JJNY : ดุสิตโพลเผยหนุนเปิดบ่อนถูกกม.│เครือข่ายแรงงานฯประณามทัพเมียนมา│ฝ่ายค้านตั้งวอร์รูม│ฮุนเซนลั่นเริ่มฉีดวัคซีน10ก.พ.

สวนดุสิตโพล เผย คนไทยหนุนเปิดบ่อนถูกกฎหมาย ชี้ช่วยรัฐมีรายได้ บางส่วนห่วงมอมเมา ปชช.
https://www.matichon.co.th/local/news_2566460
 
สวนดุสิตโพล เผย คนไทยหนุนเปิดบ่อนถูกกฎหมาย ชี้ช่วยรัฐมีรายได้ บางส่วนห่วงมอมเมา ปชช. ไม่สนใจเล่น
 
จากกรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายครั้งพบว่าบ่อนพนันเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ของการแพร่เชื้อ ทำให้เกิดกระแส วิพากษ์วิจารณ์ในหลากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นควรกวดขันไม่ให้มีบ่อนผิดกฎหมาย หรือควรมีการเปิดบ่อนอย่างถูกกฎหมาย เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน
 
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของ ประชาชนทั่วประเทศ กรณี “การเปิดบ่อนพนัน” จำนวนทั้งสิ้น 1,929 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 27 มกราคม– 5 กุมภาพันธ์2564 สรุปผลได้ ดังนี้
 
1. ประชาชนให้ความสำคัญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากกรณีใดบ้าง
อันดับ 1 การลักลอบเข้าเมืองของแรงงานเถื่อน 92.55%
อันดับ 2 บ่อนการพนันผิดกฎหมาย 86.30%
อันดับ 3 สถานบันเทิง 63.36%
อันดับ 4 ปาร์ตี้สังสรรค์ของดาราคนดัง 61.84%
อันดับ 5 การไปเที่ยวในที่คนพลุกพล่าน 60.58%
 
2. การเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมาย จะช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคระบาดต่าง ๆ ได้หรือไม่
อันดับ 1 ช่วยไม่ได้ 51.63%
อันดับ 2 ช่วยได้ 30.12%
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 18.25%
 
3. “ผลดี-ผลเสีย” ของการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมาย คือ
อันดับ 1 รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี 81.97% 1 เป็นหนี้ คนไม่ทำงาน เป็นภาระให้ครอบครัว 69.22%
อันดับ 2 ลดปัญหาเรื่องการรีดไถ เก็บส่วย มาเฟีย ฯลฯ 62.15% 2 มอมเมาประชาชน 63.27%
อันดับ 3 ควบคุมดูแลได้ง่าย 58.04% 3 เยาวชนเห็นแบบอย่างที่ไม่ดี 61.79%
 
4. ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? หากจะมีการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายในประเทศไทย
อันดับ 1 เห็นด้วย 50.70%
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 36.70%
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 12.60%
 
5. ถ้าประเทศไทยเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมาย ประชาชนสนใจจะไปใช้บริการหรือไม่
อันดับ 1 ไม่สนใจ 83.14%
อันดับ 2 สนใจ 16.86%
 
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า จากกรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามสถานที่ต่าง ๆ ประชาชนให้ความสำคัญกับกรณีการแพร่ระบาดจากการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานเถื่อนมากที่สุด ที่จำนวนร้อยละ 92.55 รองลงมาคือ การแพร่ระบาดจากบ่อนการพนันผิดกฎหมาย ร้อยละ 86.30 นอกจากนี้ ยังมองว่าการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายนั้นไม่ช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ ได้ ที่จำนวนร้อยละ 51.63 และเห็นว่าช่วยได้ ที่ร้อยละ 30.12
 
ด้าน ผลดีของการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมาย คือ ทำให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี ร้อยละ 81.97 ส่วนผลเสียคือ เป็นหนี้ คนไม่ทำงาน เป็นภาระให้ครอบครัว ร้อยละ 69.22 ขณะที่ภาพรวมเห็นด้วยหากจะมีการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายในประเทศไทย ร้อยละ 50.70 แต่ไม่สนใจไปใช้บริการ ร้อยละ 83.14
 
นางสาวพรพรรณ ระบุอีกว่า ประด็นดังกล่าว เป็นกระแสที่ถกเถียงกันในสังคมมาช้านานสำหรับประเด็นการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายในประเทศไทย แม้ผลสำรวจจะเห็นด้วยกับการเปิดบ่อนการพนันอย่างถูกกฎหมาย แต่ก็ต้องมีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบคอบ คำนึงถึงผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน ไม่เช่นนั้นก็อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องตามแก้กันอีกในอนาคต
 
ด้าน ผศ.ดร.ยุธยา อยู่เย็น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากปัญหาการลักลอบเล่นพนันในบ่อนต่าง ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทยนั้น ส่งผลให้สังคมไทยตื่นตัวและเฝ้าจับตามองการรายงานสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเป็นสิ่งที่ยากต่อการตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย เพราะผู้ติดเชื้อมักไม่ให้ความร่วมมือในการเปิดเผยข้อมูลเพราะกลัวความผิด ตลอดจนการตั้งข้อสงสัยต่อประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแล ดังนั้น จึงเป็นที่มาของคำถามเดิมที่ว่า ถึงเวลาหรือยังที่ควรมีการเปิดบ่อนพนันที่ถูกกฎหมายในประเทศไทยเสียที
 
ทั้งนี้ จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพลในประเด็นดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นว่าควรเปิดบ่อนพนันที่ถูกกฎหมาย เนื่องจาก เป็นการสร้างรายได้แก่ประเทศในการจัดเก็บภาษี ลดปัญหาการทุจริต การเก็บส่วย หรือ มาเฟีย ตลอดจนทำให้ควบคุมได้ง่าย
 
แต่อย่างไรก็ตาม ภาครัฐก็ยังคงต้องไขข้อข้องใจแก่ประชาชน ถึงมาตรการในการป้องกันผลกระทบที่จะตามมาภายหลัง อาทิเช่น ปัญหาหนี้สิน การมอมเมาประชาชน ตลอดจนการเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชน เป็นต้น
 

 
เครือข่ายแรงงานฯ ประณาม ‘กองทัพเมียนมา’ ลิดรอนสิทธิ ปิดตาคนในชาติ หลังตัดขาด ‘โซเชียล’
https://www.matichon.co.th/politics/news_2566135
 
เครือข่ายแรงงานฯ ประณาม ‘กองทัพเมียนมา’ ลิดรอนสิทธิ ปิดตาคนในชาติ หลังตัดขาด ‘โซเชียล’-‘สุชาติ-โตโต้’ หวั่น สลายชุมนุม
 
สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมและการสื่อสารมวลชนของพม่า มีคำสั่งให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต ในประเทศ บล็อกทวิตเตอร์และอินสตาแกรม จากการบอกกล่าวของเทเลนอร์ บริษัทสื่อสารสัญชาตินอร์เวย์ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศ นั้น
อ่านข่าว : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2565184
 
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ “เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน” ได้โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจ ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
 
สาเหตุที่ทวิตเตอร์ล่มนั้น เป็นผลกระทบจากกองทัพเมียนมาพยายามแทรกแทรงไม่ให้คนในประเทศเข้าถึงโซเชียลได้ และในขณะนี้ ชาวเมียนมาไม่สามารถเข้าถึงโซเชียลต่างๆ ได้ นี่เป็นการปิดหูปิดตาและปิดเสียงประชาชนโดยแท้!
 
เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ขอประณามการกระทำดังกล่าวของกองทัพอันเป็นการริดรอนสิทธิและเสรีภาพของชาวเมียนมา และขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องเมียนมา พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาธิปไตยจงกลับมาโดยเร็ว 🕊
 
#StandWithMyanmar #ต่อต้านรัฐประหาร
#เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน

ด้าน นายปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้ากลุ่มการ์ดอาสา we volunteer หรือ วีโว่ ก็ได้แสดงความเห็นถึงกรณีนี้ โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Piyarat Chongthep ระบุว่า

จับตาสถานการณ์ที่เมียนมาร์ น่าห่วง ผมทราบว่าหลายพื้นที่เริ่มตัดสัญญาณ อินเตอร์เน็ตแล้ว ไม่ใช่แค่ปิดการเข้าถึงเว็บไซต์ และอาจจะตามมาด้วยการสลายการชุมนุม เนื่องจากหลายพื้นที่ในเมืองใหญ่มี ประชาชนนับพันออกมาประท้วง
#StandWithMyanmar

ไปจนถึง นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ที่ร่วมโพสต์ข้อความด้วยว่า 

ข่าวกรอง การสั่งตัด “อินเตอร์เน็ต” ของ มิน อ่อง หล่าย ทำให้มีข่าวหลายกระแสบอกว่า ทหารพม่าอาจใช้วิธีรุนแรงในการสลายการชุมนุม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่