กลับไปพบจิตแพทย์ค่ะ จะคนเดิม หรือคนใหม่ก็ได้ อาการที่บอกมานั้น บอกว่าโรคกลับมาอีกครั้ง ลองคิดดูค่ะ คราวที่ไหาหมอครั้งแรกแล้วหมอวินิจฉัยว่าป่วยนั้น มีอาการเช่นนี้เหมือนเดิมหรือเปล่า น่าจะมีส่วนเหมือนเดิมอยู่มาก

ระหว่างนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่รู้ตัว เมื่อรู้ตัวแล้ว ก็ต้องพบจิตแพทย์ และกลับมารักษาดูแลสุขภาพจิตของตนเองให้ดี พยายามผ่อนคลายและไม่กดดันตนเองมากนัก

พูดถึงไม่มีเพื่อน เพื่อนสำคัญมากนะคะ แต่ทุกวันนี้ ผู้คนวางใจกันยาก ส่วนหนึ่งอาจเพราะทุกคนมีโทรศัพท์ พาลคิดว่าฉันอยู่กับเพื่อนในโลกเสมือน กับโทรศัพท์ ชีวิตฉันไม่ต้องมีใครอื่นอีก ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น เพื่อนตัวเป็น ๆ และมีความรัก ความผูกพันและความปรารถนาดีต่อกัน ยังเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการมีสุขภาพจิตแข็งแรง  เพราะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ ยามทุกข์และยามสุข จะว่าไป เคยอ่านเจอว่า ควรมีเพื่อนสักห้าคน แต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน ความแตกต่างนั้นเอง ที่จะช่วยเติมเต็มให้กันได้ เพื่อนหาได้ไม่ยาก หาได้โดยเป็นเพื่อนที่ดีกับคนอื่นก่อน พูดแบบนี้สมัยนี้ อาจกลายเป็นเรื่องราวกับต้องเสี่ยงอันตราย ใช่หรือไม่ ไม่แน่ใจ ที่แน่ ๆ หากไม่เสี่ยงบ้างเสียเลย โดยการเสี่ยงนั้นอยู่บนการมีวิจารณญานและสัญชาตญาน โอกาสจะมีเพื่อนที่เป็นมิตรและกัลยาณมิตรก็จะน้อยลง

พึ่งยาและหมอไม่พอ และอาจถือได้ว่าเป็นส่วนน้อยที่จะช่วยการรักษา เพราะยาช่วยรักษาความผิดปกติที่อาจมีในระบบประสาทและสมอง คนที่จะช่วยผู้ป่วยดีที่สุดและยั่งยินที่สุดคือตัวของผู้ป่วยนั่นเอง เบื้องต้น อาจโดยการหาหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาและการพัฒนาตนเองที่คัดสรรสักหน่อยมาศึกษา เคยได้ยินมาว่า เมื่อโรคเกิดซ้ำ จะรุนแรงและรักษายากขึ้น หากนี้เป็นการเกิดซ้ำครั้งที่สอง ต้องตั้งใจไว้แต่แรกนี้เลยทีเดียวว่า ตนเองจะดูแลรักษาสุขภาพตนเองไม่ให้ป่วยอีกซ้ำอีกหลาย ๆ ครั้ง ในอนาคต

เป็นทัศนะหนึ่งเท่านั้นค่ะ