"หมอเบิร์ท" แถลงโควิดวันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 586 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด -19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 586 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 22,644 ราย หายป่วยแล้ว 15,331 ราย ยังรักษาใน รพ. 7,234 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิตสะสม 79 ราย
รายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 5 ก.พ. 2564 จำนวน 586 ราย มีดังนี้...🔻
1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 47 ราย
2.ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 526 ราย
3.ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 13 ราย
สหรัฐอเมริกา 1 ราย
อิตาลี 1 ราย
แทนซาเนีย 1 ราย
แอฟริกาใต้ 1 ราย
รวันดา 1 ราย
อียิปต์ 5 ราย
เยอรมนี 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
เมียนมา 1 ราย
https://www.sanook.com/news/8346802/
ศบค. พบคลัสเตอร์ กทม.ติดโควิด 100% จัดปาร์ตี้-ออฟฟิศ
ศบค. เปิดพฤติกรรมคนกทม. ชี้ชัดมีปัจจัยเสี่ยงสูง ทั้งจัดงาน “ปาร์ตี้ในพื้นที่ส่วนตัว-ทำงานในออฟฟิศ” ทำติดเชื้อโควิดตั้งแต่ 10% ถึง 100% ระบุคนทำงานออฟฟิศมีปัจจัยเสี่ยงจากกินข้าว-พูดคุย-ทำงานร่วมกัน ไม่สวมหน้ากากอนามัย เหตุไว้ใจกันเกินไป
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้รายงานการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อโควิด ทั้งจากการจัดงานเลี้ยงในพื้นทีส่วนตัว และจากสถานที่ทำงาน ดังนี้...🔻
➡️ปัจจัยเสี่ยงจากงานเลี้ยงที่จัดในพื้นที่ส่วนตัว
ปัจจัยเสี่ยงจากการจัดงานเลี้ยงในสถานที่ส่วนตัว ซึ่งเป็นผลการสอบสวนเหตุการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ในระลอกใหม่ โดยยกตัวอย่าง 4 เหตุการณ์ ด้วยกัน ดังนี้...🔻
เหตุการณ์ที่ 1 : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 30 ราย ติดเชื้อ 9 ราย หรือคิดเป็น 30%
ปัจจัยเสี่ยง : ผู้สัมผัสติดเชื้อ 9 ราย มีประวัติดื่มแอลกอฮอล์แก้วเดียวกัน จากการเล่นเกม อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน ใช้มือหยิบอาหารและน้ำแข็ง และมีอาการมึนเมา
เหตุการณ์ที่ 2 : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 13 ราย ติดเชื้อ 10 ราย หรือคิดเป็น 77%
ปัจจัยเสี่ยง : ผู้สัมผัสติดเชื้อ 10 ราย มีประวัติดื่มเครื่องดื่มจากแก้วเดียวกัน อยู่ร่วมกันในห้องเดียวกันเป็นเวลานาน ใช้มือหยิบอาหารและน้ำแข็ง โดยเฉพาะหลังจากมึนเมา
เหตุการณ์ที่ 3 : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 7 ราย ติดเชื้อ 7 ราย หรือคิดเป็น 100%
ปัจจัยเสี่ยง : สถานที่แออัดไม่มีการระบายอากาศ อยู่ร่วมงานเลี้ยงเป็นเวลานาน ดื่มเครื่องดื่มจากแก้วร่วมกัน เต้นรำใกล้ชิดกัน ไม่สวมหน้ากากตลอดงาน
เหตุการณ์ที่ 4 : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 16 ราย ติดเชื้อ 16 ราย หรือคิดเป็น 100%
ปัจจัยเสี่ยง : มีประวัติดื่มเครื่องดื่มจากแก้วเดียวกัน อยู่ร่วมกันในห้องคอนโดเดียวกันเป็นเวลานาน
➡️ปัจจัยเสี่ยงจากสถานที่ทำงาน
ปัจจัยเสี่ยงจากสถานที่ทำงาน จากตัวอย่างผลการสอบสวนการระบาดที่พบในอาคารสำนักงาน โดยยกตัวอย่าง 3 สำนักงาน ดังนี้
🔘สำนักงาน : สำนักงานคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
การติดเชื้อของพนักงาน : มีพนักงาน 7 คน ติดเชื้อ 5 คน หรือคิดเป็น 71%
ปัจจัยเสี่ยง : รับประทานอาหารร่วมกัน มีการพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร และไม่ใช้ช้อนกลาง
🔘สำนักงาน : แผนกหนึ่งในบริษัทแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร (ไม่พบผู้ป่วยในแผนกอื่น)การติดเชื้อของพนักงาน : มีพนักงาน 10 คน ติดเชื้อ 9 คน หรือคิดเป็น 90%
ปัจจัยเสี่ยง : ผู้ติดเชื้อทุกราย ไม่สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ขณะปฏิบัติงานตลอดเวลา และพูดคุยใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน ซึ่งบางครั้งไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย
🔘สำนักงาน : สำนักงานของโรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร
การติดเชื้อของพนักงาน : มีพนักงาน 21 คน ติดเชื้อ 2 คน หรือคิดเป็น 10%
ปัจจัยเสี่ยง : ทำงานในห้องเดียวกัน และมีประวัติบางครั้ง พูดคุย โดยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย
“สิ่งที่กรมควบคุมโรคได้วิเคราะห์และนำมาเสนอในวันนี้เพื่อเป็นการเรียนรู้ พบว่าผู้ที่ร่วมงานเลี้ยงและเป็นผู้ที่ติดเชื้อในที่สุดมีการดิ่มแอลกอฮอล์ในแก้วเดียวกัน เป็นลักษณะการเล่นเกม อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน มีการใช้มือหยิบอาหาร และน้ำแข็ง อยู่ในสถานที่แออัด ที่เราย้ำอยู่เสมอว่าเกิน 15 นาทีก็ถือได้ว่ามีความเสี่ยงสูงแล้ว และยังมีการเต้นรำที่เกิดการสัมผัสใกล้ชิดกันด้วย อันนี้ถือได้ว่ามีความเสี่ยงที่เราเน้นย้ำมาตลอด วันนี้มีสถิติให้ดูกันชัดเจนเลย” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว
https://www.prachachat.net/general/news-608248
เปิด 8 ขั้นตอนฉีดวัคซีนโควิด เบ็ดเสร็จจบใน 37 นาที
สถาบันบำราศนราดูรต้นแบบ เซ็ตระบบ 8 ขั้นตอน ตั้งแต่คัดกรองถึงกลับบ้าน รวมใช้เวลา 37 นาที และแอดไลน์ “หมอพร้อม” ติดตามผลหลังฉีด 1,7, 30 วัน นัดเข็ม 2
นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมด้วยนพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.อภิชาติ วชิระพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร นพ.อนันต์ กนกศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการเตรียมระบบให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในโรงพยาบาล ของสถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี
นพ.โสภณกล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมการทดสอบระบบการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเป็นสถาบันเชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ โรคติดเชื้อของประเทศ พบว่าระบบที่จัดไว้มี 8 ขั้นตอน เป็นลำดับอย่างต่อเนื่องผ่านไปด้วยดี ใช้เวลารวม 37 นาที สามารถเป็นต้นแบบให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ นำไปปรับใช้ได้ โดยก่อนเข้ารับบริการจะมีการคัดกรอง วัดไข้ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และจัดให้เว้นระยะห่างทุกขั้นตอน เมื่อเข้ารับบริการตั้งแต่จุดที่ 1 ลงทะเบียน โดยใช้เครื่อง KIOSK ลดการสัมผัส, จุดที่ 2 ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต จุดที่ 3 คัดกรอง ซักประวัติ, จุดที่ 4 รอฉีดวัคซีน จุดที่ 5 รับการฉีดวัคซีน ใช้เวลาเพียง 5-7 นาที จากนั้นจุดที่ 6 ให้นั่งพักรอสังเกตอาการจนครบ 30 นาที มีการจัดห้องปฐมพยาบาล แพทย์/ วิสัญญีพยาบาล และอุปกรณ์ช่วยชีวิตพร้อมดูแล และทุกรายต้องสแกน Line official account “หมอพร้อม” เพื่อใช้ติดตามอาการหลังการฉีดวัคซีน 1 วัน 7 วัน 30 วัน แจ้งเตือนรับวัคซีนเข็มที่ 2 จุดที่ 7 ก่อนกลับบ้าน พยาบาลจะตรวจสอบเวลาว่าครบ 30 นาที สอบถามอาการ และให้คำแนะนำ พร้อมแจกเอกสารให้ความรู้ และจุดที่ 8 มี Dash Board จาก Line OA “หมอพร้อม” แสดงการประเมินผลความครอบคลุมการฉีดวัคซีน และอาการไม่พึงประสงค์ของวัคซีนแต่ละชนิด ทั้งนี้ เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ครบ 2 เข็ม จะได้รับใบยืนยันการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทาง Line OA “หมอพร้อม” อีกด้วย
“ขอให้บุคลากรการแพทย์และประชาชนกลุ่มเป้าหมายมั่นใจการให้วัคซีนครั้งนี้ รัฐบาลเน้นย้ำความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการคัดเลือกวัคซีนสำหรับคนไทย และสถานพยาบาลได้เตรียมความพร้อม จัดระบบให้คำแนะนำ เฝ้าระวัง ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ไว้พร้อมแล้ว” นพ.โสภณกล่าว
https://siamrath.co.th/n/217695
🔴นายกฯ เผย วัคซีนได้ลอตแรก 5 หมื่นโดส ย้ำเยียวยาโควิด-19 ปชช.ทุกด้าน
นายกฯ ย้ำ มาตรการเยียวยา ปชช.จากโควิด-19 เน้นช่วยเหลือทุกด้าน อย่างครอบคลุม เผย วัคซีน ได้ลอตแรก 5 หมื่นโดส มอบ สธ. พิจารณาเพิ่มเติม เพื่อให้ไทยได้รับวัคซีนตามแผน ยันผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนได้ที่ ธ.กรุงไทย ทุกสาขา
วันที่ 5 ก.พ. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมพูดคุยถึงมาตรการเยียวยาประชาชน พร้อมแสดงความห่วงใยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่าน PM PODCAST สรุปประเด็นดังนี้...🔻
ในช่วงแรกนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยมุ่งเน้นการป้องกัน ดูแล ช่วยเหลือ เยียวยา ในทุกด้านอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะมาตรการเราชนะ ที่จะดูแลผู้ประกอบอาชีพอิสระ หาบเร่ แผงลอย เกษตรกร รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สามารถดูแลตนเองได้ในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขโครงการ "เราชนะ" ขยายขอบเขตผู้ประกอบการ ร้านค้าหรือบริการที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งร้านธงฟ้า ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง ผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน ที่มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่ง หรือเป็นผู้ให้บริการประเภทรถที่สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะที่ไม่ได้เป็นนิติบุคคล และกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ อีกทั้งได้เห็นชอบในหลักการให้ช่วยเหลือผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงกรณีการเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และชะลอการเรียกเก็บเบี้ยดังกล่าวก่อน
สำหรับความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อให้ได้วัคซีนบางส่วนเร็วขึ้น ในเบื้องต้นคาดจะได้มาก่อน ประมาณ 5 หมื่นโดส ฉีดให้แก่บุคลากรด่านหน้า สาธารณสุข บุคลากรในพื้นที่เสี่ยง และขยายไปยังส่วนอื่น ๆ โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ไปพิจารณาเพิ่มเติมให้ประเทศไทยได้รับวัคซีนตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งในส่วนที่จองไปแล้ว และจัดหาเพิ่มเติมจากประเทศอื่น ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้จัดทำแผนแจกจ่ายวัคซีนทุกกลุ่มประชาชนตามความเสี่ยง รวมทั้งแผนการขนส่งในพื้นที่ห่างไกล พร้อมย้ำว่า ภาคเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนได้ โดยจะต้องได้รับการอนุญาตและรับรองจากองค์การอาหารและยาด้วย
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามประชาชนกรณีผู้ลงทะเบียนโครงการเราชนะที่ไม่มีสมาร์ทโฟนว่า ในกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มของผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะได้รับเงินอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
สำหรับการเปิดการเรียนการสอนเด็กเล็กในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการ ต้องมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มข้น เช่น การคัดกรองจุดรับ-ส่ง การปฏิบัติตัวของเด็กและครู การจัดการสภาพแวดล้อม ให้ดำเนินการอย่างรัดกุมมากที่สุด ในส่วนของค่าเทอมที่เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการได้มีแนวทางอย่างชัดเจนในการคืนให้บางส่วน ซึ่งจะเป็นข้อตกลงกันระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครอง โดยแนวทางดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2026980
ตั้งการ์ดสูงเข้าไว้ เอาชนะโควิดไปด้วยกันค่ะ...
🔴มาลาริน/5 ก.พ.ไทยพบโควิด 586ราย/กทม.ติดโควิด100% จัดปาร์ตี้-ออฟฟิศ/8 ขั้นตอนฉีดวัคซีนจบใน37นาที/นายกฯเผย วัคซีนล๊อตแรก
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด -19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 586 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 22,644 ราย หายป่วยแล้ว 15,331 ราย ยังรักษาใน รพ. 7,234 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิตสะสม 79 ราย
รายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 5 ก.พ. 2564 จำนวน 586 ราย มีดังนี้...🔻
1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 47 ราย
2.ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 526 ราย
3.ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 13 ราย
สหรัฐอเมริกา 1 ราย
อิตาลี 1 ราย
แทนซาเนีย 1 ราย
แอฟริกาใต้ 1 ราย
รวันดา 1 ราย
อียิปต์ 5 ราย
เยอรมนี 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
เมียนมา 1 ราย
https://www.sanook.com/news/8346802/
ศบค. พบคลัสเตอร์ กทม.ติดโควิด 100% จัดปาร์ตี้-ออฟฟิศ
ศบค. เปิดพฤติกรรมคนกทม. ชี้ชัดมีปัจจัยเสี่ยงสูง ทั้งจัดงาน “ปาร์ตี้ในพื้นที่ส่วนตัว-ทำงานในออฟฟิศ” ทำติดเชื้อโควิดตั้งแต่ 10% ถึง 100% ระบุคนทำงานออฟฟิศมีปัจจัยเสี่ยงจากกินข้าว-พูดคุย-ทำงานร่วมกัน ไม่สวมหน้ากากอนามัย เหตุไว้ใจกันเกินไป
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้รายงานการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อโควิด ทั้งจากการจัดงานเลี้ยงในพื้นทีส่วนตัว และจากสถานที่ทำงาน ดังนี้...🔻
➡️ปัจจัยเสี่ยงจากงานเลี้ยงที่จัดในพื้นที่ส่วนตัว
ปัจจัยเสี่ยงจากการจัดงานเลี้ยงในสถานที่ส่วนตัว ซึ่งเป็นผลการสอบสวนเหตุการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ในระลอกใหม่ โดยยกตัวอย่าง 4 เหตุการณ์ ด้วยกัน ดังนี้...🔻
เหตุการณ์ที่ 1 : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 30 ราย ติดเชื้อ 9 ราย หรือคิดเป็น 30%
ปัจจัยเสี่ยง : ผู้สัมผัสติดเชื้อ 9 ราย มีประวัติดื่มแอลกอฮอล์แก้วเดียวกัน จากการเล่นเกม อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน ใช้มือหยิบอาหารและน้ำแข็ง และมีอาการมึนเมา
เหตุการณ์ที่ 2 : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 13 ราย ติดเชื้อ 10 ราย หรือคิดเป็น 77%
ปัจจัยเสี่ยง : ผู้สัมผัสติดเชื้อ 10 ราย มีประวัติดื่มเครื่องดื่มจากแก้วเดียวกัน อยู่ร่วมกันในห้องเดียวกันเป็นเวลานาน ใช้มือหยิบอาหารและน้ำแข็ง โดยเฉพาะหลังจากมึนเมา
เหตุการณ์ที่ 3 : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 7 ราย ติดเชื้อ 7 ราย หรือคิดเป็น 100%
ปัจจัยเสี่ยง : สถานที่แออัดไม่มีการระบายอากาศ อยู่ร่วมงานเลี้ยงเป็นเวลานาน ดื่มเครื่องดื่มจากแก้วร่วมกัน เต้นรำใกล้ชิดกัน ไม่สวมหน้ากากตลอดงาน
เหตุการณ์ที่ 4 : มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 16 ราย ติดเชื้อ 16 ราย หรือคิดเป็น 100%
ปัจจัยเสี่ยง : มีประวัติดื่มเครื่องดื่มจากแก้วเดียวกัน อยู่ร่วมกันในห้องคอนโดเดียวกันเป็นเวลานาน
➡️ปัจจัยเสี่ยงจากสถานที่ทำงาน
ปัจจัยเสี่ยงจากสถานที่ทำงาน จากตัวอย่างผลการสอบสวนการระบาดที่พบในอาคารสำนักงาน โดยยกตัวอย่าง 3 สำนักงาน ดังนี้
🔘สำนักงาน : สำนักงานคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
การติดเชื้อของพนักงาน : มีพนักงาน 7 คน ติดเชื้อ 5 คน หรือคิดเป็น 71%
ปัจจัยเสี่ยง : รับประทานอาหารร่วมกัน มีการพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร และไม่ใช้ช้อนกลาง
🔘สำนักงาน : แผนกหนึ่งในบริษัทแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร (ไม่พบผู้ป่วยในแผนกอื่น)การติดเชื้อของพนักงาน : มีพนักงาน 10 คน ติดเชื้อ 9 คน หรือคิดเป็น 90%
ปัจจัยเสี่ยง : ผู้ติดเชื้อทุกราย ไม่สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ขณะปฏิบัติงานตลอดเวลา และพูดคุยใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน ซึ่งบางครั้งไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย
🔘สำนักงาน : สำนักงานของโรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร
การติดเชื้อของพนักงาน : มีพนักงาน 21 คน ติดเชื้อ 2 คน หรือคิดเป็น 10%
ปัจจัยเสี่ยง : ทำงานในห้องเดียวกัน และมีประวัติบางครั้ง พูดคุย โดยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย
“สิ่งที่กรมควบคุมโรคได้วิเคราะห์และนำมาเสนอในวันนี้เพื่อเป็นการเรียนรู้ พบว่าผู้ที่ร่วมงานเลี้ยงและเป็นผู้ที่ติดเชื้อในที่สุดมีการดิ่มแอลกอฮอล์ในแก้วเดียวกัน เป็นลักษณะการเล่นเกม อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน มีการใช้มือหยิบอาหาร และน้ำแข็ง อยู่ในสถานที่แออัด ที่เราย้ำอยู่เสมอว่าเกิน 15 นาทีก็ถือได้ว่ามีความเสี่ยงสูงแล้ว และยังมีการเต้นรำที่เกิดการสัมผัสใกล้ชิดกันด้วย อันนี้ถือได้ว่ามีความเสี่ยงที่เราเน้นย้ำมาตลอด วันนี้มีสถิติให้ดูกันชัดเจนเลย” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว
https://www.prachachat.net/general/news-608248
เปิด 8 ขั้นตอนฉีดวัคซีนโควิด เบ็ดเสร็จจบใน 37 นาที
สถาบันบำราศนราดูรต้นแบบ เซ็ตระบบ 8 ขั้นตอน ตั้งแต่คัดกรองถึงกลับบ้าน รวมใช้เวลา 37 นาที และแอดไลน์ “หมอพร้อม” ติดตามผลหลังฉีด 1,7, 30 วัน นัดเข็ม 2
นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมด้วยนพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.อภิชาติ วชิระพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร นพ.อนันต์ กนกศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการเตรียมระบบให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในโรงพยาบาล ของสถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี
นพ.โสภณกล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมการทดสอบระบบการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเป็นสถาบันเชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ โรคติดเชื้อของประเทศ พบว่าระบบที่จัดไว้มี 8 ขั้นตอน เป็นลำดับอย่างต่อเนื่องผ่านไปด้วยดี ใช้เวลารวม 37 นาที สามารถเป็นต้นแบบให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ นำไปปรับใช้ได้ โดยก่อนเข้ารับบริการจะมีการคัดกรอง วัดไข้ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และจัดให้เว้นระยะห่างทุกขั้นตอน เมื่อเข้ารับบริการตั้งแต่จุดที่ 1 ลงทะเบียน โดยใช้เครื่อง KIOSK ลดการสัมผัส, จุดที่ 2 ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต จุดที่ 3 คัดกรอง ซักประวัติ, จุดที่ 4 รอฉีดวัคซีน จุดที่ 5 รับการฉีดวัคซีน ใช้เวลาเพียง 5-7 นาที จากนั้นจุดที่ 6 ให้นั่งพักรอสังเกตอาการจนครบ 30 นาที มีการจัดห้องปฐมพยาบาล แพทย์/ วิสัญญีพยาบาล และอุปกรณ์ช่วยชีวิตพร้อมดูแล และทุกรายต้องสแกน Line official account “หมอพร้อม” เพื่อใช้ติดตามอาการหลังการฉีดวัคซีน 1 วัน 7 วัน 30 วัน แจ้งเตือนรับวัคซีนเข็มที่ 2 จุดที่ 7 ก่อนกลับบ้าน พยาบาลจะตรวจสอบเวลาว่าครบ 30 นาที สอบถามอาการ และให้คำแนะนำ พร้อมแจกเอกสารให้ความรู้ และจุดที่ 8 มี Dash Board จาก Line OA “หมอพร้อม” แสดงการประเมินผลความครอบคลุมการฉีดวัคซีน และอาการไม่พึงประสงค์ของวัคซีนแต่ละชนิด ทั้งนี้ เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ครบ 2 เข็ม จะได้รับใบยืนยันการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทาง Line OA “หมอพร้อม” อีกด้วย
“ขอให้บุคลากรการแพทย์และประชาชนกลุ่มเป้าหมายมั่นใจการให้วัคซีนครั้งนี้ รัฐบาลเน้นย้ำความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการคัดเลือกวัคซีนสำหรับคนไทย และสถานพยาบาลได้เตรียมความพร้อม จัดระบบให้คำแนะนำ เฝ้าระวัง ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ไว้พร้อมแล้ว” นพ.โสภณกล่าว
https://siamrath.co.th/n/217695
🔴นายกฯ เผย วัคซีนได้ลอตแรก 5 หมื่นโดส ย้ำเยียวยาโควิด-19 ปชช.ทุกด้าน
นายกฯ ย้ำ มาตรการเยียวยา ปชช.จากโควิด-19 เน้นช่วยเหลือทุกด้าน อย่างครอบคลุม เผย วัคซีน ได้ลอตแรก 5 หมื่นโดส มอบ สธ. พิจารณาเพิ่มเติม เพื่อให้ไทยได้รับวัคซีนตามแผน ยันผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนได้ที่ ธ.กรุงไทย ทุกสาขา
วันที่ 5 ก.พ. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมพูดคุยถึงมาตรการเยียวยาประชาชน พร้อมแสดงความห่วงใยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่าน PM PODCAST สรุปประเด็นดังนี้...🔻
ในช่วงแรกนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยมุ่งเน้นการป้องกัน ดูแล ช่วยเหลือ เยียวยา ในทุกด้านอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะมาตรการเราชนะ ที่จะดูแลผู้ประกอบอาชีพอิสระ หาบเร่ แผงลอย เกษตรกร รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สามารถดูแลตนเองได้ในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขโครงการ "เราชนะ" ขยายขอบเขตผู้ประกอบการ ร้านค้าหรือบริการที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งร้านธงฟ้า ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง ผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน ที่มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่ง หรือเป็นผู้ให้บริการประเภทรถที่สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะที่ไม่ได้เป็นนิติบุคคล และกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ อีกทั้งได้เห็นชอบในหลักการให้ช่วยเหลือผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงกรณีการเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และชะลอการเรียกเก็บเบี้ยดังกล่าวก่อน
สำหรับความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อให้ได้วัคซีนบางส่วนเร็วขึ้น ในเบื้องต้นคาดจะได้มาก่อน ประมาณ 5 หมื่นโดส ฉีดให้แก่บุคลากรด่านหน้า สาธารณสุข บุคลากรในพื้นที่เสี่ยง และขยายไปยังส่วนอื่น ๆ โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ไปพิจารณาเพิ่มเติมให้ประเทศไทยได้รับวัคซีนตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งในส่วนที่จองไปแล้ว และจัดหาเพิ่มเติมจากประเทศอื่น ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้จัดทำแผนแจกจ่ายวัคซีนทุกกลุ่มประชาชนตามความเสี่ยง รวมทั้งแผนการขนส่งในพื้นที่ห่างไกล พร้อมย้ำว่า ภาคเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนได้ โดยจะต้องได้รับการอนุญาตและรับรองจากองค์การอาหารและยาด้วย
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามประชาชนกรณีผู้ลงทะเบียนโครงการเราชนะที่ไม่มีสมาร์ทโฟนว่า ในกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มของผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะได้รับเงินอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
สำหรับการเปิดการเรียนการสอนเด็กเล็กในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการ ต้องมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มข้น เช่น การคัดกรองจุดรับ-ส่ง การปฏิบัติตัวของเด็กและครู การจัดการสภาพแวดล้อม ให้ดำเนินการอย่างรัดกุมมากที่สุด ในส่วนของค่าเทอมที่เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการได้มีแนวทางอย่างชัดเจนในการคืนให้บางส่วน ซึ่งจะเป็นข้อตกลงกันระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครอง โดยแนวทางดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2026980
ตั้งการ์ดสูงเข้าไว้ เอาชนะโควิดไปด้วยกันค่ะ...