ไม่รู้ใครเป็นคนประเภท "เคยตัวสูงมากตอนเด็ก แต่พอโตมา ดันหยุดสูงเร็ว จนเตี้ยกว่าเพื่อนๆ" หรือเป็นผู้ชาย "ที่ไม่มีช่วงยืดตัวตอนหนุ่มๆ" บ้าง?
ผมเองเป็นคนประเภทนั้น เลยอยากนำประสบการณ์ข้างต้นมาเล่าสู่กันฟัง ผ่านข้อมูลพัฒนาการความเจริญเติบโตที่ค้นมาได้จากสมุดรายงานประจำตัวนักเรียนสมัย ป.1-6 ของตนเอง
เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆ ที่กำลังเจริญเติบโตในปัจจุบัน และคุณพ่อคุณแม่ที่ยังมีลูกวัยกำลังโตครับ
ขอเริ่มจากช่วง ป.1-ป.3
สามปีนั้น ผมเป็นคนมีรูปร่างสูงใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของรุ่น และได้ยืนหัวแถวฝั่งนักเรียนชายตลอด
ช่วง ป.1-ป.2 ผมเป็นนักเรียนที่ตัวสูงที่สุดของห้อง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่น จะมีเพื่อนผู้หญิงราวสามคนที่ตัวสูงนำหน้าผม
แล้วสถานการณ์ก็มาเปลี่ยนตอน ป.3
มันน่าจะเริ่มจากที่ผมหัดเรียนว่ายน้ำตอนกลางๆ ป.2 แล้วพอช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ป.3 ผมก็ว่ายน้ำหนักมาก (เกือบทุกวันต่อสัปดาห์) ผนวกด้วยการดื่มนมเยอะกว่าเดิม
ส่งผลให้ผมตัวสูงขึ้น 4.5 เซนติเมตร ภายในเวลา 3 เดือน จากส่วนสูง 132.5 ซม. ตอนเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.2 เทอมสอง เป็นส่วนสูง 137 ซม. ตอนเดือนพฤษภาคม ต้น ป.3 เทอมสอง
ตลอดการเรียน ป.3 ผมยังว่ายน้ำอย่างหนักและดื่มนมเยอะต่อไปเรื่อยๆ ช่วงปลายปีการศึกษา เลยมีจังหวะเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกหน คือ สูงขึ้น 3 เซนติเมตร ใน 3 เดือน จากส่วนสูง 139 ซม. ตอนเดือนพฤศจิกายน มาเป็นส่วนสูง 142 ซม. ตอนเดือนกุมภาพันธ์
ความสูง 142 ซม. ทำให้ผมตัวสูงเกือบจะที่สุดในรุ่น
ในปีนั้น เพื่อนผู้หญิงที่ตัวสูงที่สุดของรุ่นมีความสูง 143 ซม. ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีกสองรายที่เคยตัวสูงกว่าผมมาตลอด ก็ถูกผมไล่ตีเสมอได้ทัน
หรือถ้าประเมินในแง่พัฒนาการส่วนบุคคล ก็จะพบว่าผมตัวสูงขึ้นมากถึง 9.5 เซนติเมตร ภายในกรอบเวลา 1 ปี (จากเดือนกุมภาพันธ์สมัย ป.2 ถึงเดือนกุมภาพันธ์สมัย ป.3)
ตอนนั้น ผมและครอบครัวต่างรู้สึกดีใจกับความสำเร็จดังกล่าว ผมตั้งความหวังว่าพอถึง ป.4 ป.5 ตัวเองต้องตัวสูงที่สุดในรุ่นให้ได้ และเริ่มมีผู้ใหญ่ใกล้ตัวหลายคนทำนายว่าผมน่าจะสูงถึง 180 หรือเกินกว่านั้น ตอนเจริญเติบโตเต็มวัย
ปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ป.4 ผมยังว่ายน้ำเป็นประจำ (แม้จะไม่ถึงขั้นทุกวันต่อสัปดาห์เหมือนตอนปิดเทอมปีก่อน) เริ่มเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ และยังดื่มนมเยอะเช่นเคย (ประมาณ 4 แก้วต่อวัน)
โดยฝันไว้ว่าตลอด 2-3 เดือนนั้น ตัวเองคงสูงขึ้นอีก 4-5 เซนติเมตร ดังเช่นช่วงปิดเทอมใหญ่คราวก่อน
แต่น่าแปลกใจ ที่พอเดือนพฤษภาคม เริ่ม ป.4 เทอมแรก ผมกลับมีส่วนสูงแค่ 143 ซม. หรือสูงขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.3 เทอมสอง แค่ 1 เซนติเมตร
จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.4 เทอมสอง ผมมีส่วนสูง 147.5 ซม. สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 5.5 เซนติเมตร ซึ่งนับว่ายังเป็นพัฒนาการที่น่าพอใจ และผมก็ยังเป็นเด็กผู้ชายที่สูงที่สุดในห้องและในรุ่น เพียงแต่จะเริ่มมีเพื่อนผู้หญิงที่ตัวสูงกว่าผมเพิ่มมากขึ้น
เพื่อนผู้หญิงที่สูงที่สุดในรุ่นที่เคยสูงกว่าผมแค่ 1 เซนติเมตร เหมือนจะทิ้งห่างผมไปราว 3 เซนติเมตร เพื่อนผู้หญิงสองคนที่เคยตัวเท่าๆ กับผม ก็ทิ้งห่างผมไปประมาณ 2 เซนติเมตร แล้วก็ยังมีเพื่อนผู้หญิงอีกสามคนที่เคยตัวเล็กกว่าผม ซึ่งเริ่มตัวสูงแซงหน้าผม 1 เซนติเมตร
ขึ้น ป.5 กลายเป็นปีที่ผมมีพัฒนาการความเจริญเติบโตแย่ที่สุดในช่วงเรียนชั้นประถม สรุปภาพรวม คือ ตอนปลาย ป.5 เทอมสอง ผมมีส่วนสูง 151.5 ซม. สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แค่ 4 เซนติเมตร ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 เซนติเมตรต่อปี อย่างที่ควรจะเป็น (ซึ่งผมยังหาสาเหตุไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมปีนั้น ตนเองจึงสูงขึ้นแค่นั้น เพราะก็ยังว่ายน้ำ เตะบอล ดื่มนม คล้ายๆ เดิม)
สมัย ป.5 ก็มีเพื่อนผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งที่เริ่มตัวสูงแซงหน้าผมไป แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนผู้ชาย ผมยังถือเป็นคนตัวสูงที่สุดอยู่
พอขึ้น ป.6 ปุ๊บ ผมก็เกิดอาการช็อกปั๊บ จากเหตุผลสองประการ
ประการแรก คือ เดือนพฤษภาคม ต้น ป.6 เทอมหนึ่ง ผมมีส่วนสูง 151.5 ซม. ซึ่งเป็นส่วนสูงเดียวกันกับเมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.5 เทอมสอง เป๊ะๆ หรือเท่ากับว่าผมตัวไม่สูงขึ้นเลย ในช่วงปิดเทอมใหญ่ 3 เดือน
ประการที่สอง ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับส่วนสูงที่หยุดนิ่งในข้อแรก คือ ขณะที่ผมตัวไม่สูงขึ้นเลยในช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ป.6 ช่วงเวลานั้นกลับเป็นช่วงที่เพื่อนๆ ชายหญิงที่เคยตัวเล็กกว่าผม ต่างเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดผิดหูผิดตา จึงเกิดสถานการณ์ที่พวกเพื่อนที่ตัวสูงประมาณ 140 กลางๆ ก่อนจบ ป.5 เขยิบขึ้นมาตัวสูง 150-151 เท่าๆ ผม ภายในเวลาสามเดือน
ถ้าส่วนสูงผมหยุดนิ่งที่ 151.5 ซม. ไปจนถึงเดือนสิงหาคม พ่อแม่คงต้องพาผมไปปรึกษาหมอเหมือนกัน แต่หลังจากนั้น ส่วนสูงผมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 157 ซม. ตอนจบการศึกษาชั้นประถม
เท่ากับว่าจากปลาย ป.5 เทอมสอง ถึงปลาย ป.6 เทอมสอง ผมตัวสูงเพิ่มขึ้น 5.5 เซนติเมตร เหมือนจะเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่น ที่ตัวโตขึ้นเกือบหรือเกิน 10 เซนติเมตรในปีเดียว ณ เวลานั้น ผมก็กลายเป็น "คนตกอันดับ" ทันที
ตอนจบ ป.6 มีเพื่อนผู้หญิงมากกว่าสิบคนที่ตัวสูงกว่าผมอย่างเป็นทางการ เพื่อนผู้หญิงที่ตัวสูงที่สุดในรุ่น (คนเดียวกับที่เคยสูงกว่าผมแค่ 1 เซนติเมตร ตอน ป.3) ก็ตัวสูงถึง 164 ซม. นำหน้าผมห่าง 7 เซนติเมตร ส่วนเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่สนิทกันตั้งแต่เล็ก และเคยเตี้ยกว่าผมตั้งแต่อนุบาลถึง ป.3 ก็ตัวสูงนำหน้าผม 5 เซนติเมตร ตอน ป.6
นอกจากนี้ ส่วนสูง "157 ซม." ของผม ยังถูกหลายคนอำกันว่าเป็น "ส่วนสูงโหล" เพราะอยู่ดีๆ ก็มีเพื่อนนักเรียนชายหญิงจำนวน 12 คน (หนึ่งโหล) ที่มาสูง 157 ซม. เท่ากัน ตอนเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.6 เทอมสอง โดยที่เพื่อนๆ อีก 11 คนที่เหลือ ก็เคยมีส่วนสูงต่ำกว่าผมทั้งหมดสมัย ป.1-ป.5
อาจจะต้องหมายเหตุไว้ว่า สมัย ป.6 ผมก็ยังว่ายน้ำสม่ำเสมอ ชอบเตะบอล และดื่มนมหลายแก้วต่อวันเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ผมเริ่มเติบโต "เป็นหนุ่มเต็มตัว" ในช่วงปีนี้เช่นกัน (คือมาครบหมด ทั้งเสียงแตก เริ่มมีหนวดบางๆ และเริ่มมีความรู้สึกทางเพศ)
---
กระนั้นก็ดี ยังมีผู้ใหญ่หลายคนที่ปลอบใจผมในสองประเด็น ประเด็นแรก คือ ไม่ต้องห่วงเรื่องมีเพื่อนผู้หญิงเกินสิบคนตัวสูงกว่าตนเอง เพราะช่วงอายุ 11-12 ปี ถือเป็นยุคทองในการเติบโตเป็นสาวของผู้หญิง การที่พวกเธอตัวสูงเร็วในสมัย ป.5 ป.6 จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ประเด็นที่สอง คือ หลายคนเห็นว่าพอขึ้นมัธยม ผมก็จะเข้าสู่ "ภาวะยืดตัว" บ้าง จนกลับมาสูงกว่าเพื่อนผู้หญิง และคงตัวสูงถึงเป้าหมาย "180 ซม." ได้ไม่ยาก
ผมย้ายไปเรียนต่อมัธยมที่โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง ผมวาดหวังและตั้งเป้าเอาไว้ว่า จาก ม.1 ถึง ม.3 ตัวเองน่าจะสูงขึ้น 6-10 เซนติเมตรต่อปี จนมีส่วนสูงทะลุหลัก 175-180 เสียที
แต่ปรากฏว่าช่วง ม.1 ผมก็สูงขึ้น 5 เซนติเมตรใน 1 ปี เหมือนเดิม ยังดีที่ส่วนสูง 162 ซม. นั้นเหนือกว่าเพื่อนผู้ชายรุ่นเดียวกันจำนวนมาก
ขึ้น ม.2 ผมสูงขึ้นอีก 4 เซนติเมตร เป็น 166 ซม. ยังถือเป็นคนมีรูปร่างปานกลางค่อนข้างสูง หากเทียบกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่น แต่จะเริ่มเอะใจว่าทำไมพัฒนาการความเติบโตมีแนวโน้มลดลง (ผมยังปลอบใจตนเองว่า สมัย ป.5 ผมเคยสูงขึ้นแค่ 4 เซนติเมตรเหมือนกัน แต่พอขึ้น ป.6 ก็กลับมาสูงขึ้น 5.5 เซนติเมตรได้ใหม่)
ช่วงสองปีแรกสมัยมัธยม ผมยังว่ายน้ำ 2-3 หน ต่อสัปดาห์ ยังดื่มนมอยู่ แต่ในปริมาณลดลงนิดหน่อย (เพราะในขณะที่โรงเรียนประถม มีนมให้ดื่มฟรีตอนสายๆ แต่โรงเรียนมัธยม ไม่มีนมฟรี ถ้าใครอยากดื่ม ต้องไปซื้อดื่มเองที่ร้านค้าในโรงอาหาร แล้วผมก็มัวเพลิดเพลินเอาเงินไปซื้ออาหารและของกินเล่นประเภทอื่นๆ)
ขึ้น ม.3 อาการ "หยุดโต" (แทนที่จะเป็น "ยืดตัว") เริ่มปรากฏขึ้นกับร่างกายผมอย่างชัดเจน เมื่อทั้งปีนั้น ผมตัวสูงขึ้นอีกแค่ 2 เซนติเมตร เป็น 168 ซม. (แต่จะชอบบอกใครๆ ว่าตัวเองสูงถึง 170 แล้ว 555)
ปีนั้น ผมจะเป็นเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยความลังเล
ด้านหนึ่ง ผมก็เริ่มเบื่อกีฬาเดิมๆ ที่ตนเองเคยเล่น เริ่มอิ่มตัวกับการว่ายน้ำ (รู้สึกว่าทำไมยิ่งว่ายยิ่งสูงน้อยลง) เริ่มไม่อยากเตะฟุตบอล (เพราะพอไปอยู่โรงเรียนชายล้วนขนาดใหญ่ ก็เจอเพื่อนๆ ที่เตะบอลเก่งกว่าตนเองมากมาย) แถมยังเริ่มติดเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเล่นจนถึงตี 1 ตี 2 ตี 3 ก็บ่อย มิหนำซ้ำ ผมยังดื่มนมน้อยลงชัดเจน เพราะพอนอนดึก ก็เริ่มตื่นสาย ตื่นมาก็ต้องรีบไปโรงเรียน ไม่ได้กินอาหารเช้าหรือแม้กระทั่งดื่มนม ผมไม่ค่อยซื้อนมดื่มที่โรงเรียนอยู่แล้ว ไปๆ มาๆ ผมจึงดื่มนมแค่ประมาณ 1-2 แก้วต่อวัน ในช่วงเย็นตอนกลับบ้านหลังเลิกเรียน หรือถ้าฟิตหน่อย ก็ดื่มตอนก่อนนอนด้วย (แต่ถ้าติดพันเกมก็จะลืมดื่ม)
แต่อีกด้าน ผมก็ยังอยากสูง ผมเริ่มหัดเล่นบาสเกตบอล เริ่มกระโดดเชือกเยอะๆ เพราะหวังว่ากิจกรรมเหล่านั้นจะทำให้ตนเองตัวสูงขึ้นบ้าง
ไปๆ มาๆ ผมเลยสูงไม่ถึง 170 เมื่อจบ ม.ต้น
พอขึ้น ม.ปลาย แม้พัฒนาการความเติบโตของผมจะยังไม่ "หยุดแน่นิ่ง" แต่ก็เพิ่มขึ้นแบบช้าๆ 1 เซนติเมตรต่อปี ผมเลยจบ ม.6 ด้วยส่วนสูงประมาณ 171 ซม. ไม่เตี้ยที่สุดในรุ่น แต่ก็มีเพื่อนผู้ชายราวร้อยละ 85-90 ที่ตัวสูงกว่า
พอเข้ามหาวิทยาลัยจนถึงทำงาน ผมก็ได้ตระหนักอีกเรื่องหนึ่งว่า แค่เพื่อนผู้หญิงที่สูง 160 กว่าๆ ใส่รองเท้าส้นสูงสัก 2-3 นิ้ว พวกเธอก็จะตัวสูงเท่าๆ หรือสูงกว่าผมแล้ว (ในมาตรฐานส่วนตัว ผมถือว่าผู้หญิงสูง 167-168 นี่คือผู้หญิงสูงมาก และผู้หญิงสูง 170 อัพ ถือว่าเป็นผู้หญิงตัวสูงมากๆๆ)
---
ทีนี้ ผมจะลองขอวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ตนเองตัวสูงไม่มากนักในช่วงวัยรุ่น เป็นการปิดท้าย
หนึ่ง ต้องยอมรับว่าวินัยที่ย่อหย่อนลงในช่วงเรียนมัธยมของตนเองนั้นส่งผลให้ผมตัวสูงขึ้นไม่เยอะตามที่หวัง
สอง ผมมาสงสัยในช่วง 1-2 ปีหลัง (ตอนอายุ 30 กว่า) ว่าตนเองถือเป็นคนที่ "เป็นหนุ่มสาวก่อนวัย" หรือไม่? โดยเฉพาะถ้าดูข้อมูลที่ผมตัวสูงขึ้นมากถึง 9.5 เซนติเมตรในปีเดียว ตอน ป.3 แล้วหลังจากนั้น พัฒนาการความสูงของผมก็ไม่เคยเพิ่มมากขึ้นในระดับนั้นอีกเลย กระทั่งหยุดเติบโต
อย่างไรก็ดี ถ้าย้อนนึกไปถึงตอน 9 ขวบ ผมก็ไม่มีอาการแตกเนื้อหนุ่มใดๆ นอกจากตัวสูงขึ้นผิดหูผิดตาแค่นั้น
สาม จริงๆ ถ้าดูสมุดพกตั้งแต่ ป.1-ป.6 ก็จะพบว่าผมเป็น "เด็กเจ้าเนื้อ" หรือ "เด็กอ้วนใหญ่" มาโดยตลอด หลายครั้ง น้ำหนักตัวก็เกินส่วนสูง บางครั้ง น้ำหนักตัวกับส่วนสูงก็จะได้สัดส่วนกันแบบพอดีๆ แล้วผมก็มีรูปร่างทรงนี้มาถึงปัจจุบัน (โดยไม่เคยผอม) ซึ่งเคยมีผู้รู้บางคนแสดงความเห็นว่า มีหลายกรณีที่ "เด็กรูปร่างอ้วน" นั้นจะสูงเร็วกว่าเพื่อนๆ วัยเดียวกัน แต่พอโตขึ้นมา เด็กกลุ่มนี้จะตัวไม่สูงมากนัก
ผมอาจเป็นคนหนึ่งในกรณีนี้ก็ได้ (แต่ผมก็มีเพื่อนหลายๆ คน ที่เจ้าเนื้อพอๆ กับตนเอง หรือตัวอ้วนกว่า แต่สุดท้าย พวกเขาก็สูงเกิน 180 กัน)
กรณีศึกษา : จากเด็กชายที่สูงที่สุดในรุ่น สู่ชายหนุ่มที่สูงเกือบไม่ถึง 170 ซม.
ผมเองเป็นคนประเภทนั้น เลยอยากนำประสบการณ์ข้างต้นมาเล่าสู่กันฟัง ผ่านข้อมูลพัฒนาการความเจริญเติบโตที่ค้นมาได้จากสมุดรายงานประจำตัวนักเรียนสมัย ป.1-6 ของตนเอง
เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆ ที่กำลังเจริญเติบโตในปัจจุบัน และคุณพ่อคุณแม่ที่ยังมีลูกวัยกำลังโตครับ
ขอเริ่มจากช่วง ป.1-ป.3
สามปีนั้น ผมเป็นคนมีรูปร่างสูงใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของรุ่น และได้ยืนหัวแถวฝั่งนักเรียนชายตลอด
ช่วง ป.1-ป.2 ผมเป็นนักเรียนที่ตัวสูงที่สุดของห้อง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่น จะมีเพื่อนผู้หญิงราวสามคนที่ตัวสูงนำหน้าผม
แล้วสถานการณ์ก็มาเปลี่ยนตอน ป.3
มันน่าจะเริ่มจากที่ผมหัดเรียนว่ายน้ำตอนกลางๆ ป.2 แล้วพอช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ป.3 ผมก็ว่ายน้ำหนักมาก (เกือบทุกวันต่อสัปดาห์) ผนวกด้วยการดื่มนมเยอะกว่าเดิม
ส่งผลให้ผมตัวสูงขึ้น 4.5 เซนติเมตร ภายในเวลา 3 เดือน จากส่วนสูง 132.5 ซม. ตอนเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.2 เทอมสอง เป็นส่วนสูง 137 ซม. ตอนเดือนพฤษภาคม ต้น ป.3 เทอมสอง
ตลอดการเรียน ป.3 ผมยังว่ายน้ำอย่างหนักและดื่มนมเยอะต่อไปเรื่อยๆ ช่วงปลายปีการศึกษา เลยมีจังหวะเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกหน คือ สูงขึ้น 3 เซนติเมตร ใน 3 เดือน จากส่วนสูง 139 ซม. ตอนเดือนพฤศจิกายน มาเป็นส่วนสูง 142 ซม. ตอนเดือนกุมภาพันธ์
ความสูง 142 ซม. ทำให้ผมตัวสูงเกือบจะที่สุดในรุ่น
ในปีนั้น เพื่อนผู้หญิงที่ตัวสูงที่สุดของรุ่นมีความสูง 143 ซม. ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีกสองรายที่เคยตัวสูงกว่าผมมาตลอด ก็ถูกผมไล่ตีเสมอได้ทัน
หรือถ้าประเมินในแง่พัฒนาการส่วนบุคคล ก็จะพบว่าผมตัวสูงขึ้นมากถึง 9.5 เซนติเมตร ภายในกรอบเวลา 1 ปี (จากเดือนกุมภาพันธ์สมัย ป.2 ถึงเดือนกุมภาพันธ์สมัย ป.3)
ตอนนั้น ผมและครอบครัวต่างรู้สึกดีใจกับความสำเร็จดังกล่าว ผมตั้งความหวังว่าพอถึง ป.4 ป.5 ตัวเองต้องตัวสูงที่สุดในรุ่นให้ได้ และเริ่มมีผู้ใหญ่ใกล้ตัวหลายคนทำนายว่าผมน่าจะสูงถึง 180 หรือเกินกว่านั้น ตอนเจริญเติบโตเต็มวัย
ปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ป.4 ผมยังว่ายน้ำเป็นประจำ (แม้จะไม่ถึงขั้นทุกวันต่อสัปดาห์เหมือนตอนปิดเทอมปีก่อน) เริ่มเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ และยังดื่มนมเยอะเช่นเคย (ประมาณ 4 แก้วต่อวัน)
โดยฝันไว้ว่าตลอด 2-3 เดือนนั้น ตัวเองคงสูงขึ้นอีก 4-5 เซนติเมตร ดังเช่นช่วงปิดเทอมใหญ่คราวก่อน
แต่น่าแปลกใจ ที่พอเดือนพฤษภาคม เริ่ม ป.4 เทอมแรก ผมกลับมีส่วนสูงแค่ 143 ซม. หรือสูงขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.3 เทอมสอง แค่ 1 เซนติเมตร
จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.4 เทอมสอง ผมมีส่วนสูง 147.5 ซม. สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 5.5 เซนติเมตร ซึ่งนับว่ายังเป็นพัฒนาการที่น่าพอใจ และผมก็ยังเป็นเด็กผู้ชายที่สูงที่สุดในห้องและในรุ่น เพียงแต่จะเริ่มมีเพื่อนผู้หญิงที่ตัวสูงกว่าผมเพิ่มมากขึ้น
เพื่อนผู้หญิงที่สูงที่สุดในรุ่นที่เคยสูงกว่าผมแค่ 1 เซนติเมตร เหมือนจะทิ้งห่างผมไปราว 3 เซนติเมตร เพื่อนผู้หญิงสองคนที่เคยตัวเท่าๆ กับผม ก็ทิ้งห่างผมไปประมาณ 2 เซนติเมตร แล้วก็ยังมีเพื่อนผู้หญิงอีกสามคนที่เคยตัวเล็กกว่าผม ซึ่งเริ่มตัวสูงแซงหน้าผม 1 เซนติเมตร
ขึ้น ป.5 กลายเป็นปีที่ผมมีพัฒนาการความเจริญเติบโตแย่ที่สุดในช่วงเรียนชั้นประถม สรุปภาพรวม คือ ตอนปลาย ป.5 เทอมสอง ผมมีส่วนสูง 151.5 ซม. สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แค่ 4 เซนติเมตร ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 เซนติเมตรต่อปี อย่างที่ควรจะเป็น (ซึ่งผมยังหาสาเหตุไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมปีนั้น ตนเองจึงสูงขึ้นแค่นั้น เพราะก็ยังว่ายน้ำ เตะบอล ดื่มนม คล้ายๆ เดิม)
สมัย ป.5 ก็มีเพื่อนผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งที่เริ่มตัวสูงแซงหน้าผมไป แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนผู้ชาย ผมยังถือเป็นคนตัวสูงที่สุดอยู่
พอขึ้น ป.6 ปุ๊บ ผมก็เกิดอาการช็อกปั๊บ จากเหตุผลสองประการ
ประการแรก คือ เดือนพฤษภาคม ต้น ป.6 เทอมหนึ่ง ผมมีส่วนสูง 151.5 ซม. ซึ่งเป็นส่วนสูงเดียวกันกับเมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.5 เทอมสอง เป๊ะๆ หรือเท่ากับว่าผมตัวไม่สูงขึ้นเลย ในช่วงปิดเทอมใหญ่ 3 เดือน
ประการที่สอง ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับส่วนสูงที่หยุดนิ่งในข้อแรก คือ ขณะที่ผมตัวไม่สูงขึ้นเลยในช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ป.6 ช่วงเวลานั้นกลับเป็นช่วงที่เพื่อนๆ ชายหญิงที่เคยตัวเล็กกว่าผม ต่างเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดผิดหูผิดตา จึงเกิดสถานการณ์ที่พวกเพื่อนที่ตัวสูงประมาณ 140 กลางๆ ก่อนจบ ป.5 เขยิบขึ้นมาตัวสูง 150-151 เท่าๆ ผม ภายในเวลาสามเดือน
ถ้าส่วนสูงผมหยุดนิ่งที่ 151.5 ซม. ไปจนถึงเดือนสิงหาคม พ่อแม่คงต้องพาผมไปปรึกษาหมอเหมือนกัน แต่หลังจากนั้น ส่วนสูงผมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 157 ซม. ตอนจบการศึกษาชั้นประถม
เท่ากับว่าจากปลาย ป.5 เทอมสอง ถึงปลาย ป.6 เทอมสอง ผมตัวสูงเพิ่มขึ้น 5.5 เซนติเมตร เหมือนจะเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่น ที่ตัวโตขึ้นเกือบหรือเกิน 10 เซนติเมตรในปีเดียว ณ เวลานั้น ผมก็กลายเป็น "คนตกอันดับ" ทันที
ตอนจบ ป.6 มีเพื่อนผู้หญิงมากกว่าสิบคนที่ตัวสูงกว่าผมอย่างเป็นทางการ เพื่อนผู้หญิงที่ตัวสูงที่สุดในรุ่น (คนเดียวกับที่เคยสูงกว่าผมแค่ 1 เซนติเมตร ตอน ป.3) ก็ตัวสูงถึง 164 ซม. นำหน้าผมห่าง 7 เซนติเมตร ส่วนเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่สนิทกันตั้งแต่เล็ก และเคยเตี้ยกว่าผมตั้งแต่อนุบาลถึง ป.3 ก็ตัวสูงนำหน้าผม 5 เซนติเมตร ตอน ป.6
นอกจากนี้ ส่วนสูง "157 ซม." ของผม ยังถูกหลายคนอำกันว่าเป็น "ส่วนสูงโหล" เพราะอยู่ดีๆ ก็มีเพื่อนนักเรียนชายหญิงจำนวน 12 คน (หนึ่งโหล) ที่มาสูง 157 ซม. เท่ากัน ตอนเดือนกุมภาพันธ์ ปลาย ป.6 เทอมสอง โดยที่เพื่อนๆ อีก 11 คนที่เหลือ ก็เคยมีส่วนสูงต่ำกว่าผมทั้งหมดสมัย ป.1-ป.5
อาจจะต้องหมายเหตุไว้ว่า สมัย ป.6 ผมก็ยังว่ายน้ำสม่ำเสมอ ชอบเตะบอล และดื่มนมหลายแก้วต่อวันเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ผมเริ่มเติบโต "เป็นหนุ่มเต็มตัว" ในช่วงปีนี้เช่นกัน (คือมาครบหมด ทั้งเสียงแตก เริ่มมีหนวดบางๆ และเริ่มมีความรู้สึกทางเพศ)
---
กระนั้นก็ดี ยังมีผู้ใหญ่หลายคนที่ปลอบใจผมในสองประเด็น ประเด็นแรก คือ ไม่ต้องห่วงเรื่องมีเพื่อนผู้หญิงเกินสิบคนตัวสูงกว่าตนเอง เพราะช่วงอายุ 11-12 ปี ถือเป็นยุคทองในการเติบโตเป็นสาวของผู้หญิง การที่พวกเธอตัวสูงเร็วในสมัย ป.5 ป.6 จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ประเด็นที่สอง คือ หลายคนเห็นว่าพอขึ้นมัธยม ผมก็จะเข้าสู่ "ภาวะยืดตัว" บ้าง จนกลับมาสูงกว่าเพื่อนผู้หญิง และคงตัวสูงถึงเป้าหมาย "180 ซม." ได้ไม่ยาก
ผมย้ายไปเรียนต่อมัธยมที่โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง ผมวาดหวังและตั้งเป้าเอาไว้ว่า จาก ม.1 ถึง ม.3 ตัวเองน่าจะสูงขึ้น 6-10 เซนติเมตรต่อปี จนมีส่วนสูงทะลุหลัก 175-180 เสียที
แต่ปรากฏว่าช่วง ม.1 ผมก็สูงขึ้น 5 เซนติเมตรใน 1 ปี เหมือนเดิม ยังดีที่ส่วนสูง 162 ซม. นั้นเหนือกว่าเพื่อนผู้ชายรุ่นเดียวกันจำนวนมาก
ขึ้น ม.2 ผมสูงขึ้นอีก 4 เซนติเมตร เป็น 166 ซม. ยังถือเป็นคนมีรูปร่างปานกลางค่อนข้างสูง หากเทียบกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่น แต่จะเริ่มเอะใจว่าทำไมพัฒนาการความเติบโตมีแนวโน้มลดลง (ผมยังปลอบใจตนเองว่า สมัย ป.5 ผมเคยสูงขึ้นแค่ 4 เซนติเมตรเหมือนกัน แต่พอขึ้น ป.6 ก็กลับมาสูงขึ้น 5.5 เซนติเมตรได้ใหม่)
ช่วงสองปีแรกสมัยมัธยม ผมยังว่ายน้ำ 2-3 หน ต่อสัปดาห์ ยังดื่มนมอยู่ แต่ในปริมาณลดลงนิดหน่อย (เพราะในขณะที่โรงเรียนประถม มีนมให้ดื่มฟรีตอนสายๆ แต่โรงเรียนมัธยม ไม่มีนมฟรี ถ้าใครอยากดื่ม ต้องไปซื้อดื่มเองที่ร้านค้าในโรงอาหาร แล้วผมก็มัวเพลิดเพลินเอาเงินไปซื้ออาหารและของกินเล่นประเภทอื่นๆ)
ขึ้น ม.3 อาการ "หยุดโต" (แทนที่จะเป็น "ยืดตัว") เริ่มปรากฏขึ้นกับร่างกายผมอย่างชัดเจน เมื่อทั้งปีนั้น ผมตัวสูงขึ้นอีกแค่ 2 เซนติเมตร เป็น 168 ซม. (แต่จะชอบบอกใครๆ ว่าตัวเองสูงถึง 170 แล้ว 555)
ปีนั้น ผมจะเป็นเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยความลังเล
ด้านหนึ่ง ผมก็เริ่มเบื่อกีฬาเดิมๆ ที่ตนเองเคยเล่น เริ่มอิ่มตัวกับการว่ายน้ำ (รู้สึกว่าทำไมยิ่งว่ายยิ่งสูงน้อยลง) เริ่มไม่อยากเตะฟุตบอล (เพราะพอไปอยู่โรงเรียนชายล้วนขนาดใหญ่ ก็เจอเพื่อนๆ ที่เตะบอลเก่งกว่าตนเองมากมาย) แถมยังเริ่มติดเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเล่นจนถึงตี 1 ตี 2 ตี 3 ก็บ่อย มิหนำซ้ำ ผมยังดื่มนมน้อยลงชัดเจน เพราะพอนอนดึก ก็เริ่มตื่นสาย ตื่นมาก็ต้องรีบไปโรงเรียน ไม่ได้กินอาหารเช้าหรือแม้กระทั่งดื่มนม ผมไม่ค่อยซื้อนมดื่มที่โรงเรียนอยู่แล้ว ไปๆ มาๆ ผมจึงดื่มนมแค่ประมาณ 1-2 แก้วต่อวัน ในช่วงเย็นตอนกลับบ้านหลังเลิกเรียน หรือถ้าฟิตหน่อย ก็ดื่มตอนก่อนนอนด้วย (แต่ถ้าติดพันเกมก็จะลืมดื่ม)
แต่อีกด้าน ผมก็ยังอยากสูง ผมเริ่มหัดเล่นบาสเกตบอล เริ่มกระโดดเชือกเยอะๆ เพราะหวังว่ากิจกรรมเหล่านั้นจะทำให้ตนเองตัวสูงขึ้นบ้าง
ไปๆ มาๆ ผมเลยสูงไม่ถึง 170 เมื่อจบ ม.ต้น
พอขึ้น ม.ปลาย แม้พัฒนาการความเติบโตของผมจะยังไม่ "หยุดแน่นิ่ง" แต่ก็เพิ่มขึ้นแบบช้าๆ 1 เซนติเมตรต่อปี ผมเลยจบ ม.6 ด้วยส่วนสูงประมาณ 171 ซม. ไม่เตี้ยที่สุดในรุ่น แต่ก็มีเพื่อนผู้ชายราวร้อยละ 85-90 ที่ตัวสูงกว่า
พอเข้ามหาวิทยาลัยจนถึงทำงาน ผมก็ได้ตระหนักอีกเรื่องหนึ่งว่า แค่เพื่อนผู้หญิงที่สูง 160 กว่าๆ ใส่รองเท้าส้นสูงสัก 2-3 นิ้ว พวกเธอก็จะตัวสูงเท่าๆ หรือสูงกว่าผมแล้ว (ในมาตรฐานส่วนตัว ผมถือว่าผู้หญิงสูง 167-168 นี่คือผู้หญิงสูงมาก และผู้หญิงสูง 170 อัพ ถือว่าเป็นผู้หญิงตัวสูงมากๆๆ)
---
ทีนี้ ผมจะลองขอวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ตนเองตัวสูงไม่มากนักในช่วงวัยรุ่น เป็นการปิดท้าย
หนึ่ง ต้องยอมรับว่าวินัยที่ย่อหย่อนลงในช่วงเรียนมัธยมของตนเองนั้นส่งผลให้ผมตัวสูงขึ้นไม่เยอะตามที่หวัง
สอง ผมมาสงสัยในช่วง 1-2 ปีหลัง (ตอนอายุ 30 กว่า) ว่าตนเองถือเป็นคนที่ "เป็นหนุ่มสาวก่อนวัย" หรือไม่? โดยเฉพาะถ้าดูข้อมูลที่ผมตัวสูงขึ้นมากถึง 9.5 เซนติเมตรในปีเดียว ตอน ป.3 แล้วหลังจากนั้น พัฒนาการความสูงของผมก็ไม่เคยเพิ่มมากขึ้นในระดับนั้นอีกเลย กระทั่งหยุดเติบโต
อย่างไรก็ดี ถ้าย้อนนึกไปถึงตอน 9 ขวบ ผมก็ไม่มีอาการแตกเนื้อหนุ่มใดๆ นอกจากตัวสูงขึ้นผิดหูผิดตาแค่นั้น
สาม จริงๆ ถ้าดูสมุดพกตั้งแต่ ป.1-ป.6 ก็จะพบว่าผมเป็น "เด็กเจ้าเนื้อ" หรือ "เด็กอ้วนใหญ่" มาโดยตลอด หลายครั้ง น้ำหนักตัวก็เกินส่วนสูง บางครั้ง น้ำหนักตัวกับส่วนสูงก็จะได้สัดส่วนกันแบบพอดีๆ แล้วผมก็มีรูปร่างทรงนี้มาถึงปัจจุบัน (โดยไม่เคยผอม) ซึ่งเคยมีผู้รู้บางคนแสดงความเห็นว่า มีหลายกรณีที่ "เด็กรูปร่างอ้วน" นั้นจะสูงเร็วกว่าเพื่อนๆ วัยเดียวกัน แต่พอโตขึ้นมา เด็กกลุ่มนี้จะตัวไม่สูงมากนัก
ผมอาจเป็นคนหนึ่งในกรณีนี้ก็ได้ (แต่ผมก็มีเพื่อนหลายๆ คน ที่เจ้าเนื้อพอๆ กับตนเอง หรือตัวอ้วนกว่า แต่สุดท้าย พวกเขาก็สูงเกิน 180 กัน)