หายจากการรีวิวไป ปีที่แล้ว ปลายปีคือมรสุมหนักมาก งานเอย สุขภาพเอย คลานออกมาจาก icu แหละ ปลายปีที่แล้ว ปีนี้จะเปิดศักราชด้วยเรื่อง Y ซึ่งเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนก็รอคอย และ หลุดจักรวาลปกติที่เป็นนิยายรักนักศึกษา วิศวะ แพทย์ อะไรไปพอสมควร
.
.
.
.
ก็งจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่อง #นิทานพันดาว ก่อนซีรีส์จะฉายรีวิวนิยายก่อนเลย (สปอยด์ด้วยอ่ะ) ถ้าตั้งคำถามนะว่าเราจะมีมุมมองต่อชีวิตยังไงถ้าเกิดว่าป่วย ป่วยแบบที่รู้ว่ามีแต่ทางตาย ถ้าเกิดเป็นคนที่ตกผลึกการใช้ชีวิตแล้ว รับความจริงและปลงได้ ก็อาจจะเป็นอย่าง อลัน ริกแมน ก็จัดการเรื่องราวไปตามสภาพ ซ่อมบ้านใหม่ จัดการงานเรื่องที่เกี่ยวกับงานศพ เพื่อดูแลภรรยาที่ไม่ได้ตายตกไปกับเราด้วย แต่ถ้าเราเป็นเด็กวัยรุ่น ที่ยังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ถ้าเราเป็นลูกคนเล็ก ลูกหลานนายพลคนใหญ่คนโต อยากจะได้ดาวได้เดือนก็ย่อมจะได้ แต่มีเงินเท่าใดก็คว้าชีวิต หรือสุขภาพที่สมบูรณ์กลับมาไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้เราจะทำยังไง
.
.
.
.
ชีวิตที่ยังเยาว์วัยไม่นานก็จะปลิดปลิว ถามว่าเรื่องนี้จะโทษใครได้ บางทีชีวิตมันก็ mysterious มันคงมีเหตุผลของมันอยู่ แต่อาจจะเกินกว่าที่เราจะไปค้นเจอ และ เมื่อค้นไม่เจอก็ได้แต่คิด ในความไม่รู้ คนป่วยอย่าง "เธียร" ก็โทษโชคชะตาฟ้าดิน โกรธ โมโหทุกอย่าง โมโหครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ตามประสาลูกคนเล็ก ตามประสาคนที่เคยมีอนาคตสดใส สมบูรณ์แข็งแรง เวลาผ่านไปไม่เท่าไหร่กลายเป็นคนที่ใกล้จะตายเสียแล้ว มันก็ยากที่คนแบบเธียรจะยอมรับ ทั้งที่โรคภัยที่เกิดจะโทษว่าเป็นความผิดใครก็ออกจะไม่ถูก หรือ ถึงแม้จะชี้นิ้วโทษชาวบ้านได้ แต่ก็ไม่ใช่ทางแห่งการแก้ไข
.
.
.
.
ชีวิตชีวาที่เคยมีจึงล้มหายไปกับโรคภัย เพิ่มเติมมาด้วยความขุ่นข้อง เคียดแค้น แค้นทุกอย่าง แค้ว่าทำไมสิ่งนี้ต้องเกิดกับเรา อนาคตที่อยู่บนเส้นด้าย ไม่อาจรู้เลยว่าล้มลงในวันไหน ช่างมัน .... สุขภาพที่ริบหรี่จึงถูกใช้แบบไม่บันยะบันยัง ประชดประชันโรคภัยที่รุมเร้า กระทบชิ่งไปยังคนรอบตัว เหมือนกับว่าเมื่อเขาเจ็บ คนรอบตัวก็ต้องเจ็บด้วย ถามว่านั่นตัวตนที่แท้จริงของเราไหม นี่ก็ว่าไม่ใช่ จริง ๆ ไม่ได้พอใจ แต่ในเมื่อทอดอาลัยแล้ว ก็ใช้มันไปแบบไม่ต้องถนอม ใช้มันให้ตายไปนั่นแหละ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โรคกำเริบให้เธียรใกล้ชิดกับความตายยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เขากลับตื่นขึ้นมาบนชีวิตเดิมด้วยอวัยวะชิ้นใหม่ กับ บันทึกอีกหนึ่งฉบับ
.
.
.
.
ร่างกายเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ชีวิตก็ยังว่างเปล่า ราวสิ่งใดขาดหาย แทนที่จะสามารถกลับเข้าสู่ร่องรอยเดิมที่เคยเป็นมา แต่มันกลับไม่เป็นเหมือนเคย จะวกกลับไปเพื่อใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างคราวก่อนก็ไม่ใช่ จะกลับไปเป็นคุณหนูเธียรก่อนป่วยก็ไม่ได้ มันว่างเปล่าไปหมดว่าจะต้องทำอะไร ทำยังไงต่อ เจ้าตัวก้มมองบันทึกเล่มเล็กเป็นแรงบันดาลใจ ทำในสิ่งที่ทั้งชีวิตไม่เคยคิดทำมาก่อน และ ไม่น่าทำได้ การตัดสินใจออกเดินทางไปยังสถานที่สุดแสนลำบากยากเข็ญ โดยไม่ได้เตรียมใจ โดยไม่รู้จะเจออะไร โดยไม่รู้จะอยู่นานแค่ไหน แต่ก็ตัดสินใจก้าวเดินออกไปหวังว่าสิ่งที่ตัดสินใจจะนำทางสู่จุดหมายบางประการ
.
.
.
.
ที่ผาปันดาว ไม่มีคนรู้ว่าเขาเป็นใคร มีสถานะอย่างไร แต่ว่าไปก็เข้าใจผิดแหละ เพราะ คนที่รู้ก็ใช้ว่าจะไม่มีแต่จะรั้งให้คุณหนูชาวกรุงใช้ชีวิตอย่างที่เป็นมาก็เป็นไปไม่ได้ คนมันเปลี่ยนไปแล้ว หัวจิตหัวใจสับสน ถึงคุณค่า ถึงความหมายของชีวิต คนที่อยู่เบื้องหลังตัดสินใจเป็นทอด ๆ แจ้งเรื่องมาถึง "ผู้กอง" คงสัมผัสได้ถึงความสับสน แม้จะไม่เข้าใจที่ไปที่มาทั้งหมด แต่ตอนนี้เธียรก็เหมือนว่าวที่ลอยด้วยกระแสลมแรงในจิตใจ ขืนดังรั้งเอาไว้ก็มีแต่ว่าวจะขาดหลุดลอยตามลม สู้ใช้อำนาจบารมีในมือจัดการอย่างเงียบ ๆ ดีกว่า
.
.
.
.
แน่นอนตามท้องเรื่อง ชีวิตที่ผาปันดาว กับ ชีวิตที่คุณหนูเธียรคิดไว้ เรียกว่าต่างกันคนละวรรคคนละตอนเลยทีเดียว ทิวทัศน์สวยงาม หากมีความไม่สะดวกสบาย มีความขัดแย้ง มีการปะทะคารม มีความไม่รู้ มีส่วนประสมของทุกข์สุขให้สัมผัสมากมาย โรคภัย ความโกรธเกรี้ยว น้ำตา ความทุกข์ สุข ความเจ็บปวด มิตรภาพ และ ความรัก ขัดเขลาสั่งสม และ สั่งสอนให้เธียรเรียนรู้คุณค่าของการ "ยังมีชีวิต" อยู่ ทีละเล็กทีละน้อย และ ได้สัมผัสความรู้สึกกระตุกในหัวใจแปลก ๆ จาก "ผู้กอง" ซึ่งต่อมาในซีรีส์จะกลายเป็น "หัวหน้า"
.
.
.
.
ภายใต้ดวงหน้าคมเข้ม คมคาย จริงจัง กับถ้อยคำเย้ยหยันถากถางว่าคงอยู่ได้ไม่นาน ถึงจะได้รับคำสั่งลับ ๆ ให้มาดูแล แต่ก็ไม่ได้รับรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง ว่าเด็กหนุ่มท่าทางบอบบาง หน้าตาดี (ถูกสเปค) ขึ้นมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุอะไร แต่จากการใกล้ชิด และ พูดคุย เขารู้นั่นแหละว่าเธียร หรือ ตอนนี้เป็นครูสีเทียน ของเด็ก ๆ ไม่ใช่คนเลวเกวอะไร รวมถึงน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในใจมากกว่าขึ้นมาลำบากลำบนเล่น ๆ อยู่กลางเขากลางดอย มือไม้บอบบาง ทำอะไรไม่ค่อยเป็นก็ชัดเจนว่าการตัดสินใจนี้คงไม่ได้เป็นน้ำเป็นเนื้อของเจ้าตัวมาแต่แรก หากท่าทางดื้อร้นและพยายามอดทนอดกลั้น ก็แสดงความมุ่งมั่งบางอย่างในใจได้เช่นกัน
.
.
.
.
สิ่งที่เธียรตามหา นี่ก็ว่าคงเป็นว่าเมื่อโกงความตายกลับมาได้ อะไรคือจุดมุ่งหมายของชีวิต ความหมายของการกลับมาคงมีมากกว่ากลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมที่เคยเป็น แต่มันคืออะไร เมื่อยังไม่รู้ไม่เข้าใจ เจ้าตัวจึงยึดโยงสมุดบันทึกของทอฝัน เอาไว้ยึดเหนี่ยวยามต่อสู้กับความรู้สึกที่ว่างเปล่า ปัญหาก็คือบางครั้งก็เริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ที่ขึ้นมาอยู่ที่ผาปันดาวนี้ ทั้งหมดทั้งปวงที่กระทำลงไป เป็นความต้องการของตนเอง หรือ เป็นเพียงการสวมความคิดของทอฝัน อันนี้แอบเข้าใจเธียรนะ จนบางครั้งเจ้าตัวก็สับสนว่านี่คือชีวิต และ การตัดสินใจด้วยตัวเอง หรือ เป็นชีวิตและการตัดสินใจของทอฝัน ที่มันยาก เพราะ หลัง ๆ 2 ประการนี้มันทับซ้อนกัน
.
.
.
.
ผู้กองภูผาก็อาจจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะ ภูมิหลังของเธียรที่ผ่านมา ดูไม่น่าจะตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ได้หากไม่มีแรงกระตุ้น ความคิดที่ล่องลอยตามครูสีเทียนไปแล้วเมื่อได้เรียนรู้กัน พลอยอ่อนไหวกับข้อเท็จจริงในจุดนี้ แม้ความผูกพันจะมีอยู่มาก มากจนแน่ใจความรู้สึกของตัวตัวเอง แต่สุดท้ายเมื่อมองโลกแห่งความเป็นจริงเรื่องราวระหว่างเขาและเธียรก็ราวขึ้นต้นด้วย once upon a time มากกว่าเป็นเรื่องจริง และ ถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องจริงมันก็ไม่มีทางจีรังยั่งยืนไม่ว่าจะมองจากมิติใด เมื่อสำทับด้วยสมุดบันทึกเล่มนั้น ยิ่งรู้สึกในใจว่าเรื่องราวทั้งหมดอาจเป็นการซ้อนทับระหว่างความคิดของครูเธียร และ ครูทอฝัน
.
.
.
.
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ จะโชคชะตา ฟ้าลิขิต มันก็เพียงแค่ส่วนหนึ่ง ไม่มีอะไรสู้การตัดสินใจและลงมือทำ การจากลาที่ดูเหมือนไม่มีทางจะมาพบกันอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังนึกถึงกันอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธียรอาจมาจากการยึดโยงบันทึกของทอฝัน แต่ถ้าไม่ตัดสินใจทำเธียรคงไม่ได้ก้าวขึ้นมาที่ผาปันดาว หรือ แม้แต่กระทั่งภูผา ที่เร้นตัวเงียบเชียบไปนานปี หากสุดท้ายจริงก็ไม่เคยตัดใจได้เลยซักครั้ง เรื่องราวที่เป็นดังนิทานแท้จริงมิใช่เพียงนิทาน สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกันก็ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของคนทั้งคู่
.
.
.
.
มูลเหตุชักจูงใจจะเป็นอะไรก็เถอะ แต่ถ้าเพียงแค่คิดแล้วไม่ลงมือทำ จะกี่ยอดผา จะกี่หมื่นพันดาวร้อยตำนาน ย่อมไม่อาจทำให้เรื่องราวที่ต่างฝ่ายร้อยเรียงเล่าขานเกิดขึ้นมาได้ นิทานพันดาว เป็นความเชื่อ แต่เรื่องราวระหว่าง ภูผากับเธียร คือ "ความจริง"
.
ชมดอกไม้ลำน้ำป่าเขา
เสียงซอเคล้า เสียงซึ่งสะล้อ
หากฮักจริงบ่ดีฮื่อรอ จะไปสู่ขอมาอยู่โต่ยกัน
ถิ่นล้านนา จะเป็นเวียงสวรรค์
เมื่อมีน้องเคียงข้างกัน เป็นกู้ขวัญอ้ายเอย...
นิทานพันดาว (กึ่งรีวิวนิด ๆ) : หนึ่งพันดวงดาว และ เรื่องราวที่ไม่ใช่นิทาน (สปอยด์หน่อย ๆ)
.
.
.
.
ก็งจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่อง #นิทานพันดาว ก่อนซีรีส์จะฉายรีวิวนิยายก่อนเลย (สปอยด์ด้วยอ่ะ) ถ้าตั้งคำถามนะว่าเราจะมีมุมมองต่อชีวิตยังไงถ้าเกิดว่าป่วย ป่วยแบบที่รู้ว่ามีแต่ทางตาย ถ้าเกิดเป็นคนที่ตกผลึกการใช้ชีวิตแล้ว รับความจริงและปลงได้ ก็อาจจะเป็นอย่าง อลัน ริกแมน ก็จัดการเรื่องราวไปตามสภาพ ซ่อมบ้านใหม่ จัดการงานเรื่องที่เกี่ยวกับงานศพ เพื่อดูแลภรรยาที่ไม่ได้ตายตกไปกับเราด้วย แต่ถ้าเราเป็นเด็กวัยรุ่น ที่ยังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ถ้าเราเป็นลูกคนเล็ก ลูกหลานนายพลคนใหญ่คนโต อยากจะได้ดาวได้เดือนก็ย่อมจะได้ แต่มีเงินเท่าใดก็คว้าชีวิต หรือสุขภาพที่สมบูรณ์กลับมาไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้เราจะทำยังไง
.
.
.
.
ชีวิตที่ยังเยาว์วัยไม่นานก็จะปลิดปลิว ถามว่าเรื่องนี้จะโทษใครได้ บางทีชีวิตมันก็ mysterious มันคงมีเหตุผลของมันอยู่ แต่อาจจะเกินกว่าที่เราจะไปค้นเจอ และ เมื่อค้นไม่เจอก็ได้แต่คิด ในความไม่รู้ คนป่วยอย่าง "เธียร" ก็โทษโชคชะตาฟ้าดิน โกรธ โมโหทุกอย่าง โมโหครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ตามประสาลูกคนเล็ก ตามประสาคนที่เคยมีอนาคตสดใส สมบูรณ์แข็งแรง เวลาผ่านไปไม่เท่าไหร่กลายเป็นคนที่ใกล้จะตายเสียแล้ว มันก็ยากที่คนแบบเธียรจะยอมรับ ทั้งที่โรคภัยที่เกิดจะโทษว่าเป็นความผิดใครก็ออกจะไม่ถูก หรือ ถึงแม้จะชี้นิ้วโทษชาวบ้านได้ แต่ก็ไม่ใช่ทางแห่งการแก้ไข
.
.
.
.
ชีวิตชีวาที่เคยมีจึงล้มหายไปกับโรคภัย เพิ่มเติมมาด้วยความขุ่นข้อง เคียดแค้น แค้นทุกอย่าง แค้ว่าทำไมสิ่งนี้ต้องเกิดกับเรา อนาคตที่อยู่บนเส้นด้าย ไม่อาจรู้เลยว่าล้มลงในวันไหน ช่างมัน .... สุขภาพที่ริบหรี่จึงถูกใช้แบบไม่บันยะบันยัง ประชดประชันโรคภัยที่รุมเร้า กระทบชิ่งไปยังคนรอบตัว เหมือนกับว่าเมื่อเขาเจ็บ คนรอบตัวก็ต้องเจ็บด้วย ถามว่านั่นตัวตนที่แท้จริงของเราไหม นี่ก็ว่าไม่ใช่ จริง ๆ ไม่ได้พอใจ แต่ในเมื่อทอดอาลัยแล้ว ก็ใช้มันไปแบบไม่ต้องถนอม ใช้มันให้ตายไปนั่นแหละ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โรคกำเริบให้เธียรใกล้ชิดกับความตายยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เขากลับตื่นขึ้นมาบนชีวิตเดิมด้วยอวัยวะชิ้นใหม่ กับ บันทึกอีกหนึ่งฉบับ
.
.
.
.
ร่างกายเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ชีวิตก็ยังว่างเปล่า ราวสิ่งใดขาดหาย แทนที่จะสามารถกลับเข้าสู่ร่องรอยเดิมที่เคยเป็นมา แต่มันกลับไม่เป็นเหมือนเคย จะวกกลับไปเพื่อใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างคราวก่อนก็ไม่ใช่ จะกลับไปเป็นคุณหนูเธียรก่อนป่วยก็ไม่ได้ มันว่างเปล่าไปหมดว่าจะต้องทำอะไร ทำยังไงต่อ เจ้าตัวก้มมองบันทึกเล่มเล็กเป็นแรงบันดาลใจ ทำในสิ่งที่ทั้งชีวิตไม่เคยคิดทำมาก่อน และ ไม่น่าทำได้ การตัดสินใจออกเดินทางไปยังสถานที่สุดแสนลำบากยากเข็ญ โดยไม่ได้เตรียมใจ โดยไม่รู้จะเจออะไร โดยไม่รู้จะอยู่นานแค่ไหน แต่ก็ตัดสินใจก้าวเดินออกไปหวังว่าสิ่งที่ตัดสินใจจะนำทางสู่จุดหมายบางประการ
.
.
.
.
ที่ผาปันดาว ไม่มีคนรู้ว่าเขาเป็นใคร มีสถานะอย่างไร แต่ว่าไปก็เข้าใจผิดแหละ เพราะ คนที่รู้ก็ใช้ว่าจะไม่มีแต่จะรั้งให้คุณหนูชาวกรุงใช้ชีวิตอย่างที่เป็นมาก็เป็นไปไม่ได้ คนมันเปลี่ยนไปแล้ว หัวจิตหัวใจสับสน ถึงคุณค่า ถึงความหมายของชีวิต คนที่อยู่เบื้องหลังตัดสินใจเป็นทอด ๆ แจ้งเรื่องมาถึง "ผู้กอง" คงสัมผัสได้ถึงความสับสน แม้จะไม่เข้าใจที่ไปที่มาทั้งหมด แต่ตอนนี้เธียรก็เหมือนว่าวที่ลอยด้วยกระแสลมแรงในจิตใจ ขืนดังรั้งเอาไว้ก็มีแต่ว่าวจะขาดหลุดลอยตามลม สู้ใช้อำนาจบารมีในมือจัดการอย่างเงียบ ๆ ดีกว่า
.
.
.
.
แน่นอนตามท้องเรื่อง ชีวิตที่ผาปันดาว กับ ชีวิตที่คุณหนูเธียรคิดไว้ เรียกว่าต่างกันคนละวรรคคนละตอนเลยทีเดียว ทิวทัศน์สวยงาม หากมีความไม่สะดวกสบาย มีความขัดแย้ง มีการปะทะคารม มีความไม่รู้ มีส่วนประสมของทุกข์สุขให้สัมผัสมากมาย โรคภัย ความโกรธเกรี้ยว น้ำตา ความทุกข์ สุข ความเจ็บปวด มิตรภาพ และ ความรัก ขัดเขลาสั่งสม และ สั่งสอนให้เธียรเรียนรู้คุณค่าของการ "ยังมีชีวิต" อยู่ ทีละเล็กทีละน้อย และ ได้สัมผัสความรู้สึกกระตุกในหัวใจแปลก ๆ จาก "ผู้กอง" ซึ่งต่อมาในซีรีส์จะกลายเป็น "หัวหน้า"
.
.
.
.
ภายใต้ดวงหน้าคมเข้ม คมคาย จริงจัง กับถ้อยคำเย้ยหยันถากถางว่าคงอยู่ได้ไม่นาน ถึงจะได้รับคำสั่งลับ ๆ ให้มาดูแล แต่ก็ไม่ได้รับรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง ว่าเด็กหนุ่มท่าทางบอบบาง หน้าตาดี (ถูกสเปค) ขึ้นมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุอะไร แต่จากการใกล้ชิด และ พูดคุย เขารู้นั่นแหละว่าเธียร หรือ ตอนนี้เป็นครูสีเทียน ของเด็ก ๆ ไม่ใช่คนเลวเกวอะไร รวมถึงน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในใจมากกว่าขึ้นมาลำบากลำบนเล่น ๆ อยู่กลางเขากลางดอย มือไม้บอบบาง ทำอะไรไม่ค่อยเป็นก็ชัดเจนว่าการตัดสินใจนี้คงไม่ได้เป็นน้ำเป็นเนื้อของเจ้าตัวมาแต่แรก หากท่าทางดื้อร้นและพยายามอดทนอดกลั้น ก็แสดงความมุ่งมั่งบางอย่างในใจได้เช่นกัน
.
.
.
.
สิ่งที่เธียรตามหา นี่ก็ว่าคงเป็นว่าเมื่อโกงความตายกลับมาได้ อะไรคือจุดมุ่งหมายของชีวิต ความหมายของการกลับมาคงมีมากกว่ากลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมที่เคยเป็น แต่มันคืออะไร เมื่อยังไม่รู้ไม่เข้าใจ เจ้าตัวจึงยึดโยงสมุดบันทึกของทอฝัน เอาไว้ยึดเหนี่ยวยามต่อสู้กับความรู้สึกที่ว่างเปล่า ปัญหาก็คือบางครั้งก็เริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ที่ขึ้นมาอยู่ที่ผาปันดาวนี้ ทั้งหมดทั้งปวงที่กระทำลงไป เป็นความต้องการของตนเอง หรือ เป็นเพียงการสวมความคิดของทอฝัน อันนี้แอบเข้าใจเธียรนะ จนบางครั้งเจ้าตัวก็สับสนว่านี่คือชีวิต และ การตัดสินใจด้วยตัวเอง หรือ เป็นชีวิตและการตัดสินใจของทอฝัน ที่มันยาก เพราะ หลัง ๆ 2 ประการนี้มันทับซ้อนกัน
.
.
.
.
ผู้กองภูผาก็อาจจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะ ภูมิหลังของเธียรที่ผ่านมา ดูไม่น่าจะตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ได้หากไม่มีแรงกระตุ้น ความคิดที่ล่องลอยตามครูสีเทียนไปแล้วเมื่อได้เรียนรู้กัน พลอยอ่อนไหวกับข้อเท็จจริงในจุดนี้ แม้ความผูกพันจะมีอยู่มาก มากจนแน่ใจความรู้สึกของตัวตัวเอง แต่สุดท้ายเมื่อมองโลกแห่งความเป็นจริงเรื่องราวระหว่างเขาและเธียรก็ราวขึ้นต้นด้วย once upon a time มากกว่าเป็นเรื่องจริง และ ถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องจริงมันก็ไม่มีทางจีรังยั่งยืนไม่ว่าจะมองจากมิติใด เมื่อสำทับด้วยสมุดบันทึกเล่มนั้น ยิ่งรู้สึกในใจว่าเรื่องราวทั้งหมดอาจเป็นการซ้อนทับระหว่างความคิดของครูเธียร และ ครูทอฝัน
.
.
.
.
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ จะโชคชะตา ฟ้าลิขิต มันก็เพียงแค่ส่วนหนึ่ง ไม่มีอะไรสู้การตัดสินใจและลงมือทำ การจากลาที่ดูเหมือนไม่มีทางจะมาพบกันอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังนึกถึงกันอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธียรอาจมาจากการยึดโยงบันทึกของทอฝัน แต่ถ้าไม่ตัดสินใจทำเธียรคงไม่ได้ก้าวขึ้นมาที่ผาปันดาว หรือ แม้แต่กระทั่งภูผา ที่เร้นตัวเงียบเชียบไปนานปี หากสุดท้ายจริงก็ไม่เคยตัดใจได้เลยซักครั้ง เรื่องราวที่เป็นดังนิทานแท้จริงมิใช่เพียงนิทาน สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกันก็ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของคนทั้งคู่
.
.
.
.
มูลเหตุชักจูงใจจะเป็นอะไรก็เถอะ แต่ถ้าเพียงแค่คิดแล้วไม่ลงมือทำ จะกี่ยอดผา จะกี่หมื่นพันดาวร้อยตำนาน ย่อมไม่อาจทำให้เรื่องราวที่ต่างฝ่ายร้อยเรียงเล่าขานเกิดขึ้นมาได้ นิทานพันดาว เป็นความเชื่อ แต่เรื่องราวระหว่าง ภูผากับเธียร คือ "ความจริง"
.
ถิ่นล้านนา จะเป็นเวียงสวรรค์
เมื่อมีน้องเคียงข้างกัน เป็นกู้ขวัญอ้ายเอย...