พอดีเราไปเจอ trailer Frantz หนังปี 2016 ใน youtube มา เรารู้สึกว่าน่าสนใจมาก ถูกชะตาเรามากๆตั้งแต่ trailer ก็เลยไปหามาดู ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เราชอบมากกก
คือเราดูมาตั้งแต่เมื่อวาน พอหนังจบ ค้างอยู่ในสมองมาก อัดอั้นตันใจ จนต้องมาหาที่ระบาย พอดีเห็นรีวิวไทยของหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยมีด้วย เลยอยากมารีวิว+recommend ค่ะ
หรือถ้าใครเคยดูมาเม้าท์กันก็ได้นะคะอิอิ

ตัวอย่างหนัง :
เป็นหนังขาวดำยุคใหม่ แต่มีไม่กี่ฉากที่มีสี หนังพีเรียดเล่าเรื่องปี 1919 สมัยเพิ่งจบสงครามโลกครั้งที่ 1 ใช้ภาษาเยอรมันกับฝรั่งเศสในการดำเนินเรื่อง

เรื่องย่อคร่าวๆ :
Anna สาวเยอรมัน คู่หมั้นที่ชื่อ Frantz ตายในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตัวเองก็อยู่ในสถานะกึ่งหม้ายคอยอยู่ปลอบใจพ่อแม่คู่หมั้น แล้ววันนึง Anna ก็สังเกตเห็นผช.ฝรั่งเศสคนหนึ่งมาที่หลุมศพ Frantz (ฝรั่งเศสอยู่คนละฝ่ายกับเยอรมัน แต่ฟรานซ์เคยไปเรียนที่ฝรั่งเศสก่อนสงครามเกิด) ตอนหลังก็มีได้คุยกัน ได้มาคุยกับพ่อแม่ที่บ้าน ตามตัวอย่างหนัง ประมาณว่าผช.คนนี้ที่ชื่อ Adrien เป็นเพื่อนสมัยเรียนของ Frantz
แล้วเนื้อเรื่องต่อจากนั้นก็ดูลึกลับๆ ที่เหลือก็เดาเอาตามตัวอย่างนั่นแหละค่ะ


หนังเกือบ 2 ชั่วโมง เรท 13+ ดูได้กับครอบครัวสบายใจค่ะ ไม่มีฉากโหดๆ ไม่มีฉากเซ็กซ์โป๊เปลือยที่สร้างบรรยากาศอึมครึมเงียบทั้งบ้านเวลาดูกับพ่อแม่😂

ข้อแนะนำ :
-ส่วนตัวเราดูซับอังกฤษ และเราก็แนะนำว่า ถ้าใครอ่านซับอังกฤษได้ (เรื่องนี้ซับอังกฤษใช้คำค่อนข้างง่ายค่ะ) ให้ดูซับอังกฤษดีกว่าเพราะว่าบริบทภาษามันน่าจะใกล้เคียงกับบริบทหนังยุโรป มันน่าจะสื่อสารออกมาได้ดีกว่ามาแปลเข้าภาษาไทยอีกที
-ถ้าคนที่พื้นฐาน แยกภาษาเยอรมันกับภาษาฝรั่งเศสออกจากกันได้จะได้เปรียบตอนดูกว่าหน่อย วิธีแยกแนะนำว่าให้สังเกตว่าถ้านางเอกคุยกับพ่อแม่ Frantz จะเป็นภาษาเยอรมันทั้งหมด เพราะพ่อแม่ Frantz พูดได้แต่เยอรมัน ส่วนเวลานางเอกคุยกับ Adrien ส่วนใหญ่จะคุยกันภาษาฝรั่งเศสทั้งหมด ยกเว้นช่วงแรกๆ
-ไม่ควรคาดหวังว่าหนังจะเป็นไปทางแนวไหนมาก เพราะว่าเราดูจนจบ เราก็ยังไม่รู้จะจัดมันอยู่หนังประเภทไหน😂 แล้วก็ให้ทิ้งบรรทัดฐานการดึงอารมณ์หนังแบบหนังกระแสหลักลง เรื่องนี้จะให้โทนอีกแบบนึง ตอนเราดูเรารู้สึกว่าเออแปลกใหม่ไม่ค่อยคุ้น แต่สรุปเรากลับชอบมากๆ

จุดเด่น
-ค่อนข้างเข้าใจง่าย ไม่ต้องปีนบันไดดู ไม่ค่อยมีอะไรให้งงมาก ยกเว้นบางอย่างต้องตีความเอาเอง
-สวยงามค่ะ ประณีต ทั้งภาพ ทั้งเสียง ทั้งมู๊ด เนื้อเรื่อง sentimental ไปหมด เราชอบตรงนี้มากจริงๆ
-ไม่เงียบ ไม่แอคติ้งจืด ไม่กดอารมณ์มินิมอลเกิน ตอนแรกเรานึกว่าดูแล้วจะอึดอัด(แบบฮาวทูทิ้งสำหรับเรา) เราว่าไม่เลย อารมณ์นักแสดงไม่อึดอัดสำหรับเรา ถ้ามันจะอึดอัดก็เพราะตัวละครอึดอัด ไม่ใช่มู๊ดหนังอึดอัด หนังอารมณ์เป็นธรรมชาติสำหรับเรา
-ดำเนินเรื่องกระชับมาก 2 ชั่วโมงคุ้มค่าหนำใจ ทุกฉากไม่พร่ำเพรื่อ ไม่มีฉากไหนที่เราเบื่อเลย เราคิดอยู่ตลอดตอนดูว่าอะไรจะเกิดต่อไป
-เราอธิบายไม่ถูก แต่เราดูแล้วชอบมาก 10 ดาวเต็ม ประทับใจมากจริงๆ

จุดด้อย
-อย่างที่บอกค่ะ ถ้าคนไม่ชิน หรือไม่ชอบ ดูแล้วก็จะไม่ชอบเลย โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า มันไม่มีจุดไหนที่ดึงแบบพีคจริงๆ เราเป็นคนอารมณ์ไปตามหนังง่าย แต่มันมีหลายฉากที่เราอารมณ์โดนบีบตามตัวละคร อารมณ์มันเรียล เราเข้าใจอารมณ์ตัวละคร แต่หนังไม่ได้ดึงดราม่าให้พุ่งๆแบบที่ทำให้คนดูร้องไห้ มันจุกแบบร้องไม่ออก

รีวิวหนังทั้งเรื่องภายในไม่กี่คำ ไม่รู้เรียกสปอยมั้ย แต่เราว่าไม่สปอยหรอก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำแทนทั้งเรื่อง "หม่นหมองและอึน" คำนี้ใช้ได้กับทั้งเนื้อเรื่อง ฟีลลิ่งเรา และฟีลลิ่งตัวละคร
และอีกประโยคที่แทนทั้งเรื่องเลยคือ "อะไรที่คิดว่าจะเกิด มันจะไม่เกิด"

และสุดท้ายพูดถึงนักแสดง
- Paul Beer (นางเอก Anna) Performance โดดเด่นมาก แสดงดีมากกกก มีเสน่ห์จับหนังมากกกก
- Pierre Niney (Adrien) ตอนดูในเทรลเลอร์ ยอมรับว่าไม่ชินกับหน้าเขา และไม่รู้สึกว่าเขาหล่อ แต่พอดูในหนัง เริ่มเห็นว่าหล่อไปเรื่อยๆ และสุดท้ายโดนตก ฟอลไอจีไปเรียบร้อย