ขออนุญาตเกริ่นเรื่องก่อนเลย..
ครอบครัวเราเมื่อ 10 ปีก่อนเคยมีฐานะที่ดีมากดีมากๆเลยแหละ จนไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้น...
ครอบครัวเราทำธุรกิจขายของเอาง่ายๆก็เป็นแม่ค้า พ่อค้าแหละ ขายได้กำไรดีมาตลอด แต่ครอบครัวเราส่งเสียเราถึงแค่มอปลายเราก็เข้าใจว่าเค้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเรียนของลูกเท่าไหร่เราก็เลยใช้วิธีสอบชิงทุนเพราะเราอยากเรียนจบปริญญาตรีแบบเพื่อน ตลอดเวลาที่เรียนตั้งแต่ช่วงมหาวิทยาลัย ที่บ้านไม่เคยส่งเสียค่าเทอมมีแต่ส่งค่ากินให้อาทิตย์ละ 500 บ้าง 1000 บาทบ้าง แต่ที่เราอยู่รอดมาได้เพราะว่าสาขาที่เราเรียนเป็นทวิภาคี ทำงานด้วยเรียนไปด้วยซึ่งเงินที่ได้จากการทำงานก็ยังพอใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นไปในเดือนได้ จนเราเรียนจบปริญญาตรีด้วยตัวเอง..
แต่เราไม่เคยน้อยใจนะว่าครอบครัวไม่เคยส่งเสียเล่าเรียนเพราะเราคิดว่าเราภูมิใจอ่ะ ตอนที่เราเรียนจบพ่อแม่ได้มาถ่ายรูปด้วยกัน..
จนเราเรียนจบ เราก็มีงานประจำทำ และเราแยกออกมาอยู่คนละบ้านกับเขา มาอยู่กับแฟน ซึ่งเรากับแฟนก็ช่วยเหลือกันมาตลอด ไม่มีก็อด มีก็กิน ไม่เคยร้องขอจากทางบ้านเราเลย มีแต่ทางบ้านแฟนที่ช่วยเหลือมาตลอดเพราะทางบ้านแฟนค่อนข้างมีฐานะ
ช่วงที่ครอบครัวเราทำกิจการขายของเราไม่เคยไปยุ่งไปสอบถามว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะเงินที่เค้าหากันได้เราไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว แถมเรายังมีน้องอีกสองคนคนรองกำลังเรียนอยู่มหาลัย คนเล็กเพิ่งจะอายุได้แค่ 6 ขวบ
จนวันหนึ่งเหตุการณ์เมื่อกลางปี 63 อยู่ๆสถานการณ์ที่บ้านก็แย่ลง เมื่อมีเจ้าหนี้มากหน้าหลายตามาทวงเงินถึงหน้าบ้านรวมๆแล้วเป็นเงินหลักหลาย 100,000 บาท จนทำให้แม่ไม่สามารถไปขายของที่ตลาดได้ เรากับแฟนเลยตัดสินใจเข้าไปบริหารธุรกิจต่อโดยเอาเงินของตัวเองไปลงทุน เพราะไม่อยากให้ตลาดนี้และธุรกิจนี้ตกไปอยู่ในมือคนอื่นที่จะต้องมาขายแทน คิดว่าอย่างน้อย เราก็ได้สืบต่อกิจการของที่บ้านไว้
ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีเจ้าหนี้มาทวง พ่อกับแม่ทะเลาะกันระหองระแหงเรื่องนี่เพราะพ่อก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันว่าที่มาที่ไปของเงินไปไหนหมดทำไมอยู่อยู่ก็ติดหนี้ จึงทำให้พ่อกับแม่แยกทางกัน..และเราก็ขอให้พ่อเข้ามาช่วยสอนค้าขายกิจการตรงนี้ โดยขอเครดิตการซื้อของและยังจ่ายค่าแรงให้พ่อได้กินได้ใช้อีกด้วย
ช่วงที่ไปขายแทนแม่แรกๆ เรายังทำงานประจำอยู่ เราเลยไม่ได้ไปขายด้วย (แฟนไปขายกับพ่อ) เราสงสารแฟนเรามาก โดนเจ้าหนี้วันละไม่ต่ำกว่า 5 เจ้า มาทวงตังค์ถึงหน้าแผง ทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องเลย โดนพ่อค้า แม่ค้าแถวนั้นทวงเงินไม่เว้นแต่ละวัน จนแฟนเรากลับบ้านมาร้องไห้ทุกวัน เราก็บอกได้แค่ว่า ให้อดทนนะ เค้าขอโทษนะ ที่ทำให้เป็นแบบนี้ ถ้าไม่ไหว เราไม่ต้องทำก็ได้นะ แต่แฟนก็อยากจะทำ เพราะไม่อยากให้ตลาดหลุดไป และไม่อยากให้เสียฐานลูกค้าเดิม
ซึ่งก็ไม่ใช่แฟนเราปะ ที่ต้องมาขายของแล้ว จ่ายหนี้แทน เพราะแฟนเราก็ไม่รู้ที่มาที่ไปของเงินเลย..
แต่เนื่องจากแม่ที่แยกออกไป แม่ไม่มีเงินเหลือเลย แม่ใช้เงินที่มีทุกบาทจ่ายหนี้หมด (แต่หนี้ก็ยังไม่หมด) แม่ติดหนี้ทั้งธนาคาร ทั้งหนี้นอกระบบ ไหนจะบ้านที่ต้องเช่าอยู่ก่อนที่แม่จะหนีเอาตัวรอดแล้วหายไป ที่บ้านเช่าติดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าบ้านรวมเบ็ดเสร็จประมาณเกือบ 15,000 บาท (น้องคนรองเอาเงินเก็บมาช่วยจ่าย 5,500) ซึ่งเราต้องใช้เงินที่ได้จากงานประจำไปปิดยอดบ้านเช่าหลังนี้ ทั้งๆที่เราไม่ได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรถือว่าช่วยครอบครัว..
แล้วช่วงพีคคือ ตอนนี้เราท้องได้ประมาณ 7เดือนคือเหนื่อยมากเครียดมาก ทำไมที่บ้านถึงเป็นแบบนี้..
(ปล.อย่าถามว่าทำไมไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เพราะที่บ้านขายของมา 20 ปี เพิ่งมารู้ตอนติดหนี้นี่แหละว่าเงินเก็บที่บ้านไม่มีเลย)
แล้วที่เครียดสุด คือ ตอนนี้แม่ไม่มีตังค์ ดูเหมือนแม่อยากได้เงินค่าเซ้งตลาดที่เราเข้าไปขายแทน จนทำให้ไปหาเรื่องทะเลาะกับพ่อ ส่วนพ่อก็อยากให้ตลาดนี้กลายเป็นตลาดของอาซึ่งเป็นน้องสาวของเค้า เรากลัวมากกลัวว่าเค้าจะไปคุยกันลับหลัง แอบเซ้งตลาดกันลับหลัง ด้วยความที่ต่างคนต่างอยากได้ตังค์ แล้วสุดท้ายที่เราเข้าไปขายแทนเราจะโดนถีบหัวส่ง เพราะตอนนี้เราขายมาได้ประมาณ2-3 เดือนแล้วเหมือนอะไรๆเริ่มลงตัวแล้ว บวกกับที่เราท้องใกล้คลอด เราก็วางแผนว่าจะหาคนมาช่วยแฟนขายถ้าเกิดว่าพ่อจะหยุดพักเพราะพ่อเคยเกริ่นไว้แล้วว่าเค้าเหนื่อยเค้าอยากกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเราก็โอเค ถ้าวันนึงพ่อไปต่างจังหวัดเราจะหาคนมาช่วยแทนให้พ่อได้พักผ่อน..
เราอยากรู้ว่า ตอนนี้ที่เราเข้าไปทำกิจการแทนครอบครัว ทำไมเรายังต้องหาเงินมาเซ้งตลาดด้วย ทั้งๆที่เป็นของคนในครอบครัว
แล้วถ้าเราเซ้งไปแล้ว เราไม่อยากข้องเกี่ยวกับเค้าอีกเราสามารถทำได้ไหม..
เราส่งเสียให้แม่ให้พ่อกินได้ แต่ก็ไม่ได้เยอะเพราะเราก็ต้องสร้างครอบครัว เราบอกให้แม่หางานประจำทำ แม่ก็ไม่ทำยังดิ้นรนหาเงินจ่ายหนี้ไปวันๆ จนเราไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว..
ส่วนพ่อก็ไม่มีเงินเก็บเพราะล้มเหลวจากการให้แม่บริหารเงินในครอบครัว
ส่วนน้องคนรองก็ยังคงใช้ชีวิตปกติ เรียนมหาลัยเอกชนโดยการกู้ กยศ. และยังคงวนเวียนขอตังค์พ่อและแม่ ทั้งๆที่เค้าก็ไม่มีตังค์ แล้วหน้าที่รับผิดชอบของทุกคนในบ้านตอนนี้คือเราใช่ไหม?
#เราเหนื่อยมาก
ควรไปต่อ หรือควรจะพอ กับครอบครัวแบบนี้ดี?? หรือเป็นเราที่เห็นแก่ตัว??
ครอบครัวเราเมื่อ 10 ปีก่อนเคยมีฐานะที่ดีมากดีมากๆเลยแหละ จนไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้น...
ครอบครัวเราทำธุรกิจขายของเอาง่ายๆก็เป็นแม่ค้า พ่อค้าแหละ ขายได้กำไรดีมาตลอด แต่ครอบครัวเราส่งเสียเราถึงแค่มอปลายเราก็เข้าใจว่าเค้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเรียนของลูกเท่าไหร่เราก็เลยใช้วิธีสอบชิงทุนเพราะเราอยากเรียนจบปริญญาตรีแบบเพื่อน ตลอดเวลาที่เรียนตั้งแต่ช่วงมหาวิทยาลัย ที่บ้านไม่เคยส่งเสียค่าเทอมมีแต่ส่งค่ากินให้อาทิตย์ละ 500 บ้าง 1000 บาทบ้าง แต่ที่เราอยู่รอดมาได้เพราะว่าสาขาที่เราเรียนเป็นทวิภาคี ทำงานด้วยเรียนไปด้วยซึ่งเงินที่ได้จากการทำงานก็ยังพอใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นไปในเดือนได้ จนเราเรียนจบปริญญาตรีด้วยตัวเอง..
แต่เราไม่เคยน้อยใจนะว่าครอบครัวไม่เคยส่งเสียเล่าเรียนเพราะเราคิดว่าเราภูมิใจอ่ะ ตอนที่เราเรียนจบพ่อแม่ได้มาถ่ายรูปด้วยกัน..
จนเราเรียนจบ เราก็มีงานประจำทำ และเราแยกออกมาอยู่คนละบ้านกับเขา มาอยู่กับแฟน ซึ่งเรากับแฟนก็ช่วยเหลือกันมาตลอด ไม่มีก็อด มีก็กิน ไม่เคยร้องขอจากทางบ้านเราเลย มีแต่ทางบ้านแฟนที่ช่วยเหลือมาตลอดเพราะทางบ้านแฟนค่อนข้างมีฐานะ
ช่วงที่ครอบครัวเราทำกิจการขายของเราไม่เคยไปยุ่งไปสอบถามว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะเงินที่เค้าหากันได้เราไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว แถมเรายังมีน้องอีกสองคนคนรองกำลังเรียนอยู่มหาลัย คนเล็กเพิ่งจะอายุได้แค่ 6 ขวบ
จนวันหนึ่งเหตุการณ์เมื่อกลางปี 63 อยู่ๆสถานการณ์ที่บ้านก็แย่ลง เมื่อมีเจ้าหนี้มากหน้าหลายตามาทวงเงินถึงหน้าบ้านรวมๆแล้วเป็นเงินหลักหลาย 100,000 บาท จนทำให้แม่ไม่สามารถไปขายของที่ตลาดได้ เรากับแฟนเลยตัดสินใจเข้าไปบริหารธุรกิจต่อโดยเอาเงินของตัวเองไปลงทุน เพราะไม่อยากให้ตลาดนี้และธุรกิจนี้ตกไปอยู่ในมือคนอื่นที่จะต้องมาขายแทน คิดว่าอย่างน้อย เราก็ได้สืบต่อกิจการของที่บ้านไว้
ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีเจ้าหนี้มาทวง พ่อกับแม่ทะเลาะกันระหองระแหงเรื่องนี่เพราะพ่อก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันว่าที่มาที่ไปของเงินไปไหนหมดทำไมอยู่อยู่ก็ติดหนี้ จึงทำให้พ่อกับแม่แยกทางกัน..และเราก็ขอให้พ่อเข้ามาช่วยสอนค้าขายกิจการตรงนี้ โดยขอเครดิตการซื้อของและยังจ่ายค่าแรงให้พ่อได้กินได้ใช้อีกด้วย
ช่วงที่ไปขายแทนแม่แรกๆ เรายังทำงานประจำอยู่ เราเลยไม่ได้ไปขายด้วย (แฟนไปขายกับพ่อ) เราสงสารแฟนเรามาก โดนเจ้าหนี้วันละไม่ต่ำกว่า 5 เจ้า มาทวงตังค์ถึงหน้าแผง ทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องเลย โดนพ่อค้า แม่ค้าแถวนั้นทวงเงินไม่เว้นแต่ละวัน จนแฟนเรากลับบ้านมาร้องไห้ทุกวัน เราก็บอกได้แค่ว่า ให้อดทนนะ เค้าขอโทษนะ ที่ทำให้เป็นแบบนี้ ถ้าไม่ไหว เราไม่ต้องทำก็ได้นะ แต่แฟนก็อยากจะทำ เพราะไม่อยากให้ตลาดหลุดไป และไม่อยากให้เสียฐานลูกค้าเดิม
ซึ่งก็ไม่ใช่แฟนเราปะ ที่ต้องมาขายของแล้ว จ่ายหนี้แทน เพราะแฟนเราก็ไม่รู้ที่มาที่ไปของเงินเลย..
แต่เนื่องจากแม่ที่แยกออกไป แม่ไม่มีเงินเหลือเลย แม่ใช้เงินที่มีทุกบาทจ่ายหนี้หมด (แต่หนี้ก็ยังไม่หมด) แม่ติดหนี้ทั้งธนาคาร ทั้งหนี้นอกระบบ ไหนจะบ้านที่ต้องเช่าอยู่ก่อนที่แม่จะหนีเอาตัวรอดแล้วหายไป ที่บ้านเช่าติดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าบ้านรวมเบ็ดเสร็จประมาณเกือบ 15,000 บาท (น้องคนรองเอาเงินเก็บมาช่วยจ่าย 5,500) ซึ่งเราต้องใช้เงินที่ได้จากงานประจำไปปิดยอดบ้านเช่าหลังนี้ ทั้งๆที่เราไม่ได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรถือว่าช่วยครอบครัว..
แล้วช่วงพีคคือ ตอนนี้เราท้องได้ประมาณ 7เดือนคือเหนื่อยมากเครียดมาก ทำไมที่บ้านถึงเป็นแบบนี้..
(ปล.อย่าถามว่าทำไมไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เพราะที่บ้านขายของมา 20 ปี เพิ่งมารู้ตอนติดหนี้นี่แหละว่าเงินเก็บที่บ้านไม่มีเลย)
แล้วที่เครียดสุด คือ ตอนนี้แม่ไม่มีตังค์ ดูเหมือนแม่อยากได้เงินค่าเซ้งตลาดที่เราเข้าไปขายแทน จนทำให้ไปหาเรื่องทะเลาะกับพ่อ ส่วนพ่อก็อยากให้ตลาดนี้กลายเป็นตลาดของอาซึ่งเป็นน้องสาวของเค้า เรากลัวมากกลัวว่าเค้าจะไปคุยกันลับหลัง แอบเซ้งตลาดกันลับหลัง ด้วยความที่ต่างคนต่างอยากได้ตังค์ แล้วสุดท้ายที่เราเข้าไปขายแทนเราจะโดนถีบหัวส่ง เพราะตอนนี้เราขายมาได้ประมาณ2-3 เดือนแล้วเหมือนอะไรๆเริ่มลงตัวแล้ว บวกกับที่เราท้องใกล้คลอด เราก็วางแผนว่าจะหาคนมาช่วยแฟนขายถ้าเกิดว่าพ่อจะหยุดพักเพราะพ่อเคยเกริ่นไว้แล้วว่าเค้าเหนื่อยเค้าอยากกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเราก็โอเค ถ้าวันนึงพ่อไปต่างจังหวัดเราจะหาคนมาช่วยแทนให้พ่อได้พักผ่อน..
เราอยากรู้ว่า ตอนนี้ที่เราเข้าไปทำกิจการแทนครอบครัว ทำไมเรายังต้องหาเงินมาเซ้งตลาดด้วย ทั้งๆที่เป็นของคนในครอบครัว
แล้วถ้าเราเซ้งไปแล้ว เราไม่อยากข้องเกี่ยวกับเค้าอีกเราสามารถทำได้ไหม..
เราส่งเสียให้แม่ให้พ่อกินได้ แต่ก็ไม่ได้เยอะเพราะเราก็ต้องสร้างครอบครัว เราบอกให้แม่หางานประจำทำ แม่ก็ไม่ทำยังดิ้นรนหาเงินจ่ายหนี้ไปวันๆ จนเราไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว..
ส่วนพ่อก็ไม่มีเงินเก็บเพราะล้มเหลวจากการให้แม่บริหารเงินในครอบครัว
ส่วนน้องคนรองก็ยังคงใช้ชีวิตปกติ เรียนมหาลัยเอกชนโดยการกู้ กยศ. และยังคงวนเวียนขอตังค์พ่อและแม่ ทั้งๆที่เค้าก็ไม่มีตังค์ แล้วหน้าที่รับผิดชอบของทุกคนในบ้านตอนนี้คือเราใช่ไหม?
#เราเหนื่อยมาก