7 ขั้นตอน ออกแบบแบรนด์ สุดปัง ด้วยตัวเอง
.
.
ในการออกแบบแบรนด์ มีหลายองค์ประกอบด้วยกัน แต่สิ่งหนึ่งเลย ที่จะมองข้ามไม่ได้ในการออกแบบแบรนด์
ก็คือการหา “จุดขาย” ให้ได้ ว่าแต่ จุดขายคืออะไร เพราะในยุคที่สินค้ามีการแข่งขันกันสูง
การหาจุดขายเป็นสิ่งที่จะช่วยให้แบรนด์ของเราโดดเด่นมากขึ้นนั่นเอง สร้างความแตกต่างให้กับสินค้า
และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของเรา
จุดขาย คือคุณสมบัติสินค้าของเราที่แตกต่างจากสินค้าอื่น
สิ่งที่โดดเด่นขึ้นมาจากแบรนด์อื่น สิ่งที่สินค้าของเรามีแต่สินค้าของคนอื่นไม่มี
ซึ่งจุดขายนี่เองถือเป็นกลไกสำคัญในการทำกลยุทธ์ทางการตลาด
!! และ 7 ขั้นตอนในการ “หาจุดขาย” แบบง่าย ๆ ที่คุณเองก็ทำได้นั้น ทำอย่างไร ลองมาดูกันครับ !!
1.ความแตกต่างของสินค้า
ในท้องตลาดอาจจะมีสินค้าชนิดเดียวกันอยู่มากมายหลายแบรนด์ ถ้าสินค้าของเรามีสิ่งที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ก็ควรนำจุดที่แตกต่างนั้นออกมาทำการโฆษณา เพื่อดึงความสนใจจากลูกค้านั่นเอง เพื่อให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักและเป็นที่ผู้คนพูดถึง และเกิดความแตกต่างจากสินค้าชนิดเดียวกันจากแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด
2.จะหาจุดขายได้จากไหน
หากสินค้าของเราเป็นสินค้าที่มีแบรนด์อื่น ๆ เป็นคู่แข่งอยู่ในท้องตลาด อาจเป็นสินค้าชนิดเดียวกันที่อาจจะหาจุดขายที่แตกต่างได้ยากขึ้นสักหน่อย เราก็อาจจะต้องสร้างจุดขายขึ้นมาเอง อย่างการสร้างจุดขายบนตัวสินค้า ปรับแต่งสูตรใหม่ ปรับเปลี่ยนรูปแบบ หรือจะสร้างจุดขายจากบรรจุภัณฑ์ให้มีความแตกต่างก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดี
3.สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ
สิ่งที่กลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าต้องการ ก็สามารถนำมาปรับเป็นจุดขายของสินค้าหรือบริการของเราได้เช่นกัน อย่างการขายสินค้าออนไลน์
เราอาจใช้ส่ง “
ให้ฟรีแบบ EMS หรือ การส่งเร็วส่งไวสั่งปุ๊บส่งปั๊บ” มาเป็นจุดขายของเราก็ได้ หรือการปรับราคาของเราให้ถูกลงมา นั้นก็ถือเป็น
จุดขายของเราได้เหมือนกัน แต่ก็ต้องระวังไม่ให้เป็นการตัดราคาสินค้านั้น ๆ ด้วย หรือหากสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือสินค้าที่ใช้สะดวก พกพาง่ายเราก็
อาจนำตรงนั้นมาปรับแก้ หรือพัฒนาสินค้าของเราให้เป็นไปตามที่ลูกค้าต้องการ
4.การหาข้อจุดด้อยในจุดเด่น
การหาจุดด้อยในจุดเด่น ก็คือ การหาจุดด้อยของจุดเด่นในสินค้าคู่แข่งของเรา เราสามารถนำจุดเด่นของคู่แข่งมาพัฒนาสินค้าของเราให้ดีขึ้นได้
และหากเรามองว่าจุดเด่นนั้นเป็นจุดด้อยเราก็ยิ่งสามารถนำจุดด้อยนั้นมาพัฒนาสินค้าของเราให้มีดียิ่งกว่าได้อีกด้วย เช่น หากจุดเด่นในสินค้าของคู่แข่งเราเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เปิดใช้ง่าย แต่ย่อยสลายยาก เราอาจจะนำตรงนั้นมาปรับ แล้วนำมาเป็นจุดขายของเราให้ออกไปทางแนวรักโลก โดยพัฒนาให้
บรรจุภัณฑ์ของเราใช้ง่าย ย่อยสลายได้ ไม่เป็นมลภาวะ เท่านี้ก็เป็นการสร้างจุดขายได้แล้ว
5.สร้างจุดเด่นให้เป็นจุดสนใจ
เราสามารถเปลี่ยนจุดเด่นที่อาจจะแสนธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยการนำจุดเด่นนั้นมาโฆษณา มาประชาสัมพันธ์ให้
ลูกค้าได้รู้ อาจนำมาเป็นประเด็นในการสร้างโฆษณาในโซเชียลมีเดียทำให้มีการพูดถึง ขยายความในวงกว้าง เพื่อเป็นการขยายความให้กับจุดเด่น
ของสินค้าเรา และเพื่อให้คนรู้จักสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น
6.จุดขายลับเฉพาะ
การสร้างจุดขายที่ลับเฉพาะอาจจะใช้ไม่ได้กับสินค้าทุกประเทศ แต่ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้แน่นอน จุดขายลับเฉพาะก็คือการสร้างสูตรลับใน
สินค้าของเรา แล้วนำสูตรลับนั้นมาโฆษณา เช่น กางเกงของเราเข้าทรงใส่สวย ใส่แล้วกระชับเก็บทรงด้วยเทคนิคการตัดเย็บพิเศษ ผ้าสั่งทอพิเศษ
ไม่เหมือนใคร หรือหากสินค้าของเราเป็นขนม อาจจะขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบ ก็อาจจะลองหาจุดขายที่ว่าขนมของเราเก็บไว้ยิ่งนานยิ่งกรอบ ขนมของเรา
กินกับอะไรก็อร่อย สูตรลับเหล่านี้จะทำให้คนสนใจ และพูดถึงสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น
7.จุดขายสำคัญ
การมีจุดขายที่หลายอย่างในสินค้าชนิดค้าเดียวก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากเราโฟกัสไปที่จุดขายเพียงจุดเดียว แล้วทำให้จุดขายนั้นเป็นที่สนใจใน
วงกว้างก็อาจจะดีกว่า เพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความสับสน เราสามารถนำจุดขายนั้น ๆ ที่เราต้องการนำเสนอ มาเป็นตัวชูโรงในการทำการตลาด และนำมา
ต่อยอดในการพัฒนาสินค้าของเราได้ต่อไป
มาถึงส่วนสุดท้ายแล้ว ตอนนี้คุณพอเข้าใจบ้างแล้วใช่ไหมครับว่า จุดขาย นั้น สำคัญมากแค่ไหน ในการสร้างแบรนด์ของคุณ ให้เป็นที่รู้จักทั่วไปของผู้คน ลองนำขั้นตอนเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์
7 ขั้นตอน ออกแบบแบรนด์ สุดปัง ด้วยตัวเอง
1.ความแตกต่างของสินค้า
ในท้องตลาดอาจจะมีสินค้าชนิดเดียวกันอยู่มากมายหลายแบรนด์ ถ้าสินค้าของเรามีสิ่งที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ก็ควรนำจุดที่แตกต่างนั้นออกมาทำการโฆษณา เพื่อดึงความสนใจจากลูกค้านั่นเอง เพื่อให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักและเป็นที่ผู้คนพูดถึง และเกิดความแตกต่างจากสินค้าชนิดเดียวกันจากแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด
2.จะหาจุดขายได้จากไหน
หากสินค้าของเราเป็นสินค้าที่มีแบรนด์อื่น ๆ เป็นคู่แข่งอยู่ในท้องตลาด อาจเป็นสินค้าชนิดเดียวกันที่อาจจะหาจุดขายที่แตกต่างได้ยากขึ้นสักหน่อย เราก็อาจจะต้องสร้างจุดขายขึ้นมาเอง อย่างการสร้างจุดขายบนตัวสินค้า ปรับแต่งสูตรใหม่ ปรับเปลี่ยนรูปแบบ หรือจะสร้างจุดขายจากบรรจุภัณฑ์ให้มีความแตกต่างก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดี
3.สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ
สิ่งที่กลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าต้องการ ก็สามารถนำมาปรับเป็นจุดขายของสินค้าหรือบริการของเราได้เช่นกัน อย่างการขายสินค้าออนไลน์
เราอาจใช้ส่ง “ให้ฟรีแบบ EMS หรือ การส่งเร็วส่งไวสั่งปุ๊บส่งปั๊บ” มาเป็นจุดขายของเราก็ได้ หรือการปรับราคาของเราให้ถูกลงมา นั้นก็ถือเป็น
จุดขายของเราได้เหมือนกัน แต่ก็ต้องระวังไม่ให้เป็นการตัดราคาสินค้านั้น ๆ ด้วย หรือหากสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือสินค้าที่ใช้สะดวก พกพาง่ายเราก็
อาจนำตรงนั้นมาปรับแก้ หรือพัฒนาสินค้าของเราให้เป็นไปตามที่ลูกค้าต้องการ
4.การหาข้อจุดด้อยในจุดเด่น
การหาจุดด้อยในจุดเด่น ก็คือ การหาจุดด้อยของจุดเด่นในสินค้าคู่แข่งของเรา เราสามารถนำจุดเด่นของคู่แข่งมาพัฒนาสินค้าของเราให้ดีขึ้นได้
และหากเรามองว่าจุดเด่นนั้นเป็นจุดด้อยเราก็ยิ่งสามารถนำจุดด้อยนั้นมาพัฒนาสินค้าของเราให้มีดียิ่งกว่าได้อีกด้วย เช่น หากจุดเด่นในสินค้าของคู่แข่งเราเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เปิดใช้ง่าย แต่ย่อยสลายยาก เราอาจจะนำตรงนั้นมาปรับ แล้วนำมาเป็นจุดขายของเราให้ออกไปทางแนวรักโลก โดยพัฒนาให้
บรรจุภัณฑ์ของเราใช้ง่าย ย่อยสลายได้ ไม่เป็นมลภาวะ เท่านี้ก็เป็นการสร้างจุดขายได้แล้ว
5.สร้างจุดเด่นให้เป็นจุดสนใจ
เราสามารถเปลี่ยนจุดเด่นที่อาจจะแสนธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยการนำจุดเด่นนั้นมาโฆษณา มาประชาสัมพันธ์ให้
ลูกค้าได้รู้ อาจนำมาเป็นประเด็นในการสร้างโฆษณาในโซเชียลมีเดียทำให้มีการพูดถึง ขยายความในวงกว้าง เพื่อเป็นการขยายความให้กับจุดเด่น
ของสินค้าเรา และเพื่อให้คนรู้จักสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น
6.จุดขายลับเฉพาะ
การสร้างจุดขายที่ลับเฉพาะอาจจะใช้ไม่ได้กับสินค้าทุกประเทศ แต่ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้แน่นอน จุดขายลับเฉพาะก็คือการสร้างสูตรลับใน
สินค้าของเรา แล้วนำสูตรลับนั้นมาโฆษณา เช่น กางเกงของเราเข้าทรงใส่สวย ใส่แล้วกระชับเก็บทรงด้วยเทคนิคการตัดเย็บพิเศษ ผ้าสั่งทอพิเศษ
ไม่เหมือนใคร หรือหากสินค้าของเราเป็นขนม อาจจะขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบ ก็อาจจะลองหาจุดขายที่ว่าขนมของเราเก็บไว้ยิ่งนานยิ่งกรอบ ขนมของเรา
กินกับอะไรก็อร่อย สูตรลับเหล่านี้จะทำให้คนสนใจ และพูดถึงสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น
7.จุดขายสำคัญ
การมีจุดขายที่หลายอย่างในสินค้าชนิดค้าเดียวก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากเราโฟกัสไปที่จุดขายเพียงจุดเดียว แล้วทำให้จุดขายนั้นเป็นที่สนใจใน
วงกว้างก็อาจจะดีกว่า เพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความสับสน เราสามารถนำจุดขายนั้น ๆ ที่เราต้องการนำเสนอ มาเป็นตัวชูโรงในการทำการตลาด และนำมา
ต่อยอดในการพัฒนาสินค้าของเราได้ต่อไป
มาถึงส่วนสุดท้ายแล้ว ตอนนี้คุณพอเข้าใจบ้างแล้วใช่ไหมครับว่า จุดขาย นั้น สำคัญมากแค่ไหน ในการสร้างแบรนด์ของคุณ ให้เป็นที่รู้จักทั่วไปของผู้คน ลองนำขั้นตอนเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์