คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ผมคิดว่า เจตนาของทั้งสองฝ่าย คือ ทางฝ่ายคุณและอีกฝ่ายหนึ่ง ในขณะนั้นได้มีการตกลงเรื่องที่ดินกันชัดเจน และก็ได้มีการครอบครองกันเป็นสัดส่วนชัดเจนแล้ว เกินกว่า 10 ปี ดังน้นต่างฝ่ายต่างครอบครองปรปักษ์ ดังนั้นที่ดินก็ตกเป็นของแต่ละฝ่ายไปโดยปริยาย เพียงแต่เอกสารโฉนดไม่ตรงกับผู้ถือครอง ทางที่ดีเจรจากันให้ไปใส่ชื่อของแต่ละฝ่ายให้ถูกต้อง ซึ่งน่าจะต้องทำแบบเป็นการซื้อขาย หากคุยกันรู้เรื่อง ทุกอย่างก็จะจบ แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอม คงอาจจะต้องมีการฟ้องร้องกัน ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย ทางที่ดีคุยกัน เพื่อหาทางออก อย่างที่ผมกล่าวไปแล้ว จะเป็นการดีที่สุด
ส่วนเรื่องที่มีการสงสัยกันว่า ไปขอเลขที่บ้านและขออนุญาตก่อสร้างผิดโฉนดกันได้อย่างไร อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทางเขต/เทศบาล/อบต. เวลาเขาอนุญาต ก็จะดูเฉพาะเอกสารว่า มีโฉนดถูกต้อง อยู่ในเขตพื้นที่ของเขาหรือไม่ ไม่ได้มารังวัดสอบเขตเพื่อให้รู้แน่ ๆ ว่าใช่ที่ดินแปลงที่มายื่นขอหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่มีการสลับโฉนดแต่ก็ขอเลขที่บ้านได้
ส่วนเรื่องที่มีการสงสัยกันว่า ไปขอเลขที่บ้านและขออนุญาตก่อสร้างผิดโฉนดกันได้อย่างไร อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทางเขต/เทศบาล/อบต. เวลาเขาอนุญาต ก็จะดูเฉพาะเอกสารว่า มีโฉนดถูกต้อง อยู่ในเขตพื้นที่ของเขาหรือไม่ ไม่ได้มารังวัดสอบเขตเพื่อให้รู้แน่ ๆ ว่าใช่ที่ดินแปลงที่มายื่นขอหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่มีการสลับโฉนดแต่ก็ขอเลขที่บ้านได้
แสดงความคิดเห็น
กลุ้มใจมาก ๆ สร้างบ้านเสร็จแล้ว เพิ่งมารู้ว่าไม่ใช่ที่ตนเอง
พอไปสืบหาข้อมูลมากลายเป็นว่า ตอนที่คุณตาทำการซื้อขาย เป็นการทำการซื้อขายแบบปากเปล่า มีเพียงแค่คุยตกลงกันว่าจะเอาที่ดินตรงนี้นะ(ที่ปลูกบ้าน) และทำการให้โฉนดกันโดยที่ไม่ได้ไปรังวัดหรือทำให้เป็นกิจลักษณะใด ๆ (ตามประสาคนสมัยก่อนที่อาจจะไม่ได้ไตร่ตรอง หรือรู้เท่าไม่ถึงการ) พอให้ฉโนดมาปุ๊ปกลายเป็นว่าเป็นโฉนดที่ดินอีกที่นึง ไม่ใช่โฉดที่ที่คุณตาต้องการ แต่ผ่านมาเป็น 10ๆ ปีทุกคนก็เข้าใจมาตลอดว่าที่ตรงนั้นเป็นสมบัติของครอบครัว
แต่คำถามที่อยากถามคือ
ในกรณีที่มีการสลับที่ดิน เข้าใจผิดกันแบบนี้มีทางแก้ปัญหามั้ยนอกจากไปคุยกับเจ้าของที่ เพราะตอนนี้เค้ายังไม่มีท่าทีอะไรเลย เสนอเงินไปก็ยังเงียบ แต่ในกรณีแบบนี้เรารู้สึกว่าไม่สมควรเลยที่เราต้องมาเสียเงินเพิ่มทั้ง ๆ ที่ฝ่ายนั้นผิดแท้ ๆ แต่ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษที่ไม่มีการรังวัดตั้งแต่แรกเพราะเรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นได้ แต่ฝ่ายนั้นก็คงจะไม่ยอมให้ดี ๆ เพราะถือว่าอ้อยเข้าปากช้างแล้ว แต่ถ้าจะให้บ้านเราย้ายออกก็คงเป็นอะไรที่ลำบากและก็ทำร้ายจิตใจมาก ๆค่ะ
ขอคำปรึกษาจากทุกคนด้วยค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
*เป็นกระทู้แรกผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนพคะ