เราอายุ 30 แล้ว ตอนนี้เงินเดือน 35k อยู่คนเดียว และวางแผนว่าจะอยู่คนเดียวไปเรื่อยเรื่อย จนเกษียณ แต่ยังไม่มีเงินเก็บเลย ทรัพย์สินที่ซื้อมาเช่น รถ บ้าน ก็ให้พ่อแม่หมด
ตั้งแต่จบมาพอเรามีเงินเดือนแม่ก็อยากได้รถยนต์ แต่ไม่มีเครดิตเลยขอยืมชื่อเราในการซื้อก่อนแล้วจะผ่อนเองแต่ก็ผ่อนไม่ได้เพราะไม่มีรายได้และต้องเป็นเราที่เป็นคนผ่อน แต่รถก็เอาไว้ที่บ้านให้พ่อกับแม่ขับ
พอทำงานไปได้สักพักแม่ก็ขอให้เราโอนบ้านที่ครอบครัวเราอยู่ (ซึ่งเราไม่ได้อยู่บ้านมาเกือบ 10 ปีแล้วเพราะมาทำงานต่างจังหวัด) มาเป็นชื่อเราเพราะเมื่อก่อนแม่เราเอาบ้านไปจำนองแล้ว จ่ายไม่ไหวและบ้านอาจโดนยึด เลยเจรจากับทางธนาคารเปลี่ยนชื่อบ้านเป็นของญาติ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นชื่อเราแล้วและต้องรับภาระในการผ่อนบ้านอีก 40 ปี
เงินแต่ละเดือนที่เราหามาได้เราต้องแบ่งไปใช้หนี้สินหลักๆ ทั้งบ้าน รถ และหนี้ กยศ เพิ่มเติมคือค่าประกันชีวิตพ่อแม่ รวมๆ แล้วเดือนนึงตก 20,000
แม่เราเป็นคนใจดีเวลาใครมาขอให้ช่วยเหลือ ก็ช่วย มีงานอะไรถ้าใส่ซองก็อย่างน้อย 300 ละ อีกอย่างพ่อเราเป็นผู้นำชุมชน ช่วงเทศกาลแต่ละทีก็มีแต่ซองมาเพียบ
มาเดือนนี้พ่อเราต้องลงเลือกตั้งและต้องใช้เงินแต่ที่บ้านไม่ได้มีอาชีพอะไรแม่เราไม่มีเงินสำหรับเลือกตั้งเลยโทรมาถามเราขอให้เรามอบอำนาจให้เอารถไปรีไฟแนนซ์ เพื่อจะเอาเงินมาลงแข่งเลือกตั้งในหมู่บ้าน
และเรื่องนี้ทำให้เราทะเลาะกับแม่ใหญ่โตแทบไม่อยากจะคุยด้วยเลย
รถเราเพิ่งผ่อนหมดไปไม่กี่เดือน เรารู้สึกโล่งมากที่อย่างน้อยหนี้สินที่เรามีอยู่มันหมดไปแล้วส่วนนึงแต่จู่ๆ แม่เราก็ขอให้เอาไปเข้าไฟแนนซ์ใหม่เพื่อเอาเงินส่วนนี้ไปให้คนอื่น เราไม่โอเคมากๆ
ทุกเดือนทุกเดือนเราแพลนไว้แล้วว่าเราจะส่งที่บ้านเท่าไหร่เราจะเอาเงินไปใช้อะไรบ้างแต่ที่บ้านเราแทบไม่ได้ทำตามแผนเลย ต้องมีขอฉุกเฉินตลอด ซึ่งมันทำให้เราจัดการการเงินของเราได้ยากบางครั้งเราก็อยากออกไปเที่ยวอยากใช้เงินที่เราหาเองบ้างแต่สุดท้ายก็ต้องเอาไปซับพอร์ททางบ้าน
ไหนจะค่าใช้จ่ายในบ้าน ไหนจะส่งน้องเรียน บางทีพี่เราก็มายืมเงินเพราะไปติดหนี้คนอื่น แล้วเจ้าหนี้มาทวง
เราไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตแบบนี้ หรือว่านี่คือวิบากกรรมของเรา บางทีก็อยากร้องไห้ออกมาดังๆ อยากบอกแม่ว่า การที่แม่บังคับให้เราเป็นหนี้แบบนี้มันไม่ใช่ความหวังดีอย่างที่แม่อ้างการเป็นหนี้ 40 ปีมันไม่ธรรมดา มันเหมือนโดนขังให้ไม่มีอิสรภาพ 40 ปี แม่แก่แล้วแม่ยังมีเราคอยใช้หนี้ให้ แล้วเราล่ะถ้าแก่ไปใครจะช่วยใช้หนี้ เพราะเราตัวคนเดียวเราไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว สุดท้ายหนี้สินทั้งหมดที่แม่เราก่อมันก็ต้องเป็นของเรา
เราเหนื่อย บางทีก็อยากหนีไปคนเดียวทิ้งให้ทุกคนรับผิดชอบกันเอง ใครอยากได้อะไรอยากทำอะไรก็รับผิดชอบกันเองไปเลย ไม่อยากแบกความต้องการใครแล้ว
อายุ 30 แล้ว ไม่มีเงินเก็บเลยเพราะต้องใช้หนี้และซัพพอร์ทให้ทางบ้าน
ตั้งแต่จบมาพอเรามีเงินเดือนแม่ก็อยากได้รถยนต์ แต่ไม่มีเครดิตเลยขอยืมชื่อเราในการซื้อก่อนแล้วจะผ่อนเองแต่ก็ผ่อนไม่ได้เพราะไม่มีรายได้และต้องเป็นเราที่เป็นคนผ่อน แต่รถก็เอาไว้ที่บ้านให้พ่อกับแม่ขับ
พอทำงานไปได้สักพักแม่ก็ขอให้เราโอนบ้านที่ครอบครัวเราอยู่ (ซึ่งเราไม่ได้อยู่บ้านมาเกือบ 10 ปีแล้วเพราะมาทำงานต่างจังหวัด) มาเป็นชื่อเราเพราะเมื่อก่อนแม่เราเอาบ้านไปจำนองแล้ว จ่ายไม่ไหวและบ้านอาจโดนยึด เลยเจรจากับทางธนาคารเปลี่ยนชื่อบ้านเป็นของญาติ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นชื่อเราแล้วและต้องรับภาระในการผ่อนบ้านอีก 40 ปี
เงินแต่ละเดือนที่เราหามาได้เราต้องแบ่งไปใช้หนี้สินหลักๆ ทั้งบ้าน รถ และหนี้ กยศ เพิ่มเติมคือค่าประกันชีวิตพ่อแม่ รวมๆ แล้วเดือนนึงตก 20,000
แม่เราเป็นคนใจดีเวลาใครมาขอให้ช่วยเหลือ ก็ช่วย มีงานอะไรถ้าใส่ซองก็อย่างน้อย 300 ละ อีกอย่างพ่อเราเป็นผู้นำชุมชน ช่วงเทศกาลแต่ละทีก็มีแต่ซองมาเพียบ
มาเดือนนี้พ่อเราต้องลงเลือกตั้งและต้องใช้เงินแต่ที่บ้านไม่ได้มีอาชีพอะไรแม่เราไม่มีเงินสำหรับเลือกตั้งเลยโทรมาถามเราขอให้เรามอบอำนาจให้เอารถไปรีไฟแนนซ์ เพื่อจะเอาเงินมาลงแข่งเลือกตั้งในหมู่บ้าน
และเรื่องนี้ทำให้เราทะเลาะกับแม่ใหญ่โตแทบไม่อยากจะคุยด้วยเลย
รถเราเพิ่งผ่อนหมดไปไม่กี่เดือน เรารู้สึกโล่งมากที่อย่างน้อยหนี้สินที่เรามีอยู่มันหมดไปแล้วส่วนนึงแต่จู่ๆ แม่เราก็ขอให้เอาไปเข้าไฟแนนซ์ใหม่เพื่อเอาเงินส่วนนี้ไปให้คนอื่น เราไม่โอเคมากๆ
ทุกเดือนทุกเดือนเราแพลนไว้แล้วว่าเราจะส่งที่บ้านเท่าไหร่เราจะเอาเงินไปใช้อะไรบ้างแต่ที่บ้านเราแทบไม่ได้ทำตามแผนเลย ต้องมีขอฉุกเฉินตลอด ซึ่งมันทำให้เราจัดการการเงินของเราได้ยากบางครั้งเราก็อยากออกไปเที่ยวอยากใช้เงินที่เราหาเองบ้างแต่สุดท้ายก็ต้องเอาไปซับพอร์ททางบ้าน
ไหนจะค่าใช้จ่ายในบ้าน ไหนจะส่งน้องเรียน บางทีพี่เราก็มายืมเงินเพราะไปติดหนี้คนอื่น แล้วเจ้าหนี้มาทวง
เราไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตแบบนี้ หรือว่านี่คือวิบากกรรมของเรา บางทีก็อยากร้องไห้ออกมาดังๆ อยากบอกแม่ว่า การที่แม่บังคับให้เราเป็นหนี้แบบนี้มันไม่ใช่ความหวังดีอย่างที่แม่อ้างการเป็นหนี้ 40 ปีมันไม่ธรรมดา มันเหมือนโดนขังให้ไม่มีอิสรภาพ 40 ปี แม่แก่แล้วแม่ยังมีเราคอยใช้หนี้ให้ แล้วเราล่ะถ้าแก่ไปใครจะช่วยใช้หนี้ เพราะเราตัวคนเดียวเราไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว สุดท้ายหนี้สินทั้งหมดที่แม่เราก่อมันก็ต้องเป็นของเรา
เราเหนื่อย บางทีก็อยากหนีไปคนเดียวทิ้งให้ทุกคนรับผิดชอบกันเอง ใครอยากได้อะไรอยากทำอะไรก็รับผิดชอบกันเองไปเลย ไม่อยากแบกความต้องการใครแล้ว