อายุ 40 - 60 ปี มีข้าราชการเยอะมาก เฉพาะในกลุ่มแม่เรานะคะ และมีอีกหลายร้อยกลุ่มในเครือนี้ เขาจะคอยมาโทรประชุมสายขอเงินทุกวัน จัดโปรมาให้ลง และขู่ว่าถ้าใครไม่ลงเงินจะออกหลังเพื่อนเป็นปีๆ ''ไม่มีก็ต้องไปหาหยิบยืมมา อย่าเห็นแก่ตัวนอนรอเงินสบายใจคนเดียว'' อันนี้คำพูดเขานะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะพูดตลอดว่า เงินจะออกวันนั้นวันนี้ แล้วก็เลื่อน อ้างว่ามีปัญหาตรงนั้นตรงนี้ หรือไม่ก็จะบอกว่า มันเป็นเงินบุญ เงินจากชาติที่แล้ว จากบรรพบุรุษ ต้องมีบุญถึงเงินถึงจะได้เงิน ตอนนี้ยังต้องชดใช้กรรมเก่าให้หมดก่อน แล้วคนแก่ที่ตั้งหน้าตั้งตารอเงินก็ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จะมีประโยคซื้อใจคือ ''พวกเราสู้กันมาขนาดนี้แล้ว เหนื่อยกันมามากแล้ว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นก็จะได้เงิน ถึงวันนั้นเห็นเงินเป็นพันล้านล้านเราจะหายเหนื่อย'' เราฟังเองยังเคยเคลิ้มตามเพ้อฝันไปบ้าง
V
ปีสองปีแรก ก็ลงหลักพัน มาเรื่อยๆ หาหยิบยืมทุกคนที่พ่อกับแม่คิดออก จนมาปี63 บ้านเราเกิดอัคคีภัย ทำให้พ่อแม่เซหนักมากช่วงนั้น เงินที่เก็บมาสร้างบ้านหมดไปกับตาแค่ไม่กี่นาที เซอยู่นาน ก็มาหวังพึ่งเงินบุญเต็มตัว มีเงินมาหเท่าไรก็จะเอามาทุ่มกับเงินบุญอย่างเดียว มีหนี้ที่ค้างก็ไม่ใช้ มันก็ทบมาเรื่อยๆ แล้วก็ไปหยิบยืมเรื่อยๆ มากสุดคือเกือบแสนในครั้งเดียว มาช่วงโควิด ได้พักชำระหนี้หลายอย่างทำให้เงินเดือนรวมเหลือแสนกว่า แต่ก็หมดภายใน3-5วัน ทั้งที่ตอนนั้นหยุดอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปทำงานหลายเดือนเพราะโควิด ทุกวันพ่อกับแม่จะฟังประชุมเป็นกิจวัตร ตื่นนอน ระหว่างวัน กินข้าว อาบน้ำ ขับรถ ก่อนนอนก็ยังนอนฟังจนหลับไป ฟังทุกวันมาตลอด4-5ปี เรียกว่าโดนล้างสมองได้เลย ถ้าไม่ได้ฟังจะรู้สึกกระวนกระวายเหมือนอาการคนจะลงแดง เวลาจะลงทะเบียนอะไรก็จะต้องถ่ายบัตรประชาชนลงให้เขาฟรีๆ เขาจะเอาไปทำอะไรก็ทำได้สบายเลย เตือนพ่อแม่หลายรอบมาก แต่ท่านไม่เคยฟัง ทะเลาะกันตลอด ประมาณว่าเงินท่าน ท่านจะทำอะไรก็เรื่องของท่าน เราเองก็เพิ่งเรียนจบยังไม่ได้ทำงานอะไรรอสอบรับราชการ พูดอะไรมากไม่ได้ แต่อึดอัดจนแทบบ้า อดข้าวอดได้เพื่อลงโปร ทุกอย่างท้านก็บอกให้ประหยัดให้มากที่สุดเพื่อจะเก็บเงินลงโปร เราเคยบอกแล้วว่าถ้าอยากรวยให้ช่วยกันทำธุรกิจครอบครัว เอาเงินมาลงไม่ต่างอะไรกับผีพนัน แต่ก็เทียบไม่ได้หรอก พนันยังมีได้/เสีย แต่เงินบุญลงมาหลายปีไม่เคยได้กลับมาสักแดงเดียว ยิ่งนานวันท่านยิ่งหลงงมงายหนัก จากครอบครัวที่ฐานะดีเริ่มกลายเป็นขัดสนและเพิ่มหนี้จนล้นตัว ทุกวันนี้คือแทบจะทุกคนที่พ่อกับแม่รู้จัก โดนยืมทุกคน แม้แต่เราเองที่ไม่มีรายได้ ก็มาขอยืม เราจะไม่ให้ก็โดนทวงบุญคุณตลอด ทุกวันนี้เป็นเราที่ไม่มีงานทำต้องขายของใช้ตัวเองเพื่อซื้อของกินเข้าบ้าน บางวันกินไข่ตั้งแต่ต้นเดือนเพราะพ่อแม่เงินหมด ใ้ชีวิตอย่างลำบากแบบที่ไม่เคยเป็น เงินเดือนออกก็ต้องคืนคนอื่นจนแทบไม่เหลือแล้วก็ไปยืมใหม่ แต่ยิมมาลงโปร กลายเป็นเสียx2เพิ่มไปเรื่อยๆ เราเครียดมาก ต้องอ่านหนังสือแต่ก็มีเรื่องนี้แว๊บมาในหัวให้หงุดหงิด เครียดจนอยากตายเพื่อหนีเรื่องนี้ ต้องมาอยู่ในจุดนี้จะเข้าใจ การที่พ่อแม่ไปหยิบยืม จนบางครั้งเขาทวงก็ไม่มีให้ หนี้สินอย่างอื่นอีกที่ไปกู้มาต่างๆ ทำให้แกยิ่งหวังกับเงินนี้มาก เลยทุ่มไม่อั้น และอีกอย่างนึงคือเริ่มสังเกตว่า แม่จะเริ่มหลายเป็นคนโภในหลายเรื่องเพิ่มขึ้น สนใจแต่เงิน อะไรก็ได้ที่ตัวเองไม่ต้องเสียเงินหรือเสียเปรียบ เอาเปรียบแม้กระทั่งกับลูกหลาน แม่เปลี่ยนไปมาก จากที่เคยยอมทุกคน ให้ทุกคน ทุกวันนี้แม่เราไม่เหมือนเดิม และเจ้าอารมณ์มากขึ้น เรากับพี่เราเวลาได้เงินมาจะไม่กล้าบอกให้ท่านรู้ เพราะพอรู้ว่ามีเงิน จะหูตาสว่างมาก แล้วก็จะพูดคำเดียวว่า ยืมหน่อยเดี๋ยวคืน ซึ่งไม่เคยได้คืน ถ้าไม่ให้ก็จะว่าเราไม่ดี พูดให้รู้สึกว่าเราอกตัญญู มีเงินเท่าไรก็ต้องเสียให้แม่หมดจนไม่เหลือใช้ส่วนตัว ไม่ขอเราก็ให้ แต่ไม่ใช่ให้เอาไปลงโปร และนิสัยนึงที่เปลี่ยนไปคือ ท่านเริ่มโกหก โกหกว่าจะเอาเงินไปคืนคนนั้นคนนี้ หรือจ่ายนั่นนี่ พอเราให้ก็แอบไปเช็คโทรศัพท์เจอสลิปโอนเงินไปเงินบุญ เราเสียความรู้สึกมาก น้อยใจหลายครั้งมากแต่ท่านไม่แคร์ สนใจแต่เงินจนหน้ามืดตามัวเราจะปรึกษาใครก็ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ล่าสุดคืองวดรถ ปกติส่งทุกงวด ผลัดอย่างมากไม่เกิน2-3งวด แต่พอมีเงินบุญเข้ามา ผลัดจนโดนยึดรถคืน แต่ก็ไม่สะทกสะท้าน แกคิดแค่ว่ารอรถใหม่จากที่ลงโปรก็ได้ พอรถโปรไม่ออกก็ต้องไปหายืมคนอื่นไปไถ่รถคืน หนักสุดคือลงจนไม่จ่ายค่าไฟไม่รู้กี่เดือนจนไฟตัดต้องจ่ายไฟจากอีกบ้านมา เราเข้าใจว่าเงินเดือนออกแล้วท่านเอาเงินไปใช้หนี้จนเงินไม่เหลือ แต่เปล่าเลย ไม่ได้ใช้หนี้ งวดต่างๆก็ค้าง5-6เดือน แต่เงินหมดตั้งแต่ต้นดือนเพราะลงโปร ทุกวันนี้เป็นหนี้นับไม่ถ้วนทั้งธนาคาร รถ กู้อื่นๆ บัตร ละก็หนี้คนอื่นที่ไปหยิบยืมมา ล้นพ้นตัวอย่างหนัก ไปไหนก็มีแต่เจ้าหนี้ เคยแอบอ่านไลน์ท่านเจอข้อความทวงเงินเยอะมาก เราเข้าไปอ่านบางคนตอนยืมทั้งโทรทั้งพิมพ์ย้ำไปยาวมาก แต่พอถึงเวลาคืนท่านไม่ค่อยตอบ เห็นแล้วเรายิ่งไม่สบายใจ ไม่รู้จะกทำยังไง เคยคิดจะแย่งโทรศัพท์มาตอนประชุมสายกัน แย่งมาด่ากราด หรือไม่ก็แจ้งความ แต่ก็กลัวพ่อแม่จะโทษว่าเงินไม่ออกเป็นความผิดเราอีก อยากให้ท่านตาสว่างสักที เงินลวงโลกนี่ไม่มีอยู่จริง เราพอจะทำอะไรได้บ้างไหมคะ ใครเคยประสบปัญหาแบบเราบ้าง ช่วยเราทีค่ะ พวกเรากำลังจะหมดตัว😭😭
ช่วยด้วยค่ะ ครอบครัวเรากำลังจะหมดตัว
V
V
ใครเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ เงินบุญ เงินรากหญ้า พันแลกล้านบ้างไหมคะ ??
ขอท้าวความก่อนว่า ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่ฐานะดีค่ะ ไม่ได้ร่ำรวยมากมาย แต่ก็ไม่ได้ยากจน ครอบครัวเรารับราชการทั้งครอบครัว เป็นครอบครัวใหญ่ ค่อนข้างมีชื่อเสียงคนนับหน้าถือตาในสังคม และเมื่อ 4-5 ปีก่อน พ่อแม่เราได้มารู้จักกับเครือข่ายนึง ชื่อว่า "เงินบุญ" ขออธิบายก่อนว่า เงินบุญ คือ เงินของบรรพบุรุษเราที่ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน และจนกว่าจะได้เงินนั้นที่มันมากพอที่จะซื้อประเทศได้ พวกเราจะต้องมีค่าดำเนินการและเสียภาษีผ่านขั้นตอนต่างๆมากมาย (เขาบอกมาแบบนี้นะคะ) มีคนที่ทำงานด้วยกันแนะนำแม่เราเองค่ะ ชวนมาลงโปรแล้วจะได้กลับมาเป็นแสนเป็นล้านเท่าตัว ต้องบอกก่อนว่าพ่อแม่เราไม่ใช่คนที่โลภหรืออยากมีอยากได้มาก่อน แต่เนื่องด้วยเศรษฐกิจเริ่มซบเซา การเงินเริ่มติดขัด ประจวบเหมาะกับที่คนๆนี้มาชวนพอดี พ่อแม่เราเลยลง ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไร ลงๆไปเผื่อได้ ครั้งละ 500 - 1,000 บาท ตอนแรกก็ลงเฉพาะของพ่อกับแม่ค่ะ ผ่านไปสักประมาณ 1 เดือนก็ลงให้พี่น้องเราครบทุกคน ทุกวันเขาตะจัดโปรมาเรื่อยๆค่ะ หลอกล่อให้คนลง มีทั้งโปรได้เงิน โปรได้บ้าน โปรได้รถ โปรได้ที่ดิน และอีกมากมายแล้วแต่เขาจะจัดมา เขาจะมีการจัดประชุมโดยการโทรผ่านไลน์กลุ่มค่ะ จะมี 1 คนเป็นหัวสายคอยแจ้งข่าวโปร และการประชุมก็จะบอกขั้นตอนว่าเราถึงขั้นตอนไหนแล้ว และในระหว่างจัดประชุมจะสั่งห้ามไม่ให้บันทึกเสียงหรือวิดีโอเด็ดขาด ให้เหตุผลว่าข่าวจะรั่วไหล เงินจะออกช้า คนในกลุ่มมีประมาณ 200 - 300 คน ส่วนใหญ่เป็นรุ่นแม่ๆเราค่ะ อายุ 40 - 60 ปี มีข้าราชการเยอะมาก เฉพาะในกลุ่มแม่เรานะคะ และมีอีกหลายร้อยกลุ่มในเครือนี้ เขาจะคอยมาโทรประชุมสายขอเงินทุกวัน จัดโปรมาให้ลง และขู่ว่าถ้าใครไม่ลงเงินจะออกหลังเพื่อนเป็นปีๆ ''ไม่มีก็ต้องไปหาหยิบยืมมา อย่าเห็นแก่ตัวนอนรอเงินสบายใจคนเดียว'' อันนี้คำพูดเขานะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะพูดตลอดว่า เงินจะออกวันนั้นวันนี้ แล้วก็เลื่อน อ้างว่ามีปัญหาตรงนั้นตรงนี้ หรือไม่ก็จะบอกว่า มันเป็นเงินบุญ เงินจากชาติที่แล้ว จากบรรพบุรุษ ต้องมีบุญถึงเงินถึงจะได้เงิน ตอนนี้ยังต้องชดใช้กรรมเก่าให้หมดก่อน แล้วคนแก่ที่ตั้งหน้าตั้งตารอเงินก็ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จะมีประโยคซื้อใจคือ ''พวกเราสู้กันมาขนาดนี้แล้ว เหนื่อยกันมามากแล้ว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นก็จะได้เงิน ถึงวันนั้นเห็นเงินเป็นพันล้านล้านเราจะหายเหนื่อย'' เราฟังเองยังเคยเคลิ้มตามเพ้อฝันไปบ้าง
V
ปีสองปีแรก ก็ลงหลักพัน มาเรื่อยๆ หาหยิบยืมทุกคนที่พ่อกับแม่คิดออก จนมาปี63 บ้านเราเกิดอัคคีภัย ทำให้พ่อแม่เซหนักมากช่วงนั้น เงินที่เก็บมาสร้างบ้านหมดไปกับตาแค่ไม่กี่นาที เซอยู่นาน ก็มาหวังพึ่งเงินบุญเต็มตัว มีเงินมาหเท่าไรก็จะเอามาทุ่มกับเงินบุญอย่างเดียว มีหนี้ที่ค้างก็ไม่ใช้ มันก็ทบมาเรื่อยๆ แล้วก็ไปหยิบยืมเรื่อยๆ มากสุดคือเกือบแสนในครั้งเดียว มาช่วงโควิด ได้พักชำระหนี้หลายอย่างทำให้เงินเดือนรวมเหลือแสนกว่า แต่ก็หมดภายใน3-5วัน ทั้งที่ตอนนั้นหยุดอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปทำงานหลายเดือนเพราะโควิด ทุกวันพ่อกับแม่จะฟังประชุมเป็นกิจวัตร ตื่นนอน ระหว่างวัน กินข้าว อาบน้ำ ขับรถ ก่อนนอนก็ยังนอนฟังจนหลับไป ฟังทุกวันมาตลอด4-5ปี เรียกว่าโดนล้างสมองได้เลย ถ้าไม่ได้ฟังจะรู้สึกกระวนกระวายเหมือนอาการคนจะลงแดง เวลาจะลงทะเบียนอะไรก็จะต้องถ่ายบัตรประชาชนลงให้เขาฟรีๆ เขาจะเอาไปทำอะไรก็ทำได้สบายเลย เตือนพ่อแม่หลายรอบมาก แต่ท่านไม่เคยฟัง ทะเลาะกันตลอด ประมาณว่าเงินท่าน ท่านจะทำอะไรก็เรื่องของท่าน เราเองก็เพิ่งเรียนจบยังไม่ได้ทำงานอะไรรอสอบรับราชการ พูดอะไรมากไม่ได้ แต่อึดอัดจนแทบบ้า อดข้าวอดได้เพื่อลงโปร ทุกอย่างท้านก็บอกให้ประหยัดให้มากที่สุดเพื่อจะเก็บเงินลงโปร เราเคยบอกแล้วว่าถ้าอยากรวยให้ช่วยกันทำธุรกิจครอบครัว เอาเงินมาลงไม่ต่างอะไรกับผีพนัน แต่ก็เทียบไม่ได้หรอก พนันยังมีได้/เสีย แต่เงินบุญลงมาหลายปีไม่เคยได้กลับมาสักแดงเดียว ยิ่งนานวันท่านยิ่งหลงงมงายหนัก จากครอบครัวที่ฐานะดีเริ่มกลายเป็นขัดสนและเพิ่มหนี้จนล้นตัว ทุกวันนี้คือแทบจะทุกคนที่พ่อกับแม่รู้จัก โดนยืมทุกคน แม้แต่เราเองที่ไม่มีรายได้ ก็มาขอยืม เราจะไม่ให้ก็โดนทวงบุญคุณตลอด ทุกวันนี้เป็นเราที่ไม่มีงานทำต้องขายของใช้ตัวเองเพื่อซื้อของกินเข้าบ้าน บางวันกินไข่ตั้งแต่ต้นเดือนเพราะพ่อแม่เงินหมด ใ้ชีวิตอย่างลำบากแบบที่ไม่เคยเป็น เงินเดือนออกก็ต้องคืนคนอื่นจนแทบไม่เหลือแล้วก็ไปยืมใหม่ แต่ยิมมาลงโปร กลายเป็นเสียx2เพิ่มไปเรื่อยๆ เราเครียดมาก ต้องอ่านหนังสือแต่ก็มีเรื่องนี้แว๊บมาในหัวให้หงุดหงิด เครียดจนอยากตายเพื่อหนีเรื่องนี้ ต้องมาอยู่ในจุดนี้จะเข้าใจ การที่พ่อแม่ไปหยิบยืม จนบางครั้งเขาทวงก็ไม่มีให้ หนี้สินอย่างอื่นอีกที่ไปกู้มาต่างๆ ทำให้แกยิ่งหวังกับเงินนี้มาก เลยทุ่มไม่อั้น และอีกอย่างนึงคือเริ่มสังเกตว่า แม่จะเริ่มหลายเป็นคนโภในหลายเรื่องเพิ่มขึ้น สนใจแต่เงิน อะไรก็ได้ที่ตัวเองไม่ต้องเสียเงินหรือเสียเปรียบ เอาเปรียบแม้กระทั่งกับลูกหลาน แม่เปลี่ยนไปมาก จากที่เคยยอมทุกคน ให้ทุกคน ทุกวันนี้แม่เราไม่เหมือนเดิม และเจ้าอารมณ์มากขึ้น เรากับพี่เราเวลาได้เงินมาจะไม่กล้าบอกให้ท่านรู้ เพราะพอรู้ว่ามีเงิน จะหูตาสว่างมาก แล้วก็จะพูดคำเดียวว่า ยืมหน่อยเดี๋ยวคืน ซึ่งไม่เคยได้คืน ถ้าไม่ให้ก็จะว่าเราไม่ดี พูดให้รู้สึกว่าเราอกตัญญู มีเงินเท่าไรก็ต้องเสียให้แม่หมดจนไม่เหลือใช้ส่วนตัว ไม่ขอเราก็ให้ แต่ไม่ใช่ให้เอาไปลงโปร และนิสัยนึงที่เปลี่ยนไปคือ ท่านเริ่มโกหก โกหกว่าจะเอาเงินไปคืนคนนั้นคนนี้ หรือจ่ายนั่นนี่ พอเราให้ก็แอบไปเช็คโทรศัพท์เจอสลิปโอนเงินไปเงินบุญ เราเสียความรู้สึกมาก น้อยใจหลายครั้งมากแต่ท่านไม่แคร์ สนใจแต่เงินจนหน้ามืดตามัวเราจะปรึกษาใครก็ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ล่าสุดคืองวดรถ ปกติส่งทุกงวด ผลัดอย่างมากไม่เกิน2-3งวด แต่พอมีเงินบุญเข้ามา ผลัดจนโดนยึดรถคืน แต่ก็ไม่สะทกสะท้าน แกคิดแค่ว่ารอรถใหม่จากที่ลงโปรก็ได้ พอรถโปรไม่ออกก็ต้องไปหายืมคนอื่นไปไถ่รถคืน หนักสุดคือลงจนไม่จ่ายค่าไฟไม่รู้กี่เดือนจนไฟตัดต้องจ่ายไฟจากอีกบ้านมา เราเข้าใจว่าเงินเดือนออกแล้วท่านเอาเงินไปใช้หนี้จนเงินไม่เหลือ แต่เปล่าเลย ไม่ได้ใช้หนี้ งวดต่างๆก็ค้าง5-6เดือน แต่เงินหมดตั้งแต่ต้นดือนเพราะลงโปร ทุกวันนี้เป็นหนี้นับไม่ถ้วนทั้งธนาคาร รถ กู้อื่นๆ บัตร ละก็หนี้คนอื่นที่ไปหยิบยืมมา ล้นพ้นตัวอย่างหนัก ไปไหนก็มีแต่เจ้าหนี้ เคยแอบอ่านไลน์ท่านเจอข้อความทวงเงินเยอะมาก เราเข้าไปอ่านบางคนตอนยืมทั้งโทรทั้งพิมพ์ย้ำไปยาวมาก แต่พอถึงเวลาคืนท่านไม่ค่อยตอบ เห็นแล้วเรายิ่งไม่สบายใจ ไม่รู้จะกทำยังไง เคยคิดจะแย่งโทรศัพท์มาตอนประชุมสายกัน แย่งมาด่ากราด หรือไม่ก็แจ้งความ แต่ก็กลัวพ่อแม่จะโทษว่าเงินไม่ออกเป็นความผิดเราอีก อยากให้ท่านตาสว่างสักที เงินลวงโลกนี่ไม่มีอยู่จริง เราพอจะทำอะไรได้บ้างไหมคะ ใครเคยประสบปัญหาแบบเราบ้าง ช่วยเราทีค่ะ พวกเรากำลังจะหมดตัว😭😭