อยากจะขอแชร์ประสบการณ์เรื่องความรักให้ฟัง

กระทู้คำถาม
วันนี้เราอยากจะมาเล่าประสบการณ์การเรื่องความรักของเราให้ฟัง เราอยากให้ทุกคนได้รับรู้เรื่องความรักของเรา เราจะเสนอชื่อเรื่องนี้ว่า
“ความรักครั้งที่4”
ก่อนจะเขาเนื้อเรื่องเรายอมรับว่าเรามีคนคุยเยอะมาก่อนแต่ว่าแฟนจริงๆของเราเรามีแค่3คน สงสัยแล้วล่ะสิว่าความรักครั้งที่4คืออะไรแต่เราอยากให้ทุกคนที่อ่านจินตนาการว่าเป็นเราไปด้วยและเราก็อยากให้ทุกคนอ่านมันจนจบนะ

แฟนคนแรกของเราจะสมมุติว่าชื่อเอแล้วกันนะ เราคบกับเอได้ทั้งหมดสามเดือนกว่า แฟนคนแรกของเรา เราคบกันตอนมอสาม เอนั้นอยู่ห้องสองเราเรียนอยู่ห้องเหนึ่งเราเป็นคนแอบชอบเอเองแหละ ทุกๆเย็นจะเห็นเอเตะบอลอยู่กับเพื่อนๆที่สนามเรามักจะแอบมองเอทุกครั้งเวลาเราเดินผ่านสนามกับเพื่อนๆบางครั้งก็แอบพูดกระซิบเบาๆว่าสู้สู้นะเราทั้งเขินบิดตัวไปมาเพื่อนเราก็เริ่มแอบสงสัยวันหนึ่งมีงานของโรงเรียน ทุกๆชั้นจะได้แสดงหนังกันห้องเราได้แสดงรวมกับห้องสอง ทุกๆคนก็จะเลือกกันว่าใครจะแสดงอะไรแต่ก็เงียบกันหมดจนเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าให้จับฉลากกันใครได้แบบไหนให้แสดงแบบนั้น เราจับได้เล่นเป็นแม่ในขณะที่เอจับได้พ่อในตอนนั้นเราทั้งเขินและทำตัวไม่ถูกเลยล่ะ ตอนที่ซ้อมเราก็เขินเขินเล่นไม่ค่อยเป็นของตัวเองเลยจนเพื่อนแอบกระซิบหลายรอบแล้วว่า ถ้าเธอยังเล่นกระตุกกะตักแบบนี้เรื่อยเรื่อยเธอจะถูกเปลี่ยนตัวนะ หรือว่าเธอไม่อยากเล่นบทนี้งั้นมาเปลี่ยนกันไหมฉันได้เป็นลูกเธออยากเล่นเป็นลูกไหม แต่เราก็ตอบกลับไปทันทีว่า “ไม่ ฉันไม่สลับหรอก” เราในตอนนั้นเราพูดกับตัวเองว่าเราต้องเก็บอาการให้ได้ เราก็ได้ซ้อมกับเพื่อนเพื่อนไปในทุกๆวันจนถึงเวลาแสดงจริงเราก็ทำให้เต็มที่ถึงจะมีตกหล่นบ้างเล่นผิดบ้างพอแสดงจบ เราก็ดีใจมากที่ได้แสดงร่วมกับเอพอผ่านไปหลายเดือนเราก็ตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องพวกนี้ให้กับเพื่อนฟังว่าเราแอบชอบเออยู่แต่ว่าเพื่อนของเรากับรู้ ตั้งแต่แรกว่าเราแอบชอบเอ เราในตอนนั้นตกใจมาก
“อ้าวทำไมเธอถึงได้รู้เรื่องนี้ล่ะ” เพื่อนของเราก็ตอบกลับมาว่า 
“ เธอน่ะเป็นคนเก็บอาการไม่อยู่ฉันจึงรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอแอบชอบเอ” เราในตอนนั้นหน้าแดงมากเลยล่ะเพื่อนของเราบอกว่าอีกไม่นานพวกเราก็จะจบมอสามกันแล้วเธอรีบไปบอกเอซะสิว่าเธอชอบเอดังนั้นเราจึงรวบรวมความกล้าที่จะไปบอกให้กับเอรู้ แต่ว่าในวันนั่นเราเห็นเอเดินกับรุ่นพี่คนหนึ่งเราจึงสงสัยว่าทำไมถึงสนิทกันขนาดนั้นเราจึงแอบดูพวกเขาไปเรื่อยเรื่อยพอรู้สึกตัวอีกที ก็รู้ว่าจริงๆแล้วเอกับรุ่นพี่คนนั้นคบกันอยู่ คบกันได้ปีกว่าแล้ว เราทรุดมากเลยล่ะพอได้รู้แบบนั้นไปเราเศร้าไปหลายวันเลย จนเพื่อนๆไม่รู้จะปลอบยังไงแล้ว แต่ว่าเราก็ไม่ยอมเราตัดสินใจและรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่จะทักบอกให้เอรู้ความในใจของเราไป ถึงแม้ว่าเอจะมีแฟนแล้วบางทีการบอกความรู้สึกจริงๆไปอาจจะทำให้เรารู้สึกดีอาจจะทำให้เรารู้สึกสบายใจได้พอเราบอกทั้งหมดให้เอรับรู้ไม่นานเอก็ตอบกลับมาว่า “ทำไมเธอถึงเพิ่งจะมาบอกล่ะรู้มั้ยว่าฉันก็แอบชอบเธอมาก แอบชอบเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว” พอได้ยินแบบนั้นเราตกใจมากเลย เราก็นิ่งไปพักหนึ่งแล้วเอก็ตอบกลับมาอีกว่า “แต่ว่าเราขอโทษนะที่รับได้แต่ความรู้สึกของเธอเรามีแฟนแล้วเราไม่อยากให้แฟนของเราต้องเจ็บและเสียใจ” เราก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเอต้องพูดแบบนั้นมา เราก็เคารพในการตัดสินใจของเอแล้วก็จบการสนทนาลง แต่ว่าก็ผ่านไปไม่นานเอและรุ่นพี่ก็ได้ทะเลาะกันหนักมาก และรุ่นพี่ก็บอกว่าเราไปเป็นมือที่สามของเขาในตอนนั้นเราก็พูดไปว่าเรายอมรับว่าเราชอบเอจริงแต่ไม่ได้จะคบกับเอสักหน่อยก็รู้ว่าเอมีแฟนอยู่แล้วและก็ไม่คิดที่จะยุ่งด้วยแต่รุ่นพี่เค้าก็ไม่ยอมจนเอกับรุ่นพี่เขาต้องเลิกกัน เราก็รู้สึกผิดไปด้วยไงที่เขาต้องเลิกกันไปเป็นเพราะเราด้วย เราจึงตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเรื่องนี้เราจะถอยออกมาและเงียบอยู่อย่างเงียบเงียบ พอเวลาผ่านไปสามอาทิตย์ ก่อนที่จะถึงวันปัจฉิมในอีกสี่เดือนเอได้มาขอเราคบด้วยไอ้เราก็ตกใจด้วยความที่เราชอบเอด้วย  เราจึงได้ตอบกลับไปว่าโอเคเราลองมาคบกันดู ในช่วงสองเดือนแรกเราก็รักกันสนิทกัน จับมือกันบ้างบางครั้ง แต่พอมาเข้าเดือนที่สามเท่านั้นแหละวันนั้นเป็นวันที่เพื่อนพาไปเราเที่ยวด้วย แต่เราก็ไม่รู้ไงว่าเพื่อนของเราจะพาแฟนมาด้วย ในตอนนั้นมีเราและเพื่อนด้วยกันสามคนและแฟนของเพื่อนอีกสองคนแล้วก็เพื่อนของแฟนอีกหนึ่งคนซึ่งเพื่อนของแฟนนั้นก็คือรุ่นพี่ที่แอบชอบเราอยู่ ในตอนนั้นเราพูดกับเพื่อนว่า “ฉันไม่อยากไปทำไมเธอถึงพาฉันมาฉันอยากกลับบ้าน” เพื่อนของเราก็ไม่สนใจเราเลยเพราะเพื่อนของเราอยู่กับแฟนตัวเองตลอด จนเพื่อนของเราบอกว่า “งั้นเธอก็กลับเองส่วนเราจะไปเที่ยวกับแฟนก่อน” ในตอนนั้นเหลือเพียงแต่เรากับรุ่นพี่คนที่แอบชอบเราอยู่เราพูดกับรุ่นพี่คนนั้นว่า “รุ่นพี่ไม่ไปกับเขาด้วยหรอคะ” พี่เขาก็ตอบมาว่า “ไม่ล่ะพี่ไม่ไปพี่ก็จะกลับแล้ว แล้วเราจะกลับกับพี่ไหม” เราก็คิดนานพอสมควรเลยแหละเพราะว่าทางกลับบ้านมันห่างกันตั้งห้าโล พี่เขาก็พูดมาว่า “เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้พี่ไม่ทำอะไรหรอก”ไอ้เราก็ขี้เกียจเดินด้วยเราจึงไปกับพี่เขาให้พี่เขาไปส่งที่หน้าซอยก็พอ พอตกกลางคืนเอก็ทักมาหาเราว่า 
“ตอนเช้าเธอไปไหนมา”เราก็บอกเอไปว่าเราถูกเพื่อนพาไปเที่ยวด้วยแต่เราก็กลับมาก่อน และเอก็บอก “ว่าเรารู้นะว่าเธอไปเที่ยวกับรุ่นพี่มา” เราก็ตกใจมากแล้วก็ถามเอไปต่อว่า “เธอรู้ได้ไง’’ เอก็ตอบกลับมาว่า “เราไม่ใช่โง่นะที่จะไม่รู้เรื่องทุกอย่าง” ในตอนนั้นเราอธิบาย เรื่องทั้งหมดให้เอฟังแต่เอไม่ฟังเราเลยไม่ยอมฟังเราแม้แต่น้อยพูดเถียงเราตลอดเราพยายามที่จะอธิบายให้เอฟังตั้งหลายรอบแต่เอ ก็ไม่ฟังเรา จนสุดท้ายเราก็ต้องเลิกกัน หลังจากเลิกกันแล้ว ทุกๆครั้งที่เราไปเรียนเราก็จะมองหน้ากันไม่ติดไม่แม้แต่จะพูดคุยกันเลย แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานก็ถึงวันปัจฉิมวันที่เราจะต้องจบมอสามกันในตอนนั้นเอก็ได้เดินเข้ามาพูดกับเรา เอทักกับเราว่า “ฉันรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วฉันขอโทษที่ฉันไม่ฟังเธอในตอนนั้น” เราก็ตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรฉันรู้ดีมันผ่านมาแล้วช่างมันเถอะ” แต่เขาก็พูดกลับมาต่อว่า “ในตอนนั้นฉันขอโทษเธอจริงๆฉันขอโทษมากที่ไม่ยอมฟังเธอแต่ว่าเราคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วเพราะ ฉันได้เข้าเรียนต่อที่อื่นแล้วฉันอยากให้เธอไปเจอคนที่ดี” เราก็คิดไว้แล้วว่าเอจะต้องพูดแบบนั้น พอเอพูดเสร็จเอก็ได้เซ็นที่เสื้อพร้อมกับเอาดอกไม้และตุ๊กตาให้เรา ในตอนนั้นความรู้สึกของเราคืออยากจะร้องออกมามากๆแต่น้ำตามันกลับไม่ยอมไหลเลยเราก็พูดบอกกลับเอไปว่า “ไหนๆเราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วก็ขอให้เราเป็นเพื่อนกันคงเดิมนะและขอให้นายโชคดี” แล้วพวกเราก็ มองหน้ากันและยิ้มให้กัน
หลักจากเรื่องของเรากับเอผ่านไป1ปี ในวันนี้เราได้นอนเล่นเฟสบุ๊ค จู่ๆก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งทักมาด้วยความที่เราอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่เราก็ตอบพี่เขาไป เราจะสมมุติว่าพี่เขาชื่อบี เราคุยกับพี่บีทุกครั้งเราคิดว่าคุยกับพี่บีถูกคอดี เราได้คุยกับพี่บีได้เดือนกว่าพี่บีก็มาขอเราคบเราก็ตอบกลับพี่บีไปว่า “ เราอยากขอเวลาคิดได้ไหม” พี่บีเขาก็ตกลง เราจึงคุยกับพี่บีไปเรื่อยๆ ในตอนนั้นเรารู้สึกได้ว่าพี่เขาดูอบอุ่นดูเป็นห่วงเรา เราจึงตัดสินใจที่จะคบกับพี่เขาในตอนนั้นพี่บีดีใจมากเลยล่ะเราได้ขึ้นสถานะกัน แล้วเวลาก็ได้ผ่านไป2เดือนพี่บีเขาอยากจะพบกับเรา พี่บีนั้นเขาเรียนอยู่ที่ในตัวเมือง ส่วนเราเรียนอยู่นอกเมืองเราจึงไม่ได้เจอกันแต่พี่บีเขาอยากเจอเรามาก พี่เขาบอกว่า “เราเป็นแฟนกันนะเราจะพบกันไม่ได้หรอ” เราที่ได้ยินประโยคนั้นเราก็ตัดสินใจที่จะไปเจอกับพี่บีเราได้ตกลงกับพี่บีว่าเราจะไปเที่ยวห้างกันและก็กลับบ้านเพราะเราไม่อยากให้ทางบ้านต้องเป็นห่วง ก่อนที่เราจะเข้าไปในตัวเมืองเราได้บอกกับทางบ้านว่า “วันนี้ไปทำงานนะไปทำที่บ้านเพื่อนไม่กลับดึกหรอก” เราต้องยอมโกหกทางบ้านไปด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงด้วยถ้าบอกความจริงไปทางบ้านคงต้องไม่ให้ไปแน่นอน เราก็ได้นั่งรถโดยสารไปก็ใช้เวลาเป็นช่วงโมงเลยล่ะกว่าจะถึงตัวเมือง พอถึงแล้วพี่บีก็มารอรับอยู่แล้วเราก็ได้ซ้อนท้ายพี่บีไป แต่ว่า....พี่บีกลับพาเรามาที่หอพัก ตอนนั้นเรางงมาก เลยถามไปว่า “ทำไม่พี่บีถึงมาที่นี้คะไม่ใช่ว่าเราจะไปเที่ยวห้างกันไม่ใช่หรอ” พี่บีก็พูดว่า “อ๋อๆ พี่ลืมกระเป๋าตัง น่ะขึ้นมาก่อนสิมากินน้ำก่อนพี่จะเปลี่ยนเสื้อด้วย” เราก็ไม่ได้สงสัยอะไรเราก็ได้เดินตามพี่เขาไปด้วย พอถึงในห้องพี่เขาก็เดินมาล็อกประตูทันทีเราตกใจมากและจะออกห้องไปพี่เขาได้ผลักเราลงมาทีเตียง เราได้พูดไปว่า “พี่บีอย่าทำแบบนี้เลยนะคะขอร้องเถอะค่ะ” “ไม่ทันแล้วล่ะนะในเมื่อเธอยอมตามฉันมาถึงนี้ไม่ใช่ว่าเธอต้องการมันหรอ” สิ่งที่พี่บีพูดออกไปนั้นมันทำให้เราต้องร้องไห้ออกมา แต่ว่าพี่บีก็ไม่สนมือของพี่บีก็เริ่มที่จะจับทุกอย่างในตัวเรา เราได้พยายามที่จะขัดขืนแต่ก็ขัดขืนไม่สำเร็จเพราะแรงของเราสู้แรงพี่เขาไม่ได้จริงๆเราก็ได้แต่ร้องไห้ และได้ขอร้องพี่บีให้หยุดทำแบบนี้แต่พี่บีกลับฉีกเสื้อของเราออกและพี่เขาก็ได้เล่นกลับร่างกายของเราอย่างสนุก พอพี่เขาได้เล่นกับร่างกายของเราเสร็จแล้วพี่เขาก็พูดว่า “จะร้องไปถึงเมื่อไหร่แค่เสียครั้งแรกไปไม่ใช่ตายสักหน่อยเลิกร้องได้แล้ว แล้วอีกอย่างเราก็เป็นแฟนกัน....ไม่สิถ้าพูดให้ถูกตอนนี้ความสัมพันธ์ของเรามันมากกว่านั้น” ในตอนนั้นเราได้แต่ร้องและเจ็บปวดร่างกายไปหมด “ฟังนะหลักจากนี้เป็นต้นไปทุกอาทิตย์เธอจะต้องมาหาฉันที่นี้ ถ้าหากเธอไม่มาล่ะก็คลิปของเธอวันนี้ได้หลุดแน่” คำพูดของพี่บีนั้นทำเราตกใจมากเราได้ถามพี่เขาไป “ทำไมกัน ทำไมพี่ต้องทำกับน้องแบบนี้ด้วยล่ะ” “ก็ใครใช้ให้เธอมาเป็นแฟนฉันเองล่ะ แล้วก็เสื้อที่ฉันฉีกไปน่ะฉันไม่มีเสื้อให้เธอใส่หรอกนะเธอหาทางเองก็แล้วกัน รีบลุกรีบแต่งตัวซะฉันไม่มีเวลามากพอนะ” เราก็ได้แต่ทำตามที่พี่บีบอก พอเรากลับมาที่บ้านเราก็เก็บตัวอยู่ในห้องและก็ร้องไห้ออกมาเราคิดว่าเราจะรู้จักนิสัยพี่เขาดีแล้วแต่ไม่เลยเราไม่รู้สักนิด หลังจากนั้นทุกๆอาทิตย์เราก็จะไปหาพี่เขาพี่เขาก็จะเล่นกับร่างกายของเราจนกว่าพี่เขาจะพอใจเราทำแบบนั้นมาด้วยกัน5เดือนเรารู้สึกว่าเราไม่ไหวเราทำตัวเหมือนผู้หญิงที่ขายบริการ เราตัดสินใจไปหาพี่เขาอีกครั้ง การไปครั้งนี้มันจะไม่เหมือนกลับครั้งก่อนๆหน้านี้ พอเราไปถึงเสร็จ ก่อนที่พี่เขาจะเข้ามาหาเรา เราได้พูดไปว่า “เราเลิกกันเถอะฉันไม่ไหวแล้วทุกครั้งที่ผ่านมาพี่บีเห็นฉันเป็นใครพี่บีเห็นฉันเป็นคนบ้างไหมพี่ทำแบบนี้ไปพี่จะได้อะไรกัน ฉันขอร้องล่ะเราเลิกกันเถอะ” พี่บีได้ทำหน้าตกใจอยู่พักหนึ่งและพี่บีเดินไปหยิบมีดขึ้นมาชี้มาทางเรา เราตกใจมากตอนนั้น “ก็ลองดูสิถ้าอยากเลิกล่ะก็ไม่ฉันและเธอใครคนหนึ่งก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง” ตอนนั้นเราคิดว่าเราคงไม่รอดแน่ไหนๆเราก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียแล้ว เราได้มองไปทั่วทิศในห้อง เราเห็นไม้อยู่ท่อนหนึ่งเราได้หยิบไม้นั้นขึ้นมาฟาดไปที่มือของพี่บีทำให้มีดที่มือพี่บีตกไปตอนนั้นเราได้วิ่งออกออกไปทันทีและวิ่งไปหาเจ้าของหอพัก และเล่าทุกอย่างให้เจ้าของหอพักฟังก่อนที่พี่บีจะมา พอพี่บีมาเจ้าของหอพักได้ใช้ปืนจ่อหน้าพี่บี ตอนนั้นเราตกใจมากไม่คิดว่าเจ้าของหอพักจะมีปืน พี่บีในตอนนั้นกลัวปืนมากและยอมรับทุกอย่างยอมเลิกและพูดมาว่า “ก็ได้ฉันยอมเลิก แล้วก็เรื่องคลิปมันไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ” เราที่ได้ยินแบบนั้นเราทั้งตกใจและเสียใจมากที่โง่ยอมพี่บีมาถึง5เดือน 
ความรักครั้งนี้มันทำให้เราหยุดไว้ใจคนไปนานพอควรเลยล่ะ...........(ยังไม่จบนะ)
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
แต่ว่าเราก็ยังอยากที่จะลองเริ่มต้นใหม่กับคนที่ดีกว่านี้ที่เราสามารถไว้ใจเขาได้ ใช่แล้ว เราได้เปิดใจอีกครั้ง ครั้งนี้เราได้พูดคุยกับคนที่อายุห่างจากเราไป8ปีเราคิดว่าเขาดูเป็นผู้ใหญ่และสามารถดูแลและมอบความรักความอบอุ่นให้กับเราได้ ในครั้งนี้เราจะเรียกเขาว่าพี่ซีนะเราคุยกับพี่ซีนานพอควรเกือบๆ5เดือนและตกลงยอมคบกับพี่เขาช่วงแรกๆถ้าพี่เขามีเวลาว่างพี่เขาก็จะมาหามารับไปเที่ยวด้วย ด้วยความที่เราคิดว่าพี่เขาจะทำไม่ดีต่อเรารึเปล่า  เราเลยชวนพี่เขาเที่ยวที่ๆไม่ลับตาคนและไม่ตัวติดกันซึ่งพี่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเราเลย ในวันนั้นเรารู้สึกว่าพี่เขาให้เกรียติเราและคอยเป็นห่วงเราอยู่เสมอเรารู้สึกโอเคกับนิสัยของพี่เขามาก เวลาก็ผ่านไป2เดือน เราคิดว่าเราจะบอกเรื่องนี้ให้ทางบ้านรับรู้  แต่มีวันหนึ่งพี่ซีโทรมาบอกว่า “วันนี้พี่ไม่สบายปวดหัวมากเลยล่ะพี่อยากให้เราไปซื้อยาให้พี่ได้ไหม”  ไอ้ความที่เราเป็นห่วงเราจึงรีบไปซื้อยาให้พี่เขาพอเราเข้าเอายามาให้พี่ซีพี่ซีก็ลุกขึ้นมาหยิบยาและในตอนนั้นพี่ซีได้เอายายัดเข้าปากเรา เราตกใจมากและเราก็สลบไปพอตื่นมาอีกที ทั้งตัวก็เปลือยหมดแล้ว เราได้มองหาพี่ซีแต่หายังไงก็หาไม่เจอ เราได้มองไปที่โต๊ะข้างๆ บนโต๊ะได้มีโน๊ตเขียนไว้ว่า “เงินนี่ฉันให้เธอ เธอเอาเงินในนี้ไปซื้อยามากินซะนะแล้วก็ไม่ต้องตามหาฉันหรอกจากนี้ไปเราถือซะว่าเราไม่รู่จักกันมาก่อนนะ” ตอนนั้นความรู้สึกทั้งหมดมันว่างเปล่าไปหมดไม่อยากทำอะไรสักอย่างอยากจะหายไปจากโลกซะแต่ก็ได้แค่คิด
ความรักรอบที่สามนี่มันทำให้เราหยุดทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องรักๆเรื่องแฟนไปมากไม่อยากที่จะเปิดใจให้กับใครไม่อยากที่จะไว้ใจใครอีก
วันเวลาก็ผ่านไปหลายปีจนเพื่อนเริ่มเข้ามาทักแล้วว่า “เธอจะไม่ยอมเปิดใจให้ใครอีกแล้วจริงๆหรอ แต่ฉันเชื่อว่าถ้าหากเธอลองเปิดใจอีกครั้งเธอจะต้องเจอคนที่รักเธอจริงใจกับเธอแน่”
พอเพื่อนพูดจบเพื่อนก็ได้เอามือถือเราไปแต่เราก็ไม่สงสัยอะไรพอเรากลับบ้านเราได้เปิดมือถือดูเราจึงได้รู้ว่าเพื่อนเราไปโหลดแอบๆหนึ่งให้กับเราไว้นั่นคือแอบหาคู่ แต่เราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระเราที่กำลังจะลบแอบนั้นจู่ๆก็มีข้อความเด้งมาเราก็เข้าไปดูจึงได้รู้ว่าเพื่อนของเราสมัครให้เราเรียบร้อย “เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยล่ะ” เราเข้าไปดูข้างในก็ได้รู้ว่ามีคนมากดไลค์ให้เราพันกว่าคนเราจึงคิดว่าทำไมคนพวกนี้ถึงอยากจะคุยกับเราแต่เราก็ไม่ได้สนใจจึงวางมือถือลงและไปเข้าห้องน้ำ พอเราเดินมาหยิบอีกครั้งก็มีการแจ้งเตือนขึ้นมาว่ามีคนได้กดซุปเปอร์ไลค์ให้กับคุณ เราก็สงสัยด้วยจึงเขาไปดูทุกครั้งจะมีแต่คนกดไลค์แต่คนนี้กดซุปเปอร์ไลค์ให้กับเรา เราจึงรู้สึกตื่นเต้นและสนใจในตัวคนนี้เราจึงได้ทักพี่เขาไป พี่คนนี้เราจะสมมุติว่าคือพี่จีเราก็ได้พูดกันอยู่พักใหญ่เรามีความรู้สึกว่าเราสนุก มันหน้าตื่นเต้นมันไม่เหมือนกับคนที่เคยคุยมาก่อนพี่จีได้เริ่มขอเปลี่ยนที่คุยไปคุยกันในไอจีพวกเราก็ได้แลกกันฟอล แล้วเราก็คุยต่อในไอจี พี่จีเขาเป็นนักเกมเมอร์เป็นนักสตรีมเรารู้อยู่แล้วว่าพวกเราอาจจะมีเวลาที่ไม่ตรงกัน และเราเชื่อมความสัมพันธ์มาคุยกันทางไลน์เราได้โทรคุยกันแค่ช่วง 5ทุ่มถึงเที่ยงคืนแค่ชั่วโมงเดียว เราก็คุยกับพี่เขาแบบนั้นมาไม่นาน แต่ เรากลับมีใจให้พี่จีเข้าแล้วล่ะ เราไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงต้องมีใจให้กับเขา วันเวลาผ่านไปเราก็ยิ่งรู้สึกว่าเราตกหลุมรักพี่จีมากขึ้นแต่เราก็ยังจะเก็บความสัมพันธ์แบบนี้ไว้เราจะไม่บอกกับพี่จีเพราะถ้าเราบอกเราก็อาจจะเสียพี่เขาไปได้ วันหนึ่งพี่จีได้ชวนเราไปเที่ยวเราตอบตกลงทันทีอีกวันพี่จีก็มารับเรา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้ออกไปพักข้างนอกกลับผู้ชายและก็ไม่ใช่แฟนด้วย ตอนที่เราเจอพี่จีครั้งเราเขินมากเลยล่ะความรู้สึกนี้มันได้กลับมาอีกครั้งเราได้นั่งรถไปกลับพี่เขาแต่ว่าในวันนั้นพี่จีกลับมีแข่งนี่สิ จึงทำให้เราแวะปั้มหลายที่มากเลยล่ะเพื่อรอพี่เขาแข่ง ตอนนั้นมันทั้งตลกทั้งขำกว่าจะแข่งเสร็จก็ปาไปถึงที่พักเกือบจะ5ทุ่ม พอถึงที่พักเราเพลียกันมากเลยล่ะแต่ว่าเราก็ได้นั่งจิบเบียร์กินกันชิวๆแต่มันกลับไม่ชิวนี่สิพอเรากินไปเราก็รู้สึกว่าโลกหมุนเราจึงบอกพี่จีว่าขอไปอาบน้ำก่อนพอเราอาบเสร็จพี่จีก็อาบต่อ ตอนนั้นเป็นเวลาตี2 เรากับพี่จีได้นอนดูหนังกัน ใจของเราก็เต้นแรงมากตอนนั้นพี่จีได้ขอจับมือเรา เราก็ยื่นมือให้เขา เราทำตัวไม่ถูกเลยล่ะเราเขินพี่เขาหนักมากพอเราดูหนังจบพวกเราก็เริ่มนอนแต่ว่ามันมีมากกว่านั้นในคืนนั้นเราได้มีอะไรกับพี่จีเข้าแล้ว แต่เราก็ยอมยกมันให้กับพี่จีในคืนนั้นเป็นครั้งแรกที่พี่เขาพูดว่ารักออกมา มันทำให้เราดีใจมากเลยล่ะ ตอนเช้าเราก็ไปเที่ยวด้วยกันพอถึงตอนบ่ายเราก็กลับบ้าน ในทุกๆคืนเราก็จะวีดีโอคอลกัน พออาทิตย์ต่อมาเราก็ไปเที่ยวกันอีกเรามีความสุขมากเลยล่ะที่พี่เขายอมมาหาเรามาเที่ยวกับเรา เราได้จองคอนโดหนึ่ง ตอนนั้นเรากรอกข้อมูลชื่อด้วยกัน มันจะมีช่องหนึ่งถามว่าพวกคุณมีความสัมพันธ์กันแบบไหนตอนนั้นเราจะเขียนไปว่าแฟนแต่ก่อนที่จะเขียนเราก็มองหน้าพี่จี “ว่างไว้แบบนั้นแล่ะ” คำพูดของพี่จีคำนี้มันทำให้เราชะงักไปพักหนึ่งเลยล่ะ แต่เราก็ต้องยอมรับมันเพราะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ในอาทิตย์ต่อมาพี่จีกลับชวนเรามาเที่ยวที่บ้าน เราตกใจมากเลยล่ะแต่เราก็จะไป และไปเจอกับพ่อแม่ของพี่จีเราตื่นเต้นมากจนเราอยากจะขับรถไปหาเองเลยแล่ะ แต่ว่าพี่จีบอกจะมารับ เราก็ต้องรอ พอมาถึงบ้านพี่จีก็ดึกมากแล้วเพราะว่าบ้านเรากับบ้านพี่จีอยู่คนละจังหวัดกัน พ่อกับแม่ของพี่จีก็นอนกันหมดแล้ว แต่ในคืนนั้นเรากับพี่จีไปเที่ยวพับด้วยกันกลับมาบ้านก็ตี3กว่าพอมาถึงบ้านพวกเราเมากันมากและเราก็มาต่อกันที่เตียงอย่างเร่าร้อน พอตื่นมาตอนเช้าทั้งเราทั้งพี่จีต่างก็แฮงก์กันกว่าจะคืนสภาพได้ก็เกือบเย็นแล้วเรากลับพี่จีและแม่พี่จีได้ไปเที่ยวด้วยกันแต่ว่าเราต้องกลับวันนี้ไง แต่แม่พี่จีบอกให้กลับพรุ่งนี้เราก็ยอมฟังที่แม่พี่จีพูด พอตื่นเช้ามาแม่พี่จีก็จะไปส่งด้วย เราทำตัวไม่ถูกเลยเพราะจะบอกทางบ้านยังไงดี นี้เป็นครั้งแรกที่เราพาผู้ชายเข้าบ้าน เราก็ได้โทรไปบอกกลับทางบ้านว่า จะมีคนมาส่งที่บ้านทั้งแม่ทั้งยายก็ตกใจและพูดออกมาเสียงเดียวกันว่าต้องเป็นแฟนแน่ๆ เราก็ได้วางไปพอถึงที่บ้านพี่เขาก็เดินลงมาไหว้ยายเรา เราเองก็มองไปยิ้มไปไม่คิดว่าสักวันจะได้มีความรักแบบนี้แบบเปิดเผยให้ครอบครัวได้รู้ทั้ง2ฝ่าย พอกลางคืนเราก็โทรคุยกันพวกเราได้ตกลงกันว่าหยุดยาวเราจะไปทะเลกัน เราได้รอวันเวลาให้มันถึงเร็วๆ รักครั้งนี้เป็นรักที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมี................................................................................ใช่หรอ..............................
*ไม่! มันกลับเป็นสิ่งที่เราคิดไปเองทั้งหมดตั้งแต่แรก*
เราได้ตัดสินใจที่จะถามพี่จีตรงๆว่ารักกันไหมตอนนี้เราเป็นอะไรสำหรับพี่   พี่จีพูดมาว่า “เอาตรงๆนะตอนนี้พี่ก็ยังไม่รู้ความรูสึกพี่เหมือนกัน มันมีอะไรหลายๆอย่างที่ยังไม่พร้อม” สรุปเป็นเรา ที่คิดไปเองว่าพี่เขายอมรับเราแล้ว พอกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งพี่เขาบอกรักเราก็จริง แต่! พี่เขาบอกตอนที่พวกเรามีอะไรกันเท่านั้น พี่จียังพูดมาอีกว่า “พี่อยากให้เธอไปเจอคนที่ดีกว่าพี่นะ พี่ขอโทษ” ทำไมอะ อยากรู้มากว่าทำไม ทำไมทุกคนถึงต้องทำแบบนี้กับเรา เราก็เป็นคน เรามีความรู้สึก เราเจ็บเป็น แต่เราไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงตัวพี่เขาได้ เพราะคำว่าเราไม่ได้เป็นไรกัน
นี้คือรักครั้งที่4ของเราเองเป็นรักที่เจ็บที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ถ้าหากขออะไรได้หนึ่งอย่างล่ะก็
เราอยากจะขอย้อนเวลากลับไป
“ก็จะเลือกที่จะรู้จัก เเต่ไม่เลือกที่จะรัก”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่