จบไปแล้วสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ตามคาดฝ่านค้านไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในการอภิปราย 10 รมต ก็ผ่านได้แบบสบาย ๆ ไม่มีคนไหนได้คะแนนแบบหวาดเสียวหัวใจในเส้นแบ่งที่ 244 เลยแม้แต่คนเดียว

แน่นอนเดี๋ยวฝ่านติ๊บไตก็จะมาปลอบใจตัวเองว่า

"ก้แน่นอนรัดบานมีเสียงมากกว่า"

"ยังไงเค้าก็ลงคะแนนให้พวกเดียวกัน"

บลา บลา บลา



มันก็จริงครับ แต่การอภิปรายถ้าเอาจริง ๆ เป็นเป็นโอกาสทองในการล้มรัฐบาล การล้มในที่นี้ไม่ใช้หวังว่าจะชนะการลงคะแนน แต่เป็นการนำข้อมูลหมัดเด็ด สิ่งที่ทำให้คนไทยทั่วประเทศเริ่มรู้สึกว่ารัฐบาลไม่น่าไว้ใจจริง ๆ

ย้อนไปสมัยทักแม้ว 2 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่มีรัฐบาลพรรคเดียว ถือว่าแข็งแกร่งมากในโครงสร้างการเป็นรัฐบาล แต่พอมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังจำได้ติดตาติดหูที่เด่นมากตอนนั้นคือ ประเด็น CTX ชูวิทย์แห่งพรรคบรรหาร อภิปรายอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์

"ซื้อมาทำไมตั้ง 24 ตัว ทั้งที่เปรียบกับ สนามบินฮีทโทรของอังกฤษมีแค่ตัวเดียว"

"บริษัทที่จำหน่าย ที่อยู่เป็นแค่ PO ในเมกา"

"เรื่องราคา การส่งมอบ คดีความที่อเมริกาที่ระบุว่ามีการจ่ายเงินสินบน"

ฯลฯ

บรรยากาศสนุกระทึก มันส์ ข้อมูลที่ชาวไทยไม่รู้ก็ได้รู้จากฝ่ายค้าน แล้วการตอบของไอ้หน้าจืดลิ่วล้อท่านแม้วแทบไปไม่เป็น ตอบไม่รู้เรื่อง อึก ๆ อัก ๆ ใครดูก็รู้ว่าถึงไม่น๊อคก็แพ้คะแนนแบบขาดลอย



แน่นอนพอลงคะแนน ทรท ก็ลากกันไป แต่ก็มี สส คนหนึ่งไม่ได้กดตามมติพรรค ทำให้โดนเล่นงาน แต่คนไทยไม่ได้โง่ แล้วก็รู้สึกสงสาร สส คนนั้นมาก ถือว่าเค้าทำหน้าที่ได้ดีไม่ได้ทำแบบพวกมากลากไป เหตุการณ์อภิปรายครั้งนั้นเกิดผลสะเทือนตามมามากมายจนทำให้ รัฐบาลพรรคเดียวมีจุดจบอย่างที่เรารู้ ๆ กันอยู่

ราวได้ดูมหกรรมโอลิมปิค แต่อนิจนามาดูการอภิปราย พ.ศ. นี้ ขึ้นหัวข้อ อบต อาจดูใหญ่ไปนิด ถ้าเอาแบบจริงจังคงพูดได้ว่า บรรยากาศระดับกีฬาสีโรงเรียนอนุบาล ไม่ไหวจริง ๆ ครับฝ่านค้านสมัยนี้