แหล่งท่องเที่ยวไทย ผมว่า มันเก่าไปแล้วในสายตาชาวโลก หลายอย่างมันอาจจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ผลจากโควิด และ ไวรัสอื่นๆที่อาจจะมีในอนาคต เช่น ไวรัส เอ็กซ์ เริ่มทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก เริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตเที่ยวในประเทศตัวเองแทน เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางข้ามประเทศ รวมไปถึง สถานการณ์ของวัคซีน ที่ฉีดแล้วมีคนตายมากขึ้นเรื่อยๆ ในต่างประเทศ และการกลายพันธุ์ของเชื่อโควิดที่ยังไม่แน่นอน ยังทำให้ภาพการท่องเที่ยวทั่วโลก ในอนาคต อาจจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
มันถึงเวลาหรือยัง ที่ประเทศไทย จะลดพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยว ผมมองว่า รัฐบาล ควรสนับสนุน ให้คนไทยมีสมองในการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสูงๆแทน หากในอนาคต การท่องเที่ยวไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว เศรษฐกิจมันจะได้ไปต่อได้ ธุรกิจที่รัฐบาลวางรากฐานอนาคตใน EEC ที่ใช้แรงงานคนน้อย และใช้สมองเยอะนั้น มันไม่ได้ตอบโจทย์คนในยุคเก่าแล้ว
สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของคนไทย ที่ฝังรากมานานจนเป็นปัญหา ก็คือ ภาษาอังกฤษ นี่แหละ ทำไม ผมถึงบอกแบบนั้น ในระบบการศึกษาไทย อาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษที่พูดอังกฤษได้ดีแบบเจ้าของภาษาเลยมีน้อยมาก ส่วนใหย่จะแค่พูดในคลาสในห้องแต่ไม่สามารถใช้งานจริงได้ เวลาไปต่างประเทศ สำเนียงที่ไม่ดีเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้คนไทยไม่ค่อยกล้าพูด เพราะ ภาษาอังกฤษนั้นการออกเสียงต่างจากภาษาไทยมาก หากออกเสียงเพี้ยนไปนิดเดียว มันคือคนละความหมายเลยทีเดียว ภาษาเขียนก็เช่นกัน ภาษาอังกฤษมีไวยากรณ์ที่ต่างจากภาษาไทยมาก เพราะคำนึงถึงเรื่องกาลเวลา มันแสดงถึงว่าคนตะวันตกให้ความสำคัญกับเรื่องการตรงต่อเวลา ในขณะที่ภาษาไทยไม่มีเรื่องนี้ เพราะ คนไทยไม่ค่อยมีระเบียบ และไม่ตรงต่อเวลา ความแตกต่างเรื่องภาษา จึงเป็นอุปสรรคมากสำหรับคนไทย ยังไม่รวมบุคลิกการแสดงออกของคนต่างชาติที่ชอบคนตรงไปตรงมา โผงผาง และกล้าแสดงออก ในขณะที่คนไทย จะเงียบ และไม่กล้าแสดงออก
ทำไม ผมคิดว่า ภาษาอังกฤษเป็นจุดอ่อนที่ควรพัฒนา ก็เพราะว่า การต่อยอดในเทคโนโลยีชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น โรโบติกส์ โลจิสติค การบินและอวกาศ หุ่นยนต์ เทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูง ที่อยู่ใน EEC ธุรกิจเหล่านั้น ไม่ได้ใช้ความรู้ธรรมดา แต่เป็นความรู้เฉพาะทางทั้งนั้น ซึ่งต้องมีภาษาที่ดีในการเรียนรู้ เพราะศาสตร์ต่างๆเหล่านี้มาจากต่างประเทศทั้งหมดทั้งสิ้น หากภาษาไม่ดีแล้ว โอกาสจะไปต่อมันยากทีเดียว สำหรับ s curve ใหม่
ถึงเวลาหรือยัง ที่รัฐบาลจะไม่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว และจะบังคับให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการในไทยแทน
มันถึงเวลาหรือยัง ที่ประเทศไทย จะลดพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยว ผมมองว่า รัฐบาล ควรสนับสนุน ให้คนไทยมีสมองในการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสูงๆแทน หากในอนาคต การท่องเที่ยวไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว เศรษฐกิจมันจะได้ไปต่อได้ ธุรกิจที่รัฐบาลวางรากฐานอนาคตใน EEC ที่ใช้แรงงานคนน้อย และใช้สมองเยอะนั้น มันไม่ได้ตอบโจทย์คนในยุคเก่าแล้ว
สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของคนไทย ที่ฝังรากมานานจนเป็นปัญหา ก็คือ ภาษาอังกฤษ นี่แหละ ทำไม ผมถึงบอกแบบนั้น ในระบบการศึกษาไทย อาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษที่พูดอังกฤษได้ดีแบบเจ้าของภาษาเลยมีน้อยมาก ส่วนใหย่จะแค่พูดในคลาสในห้องแต่ไม่สามารถใช้งานจริงได้ เวลาไปต่างประเทศ สำเนียงที่ไม่ดีเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้คนไทยไม่ค่อยกล้าพูด เพราะ ภาษาอังกฤษนั้นการออกเสียงต่างจากภาษาไทยมาก หากออกเสียงเพี้ยนไปนิดเดียว มันคือคนละความหมายเลยทีเดียว ภาษาเขียนก็เช่นกัน ภาษาอังกฤษมีไวยากรณ์ที่ต่างจากภาษาไทยมาก เพราะคำนึงถึงเรื่องกาลเวลา มันแสดงถึงว่าคนตะวันตกให้ความสำคัญกับเรื่องการตรงต่อเวลา ในขณะที่ภาษาไทยไม่มีเรื่องนี้ เพราะ คนไทยไม่ค่อยมีระเบียบ และไม่ตรงต่อเวลา ความแตกต่างเรื่องภาษา จึงเป็นอุปสรรคมากสำหรับคนไทย ยังไม่รวมบุคลิกการแสดงออกของคนต่างชาติที่ชอบคนตรงไปตรงมา โผงผาง และกล้าแสดงออก ในขณะที่คนไทย จะเงียบ และไม่กล้าแสดงออก
ทำไม ผมคิดว่า ภาษาอังกฤษเป็นจุดอ่อนที่ควรพัฒนา ก็เพราะว่า การต่อยอดในเทคโนโลยีชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น โรโบติกส์ โลจิสติค การบินและอวกาศ หุ่นยนต์ เทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูง ที่อยู่ใน EEC ธุรกิจเหล่านั้น ไม่ได้ใช้ความรู้ธรรมดา แต่เป็นความรู้เฉพาะทางทั้งนั้น ซึ่งต้องมีภาษาที่ดีในการเรียนรู้ เพราะศาสตร์ต่างๆเหล่านี้มาจากต่างประเทศทั้งหมดทั้งสิ้น หากภาษาไม่ดีแล้ว โอกาสจะไปต่อมันยากทีเดียว สำหรับ s curve ใหม่