[BR] ITOPPLUS การตลาดออนไลน์ กับนิยามของคำว่า "ครบวงจร"

กระทู้ผู้สนับสนุน
ก่อนอื่นเพื่อนๆใน Pantip สามารถทำความรู้จักกับ ITOPPLUS ได้มากขึ้นจาก 2 กระทู้นี้ค่ะ
- ทำเว็บไซต์กับ ITOPPLUS ดีอย่างไร?
- ITOPPLUS บริษัทไทยที่เป็นพันธมิตรกับ Google แนะนำ 3 วิธีทำการตลาดบน Google ในยุคนี้



ITOPPLUS เราเข้าใจว่า เพื่อนๆ หลายคนใน Pantip คงอยากทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร แต่อาจยังไม่รู้ว่าแบบไหนถึงเรียกว่าครบวงจร ไอท้อปพลัส จึงอยากจะขอมาแชร์ประสบการณ์การตลาดออนไลน์ให้ฟังกันค่ะ

ไอท้อปพลัส เราเป็นบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ เปิดบริการมาแล้วกว่า 14 ปี ทำการตลาดออนไลน์มาแล้วกว่า 30,000 ธุรกิจ ทั่วประเทศไทยค่ะ จนปี 2016 เราได้เป็นพันธมิตรระดับสำคัญกับกูเกิ้ล (Google Premier Partner) และพันธมิตรใน Good to Great Project ของ K-SME ธนาคารกสิกรไทย โดยทีมงานไอท้อปพลัสกว่า 200 ชีวิต ที่ทำการตลาดออนไลน์ให้กับธุรกิจไทยมาถึง 30,000 ธุรกิจ จึงมั่นใจได้ว่า ความรู้ที่เราจะนำเสนอในวันนี้ จะครบถ้วน ให้เพื่อนๆ ใน pantip สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างแน่นอน


ทำการตลาดด้วย Facebook, Google แบบนี้เรียกครบวงจร หรือยังหนอ??
ต้องบอกก่อนเลยว่า การตลาดแบบนี้ ในปัจจุบันเราเรียกว่าเป็น “มาตรฐานการตลาดออนไลน์” คือ เป็นสิ่งที่ นักขาย พ่อค้าแม่ค้า ออนไลน์ที่ทำอย่างจริงจังใช้ในการทำการตลาดไปแล้ว

หลายคนอาจเริ่มธุรกิจบนโลกออนไลน์จากการมีเฟซบุ๊กแฟนเพจช่องทางเดียวก่อน แต่สำหรับหลายธุรกิจอาจต้องมองหาช่องทางเพิ่มเติมเอาไว้ด้วย เพราะเหตุผลที่ช่องทางเดียวอาจไม่เหมาะ ลองคิดในข้อเท็จจริงนี้กันค่ะ ถ้าคู่แข่งหลายรายของคุณทำการตลาดบนช่องทาง Google Ads เป็นหลัก เพราะกลุ่มเป้าหมายอยู่บนนั้น แล้วมีแต่คุณที่ไม่มีช่องทางนี้ เท่ากับว่าคุณก็มีโอกาสตกหล่นลูกค้าไปเป็นจำนวนมาก นี่เป็นเรื่องจริงค่ะที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน จะตกปลาทั้งที ก็ควรจะตกในแหล่งที่ปลาชุกชุมจริงไหมคะ? ดังนั้
น การตลาดออนไลน์สมัยนี้ ถ้าจะครบวงจรจริงๆ ก็ควรมีช่องทางที่เหมาะสมกับธุรกิจตัวเอง มีความครบวงจรในแบบของคุณ เพื่อไม่ให้ธุรกิจของเราไม่คลาดกับลูกค้าที่อยู่บนโลกออนไลน์

สำหรับ ไอท้อปพลัส แนะนำว่า ให้เริ่มจากเว็บไซต์ก่อน สมัยนี้คุณอาจคิดว่าคนไม่ทำเว็บไซต์กันแล้ว อันนี้คิดผิดเลยค่ะ การตลาดออนไลน์สมัยนี้ถ้าทำกันจริงจังจะเริ่มที่เว็บไซต์ก่อนเป็นอันดับแรกเลย เหตุผลคือ

1.เว็บไซต์แสดงความเป็นตัวตนเอกลักษณ์ของคุณได้เต็มที่ เพราะเป็นช่องทางของคุณเอง
2.“เชื่อมทุกแพลตฟอร์ม” เว็บไซต์สามารถรวมนำข้อมูลการตลาด ข้อมูลลูกค้าของ โซเชียลมีเดีย มาไว้ในที่เดียวกันได้ และนำข้อมูลตรงนี้ไปใช้หาลูกค้าใหม่ๆด้วยเทคนิคการติดตั้งโค้ดจากโซเชียลมีเดีย  
3.ใช้ซื้อขายออนไลน์ได้ มีช่องทางหลักสำหรับซื้อขายเป็นของตัวเอง  

เว็บไซต์สมัยนี้ ต้องใช้ง่าย ขายให้สะดวก แสดงผลได้ทุกอุปกรณ์ ดูน่าเชื่อถือ และต่อยอดทำการตลาดออนไลน์ได้

แค่ไหนที่เรียกครบวงจร?

จากที่เราเล่าว่าควรเริ่มจากการมีเว็บไซต์ ต่อจากนี้เราขอเล่าจากทั้งทฤษฎี และประสบการณ์ของ itopplus เรา เพราะทุกแพลตฟอร์มจะมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง และมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันอยู่ในนั้น กรณีศึกษาล่าสุดของธุรกิจล้างแอร์แบรนด์ดังแบรนด์หนึ่ง ที่พบว่าฐานลูกค้าตัวเองอยู่ Google เป็นหลัก เพราะคนยุคนี้ที่อยู่ตามคอนโด อาจใช้วิธีการค้นหาบริการนี้จาก Google ก่อน ทำให้ธุรกิจนี้ทำโฆษณา Google บนพื้นที่ให้บริการของตัวเอง แต่ละธุรกิจอาจมีช่องทางสื่อสารหลัก และช่องทางสื่อสารอื่นๆ ควบคู่กันไปให้ครบ

ส่วนแต่ละช่องทางเป็นอย่างไรบ้าง เราขอยกตัวอย่างทุกช่องทางที่ ITOPPLUS ทำให้กับลูกค้าให้คุณได้เห็นภาพไปตามกันค่ะ

1.Website (เว็บไซต์)
อย่างที่เราเกริ่นไป เว็บไซต์สมัยนี้ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น และจำเป็นมากขึ้นด้วยเมื่อมีโซเชียลมีเดีย เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางและรวมข้อมูลการตลาดของลูกค้าจากทุกช่องทางเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งไอท้อปพลัสแนะนำว่าเว็บไซต์สมัยนี้ต้องโดดเด่นตั้งแต่หน้าแรก ภาพแบนเนอร์ ต้องมีโทนสีที่สวยงามประทับใจ ต้องบ่งบอกและสื่อสารตัวตนของธุรกิจ ให้ดูน่าเชื่อถือ เพราะจากสถิติแล้ว คน 94% ตัดสินใจซื้อสินค้าบนเว็บไซต์จากความน่าเชื่อถือเลยทีเดียว เพราะการซื้อขายออนไลน์เราไม่เห็นหน้ากัน ดังนั้นเว็บไซต์ช่วยในเรื่องนี้ได้ ที่สำคัญอย่าลืมติดตั้งโค้ดวัดผลการตลาดที่ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีให้เรา ซึ่งเราจะใช้เทคนิคขั้นสูงให้ AI หรือบอท หาลูกค้าหน้าใหม่ที่มีพฤติกรรม ความสนใจ เหมือนลูกค้าเดิมที่เคยซื้อของบนเว็บไซต์ได้ นับว่าล้ำ และมีประโยชน์มากค่ะ แน่นอนว่าไอท้อปพลัสของเรามีบริการเว็บไซต์สำเร็จรูปเพื่อตอบโจทย์การเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ด้วยค่ะ

2.Facebook (เฟซบุ๊ก)
ปัจจุบันคนไทยใช้เฟซบุ๊กราวๆ 50 ล้านบัญชี ใช้เวลาเฉลี่ยบนนั้นเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากญี่ปุ่น แน่นอน ล่าสุดเฟซบุ๊กยกให้ไทยเป็นอันดับต้นๆของโลกในเรื่อง Social Commerce หรือการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดีย ดังนั้นเฟซบุ๊กแฟนเพจสมัยนี้ความน่าเชื่อถือก็สำคัญเช่นกัน เราเริ่มทำให้สวยงามน่าเชื่อถือ และบ่งบอกตัวตนธุรกิจตั้งแต่ภาพปก ภาพโปรไฟล์ ไอท้อปพลัสจะเริ่มทำให้สวยตั้งแต่ตรงนั้นเลยค่ะ เพราะมันเป็นสิ่งที่ลูกค้าเข้ามาก็จะเห็นส่วนนี้ก่อน จากนั้นต้องทำ Facebook Health Check ดูว่าเพจมีคุณภาพไหม คนมาปฏิสัมพันธ์กับโพสต์เราตรงกลุ่มเป้าหมายไหม เช่น ถ้าสินค้ามีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น แต่โพสต์มีแต่ผู้สูงอายุมาคอมเม้นต์ ก็ต้องดูบริบทของเนื้อหาคอมเม้นต์ว่าตรงกลุ่มเป้าหมายไหม เราจะแนะนำให้ดูในส่วนนี้ เพราะจะมีผลต่อการทำโฆษณาในอนาคตด้วยค่ะ

3.Google (กูเกิ้ล)
คนไทยเข้า Google มากที่สุดเป็นอันดับ1 ของประเทศไทย ประมาณการคนเข้าเว็บที่ 850 ล้านครั้งต่อเดือน ถือว่าสูงมากๆ ดังนั้นช่องทางนี้ยังถือเป็นช่องทางอมตะที่มีคนใช้งานไม่ขาดหายแถมยังเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งไอท้อปพลัสแนะนำให้เริ่มตั้งแต่ทำ Google My Business ที่เสิร์ชชื่อร้านคุณ ข้อมูลก็จะปรากฏขึ้นทั้งข้อมูลการเดินทางข้อมูลสินค้า ฯลฯ หลายคนยังใช้ช่องทางโฆษณาบนหน้าผลการค้นหา ที่ทำให้โฆษณาติดในหน้าแรก (Search Ads) ทำให้คนค้นหาเห็นแบรนด์คุณก่อนใครในหน้าแรก นอกจากนั้นยังมีโฆษณาแบบ Display Network ที่ใช้ภาพสื่อสารบนเว็บไซต์พันธมิตรกว่าหลายล้านเว็บ ไอท้อปพลัสจะทำตามหลัก Google Best Practices หรือหลักการทำโฆษณาที่ดีที่สุดที่ Google แนะนำ ช่องทางนี้หลายธุรกิจใช้กันมากนะคะ ถ้าทำให้ถูกหลัก ถูกวิธี เปิดโอกาสให้ธุรกิจได้อีกยาวไกลเลยค่ะ

4.Youtube (ยูทูป)
คนไทยใช้ยูทูปมากสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากกูเกิ้ล และตอนนี้หากต้องการทำการตลาดบนยูทูป ก็ต้องทำผ่านกูเกิ้ล เช่นกัน การตลาดบนนี้เราเริ่มทำให้น่าเชื่อถือตั้งแต่สร้างช่องเลยค่ะ ทั้งออกแบบภาพโปรไฟล์ ภาพแบนเนอร์โคฟเวอร์ รวมถึงหากใครต้องการยิงโฆษณาโดยใช้วิดีโอ เราก็สามารถยิงให้ได้ตามที่ต้องการ ด้วยหลักผลวัดที่แม่นยำ รวมไปถึงยังมีโฆษณาแบบ Discovery Ads ที่โฆษณาจะปรากฏบนหน้าแรกของยูทูปทั้งในแอปฯ และในเว็บยูทูป ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่ควรมีไว้ เพราะสื่อสารได้ทั้งภาพเคลื่อนไหว และเสียง รวมถึงใช้วิดีโอรีวิวสินค้าของตนได้ด้วย เราก็สามารถเอาคลิปยูทูปไปแชร์บนเว็บไซต์ บนแฟนเพจ ฯลฯ ได้ เห็นไหมคะ แต่ละช่องทางมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง และใช้ส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ ใครมีแผนทำการตลาดออนไลน์ใช้วิดีโอก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ

5.LINE (ไลน์)
คนไทยใช้ไลน์เป็นแอปฯ สำหรับแชทเป็นอันดับ1 มีบัญชีผู้ใช้ถึง 45 ล้านคน เราแนะนำว่าคุณอาจต้องเริ่มจากการมี LINEOA (LINE Official Account) เป็นลำดับแรก จากนั้นให้จะสร้างริชเมนูให้ ซึ่งเป็นเมนูที่จะพาลูกค้าไปยังเว็บไซต์ ข้อดีของไลน์คือการรักษาฐานลูกค้าที่เพิ่มเพื่อนเข้ามา สร้างคูปอง ออกโปรโมชั่นเก็บลูกค้าประจำ และหาลูกค้าใหม่จากโฆษณาบน LAP (Line Ads Platform) ซึ่งมีตำแหน่งโฆษณาโชว์ขึ้นหลายตำแหน่ง แถมช่องทางนี้ลูกค้าใช้คุยกับเราเป็นหลักได้ด้วย เพราะภาพจำของแอปฯนี้ คือการแชทคุยกัน ถือเป็นช่องทางที่ควรมีไว้แทบทุกธุรกิจเลยค่ะ

6.Other (ช่องทางอื่นๆ)
ITOPPLUS ได้แนะนำช่องทางหลักๆ ที่ควรจะมีเอาไว้แล้ว แต่บางธุรกิจอาจใช้ช่องอื่นๆ มาร่วมด้วยเช่น ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม ติ๊กต็อก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราว่า นิยมใช้ platform ใดในการใช้งาน ตัวอย่าง ล่าสุดแบรนด์ใหญ่แบรนด์หนึ่งเน้นทำการตลาดบนทวิตเตอร์ เพราะเห็นว่าลูกค้าหลักที่เป็นวัยรุ่น อยู่บนช่องทางนั้นเยอะที่สุด หรือ Clubhouse ที่กลุ่มผู้เล่น ตอนนี้ เป็นผู้ใช้ iPhone เป็นหลัก ก็ยังมีแบรนด์ที่ใช้ช่องทางเหล่านี้เป็นช่องทางเสริมด้วยเป็นต้น

7.หาลูกค้าหน้าใหม่แบบครบวงจร
นอกจากมีช่องทางที่ว่ามาแล้วแบบครบวงจรแล้ว เราขอแนะนำให้คุณหาลูกค้าใหม่บนโลกออนไลน์ด้วย ซึ่งต้องทำให้เป็น ถึงจะได้ลูกค้าใหม่เข้ามา ยกตัวอย่าง ITOPPLUS เราก็ยังมีหน้าที่หาลูกค้าใหม่ให้คุณด้วย ซึ่งวิธีการคือใช้เว็บไซต์ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า อธิบายง่ายๆคือ เมื่อคุณมีลูกค้าเข้ามาในเว็บ แล้วเกิดการซื้อขาย เว็บจะเก็บข้อมูล เช่น พฤติกรรม เพศ อายุ ภาษา พื้นที่ ความสนใจของคนนั้นๆ แล้วยิงโฆษณาไปหาคนอื่นๆที่ลักษณะแบบเดียวกันกับลูกค้าเดิมของคุณ เหมือนเป็นการโคลนนิ่งลูกค้าให้คุณเลย ซึ่งเราเรียกวิธีนี้ว่า Similar Audience, Lookalike, Customers Match ขึ้นอยู่กับว่าทำบนแพลตฟอร์มไหน เป็นวิธีที่ล้ำมาก ใช้และ AI (ปัญญาประดิษฐ์) หรือบอทเข้ามาช่วยจับข้อมูลตรงนี้ด้วย วิธีนี้นั่นเองที่ช่วยหาลูกค้าใหม่ได้ เรียกว่าทำให้ครบวงจรไม่พอ ต้องมีลูกค้าหน้าใหม่ด้วย เราแนะนำวิธีเหล่านี้อย่างยิ่งค่ะ

ภาพทีมงานตรวจสอบช่องทางการตลาด เว็บไซต์ ยูทูป และ Google Analytics เพื่อวัดผลการตลาด
ชื่อสินค้า:   ITOPPLUS
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่