JJNY : ศก.ปี’63ติดลบ6.1%│จวกรัฐออกกฎไม่คิดถึงรากหญ้า│เรืองไกรร้องสอบนาฬิกาประวิตร│อนุสรณ์เย้ยรบ.ย่ามใจแต่ระแวงตรวจสอบ

สภาพัฒน์ชี้ เศรษฐกิจไทยปี’63 ติดลบ 6.1% ต่ำสุดในรอบ 22 ปี
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-613697

 
สภาพัฒน์ ชี้เศรษฐกิจไทยปี’63 ติดลบ 6.1% ต่ำสุดในรอบ 22 ปี คาดปี’64 โต 3%
 
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2563 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2564 ว่า จีดีพีไตรมาส 4/2564 ขยายตัว 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนแต่หดตัวลง 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ขยายตัวจากในเรื่องของการอุปโภคและบริโภคภาครัฐ และเอกชนที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง ส่งผลให้จีดีพีปี 2563 หดตัว ลบ 6.1% ต่ำสุดในรอบ 22 ปี ตั้งแต่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งซึ่งเป็นผลมาจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้กระทบกับภาคการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจภายในประเทศ การเมืองภายในประเทศยังไม่มีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ
 
นอกจากนี้ สศช.ได้คาดการณ์จีดีพีปี 2564 คาดว่าขยายตัวอยู่ที่ 2.5% – 3.5% มีค่ากลางที่ 3%  ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงจากคาดการณ์เดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวในช่วง 3.5% – 4.5% เนื่องจากยังมีผลกระทบจากการระบาดของโควิดรอบใหม่ ในไตรมาส 1 ของปีนี้อยู่ และคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเพียง 3.2 ล้านคน ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2564 ลดลงจากประมาณการณ์เดิมที่คาดว่าจะกลับมา 5 ล้านคน
 
ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณ 2564 คาดว่าอยู่ที่ระดับ 93.5% ลดลงจากประมาณการณ์เดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 94.4% โดยเป็นผลจากไตรมาส 4 ของปี 2563 มีการเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมาย พร้อมกันนี้ คาดว่าการเบิกจ่ายพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท จะสามารถเบิกจ่ายได้เพียง 80% ซึ่งล่าสุดเบิกจ่ายไปแล้ว 55%
 
“เศรษฐกิจปี 2564 ที่คาดว่าโต 3% ยังถือว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่กลับเข้าสู่ศักยภาพของเศรษฐกิจไทยอย่างเต็มที่ ยังมีปัญหาความเสี่ยงอีกมาก รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1 ของปีนี้ด้วย”



ต่อคิวแน่นจนปิดถนน คนไร้สมาร์ทโฟนทะลักหน้ากรุงไทย จวกรัฐออกกฎไม่คิดถึงรากหญ้า
https://www.matichon.co.th/region/news_2578893

“น่าน”คนไร้สมาร์ทโฟนทะลัก ต่อคิวแน่นจนปิดถนนหน้ากรุงไทย หวังลงทะเบียน “เราชนะ” ชาวเน็ต จวกรัฐออกกฎไม่คิดถึงรากหญ้า

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เฟซบุ๊กแฟนเพจ เสน่ห์น่านวันนี้ ซึ่งมีผู้ติดตามกว่าสองแสนคน โพสต์ภาพเหตุการณ์หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาอ.ปัว จังหวัดน่าน หลังมีการเปิดให้ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนมาลงทะเบียน โครงการ “เราชนะ” แต่ปรากฎ ภาพน่าตกใจ เพราะมีประชาชนเป็นจำนวนมาก มาต่อคิวเพื่อรอลงทะเบียน เพจดังกล่าวระบุว่า

เราชนะ” ปิดถนนไปเรียบร้อย กลุ่มชาวบ้าน ผู้ลงทะเบียนเราชนะ ไม่มีสมาร์ทโฟน ( วันที่ 15 ก.พ. 64 ) ที่ธนาคารกรุงไทยประชาชนมาเฝ้ารอหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาปัว เต็มหน้าธนาคาร จนล้นออกมาด้านนอกบริเวณท้องถนนสายหลัก น่าน – ท่าวังผา – ปัว บนทางหลวง 101 
 
ทั้งนี้โครงการ “เราชนะ” เปิดให้ชาวบ้านที่ไม่มีมือถือ Smartphone หรือไม่มีอินเทอร์เน็ต รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในโครงการ “เราชนะ” จำนวน 7,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 25 ก.พ. 64 โดยเปิดจุดบริการพิเศษระหว่างวันที่ 15-25 กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับประชาชน โปรดนำบัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card ที่ยังไม่หมดอายุและมาด้วยตนเองเท่านั้น ไม่สามารถมอบอำนาจ ขอให้ผู้ใช้เส้นทางสัญจรไป – มา บริเวณดังกล่าวโปรดใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวังด้วย”
 
“ทราบข่าวเบื้องต้นธนาคารกรุงไทย สาขา อำเภอปัว จ.น่าน โซนนี้คือต้องให้บริการชาวบ้านในเขต อ.ท่าวังผา อ.สองแคว อ.ปัว ขึ้นไปถึงอ.เชียงกลาง อ.ทุ่งช้าง และอ.เฉลิมพระเกียรติ ประชากรรวมเกือบ 2 แสนคนมาธนาคารกรุงไทย สาขานี้ สาขาเดียวเท่านั้น”

โดยหลังมีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไป มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเข้ามาแสดงความเห็น ทั้งตำหนิ และแนะนำรัฐบาล เช่น

“มันเป็นภาพสะท้อนว่าสังคมยังมีคนที่ยังเข้าถึง อินเทอเน็ตยังมีเยอะเวลารัฐบาลออกนโยบายควรจะตระหนักถึงพวกเขาด้วย….”
 
“ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าชุมชน รวบรวมมาทีเดียวดีกว่าไหม น่าจะดีกว่านะคะ สงสารคะ”

“ไงหล่ะ …. ประเทศไทยยุค 4G ดูสิ ชาวบ้านเขายังไม่มีแม้แต่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนแค่รับกับโทรก็จะแย่แล้วอย่างหวังให้ไปใช้โปรแกรมบนมือถือเล๊ย … เฮ้อ อนาจจริง ๆ ก่อนทำอะไรทำไมไม่คิดถึงหัวอกคนรากหญ้าที่เขาต้องใช้งานจริงๆ สำรวจก่อนไหมว่าเขาจะลำบากเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ ….. และช่วงนี้ชุมนุมแบบนี้อีก บันเทิงจริง ๆ”

https://www.facebook.com/CharmNanToday/posts/3692107067492460
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่