บันทึกครึ่งทางสำหรับละคร ❤️ ดวงใจในมนตรา 💞❤️
สัปดาห์ที่แล้วเรื่องเข้มข้นสุดๆ กับฉากการสาปสรรที่นำไปสู่ความล่มสลายของเมือง
เท่ากับว่าฉากหลักๆ ที่เกี่ยวกับตารวะปุรัมน่าจะจบลงเท่านี้
กระทู้นี้จึงขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อแสดงความชื่นชมและขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกท่าน
ที่ร่วมสร้างสรรค์นครที่น่าทึ่งนี้ขึ้นมาให้เราได้เห็นด้วยตา สัมผัสจับต้องได้ แทนที่จะแค่จินตนาการจากตัวอักษร
สำหรับเรา เราชอบการออกแบบคอสตูม พร็อบ และฉากเมืองโบราณในเรื่องนี้มาก
ตามเนื้อเรื่องถ้าอ้างอิงจากการที่พชรบอกว่ามีชีวิตอยู่มานาน 2000 ปี (โดยประมาณ)
ก็แสดงว่าเมืองนี้เคยดำรงอยู่เมื่อราวปี พ.ศ. 500 กว่าๆ หรือช่วงพุทธศตวรรษที่ 6 โลเคชั่นอยู่บริเวณจังหวัดกระบี่
เทียบกับความรู้ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมืองโบราณในแถบพื้นที่นั้น ที่ใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็นอาณาจักรตามพรลิงค์
ที่มีศูนย์กลางในพื้นที่นครศรีธรรมราชปัจจุบัน มีหลักฐานกล่าวถึงครั้งแรกราวพุทธศตวรรษที่ 8
และอาณาจักรลังกาสุกะที่มีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดปัตตานีปัจจุบัน รุ่งเรืองในช่วงพุทธศตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา
มโนเล่นๆ ได้ว่า ทั้งสองอาณาจักรนี้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากที่ตารวะปุรัมล่มสลายไปแล้ว
คาดว่าการออกแบบคอสตูมของเรื่องนี้เลือกใช้การอิงศิลปะแบบตามพรลิงค์ ออกแนวอินเดีย (ได้รับอิทธิพลจากการค้าขาย
ทางเรือตามประสาเมืองติดทะเลที่ได้อิทธิพลแบบตรงๆ มากหน่อย) และดึงให้ได้ความรู้สึกโบราณกว่าด้วยทรงผมแนวคนป่า
เป็นชนเผ่านิดๆ (แต่เป็นคนป่าที่มีการอะแดป แทนที่จะปล่อยผมเฉยๆ หรือถักธรรมดา ก็ใช้การถักผสมเครื่องประดับโลหะ)
เราชอบตรงที่ตัวละครในเรื่องทำทรงที่แตกต่างกันด้วย ไม่ได้ทำเหมือนกันเด๊ะทุกคน ดูมีความหลากหลายดี
แล้วก็ชอบการใช้เครื่องประดับที่เป็นลูกปัดหินสีผสมเข้ากับโลหะ แทนที่จะเป็นลูกปัดหินล้วนหรือโลหะล้วน
การออกแบบงานหนังสำหรับเกราะนักรบ และโดยเฉพาะที่ชอบมากอีกอย่างคือลายผ้านุ่ง ดูลายผ้าเพลินมาก
รวมถึงวิธีการนุ่งห่ม การใช้ผ้าหลายผืนทั้งผ้าพื้นผ้าลายผ้าบาง ซ้อนเลเยอร์บ้าง จับจีบชายพกแบบต่างๆ ฯลฯ ดูแล้วชอบจริงๆ
(
รูปอื่นลงในสปอยล์แล้วกันนะคะ เดี๋ยวจะเยอะไป แต่คือเราชอบ เราขอลงรูปเยอะ 😅)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยรวมคือชอบทุกอย่างค่ะ ดีใจที่ทีมงานตัดสินใจเลือกการออกแบบคอสตูมและศิลปะของเมืองในเรื่องมาแนวนี้
ถ้าเทียบกับดีไซน์แรกที่ฟิตติ้งเป็นแนวชนเผ่าแบบคล้ายๆ ในเกมแฟนตาซี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราว่าแบบนี้ให้ความรู้สึกสมจริงกว่าเยอะ เพราะมีการอ้างอิงกับอารยธรรมที่เคยปรากฏในพื้นที่
ดัดแปลงให้สอดคล้องกับไทม์ไลน์ ชวนให้มโนได้ว่าเมืองนี้เคยมีอยู่จริงๆ
รวมถึงขอชมความละเอียดในการออกแบบทุกๆ ดีเทล ที่ออกมาละเมียดละไม กลมกลืน และสวยงามตระการตา
ประทับใจเรามากกกกกกกก... ก ไก่ล้านตัว ขอเก็บทุกฉากของตารวะปุรัมเอาไว้ในหัวใจ
ขอบคุณสำหรับความตั้งใจและทุ่มเทในการทำงานของทีมงานทุกท่านทุกส่วนงาน
ถึงแม้ละครแนวข้ามภพข้ามชาติปรำปราแบบนี้ ทำออกมาทีไรเรตติ้งมักไม่ค่อยสูง สวนทางกับต้นทุนการผลิต ที่ต้องใช้ตั้งแต่ research
ออกแบบ ลงมือผลิต ทั้งคอสตูม ฉาก พร็อบ แต่ละวันที่ถ่ายก็ต้องแต่งตัว แต่งหน้าทำผมนานกว่าปกติ ดูแล้วไม่น่าคุ้มเหนื่อย
แต่ก็ยังมีละครแนวนี้ออกมาให้ดูอยู่เรื่อยๆ คือกราบขอบพระคุณจากใจแฟนละครแนวนี้จริงๆ ค่ะ
และเราจะรอเชียร์ทุกตัวละครในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเรื่องต่อไป
โดยเฉพาะตัวมทิรา เราจะรอการกลับมาของนาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ทั้งมทิราในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และมทิราในชาติปัจจุบัน)
ส่วนตัวค่อนข้างชอบการสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครตัวนี้ แม้เรื่องราวจะเหมือนเดินตามตัวละครพชร
แต่มทิราดูจะเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนน่าค้นหากว่า มีการพัฒนาที่ไปสุดจากดีไปร้าย ขณะเดียวกันก็มีความน่าเห็นใจ
แม้จะร้ายสุดๆ ขนาดฆ่าเพื่อนฆ่าคนบริสุทธิ์และทำลายเมืองได้ทั้งเมือง แต่เรากลับยังมีความเอาใจช่วยตัวละคร
อยากรู้ความเป็นไปว่าชาตินี้มทิราจะได้คลายปม ปลดปล่อยตัวเองจากความแค้นหรือเปล่า
เพราะคำสาปสองพันปีของมทิราไม่ได้แค่ผูกพระเอกไว้ แต่ก็ผูกตัวเองไว้ในคำสาปไม่ต่างกัน
❤️💞 ดวงใจในมนตรา ❤️💫 ขอขอบคุณทุกดวงใจที่มีส่วนร่วมใน "ตารวะปุรัม" 🔥🦅
สัปดาห์ที่แล้วเรื่องเข้มข้นสุดๆ กับฉากการสาปสรรที่นำไปสู่ความล่มสลายของเมือง
เท่ากับว่าฉากหลักๆ ที่เกี่ยวกับตารวะปุรัมน่าจะจบลงเท่านี้
กระทู้นี้จึงขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อแสดงความชื่นชมและขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกท่าน
ที่ร่วมสร้างสรรค์นครที่น่าทึ่งนี้ขึ้นมาให้เราได้เห็นด้วยตา สัมผัสจับต้องได้ แทนที่จะแค่จินตนาการจากตัวอักษร
สำหรับเรา เราชอบการออกแบบคอสตูม พร็อบ และฉากเมืองโบราณในเรื่องนี้มาก
ตามเนื้อเรื่องถ้าอ้างอิงจากการที่พชรบอกว่ามีชีวิตอยู่มานาน 2000 ปี (โดยประมาณ)
ก็แสดงว่าเมืองนี้เคยดำรงอยู่เมื่อราวปี พ.ศ. 500 กว่าๆ หรือช่วงพุทธศตวรรษที่ 6 โลเคชั่นอยู่บริเวณจังหวัดกระบี่
เทียบกับความรู้ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมืองโบราณในแถบพื้นที่นั้น ที่ใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็นอาณาจักรตามพรลิงค์
ที่มีศูนย์กลางในพื้นที่นครศรีธรรมราชปัจจุบัน มีหลักฐานกล่าวถึงครั้งแรกราวพุทธศตวรรษที่ 8
และอาณาจักรลังกาสุกะที่มีศูนย์กลางอยู่บริเวณจังหวัดปัตตานีปัจจุบัน รุ่งเรืองในช่วงพุทธศตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา
มโนเล่นๆ ได้ว่า ทั้งสองอาณาจักรนี้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากที่ตารวะปุรัมล่มสลายไปแล้ว
คาดว่าการออกแบบคอสตูมของเรื่องนี้เลือกใช้การอิงศิลปะแบบตามพรลิงค์ ออกแนวอินเดีย (ได้รับอิทธิพลจากการค้าขาย
ทางเรือตามประสาเมืองติดทะเลที่ได้อิทธิพลแบบตรงๆ มากหน่อย) และดึงให้ได้ความรู้สึกโบราณกว่าด้วยทรงผมแนวคนป่า
เป็นชนเผ่านิดๆ (แต่เป็นคนป่าที่มีการอะแดป แทนที่จะปล่อยผมเฉยๆ หรือถักธรรมดา ก็ใช้การถักผสมเครื่องประดับโลหะ)
เราชอบตรงที่ตัวละครในเรื่องทำทรงที่แตกต่างกันด้วย ไม่ได้ทำเหมือนกันเด๊ะทุกคน ดูมีความหลากหลายดี
แล้วก็ชอบการใช้เครื่องประดับที่เป็นลูกปัดหินสีผสมเข้ากับโลหะ แทนที่จะเป็นลูกปัดหินล้วนหรือโลหะล้วน
การออกแบบงานหนังสำหรับเกราะนักรบ และโดยเฉพาะที่ชอบมากอีกอย่างคือลายผ้านุ่ง ดูลายผ้าเพลินมาก
รวมถึงวิธีการนุ่งห่ม การใช้ผ้าหลายผืนทั้งผ้าพื้นผ้าลายผ้าบาง ซ้อนเลเยอร์บ้าง จับจีบชายพกแบบต่างๆ ฯลฯ ดูแล้วชอบจริงๆ
(รูปอื่นลงในสปอยล์แล้วกันนะคะ เดี๋ยวจะเยอะไป แต่คือเราชอบ เราขอลงรูปเยอะ 😅)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยรวมคือชอบทุกอย่างค่ะ ดีใจที่ทีมงานตัดสินใจเลือกการออกแบบคอสตูมและศิลปะของเมืองในเรื่องมาแนวนี้
ถ้าเทียบกับดีไซน์แรกที่ฟิตติ้งเป็นแนวชนเผ่าแบบคล้ายๆ ในเกมแฟนตาซี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราว่าแบบนี้ให้ความรู้สึกสมจริงกว่าเยอะ เพราะมีการอ้างอิงกับอารยธรรมที่เคยปรากฏในพื้นที่
ดัดแปลงให้สอดคล้องกับไทม์ไลน์ ชวนให้มโนได้ว่าเมืองนี้เคยมีอยู่จริงๆ
รวมถึงขอชมความละเอียดในการออกแบบทุกๆ ดีเทล ที่ออกมาละเมียดละไม กลมกลืน และสวยงามตระการตา
ประทับใจเรามากกกกกกกก... ก ไก่ล้านตัว ขอเก็บทุกฉากของตารวะปุรัมเอาไว้ในหัวใจ
ขอบคุณสำหรับความตั้งใจและทุ่มเทในการทำงานของทีมงานทุกท่านทุกส่วนงาน
ถึงแม้ละครแนวข้ามภพข้ามชาติปรำปราแบบนี้ ทำออกมาทีไรเรตติ้งมักไม่ค่อยสูง สวนทางกับต้นทุนการผลิต ที่ต้องใช้ตั้งแต่ research
ออกแบบ ลงมือผลิต ทั้งคอสตูม ฉาก พร็อบ แต่ละวันที่ถ่ายก็ต้องแต่งตัว แต่งหน้าทำผมนานกว่าปกติ ดูแล้วไม่น่าคุ้มเหนื่อย
แต่ก็ยังมีละครแนวนี้ออกมาให้ดูอยู่เรื่อยๆ คือกราบขอบพระคุณจากใจแฟนละครแนวนี้จริงๆ ค่ะ
และเราจะรอเชียร์ทุกตัวละครในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเรื่องต่อไป
โดยเฉพาะตัวมทิรา เราจะรอการกลับมาของนาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนตัวค่อนข้างชอบการสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครตัวนี้ แม้เรื่องราวจะเหมือนเดินตามตัวละครพชร
แต่มทิราดูจะเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนน่าค้นหากว่า มีการพัฒนาที่ไปสุดจากดีไปร้าย ขณะเดียวกันก็มีความน่าเห็นใจ
แม้จะร้ายสุดๆ ขนาดฆ่าเพื่อนฆ่าคนบริสุทธิ์และทำลายเมืองได้ทั้งเมือง แต่เรากลับยังมีความเอาใจช่วยตัวละคร
อยากรู้ความเป็นไปว่าชาตินี้มทิราจะได้คลายปม ปลดปล่อยตัวเองจากความแค้นหรือเปล่า
เพราะคำสาปสองพันปีของมทิราไม่ได้แค่ผูกพระเอกไว้ แต่ก็ผูกตัวเองไว้ในคำสาปไม่ต่างกัน