เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2021  ผู้แทนของหอคอยแห่งลอนดอนระบุ กาที่เป็นสัญลักษณ์ตัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในหอคอยแห่งลอนดอนได้หายไป และเจ้าหน้าที่ก็กลัวว่าอาจจะเกิดสิ่งที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือ หอคอยจะพังลงตามตำนานที่เคยเตือนไว้  โดย " Merlina " กาตัวเมีย ( Corvus corax ) ที่เข้ามาอยู่ร่วมกับชุมชน corvid ที่หอคอยในปี 2007 และดำรงตำแหน่งในฐานะ "ผู้ปกครอง" ตั้งแต่นั้นมา 

Merlina อายุ 14 ปี เป็นหนึ่งในเจ็ดของกาหลวงในหอคอยที่ได้หายไปเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว และการขาดงานอย่างต่อเนื่องของเธอบ่งบอกว่าเธออาจจะจากไปแล้วอย่างน่าเศร้า โดย Historic Royal Palace ระบุว่า Merlina เป็นนกที่ "ไม่เหมือนใคร" ซึ่งมี "ความผูกพันใกล้ชิด" กับ Ravenmaster Christopher Skaife ซึ่งมีหน้าที่ดูแลนกอย่างมาก

หอคอยแห่งลอนดอนในสหราชอาณาจักร เป็นป้อมปราการอันสูงส่งที่สร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ หรือวิลเลียมผู้พิชิต โดยเริ่มก่อสร้างในทศวรรษที่ 1070 และพระมหากษัตริย์องค์อื่น ๆ ต่อมาได้ขยายและสร้างอาคารเพิ่มเติมขึ้น  โดยกษัตริย์และราชินีของอังกฤษได้กักขังผู้ทรยศไว้ภายในกำแพงป้อมปราการ ซึ่งจะจัดให้มีการแสดงการประหารชีวิต รวมทั้งใช้เป็นที่สะสมอาวุธและกักตุนอัญมณีล้ำค่าด้วย จนถึงทุกวันนี้หอคอยยังคงอยู่ใน
สถานที่ซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยทหารรักษาการณ์
 
  

พวกเขายังสร้างบ้านสำหรับนกกากลุ่มเล็ก ๆ ที่รู้จักกันในชื่อ "an unkindness" (ตั้งแต่อย่างน้อยปี 1486 เมื่อคำนี้ได้รับการตีพิมพ์ใน "The Book of St. Albans" ตามMerriam-Webster )  ตามตำนานที่สืบต่อกันมาในสมัยนั้น (หรือตั้งแต่ Charles II กษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ อังกฤษ และไอร์แลนด์)
ตั้งแต่ปี 1660 - 1685  ระบุว่า ต้องมีกาหกตัวที่อาศัยอยู่ในหอคอยตลอดเวลา ไม่เช่นนั้น " มงกุฎและหอคอยจะพังลงมาหากพวกมันจากไป " 

HRP (Historic Royal Palaces / U.K. website) ระบุว่า วันนี้มีกาอาศัยอยู่ที่นั่นเจ็ดตัว / 6 ตัว "อย่างเป็นทางการ" และอีก 1 ตัวสำรองไว้ ซึ่งมี  Merlina พร้อมด้วย Erin, Grip, Harris, Jubilee และ Poppy ที่พักอาศัยอยู่ในสนามหญ้าทางใต้ของหอคอย (นกกาสำรองยังไม่มีชื่อเรียก)

โชคชะตาของ Tower Ravens มาถึงจุดต่ำสุด โดยช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเหลือเพียง Raven Grip ตัวเดียวที่หอคอย เชื่อกันว่าจากการทิ้งระเบิดที่ลอนดอนอย่างต่อเนื่องทำให้นกไม่พอใจเลยหนีไป นอกจากนี้ ยังมีคำบอกเล่าแม้ว่าจะไม่เคยมีการพิสูจน์ว่ากาตัวหนึ่งถูกลักพาตัวไป

นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง Beefeater หรือ Yeoman Warder กลายเป็นตำแหน่งหนึ่งของผู้คุมหอคอยที่รับหน้าที่เป็น Ravenmaster ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลนก  และคนปัจจุบันที่รับช่วงต่อจาก Henry Johns ในปี1968 ก็คือ Christopher Skaife ที่เป็น Yeoman Warder หรือ 'Beefeater' 
ที่อุทิศตนเพื่อดูแล Unkindness of Ravens ที่เป็นเอกลักษณ์ของหอคอยนี้ ซึ่งนอกจากดูแลนกแล้ว ยังต้องให้อาหารสดแบบ "อาหารพิเศษ" เพื่อยุติความบาดหมางของฝูง เมื่อเวลาพวกมันตีกันหรือพยายามหลบหนี (Audubon Society เขียนบันทึกไว้ในปี 2018)

Merlina เป็น "นกที่รักอิสระ" เป็นกาที่สวยงามเป็นที่รักของผู้มาเยือน และเธอก็หายตัวไปในช่วงเทศกาลคริสต์มาส  โดย Skaife บอกว่าขนปีกของ
Tower ravens จะถูกตัดแต่งเป็นประจำเพื่อให้นกอยู่ในบริเวณใกล้บ้าน แม้ว่านกจะยังบินอยู่ได้ในระยะทางสั้น ๆเท่านั้น แต่กาบางตัวที่ชอบผจญภัยก็ยังคงอยากบินไปไกลเกินไปจนอาจหลงทางได้

ทั้งนี้ ตัวแทนของ HRP ได้กล่าวกับ Live Science ว่า “ มีการพบเห็นกาที่มีประวัติอันยาวนานที่มีเรื่องราวอยู่รอบ ๆ พื้นที่  รวมทั้งคู่ที่เคยทำรังที่มหาวิหาร St Paul's ด้วย และในปี 2011 Munin กาตัวหนึ่งในปัจจุบัน ได้เดินทางไปไกลถึง Greenwich (5 ไมล์หรือ 8 กิโลเมตรจากลอนดอน) ก่อนที่จะถูกส่งกลับในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา  อย่างไรก็ตาม  โดยทั่วไปแล้ว กาเลือกที่จะอยู่ที่หอคอยซึ่งพวกมันจะได้รับอาหารที่ดีและได้รับการดูแลโดย Ravenmaster
และทีมงานของเขาเป็นอย่างดี "

น่าเศร้าที่การหายไปเป็นเวลานานของ Merlina แสดงให้เห็นว่า "ราชินี" ที่มีอายุยืนยาวอาจจะไม่สามารถกลับบ้านได้อีกต่อไปแล้ว และตอนนี้หอคอยแห่งลอนดอนได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่ากา Merlina น่าจะตายแล้ว
" กาเพื่อนๆของเธอ Ravenmaster และทุกคนในชุมชน Tower จะคิดถึงเธออย่างมาก " ตัวแทนของหอคอยทวีต
นกกาป่าอาศัยอยู่ในหอคอยมานานหลายศตวรรษ  ซึ่งตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน กาถูกดึงดูดโดยกลิ่นศพของศัตรูจำนวนมากของ Crown ที่ถูกประหารภายในหอคอยนั้น  และเมื่อ Lady Jane Grey ถูกประหารชีวิตในปี 1554 นกกาแห่งหอคอยได้รับการกล่าวขานว่า ได้จิกตาจากศีรษะที่ถูกตัดขาดของเธอ

วิธีปฏิบัติในการกักขังนกเพื่อปกป้องมงกุฎนั้น ย้อนกลับไปนัยว่าถึงสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 โดยตำนานเล่าว่า John Flamsteed นักดาราศาสตร์ของราชวงศ์บ่นกับกษัตริย์ว่า นกเป็นการแทรกแซงการสังเกตการณ์ท้องฟ้าของเขา ทำให้กษัตริย์สั่งให้ฆ่านกแต่ได้รับการแจ้งว่า ถ้ากาออกจากหอคอยไป หอคอยสีขาวจะล้มลงและเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในราชอาณาจักร จากนั้น พระราชาก็เปลี่ยนใจและทรงมีพระราชโองการว่า ควรเก็บกาอย่างน้อยหกตัวไว้ที่หอคอยตลอดเวลาเพื่อป้องกันภัยพิบัติ

อย่างไรก็ตาม  ตามที่นักประวัติศาสตร์ Geoff Parnell บันทึกไว้ นกกาที่ถูกจองจำที่หอคอยที่มีอายุไม่เกินปี 1800 อาจได้รับการแนะนำให้อยู่ในหอคอยในฐานะสัตว์เลี้ยงของเจ้าหน้าที่  แต่ไม่ว่ากาจะมาจากแหล่งใดก็ตาม พวกมันมีความสำคัญกับตำนานที่หอคอยเป็นอย่างมาก  โดยจะมีกาเจ็ดตัวถูกเก็บไว้ที่หอคอยตลอดเวลา ในจำนวนนี้มีตัวหนึ่งสำรองไว้

กาจะไม่สามารถบินหนีไปได้เพราะปีกจะถูกตัดออกส่วนหนึ่งแต่นกก็มีชีวิตที่เป็นสุข พวกมันอาศัยอยู่ในวังหลวงรอคอยให้คนมารับใช้และเป็นที่ต้องการของสาธารณชนเช่นเดียวกับสมาชิกในราชวงศ์  และยังได้กินอาหาร ผลไม้สด ชีส ไข่ต้ม และเนื้อสด รวมทั้งวิตามินและอาหารเสริมอื่น ๆ

ในขณะที่กาส่วนใหญ่แสดงพฤติกรรมที่ดี แต่บางครั้งกาบางตัวที่อาจประพฤติตัวไม่เหมาะสม จะถูกถอดออกจากการให้บริการดังที่เคยเกิดขึ้นกับ
Raven George  ที่ชอบโจมตีและทำลายเสาอากาศทีวีที่หอคอย มันจึงสูญเสียการแต่งตั้ง  ส่วนกาอีกตัวที่ชื่อ Grog สามารถหลบหนีออกจากหอคอยได้และไปอาศัยอยู่ในผับท้องถิ่นหลังจาก 21 ปีของการรับใช้มงกุฎ