กระแสของฝาแฝดกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงมากในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ใครที่งงหรือยังตามไม่ทัน เรามาสรุปให้ฟังค่ะ สรุปตามที่เราเข้าใจนะคะ ผิดพลาดตรงไหนทักท้วงได้ค่ะ
แรกเริ่มเรื่องเกิดมาจากดายองโพสต์ไอจีสตอรี่ในเชิงต่อว่า/แซะ/เหน็บแนมรุ่นพี่คนนึง โดยที่ไม่ได้มีการระบุชื่อ ข้อความที่โพสต์มีประมาณนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ข่าวเพิ่มเติม: https://m.blog.naver.com/roseess/222230545811
เรื่องเกิดเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ในช่วงที่มีการลงโพสต์ของดายอง มีอยู่แมตช์นึงที่ฮึงกุกพบกับไฮพาส ซึ่งแมตช์นั้นอีแจยองไม่ได้ลงเนื่องจากสโมสรแจ้งว่าอีแจยองกลับมาจากวันหยุดแล้วมีไข้สูง ดายองซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงเลยไม่ให้ลงสนามด้วย (แมตช์นั้นแพ้ให้กับไฮพาสไป 3-0)
เรื่องเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เนติเซนก็จะทำให้มันมีอะไรให้ได้ เมื่อมีคนเก่งแกทเชื่อมโยงโยงไปถึงเหล่าสตอรี่ที่ดายองลงเหน็บแนมรุ่นพี่คนนึงก่อนแข่ง ว่าหรือที่ดายองไม่ได้ลงแข่งในนัดนั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าใกล้ชิดแจยอง แต่เป็นเพราะกำลังมีปัญหากับรุ่นพี่คนดังกล่าว
นอกจากนี้ เนติเซนยังได้ตั้งคำถามถึงเหตุผลต่างๆที่ดายองไม่ได้ลงสนามในวันนั้นว่าทำไมดายองถึงเป็นคนที่มีความเสี่ยงเพียงผู้เดียวในเมื่อทุกคนในทีมก็ฝึกซ้อมด้วยกัน นั่งรถคันเดียวกัน กินข้าวด้วยกัน (นั่นสิ)
ในวันต่อมาผลตรวจโควิดของอีแจยองเป็นลบ แต่ไม่มีการรายงานผลตรวจของอีดายอง นั่นหมายความว่าอีดายองไม่ได้รับการตรวจ (?) ก็ไหนสโมสรบอกว่าอีดายองเป็นผู้มีความเสี่ยงเนื่องจากใช้เวลาด้วยกันกับอีแจยอง เสี่ยง แต่ไม่ตรวจ (?)
เรื่องยิ่งมีมูลเมื่อมีคนออกมาพูดว่าดายองมีปัญหากับรุ่นพี่ในทีมฮึงกุก ใบ้ว่าเป็นระดับสตาร์ แต่ในตอนนั้นยังไม่มีเฉลยว่าเป็นใคร คนจึงเพ่งเล็งไปที่คิมนาฮี/คิมมียอน/พัคซังมี เพราะไม่มีใครคิดว่าจะเป็นคิมยอนคยอง เนติเซนไม่คิดว่ารุ่นน้องคนไหนจะกล้ามีเรื่องกับผู้เล่นระดับคิมยอนคยอง
คนที่โดนข่าวลือหนักสุดคือคิมนาฮี เนื่องจากดายองไม่ได้ฟอลไอจีของคิมนาฮี ซึ่งก็ได้มีแฟนคลับของเธอไดเรคแมสเสจไปหาเธอ และเธอก็ได้ปฏิเสธว่าคนในข่าวลือไม่ใช่เธอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ข่าวเพิ่มเติม: https://m.blog.naver.com/qmffhrmsyd/222187428151
ตลอดเวลาช่วงนั้นเป็นเลคที่ฮึงกุกเริ่มแพ้บ่อยขึ้น อีดายองได้รับข้อความต่อว่าจำนวนมาก รวมถึงการมีปัญหากับรุ่นพี่ในทีม ดายองได้แสดงความรู้สึกผ่าน sns ถึงความเจ็บปวดที่โดนต่อว่ามากมาย โดยเฉพาะข้อความที่ว่า “คนบูลลี่อาจจะสนุก แต่คนถูกบูลลี่อยากตาย”
เรื่องราวเหมือนจะจบลงด้วยดี เมื่อนักข่าวสัมภาษณ์โค้ชพัคมีฮีและกัปตันทีมคิมยอนคยองถึงเรื่องราวปัญหาภายในทีมที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งคู่ก็ยอมรับว่ามีปัญหาจริง แต่ตอนนี้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว และทุกทีมย่อมมีปัญหาภายในทีมอยู่แล้ว แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ทั้งสองคน (ดายองและรุ่นพี่คนนั้น) ก็ตั้งใจฝึกซ้อมเป็นอย่างดีเพื่อผลงานที่ดีของทีม
เรื่องนี้กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เมื่อนิตยสาร The Spike ตีพิมพ์บทความเรื่องปัญหาภายในทีมของฮึงกุกแซงมยอง ระหว่างฝาแฝด อีแจยอง-อีดายอง และ คิมยอนคยอง ซึ่งเป็นการเฉลยครั้งแรกว่ารุ่นพี่คนดังกล่าวไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่ทุกคนคิดไม่ถึงนี่เอง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่ได้มีการเคลียร์กันแล้ว
หลังจากนิตยสารตีพิมพ์ออกไป ก็ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของอีดายอง อย่างที่รู้ๆกัน วัฒนธรรมระบบอาวุโสของเกาหลีค่อนข้างเคร่งครัดมาก การที่ดายองมีปัญหากับรุ่นพี่ โดยเฉพาะเป็นคิมยอนคยองที่เป็นบุคคลขึ้นหิ้งของเกาหลีแล้วนั้น เป็นเรื่องที่พลาดมาก และสิ่งที่ทำให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์มาทางดายอง ก็เป็นเพราะคิมนั้นอยู่เงียบๆ แต่เป็นดายองเองที่เอาเรื่องปัญหาภายในทีมมาโพสต์ลงสตอรี่จนคนขุดคุ้ยและเป็นข่าวขึ้นมา
ไม่รู้ว่า The Spike ตั้งใจหรืออย่างไร ที่ออกข่าวมาในวันก่อนนัดสำคัญ ในวันที่ 5 ก.พ. 63 ฮึงกุกเปิดบ้านพบ GS Caltex แล้วก็เป็นไปตามคาด ฮึงกุกแพ้คาบ้าน 3-0 แต่ละคนเล่นเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว โค้ชพัคมีฮีถึงกับบอกว่านี่เป็นเกมที่แย่ที่สุดของฤดูกาล และอีดายองยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่อง
ในวันที่ 7 ก.พ. เวลา 0.00 น. (คืนวันที่ 6 ก.พ.) มีข่าวรายงานว่าตำรวจพบผู้เล่น A นอนหมดสติอยู่ในห้องน้ำของหอพักนักกีฬาและได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพื่อนร่วมทีมคนแรกที่เจอได้แจ้งว่า “ผู้เล่น A พยายามฆ่าตัวตาย” ซึ่งตลอดระยะเวลาของการรายงานข่าว ทางสโมสรขอให้สื่อไม่เปิดเผยชื่อสโมสรและผู้เล่น แต่สื่อก็ได้ใบ้ว่า ผู้เล่นคนดังกล่าวอายุ 25 ปี เป็นผู้เล่นของสโมสรวอลเลย์บอลหญิงแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองยงอิน เขตซูวอน เป็นผู้เล่นดราฟปี 2014-15 เพิ่งหมดสัญญากับทีมเก่าและย้ายมาที่สโมสรแห่งนี้เป็นปีแรก นอกจากนี้ สื่อสำนักหนึ่งยังได้ติดแฮชแท็ก #이다영 (#อีดายอง) ไว้ด้านล่างของบทความด้วย จึงทำให้ทุกคนเดาไม่ยากว่าผู้เล่น A เป็นใครแม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ
ต่อมาสโมสรซึ่งไม่ประสงค์ออกนามได้ออกมาแถลงการณ์ว่าผู้เล่นคนดังกล่าวไม่ได้พยายามฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพราะปวดท้องจึงต้องนำส่งห้องฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามผู้เล่นคนดังกล่าวปลอดภัยแล้ว และออกจากห้องฉุกเฉินเรียบร้อย หลังจากออกจากโรงพยาบาล ทางสโมสรได้ให้ผู้เล่นคนดังกล่าวกลับไปพักที่บ้านเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ และจะไม่ให้ลงสนามสักพัก
เรื่องราวเหมือนจะทุเลาลง เพราะก็ไม่ได้มีใครอยากให้เกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้ ถึงสโมสรจะบอกว่าปวดท้อง แต่เนติเซนเชื่อในข่าวแรกที่ออกมาจากตำรวจมากกว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์เริ่มเปลี่ยนทิศทาง คิมยอนคยองเริ่มถูกต่อว่ามากขึ้น รวมถึงตั้งคำถามว่าคิมยอนคยองทำอะไรดายองถึงทำแบบนั้น จนเจ้าตัวต้องมาปิดคอมเมนท์ในไอจีตัวเองไป
แต่เรื่องยังไม่จบง่ายๆ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. มีบุคคลปริศนาอ้างว่าตนเป็นเพื่อนสมัยเรียนประถม-มัธยมต้นของฝาแฝด และตนได้ถูกแฝดบูลลี่จนเกือบฆ่าตัวตาย โดยโพสต์รูปใบจบจากโรงเรียนจอนจูกึนยองซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกันกับที่ฝาแฝดเคยเรียน
แปล : เธอไม่คิดบ้างหรอว่าเธอเองก็เคยบูลลี่เด็กม.ต้น? แล้วยังไงล่ะ? คนบูลลี่ไม่รู้ตัวหรอก ตอนนี้เข้าใจหรือยังล่ะ? ฆ่าตัวตายงั้นหรอ? ฉันคิดจะทำบ่อยมาก ฉันถึงมีชีวอตอยู่ด้วยความเจ็บปวดไง ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะเธอไง ตอนที่เธออยู่มัธยม ชีวิตเธอมันสบายเพราะเธออยากได้อะไรเธอก็ได้ใช่ไหม? พวกเราอยู่ด้วยความหวาดกลัวในแต่ละวันก็เพราะจิตใจและพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวของเธอ
แต่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกลบในเวลาต่อมา สื่อได้นำเสนอข่าวเรื่องนี้ อีกทั้งบอกด้วยว่าได้มีการติดต่อไปยังสโมสรต้นสังกัดของทั้งคู่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับ
เรื่องนี้เริ่มถูกพูดถึงเป็นวงกว้างขึ้น ในวันต่อมา (10 ก.พ.) เรื่องยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อบุคคลปริศนาดังกล่าวโพสต์ถึงรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้ง โดยได้มีการลงรูปหมู่กับฝาแฝดเพื่อเป็นหลักฐาน รวมถึงออกมาพูดถึงพฤติกรรมของฝาแฝดที่กระทำต่อตน 21 เรื่อง
แปล : เรื่องราวผ่านมา 10 ปีแล้ว ฉันคิดว่าฉันจะลืมมันได้ แต่ดูเหมือนว่าคนกระทำไม่ได้มองย้อนกลับมาถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำเลย คำพูดของเธอย้ำเตือนความทรงจำเก่าๆของฉัน ฉันจึงรวบรวมความกล้าที่จะเขียนบทความนี้ขึ้นมาและหวังว่าเธอจะมองย้อนกลับมามองตัวเองบ้าง มีเหยื่อมากกว่า 4 รายที่ถูกกระทำเช่นนี้
1. ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อและฝาแฝดได้นอนพักในห้องเดียวกัน หลังจากที่ปิดไฟแล้ว ฝาแฝดได้มีการสั่งให้ทำอะไรต่างๆ เมื่อทุกคนเหนื่อย ก็จะปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แต่เมื่อปฏิเสธบ่อยขึ้น ฝาแฝดก็ได้มีการใช้มีดข่มขู่พวกเขา
2. เนื่องจากสถานการณ์ของครอบครัว ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมีความจำเป็นต้องอยู่หอพักหน้าโรงเรียน ซึ่งพ่อแม่สั่งเอาไว้ว่าไม่ให้พาใครมาที่บ้าน แต่ฝาแฝดกลับพาเพื่อนยกโขยงมากันที่บ้านของเขา และโกหกกับพ่อแม่เขาว่าเขาเป็นคนพาเข้ามาทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนพามาเอง
3. ฝาแฝดเคยพูดว่าให้เขาออกไปไกลๆเพราะกลิ่นตัวเขาน่ารังเกียจ
4. เวลาที่พ่อแม่ของฝาแฝดซื้อขนมมาฝากทีม ฝาแฝดก็จะมากระซิบว่าห้ามกินนะไม่งั้นตายแน่
5. เวลาที่ทีมแพ้ ฝาแฝดจะบังคับให้ทุกคนมาทำท่าสควอทในห้องค้างไว้
6. ฝาแฝดมักจะมาเอาเงินของเขาไป โดยมีการหยิกที่ท้อง และชกเข้าที่ศีรษะเขา
7. ฝาแฝดเอาเงินที่ได้ไปซื้อขนมกินเอง
8. แม้ว่าฝาแฝดจะรู้ว่าเพื่อนๆกลัวตัวเองแค่ไหน ก็จะชอบแกล้งเรียกซ้ำๆ แล้วถามว่า “คิดว่าเรียกทำไม” จากนั้นก็จะหัวเราะเขาว่าพวกเขาล้อเล่น
9. หากแฝดคนใดคนนึงอารมณ์ไม่ดี แฝดมักจะชอบพูดว่า "나와 X(씨)발" (เป็นคำหยาบ)
10. ถ้าฝาแฝดไม่พอใจในสิ่งที่พวกเขาทำ ฝาแฝดจะเรียกพ่อแม่ของพวกเขาด้วยคำที่หยาบคาย
11. ถ้าพวกเขาไม่ขานรับหรือไม่ลุกไปหา ฝาแฝดจะหยิกท้องของพวกเขา ถ้าเขาขอร้องให้หยุด ฝาแฝดก็จะทำจนกว่าเขาจะร้องไห้
12. ถ้าเขาซื้อกางเกงมาใหม่ ฝาแฝดก็จะเอาไปใส่ ถ้าเขาจะใส่หรือไม่ต้องการให้แฝดเอาไป เขาจะเอาไปฝากไว้กับรุ่นพี่ ซึ่งแฝดก็จะบอกให้ไปเอากลับมา
13. ถ้าฝาแฝดไม่อยากกินข้าวเช้า พวกเขาจะเทข้าวของตัวเองลงในถ้วยซุปของเพื่อน ถ้าเพื่อนถอนหายใจเพราะไม่อยากกิน แฝดก็จะใช้ผ้าเช็ดปากตีหน้าเพื่อน
14. เวลามีคนแตะไหล่ของแฝดโดยไม่ได้ตั้งใจตอนอยู่บนรถ แฝดจะทุบกลับอย่างแรงด้วยกำปั้นและชกเข้าที่หน้าอก
15. ตอนซ้อมทีม แฝดจะทุบเพื่อนทุกคนที่ออกเสียงเบาเวลาตบบอล
16. เวลาที่พ่อแม่ของแฝดมาหา แฝดก็จะตัวติดกับพ่อแม่ แต่พอพ่อแม่ของพวกเขามาหาแล้วพวกเขาอยู่แต่กับพ่อแม่บ้าง ก็จะโดนแฝดด่าและทุบตี
17. ฝาแฝดบังคับให้เพื่อนถือสนับเข่าให้ และถ้าเพื่อนลืม แฝดก็จะพูดว่า “ฉันต้องการมันเดี๋ยวนี้ และถ้าเธอหามาให้ไม่ได้ ฉันจะฆ่าเธอ”
18. ฝาแฝดบังคับให้เพื่อนคนใดคนนึงมานวดให้ตัวเองทุกวัน
19. ฝาแฝดมาเอาเงินของพวกเขาไปโดยอ้างว่ารุ่นพี่บอกมา แต่จริงๆรุ่นพี่ไม่ได้สั่งให้ทำ ฝาแฝดใช้รุ่นพี่เป็นข้ออ้างเพื่อที่จะทำแบบนี้ต่อไป
20. ฝาแฝดไม่ให้เขาเข้าไปในห้องล็อคเกอร์ ฝาแฝดพาคนอื่นมาในห้องล็อคเกอร์และทำการเขียนข้อความดูถูกเขาและพ่อแม่ของเขาในสมุดเพื่อเอามาให้เขาดู
21. ฝาแฝดบังคับให้คนอื่นๆทำเรื่องไม่ดีไปด้วยกันจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องไม่ดีเพียงลำพัง
(มีต่อ)
สรุปดราม่าอีแจยอง-อีดายอง
แรกเริ่มเรื่องเกิดมาจากดายองโพสต์ไอจีสตอรี่ในเชิงต่อว่า/แซะ/เหน็บแนมรุ่นพี่คนนึง โดยที่ไม่ได้มีการระบุชื่อ ข้อความที่โพสต์มีประมาณนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องเกิดเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ในช่วงที่มีการลงโพสต์ของดายอง มีอยู่แมตช์นึงที่ฮึงกุกพบกับไฮพาส ซึ่งแมตช์นั้นอีแจยองไม่ได้ลงเนื่องจากสโมสรแจ้งว่าอีแจยองกลับมาจากวันหยุดแล้วมีไข้สูง ดายองซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงเลยไม่ให้ลงสนามด้วย (แมตช์นั้นแพ้ให้กับไฮพาสไป 3-0)
เรื่องเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เนติเซนก็จะทำให้มันมีอะไรให้ได้ เมื่อมีคนเก่งแกทเชื่อมโยงโยงไปถึงเหล่าสตอรี่ที่ดายองลงเหน็บแนมรุ่นพี่คนนึงก่อนแข่ง ว่าหรือที่ดายองไม่ได้ลงแข่งในนัดนั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าใกล้ชิดแจยอง แต่เป็นเพราะกำลังมีปัญหากับรุ่นพี่คนดังกล่าว
นอกจากนี้ เนติเซนยังได้ตั้งคำถามถึงเหตุผลต่างๆที่ดายองไม่ได้ลงสนามในวันนั้นว่าทำไมดายองถึงเป็นคนที่มีความเสี่ยงเพียงผู้เดียวในเมื่อทุกคนในทีมก็ฝึกซ้อมด้วยกัน นั่งรถคันเดียวกัน กินข้าวด้วยกัน (นั่นสิ)
ในวันต่อมาผลตรวจโควิดของอีแจยองเป็นลบ แต่ไม่มีการรายงานผลตรวจของอีดายอง นั่นหมายความว่าอีดายองไม่ได้รับการตรวจ (?) ก็ไหนสโมสรบอกว่าอีดายองเป็นผู้มีความเสี่ยงเนื่องจากใช้เวลาด้วยกันกับอีแจยอง เสี่ยง แต่ไม่ตรวจ (?)
เรื่องยิ่งมีมูลเมื่อมีคนออกมาพูดว่าดายองมีปัญหากับรุ่นพี่ในทีมฮึงกุก ใบ้ว่าเป็นระดับสตาร์ แต่ในตอนนั้นยังไม่มีเฉลยว่าเป็นใคร คนจึงเพ่งเล็งไปที่คิมนาฮี/คิมมียอน/พัคซังมี เพราะไม่มีใครคิดว่าจะเป็นคิมยอนคยอง เนติเซนไม่คิดว่ารุ่นน้องคนไหนจะกล้ามีเรื่องกับผู้เล่นระดับคิมยอนคยอง
คนที่โดนข่าวลือหนักสุดคือคิมนาฮี เนื่องจากดายองไม่ได้ฟอลไอจีของคิมนาฮี ซึ่งก็ได้มีแฟนคลับของเธอไดเรคแมสเสจไปหาเธอ และเธอก็ได้ปฏิเสธว่าคนในข่าวลือไม่ใช่เธอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตลอดเวลาช่วงนั้นเป็นเลคที่ฮึงกุกเริ่มแพ้บ่อยขึ้น อีดายองได้รับข้อความต่อว่าจำนวนมาก รวมถึงการมีปัญหากับรุ่นพี่ในทีม ดายองได้แสดงความรู้สึกผ่าน sns ถึงความเจ็บปวดที่โดนต่อว่ามากมาย โดยเฉพาะข้อความที่ว่า “คนบูลลี่อาจจะสนุก แต่คนถูกบูลลี่อยากตาย”
เรื่องราวเหมือนจะจบลงด้วยดี เมื่อนักข่าวสัมภาษณ์โค้ชพัคมีฮีและกัปตันทีมคิมยอนคยองถึงเรื่องราวปัญหาภายในทีมที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งคู่ก็ยอมรับว่ามีปัญหาจริง แต่ตอนนี้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว และทุกทีมย่อมมีปัญหาภายในทีมอยู่แล้ว แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ทั้งสองคน (ดายองและรุ่นพี่คนนั้น) ก็ตั้งใจฝึกซ้อมเป็นอย่างดีเพื่อผลงานที่ดีของทีม
เรื่องนี้กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เมื่อนิตยสาร The Spike ตีพิมพ์บทความเรื่องปัญหาภายในทีมของฮึงกุกแซงมยอง ระหว่างฝาแฝด อีแจยอง-อีดายอง และ คิมยอนคยอง ซึ่งเป็นการเฉลยครั้งแรกว่ารุ่นพี่คนดังกล่าวไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่ทุกคนคิดไม่ถึงนี่เอง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่ได้มีการเคลียร์กันแล้ว
หลังจากนิตยสารตีพิมพ์ออกไป ก็ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของอีดายอง อย่างที่รู้ๆกัน วัฒนธรรมระบบอาวุโสของเกาหลีค่อนข้างเคร่งครัดมาก การที่ดายองมีปัญหากับรุ่นพี่ โดยเฉพาะเป็นคิมยอนคยองที่เป็นบุคคลขึ้นหิ้งของเกาหลีแล้วนั้น เป็นเรื่องที่พลาดมาก และสิ่งที่ทำให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์มาทางดายอง ก็เป็นเพราะคิมนั้นอยู่เงียบๆ แต่เป็นดายองเองที่เอาเรื่องปัญหาภายในทีมมาโพสต์ลงสตอรี่จนคนขุดคุ้ยและเป็นข่าวขึ้นมา
ไม่รู้ว่า The Spike ตั้งใจหรืออย่างไร ที่ออกข่าวมาในวันก่อนนัดสำคัญ ในวันที่ 5 ก.พ. 63 ฮึงกุกเปิดบ้านพบ GS Caltex แล้วก็เป็นไปตามคาด ฮึงกุกแพ้คาบ้าน 3-0 แต่ละคนเล่นเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว โค้ชพัคมีฮีถึงกับบอกว่านี่เป็นเกมที่แย่ที่สุดของฤดูกาล และอีดายองยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่อง
ในวันที่ 7 ก.พ. เวลา 0.00 น. (คืนวันที่ 6 ก.พ.) มีข่าวรายงานว่าตำรวจพบผู้เล่น A นอนหมดสติอยู่ในห้องน้ำของหอพักนักกีฬาและได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เพื่อนร่วมทีมคนแรกที่เจอได้แจ้งว่า “ผู้เล่น A พยายามฆ่าตัวตาย” ซึ่งตลอดระยะเวลาของการรายงานข่าว ทางสโมสรขอให้สื่อไม่เปิดเผยชื่อสโมสรและผู้เล่น แต่สื่อก็ได้ใบ้ว่า ผู้เล่นคนดังกล่าวอายุ 25 ปี เป็นผู้เล่นของสโมสรวอลเลย์บอลหญิงแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองยงอิน เขตซูวอน เป็นผู้เล่นดราฟปี 2014-15 เพิ่งหมดสัญญากับทีมเก่าและย้ายมาที่สโมสรแห่งนี้เป็นปีแรก นอกจากนี้ สื่อสำนักหนึ่งยังได้ติดแฮชแท็ก #이다영 (#อีดายอง) ไว้ด้านล่างของบทความด้วย จึงทำให้ทุกคนเดาไม่ยากว่าผู้เล่น A เป็นใครแม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ
ต่อมาสโมสรซึ่งไม่ประสงค์ออกนามได้ออกมาแถลงการณ์ว่าผู้เล่นคนดังกล่าวไม่ได้พยายามฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพราะปวดท้องจึงต้องนำส่งห้องฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามผู้เล่นคนดังกล่าวปลอดภัยแล้ว และออกจากห้องฉุกเฉินเรียบร้อย หลังจากออกจากโรงพยาบาล ทางสโมสรได้ให้ผู้เล่นคนดังกล่าวกลับไปพักที่บ้านเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ และจะไม่ให้ลงสนามสักพัก
เรื่องราวเหมือนจะทุเลาลง เพราะก็ไม่ได้มีใครอยากให้เกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้ ถึงสโมสรจะบอกว่าปวดท้อง แต่เนติเซนเชื่อในข่าวแรกที่ออกมาจากตำรวจมากกว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์เริ่มเปลี่ยนทิศทาง คิมยอนคยองเริ่มถูกต่อว่ามากขึ้น รวมถึงตั้งคำถามว่าคิมยอนคยองทำอะไรดายองถึงทำแบบนั้น จนเจ้าตัวต้องมาปิดคอมเมนท์ในไอจีตัวเองไป
แต่เรื่องยังไม่จบง่ายๆ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. มีบุคคลปริศนาอ้างว่าตนเป็นเพื่อนสมัยเรียนประถม-มัธยมต้นของฝาแฝด และตนได้ถูกแฝดบูลลี่จนเกือบฆ่าตัวตาย โดยโพสต์รูปใบจบจากโรงเรียนจอนจูกึนยองซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกันกับที่ฝาแฝดเคยเรียน
แปล : เธอไม่คิดบ้างหรอว่าเธอเองก็เคยบูลลี่เด็กม.ต้น? แล้วยังไงล่ะ? คนบูลลี่ไม่รู้ตัวหรอก ตอนนี้เข้าใจหรือยังล่ะ? ฆ่าตัวตายงั้นหรอ? ฉันคิดจะทำบ่อยมาก ฉันถึงมีชีวอตอยู่ด้วยความเจ็บปวดไง ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะเธอไง ตอนที่เธออยู่มัธยม ชีวิตเธอมันสบายเพราะเธออยากได้อะไรเธอก็ได้ใช่ไหม? พวกเราอยู่ด้วยความหวาดกลัวในแต่ละวันก็เพราะจิตใจและพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวของเธอ
แต่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกลบในเวลาต่อมา สื่อได้นำเสนอข่าวเรื่องนี้ อีกทั้งบอกด้วยว่าได้มีการติดต่อไปยังสโมสรต้นสังกัดของทั้งคู่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับ
เรื่องนี้เริ่มถูกพูดถึงเป็นวงกว้างขึ้น ในวันต่อมา (10 ก.พ.) เรื่องยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อบุคคลปริศนาดังกล่าวโพสต์ถึงรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้ง โดยได้มีการลงรูปหมู่กับฝาแฝดเพื่อเป็นหลักฐาน รวมถึงออกมาพูดถึงพฤติกรรมของฝาแฝดที่กระทำต่อตน 21 เรื่อง
แปล : เรื่องราวผ่านมา 10 ปีแล้ว ฉันคิดว่าฉันจะลืมมันได้ แต่ดูเหมือนว่าคนกระทำไม่ได้มองย้อนกลับมาถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำเลย คำพูดของเธอย้ำเตือนความทรงจำเก่าๆของฉัน ฉันจึงรวบรวมความกล้าที่จะเขียนบทความนี้ขึ้นมาและหวังว่าเธอจะมองย้อนกลับมามองตัวเองบ้าง มีเหยื่อมากกว่า 4 รายที่ถูกกระทำเช่นนี้
1. ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อและฝาแฝดได้นอนพักในห้องเดียวกัน หลังจากที่ปิดไฟแล้ว ฝาแฝดได้มีการสั่งให้ทำอะไรต่างๆ เมื่อทุกคนเหนื่อย ก็จะปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แต่เมื่อปฏิเสธบ่อยขึ้น ฝาแฝดก็ได้มีการใช้มีดข่มขู่พวกเขา
2. เนื่องจากสถานการณ์ของครอบครัว ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมีความจำเป็นต้องอยู่หอพักหน้าโรงเรียน ซึ่งพ่อแม่สั่งเอาไว้ว่าไม่ให้พาใครมาที่บ้าน แต่ฝาแฝดกลับพาเพื่อนยกโขยงมากันที่บ้านของเขา และโกหกกับพ่อแม่เขาว่าเขาเป็นคนพาเข้ามาทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนพามาเอง
3. ฝาแฝดเคยพูดว่าให้เขาออกไปไกลๆเพราะกลิ่นตัวเขาน่ารังเกียจ
4. เวลาที่พ่อแม่ของฝาแฝดซื้อขนมมาฝากทีม ฝาแฝดก็จะมากระซิบว่าห้ามกินนะไม่งั้นตายแน่
5. เวลาที่ทีมแพ้ ฝาแฝดจะบังคับให้ทุกคนมาทำท่าสควอทในห้องค้างไว้
6. ฝาแฝดมักจะมาเอาเงินของเขาไป โดยมีการหยิกที่ท้อง และชกเข้าที่ศีรษะเขา
7. ฝาแฝดเอาเงินที่ได้ไปซื้อขนมกินเอง
8. แม้ว่าฝาแฝดจะรู้ว่าเพื่อนๆกลัวตัวเองแค่ไหน ก็จะชอบแกล้งเรียกซ้ำๆ แล้วถามว่า “คิดว่าเรียกทำไม” จากนั้นก็จะหัวเราะเขาว่าพวกเขาล้อเล่น
9. หากแฝดคนใดคนนึงอารมณ์ไม่ดี แฝดมักจะชอบพูดว่า "나와 X(씨)발" (เป็นคำหยาบ)
10. ถ้าฝาแฝดไม่พอใจในสิ่งที่พวกเขาทำ ฝาแฝดจะเรียกพ่อแม่ของพวกเขาด้วยคำที่หยาบคาย
11. ถ้าพวกเขาไม่ขานรับหรือไม่ลุกไปหา ฝาแฝดจะหยิกท้องของพวกเขา ถ้าเขาขอร้องให้หยุด ฝาแฝดก็จะทำจนกว่าเขาจะร้องไห้
12. ถ้าเขาซื้อกางเกงมาใหม่ ฝาแฝดก็จะเอาไปใส่ ถ้าเขาจะใส่หรือไม่ต้องการให้แฝดเอาไป เขาจะเอาไปฝากไว้กับรุ่นพี่ ซึ่งแฝดก็จะบอกให้ไปเอากลับมา
13. ถ้าฝาแฝดไม่อยากกินข้าวเช้า พวกเขาจะเทข้าวของตัวเองลงในถ้วยซุปของเพื่อน ถ้าเพื่อนถอนหายใจเพราะไม่อยากกิน แฝดก็จะใช้ผ้าเช็ดปากตีหน้าเพื่อน
14. เวลามีคนแตะไหล่ของแฝดโดยไม่ได้ตั้งใจตอนอยู่บนรถ แฝดจะทุบกลับอย่างแรงด้วยกำปั้นและชกเข้าที่หน้าอก
15. ตอนซ้อมทีม แฝดจะทุบเพื่อนทุกคนที่ออกเสียงเบาเวลาตบบอล
16. เวลาที่พ่อแม่ของแฝดมาหา แฝดก็จะตัวติดกับพ่อแม่ แต่พอพ่อแม่ของพวกเขามาหาแล้วพวกเขาอยู่แต่กับพ่อแม่บ้าง ก็จะโดนแฝดด่าและทุบตี
17. ฝาแฝดบังคับให้เพื่อนถือสนับเข่าให้ และถ้าเพื่อนลืม แฝดก็จะพูดว่า “ฉันต้องการมันเดี๋ยวนี้ และถ้าเธอหามาให้ไม่ได้ ฉันจะฆ่าเธอ”
18. ฝาแฝดบังคับให้เพื่อนคนใดคนนึงมานวดให้ตัวเองทุกวัน
19. ฝาแฝดมาเอาเงินของพวกเขาไปโดยอ้างว่ารุ่นพี่บอกมา แต่จริงๆรุ่นพี่ไม่ได้สั่งให้ทำ ฝาแฝดใช้รุ่นพี่เป็นข้ออ้างเพื่อที่จะทำแบบนี้ต่อไป
20. ฝาแฝดไม่ให้เขาเข้าไปในห้องล็อคเกอร์ ฝาแฝดพาคนอื่นมาในห้องล็อคเกอร์และทำการเขียนข้อความดูถูกเขาและพ่อแม่ของเขาในสมุดเพื่อเอามาให้เขาดู
21. ฝาแฝดบังคับให้คนอื่นๆทำเรื่องไม่ดีไปด้วยกันจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องไม่ดีเพียงลำพัง
(มีต่อ)