ทำธุรกิจแบบ ขาดทุน คือ กำไร | วิธีหาเงินและทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

ทำธุรกิจแบบ ขาดทุน คือ กำไร | วิธีหาเงินและทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ 


เมื่อคุณทำธุรกิจอะไรสักอย่าง คุณกลัวคำว่า "ขาดทุน" หรือไม่?! เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องกลัวใช่ไหม?!
เพราะคนส่วนใหญ่อยากจะมีกำไรตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงทุนซึ่งก็ไม่ผิด แต่ถ้าคุณ “ขาดทุน” แล้วได้ "กำไร"
 ทีหลังคุณจะสนใจไหม?!  แล้วกลยุทธ์ "ขาดทุน” คือ “กำไร" ของการทำธุรกิจคืออะไร?
 และเราจะได้ประโยชน์ในการใช้กลยุทธ์นี้อย่างไรไม่เข้าใจเลย…

เพี้ยนรมเสีย

เชื่อว่าใครก็ตามที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็คงไม่อยากที่จะ “ขาดทุน”  บางครั้งมุมมองของการขาดทุนในแต่ละคนอาจจะมองไม่เหมือนกัน ซึ่งในบางครั้ง การขาดทุน ก็คือ การขาดทุน อย่างแท้จริง แต่อีกนัยนึง “การขาดทุน คือ กำไร”  อาจจะฟังดูแล้วเข้าใจยากกว่า ในเมื่อขาดทุนเราจะสามารถมีกำไรได้อย่างไร?!


เชื่อว่าใครก็ตามที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็คงไม่อยากที่จะ “ขาดทุน”  บางครั้งมุมมองของการขาดทุนในแต่ละคนอาจจะมองไม่เหมือนกัน ซึ่งในบางครั้ง การขาดทุน ก็คือ การขาดทุน อย่างแท้จริง แต่อีกนัยนึง “การขาดทุน คือ กำไร”  อาจจะฟังดูแล้วเข้าใจยากกว่า ในเมื่อขาดทุนเราจะสามารถมีกำไรได้อย่างไร?!
ซึ่งที่จริงแล้ว การขาดทุน คือ กำไร ในความเข้าใจของผม ผมคิดว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต้นทุนและการผลิตสินค้า เพราะถ้าหากคุณจัดการในส่วนนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควรสิ่งที่คุณจะได้รับก็คือ ขาดทุนและเป็นการขาดทุนอย่างแท้จริง ซึ่งอาจจะมาจากความผิดพลาดในการตั้งราคาสินค้าจนทำให้เกิดการขาดทุน (สามารถติดตาม วิธีหาเงินและทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ตอน ตั้งราคาขายยังไงให้กำไร ไม่ขาดทุน!! ได้ในบทความก่อนหน้านี้)


ฉะนั้น สิ่งที่จะทำให้คุณรู้จักคำว่า “ขาดทุน” คือ “กำไร” นั่นก็คือ การตลาด แล้วทำไมต้องเป็นการตลาด?! คุณลองจินตนาการดูนะครับ สมมุติว่า คุณทำแบรนด์สินค้าน้ำชาเขียวกลิ่นอัลมอนด์ขึ้นมา และคุณมีโอกาสลงทุนกับสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาตามทีวี หรือ ยิง ADS โฆษณาตาม Facebook เมื่อคุณทำให้คนเริ่มเห็นแบรนด์ของคุณมากขึ้น และคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายสินค้าไม่แพงบวกกับคนสมัยนี้มีความอยากรู้อยากลอง เชื่อเถอะครับ!! อย่างไรคนส่วนใหญ่ก็ต้องซื้อสินค้านี้อย่างแน่นอน ซึ่งวิธีนี้ถือว่าเป็น “การขาดทุน” แล้ว ”ได้กำไร” ทีหลัง เพราะคุณได้เสียค่าการทำการตลาดและการทำโฆษณาไปแล้ว โดยจุดประสงค์คือ อยากให้แบรนด์สินค้าของคุณเป็นที่จดจำของคนในหมู่มากและจบด้วยการซื้อสินค้าของคุณ

เพี้ยนแคปเจอร์

นอกจากนี้ ยังมีวิธีที่สามารถช่วยผู้ประกอบการที่อยากจะเริ่มแต่มีงบน้อยในการทำธุรกิจแต่อยากจะทำสื่อหรือโฆษณาเพื่อให้มีฐานลูกค้าให้มากที่สุด นั่นก็คือ “การทำการตลาดออนไลน์" โดยคนกลุ่มนี้จะ “ขาดทุน” แล้ว “ได้กำไร” จากการที่คุณทำอย่างไรก็ได้ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและฟรีให้กับลูกค้าก่อน เช่น ให้ข้อมูลฟรี หรือการใช้แอปพลิเคชั่นฟรี ยกตัวอย่าง เมื่อมีคนอยากได้ถุงเท้ากีฬาสักคู่แต่ไม่มีเวลาไปเลือกซื้อตามห้างสรรพสินค้า ฉะนั้น สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักจะทำกันก็คือ หาสินค้าจากแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่สามารถใช้ได้ฟรี เช่น Lazada, Shopee, Facebook เป็นต้น ซึ่งแอปพลิเคชั่นเหล่านี้สามารถได้กำไรทีหลังจากมีคนมาขอยิงโฆษณาหรือมีส่วนแบ่งในการขายสินค้าจากร้านค้านั่นเอง


ดังนั้น การทำธุรกิจแบบ “ขาดทุน” คือ “กำไร” คุณจะต้องเริ่มจากการ “ทำการตลาด” โดยที่คุณต้องแยกออกมาจากการบริหารจัดการเรื่องการเงินให้ได้ เพราะอาจจะทำให้คุณสับสนได้ ซึ่งธุรกิจนี้จะสามารถประสบความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับการตลาดที่คุณจะทำ บางบริษัทที่เติบโตแล้วก็อาจจะใช้วิธี ทั้งการตลาดทั่วไปและการตลาดออนไลน์ หรือถ้าหากคุณยังเป็นผู้ประกอบการที่มีขนาดเล็กและอยากประหยัดในเรื่องของการลงทุน ให้คุณเน้นเรื่องการตลาดออนไลน์ไปก่อนและพัฒนาตัวเองในการทำธุรกิจให้ทันกับเหตุการณ์โลกให้ได้

เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณพอจะเห็นทางออกในการทำธุรกิจขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ ว่านอกจากคุณจะต้องใส่ใจเรื่องการบริการจัดการอื่น ๆ แล้ว คุณก็ต้องมีความสามารถในการวางแผนการทำการตลาดด้วย หรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ

เพี้ยนขอบคุณ

=======================================================

สำหรับใครที่อยากได้รับอรรถรสเพิ่มมากขึ้น สามารถคลิกวีดีโอได้ตามด้านล่างนี้นะครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่